Happy day with me by เชฟตูน บ้านหวานเย็น Page : at TOON cafe'

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

ประวัติ "วันคริสมาสต์"

คริสต์มาส (อังกฤษ: Christmas) หรือ วันคริสต์มาส (อังกฤษ: Christmas Day; หรือเรียกว่า Christ's mass, Nativity, Yuletide, Noel, Winter Pascha, Xmas) เป็นเทศกาลประจำปี ซึ่งในศาสนาคริสต์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู คริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี แต่ก็ไม่เป็นที่เชื่อกันว่าเป็นวันประสูติของพระองค์จริง สำหรับสาเหตุที่เลือกวันดังกล่าวแต่เดิมมีอยู่หลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า วันนี้เป็นเวลาเก้าเดือนพอดีหลังจากนางมารีย์รับการประสูติของพระเยซู ตรงกับเทศกาลบูชาสุริยเทพของโรมันโบราณ หรือไม่ก็ตรงกับเหมายันในซีกโลกเหนือในทางคริสต์ศาสนา คริสต์มาสเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 12 วัน

ถึงแม้ว่าแต่เดิมคริสต์มาสจะเป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองโดยคริสเตียน แต่ผู้ที่มิได้นับถือศาสนาคริสต์จำนวนมากก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองคริสต์มาส อย่างกว้างขวาง วัฒนธรรมสมัยใหม่ของคริสต์มาส รวมไปถึง การให้ของขวัญ เพลงคริสต์มาส การแลกเปลี่ยนการ์ดคริสต์มาส การตกแต่งโบสถ์คริสต์ การรับประทานอาหารมื้อพิเศษ และการตกแต่งบรรยากาศ เช่น ต้นคริสต์มาส มิสเซิลโท ฮอลลี่ เป็นต้น และยังมีตำนานอันเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเกี่ยวกับซานตาคลอส (หรือ ฟาเธอร์คริสต์มาส) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ของขวัญแก่เด็ก

เนื่องจากการให้ของขวัญและผลกระทบจากเทศกาลคริสต์มาสได้ทำให้เกิดกิจกรรม ทางเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งในกลุ่มคริสเตียนและผู้ที่ไม่ใช่คริสเตียน วันดังกล่าวจะกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญและช่วงเวลาของสินค้าลดราคาสำหรับผู้ ค้าปลีกและธุรกิจ ผลกระทบทางเศรษฐกิจของคริสต์มาสเป็นปัจจัยซึ่งเติบโตขึ้นอย่างคงที่ตลอดเวลา หลายศตวรรษที่ผ่านมาในหลายภูมิภาคของโลก


คำว่า Christmas ในภาษาอังกฤษ เป็นคำประสมซึ่งหมายถึง "มิสซาของคริสต์" มาจากคำในภาษาอังกฤษยุคกลางว่า Christemasse และภาษาอังกฤษโบราณว่า Cristes mæsse ซึ่งถูกพบครั้งแรกในเอกสารโบราณภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1038[5] คำว่า "Cristes" มาจากภาษากรีก Christos และ "mæsse" มาจากภาษาละติน missa (หมายถึง มิสซาอันศักดิ์สิทธิ์) ในภาษากรีกโบราณ ตัวอักษร Χ เป็นตัวอักษรแรกในคำว่า "คริสต์" จากการที่มันมีลักษณะเหมือนกับอักษรโรมัน X จึงได้ถูกใช้เพื่อย่อคำว่า "คริสต์" นับตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรษที่ 16[13] ด้วยเหตุนี้ ในบางครั้ง Xmas จึงใช้เพื่อย่อคำว่า "คริสต์มาส"

ประวัติ

ประวัติความเป็นมาของวันคริต์มาส ซึ่งเป็นวันประสูติของพระเยซูนั้น ตามหลักฐานในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในรัชกาลของจักรพรรดิออกุสตุสแห่งจักรวรรดิโรมัน ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรีย ก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งอาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร ด้านนักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 23 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิซาไกกำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริย เทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64 - ค.ศ. 313 จนถึงวันที่ 23 ธันวาคม ปี ค.ศ. 330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย

องค์ประกอบในงานฉลองวันคริสต์มาส
คำอวยพร

คำอวยพรสำหรับเทศกาลคริสมาสใช้ คำอวยพรว่า Merry Christmas สุขสันต์วันคริสต์มาส คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุข และความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส ต่อมาคือ "เพลง" ที่ใช้เฉลิมฉลองทั้งจังหวะช้าและจังหวะสนุกสนาน ส่วนใหญ่แต่งในยุคพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ (ค.ศ.1840-1900) ปัจจุบันแพร่หลายไปทั่วโลกโดยแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย

ซานตาคลอส

นักบุญ(เซนต์)นิโคลัสแห่งเมืองไมรา นักบุญองค์นี้เป็นสังฆราช ของ ไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่4 ได้รับการยกย่องให้เป็นซานตาคลอสคนแรก เพราะมาวันหนึ่ง เป็นวันคริตส์มาสเซนต์จึงเดินทางแจกของขวัญให้กับเด็กๆอย่างมีความสุข

ต้นคริสต์มาส

ต้นคริสต์มาสหรือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน การตกแต่งนี้ย้อนไปในศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟส มิชชันนารีชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ก โดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่โคนต้นโอ๊ก ท่านจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต และตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ ต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปีค.ศ.1540 หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก

เพลงคริสต์มาส

เพลงคริสต์มาส เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 ซึ่งผู้แต่งมีทั้งพระสงฆ์และฆราวาส เนื้อร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีการแต่งในท่วงทำนองที่ร่าเริงสนุกสนานมากขึ้น เริ่มจากประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้สนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาส เพลงเหล่านี้มีทั้งที่เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาส ที่นิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ (Oberndorf) ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ จึงมีการแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ นำไปเพื่อนชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber) ใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยมีการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก

การทำมิสซาเที่ยงคืน

เมื่อพระสันตะปาปาจูลีอัสที่ 1 ได้ประกาศให้วันที่ 23 ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส)ในปี นั้นเองพระองค์และสัตบุรุษ ได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม และไปยังถ้ำที่พระ เยซูเจ้าประสูติ พอไปถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิซซา ณ ที่นั้น เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พักเป็นเวลาเช้ามืดราวๆ ตี 3 พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้ง และ สัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ แต่ก็ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไป พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ใน โอกาสวันคริสต์มาสด้วย

เทียนและพวงมาลัย

ในสมัยก่อนมีกลุ่มคริสตชนกลุ่มหนึ่งในประเทศเยอรมัน ได้เอากิ่งไม้มาประกอบ เป็นวงกลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เล่ม วางไว้บนพวงมาลัยนั้น ในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ ทุกคนในครอบครัวจะมารวมกัน ดับไฟ แล้วจุดเทียนเล่มหนึ่ง สวด ภาวนาและร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกัน เขาจะทำดังนี้ทุก อาทิตย์จนครบ 4 อาทิตย์ก่อน คริสต์มาส ประเพณีนี้เป็นที่นิยม และแพร่หลายในที่หลายแห่ง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาซึ่งต่อมา มีการเพิ่ม โดยเอาพวงมาลัยพร้อมกับเทียนที่จุดไว้ตรง กลาง 1 เล่มไป แขวนไว้ที่หน้าต่างเพื่อช่วย ให้คนที่ผ่าน ไปมา ได้ระลึกถึงการเตรียมตัวรับวันคริสต์มาสที่ใกล้เข้ามา และพวงมาลัยนั้นยังเป็น สัญลักษณ์ที่คน สมัยโบราณใช้หมายถึงชัยชนะ แต่ในที่นี้หมายถึงการที่พระองค์มาบังเกิดในโลก และทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างครบ บริบูรณ์ตามแผนการณ์ ของพระเป็นเจ้า.


** ขอบพระคุณข้อมูลดีๆ จาก วิกิพีเดีย ณ โอกาสนี้ค่ะ




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2552
12 comments
Last Update : 26 ธันวาคม 2552 19:57:57 น.
Counter : 1009 Pageviews.

 

ไม่ว่าจะปีไหน
เรายังมีไฟในใจให้สร้างสรรค์
กาลเวลาหมุนไปล่วงเลยวัน
ยังเก็บฝันไห้ไปไม่รอรี

ขอให้ชีวิตมีแต่ความสุข
ปราศจากโรคภัยด้วยหลีกลี้
หายทุกข์โศกโรคภ้ยมีแต่สิ่งดี
ทุกโมงยามราตรีปีใหม่เอย

 

โดย: chabori 26 ธันวาคม 2552 20:32:40 น.  

 

พี่นางฟ้ามาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นะคะ คุณตูน




 

โดย: นางฟ้าของชาลี 29 ธันวาคม 2552 11:20:15 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ตูน
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ค่ะ
มีความสุขมากๆ นะคะ

 

โดย: นู๋แจน (JJ&TheGang ) 30 ธันวาคม 2552 12:35:09 น.  

 




We often make good wishes for the New Year
with the words
MAY YOU BE HAPPY
In fact , happy alone without suffering is very hard to get
So, I would like to change my wishing words that
May you be strong in your heart to accept
both happiness and sorrows


คนเรามักจะอวยพรปีใหม่ว่า
"ขอให้มีความสุข"
แต่ความเป็นจริง การมีความสุขด้านเดียว
โดยปราศจากทุกข์ คงจะเป็นเรื่องยากมาก
ดังนั้นจึงอยากเปลี่ยนคำอวยพรเป็น
"ขอให้คุณมีหัวใจที่แข็งแรงพอที่จะรับได้
ทั้งความสุขและความทุกข์"


May your New Year be filled with joy and happiness 


 ขอให้เทศกาลวันปีใหม่ของคุณเต็มไปด้วย ความสดชื่น ความสุข




by Nudee




 

โดย: พี่นู๋ดีค่ะ (kun_isara ) 30 ธันวาคม 2552 14:24:27 น.  

 

Happy New Year 2010 ka

 

โดย: kobnon 31 ธันวาคม 2552 8:28:19 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: นิ่ม (Benim ) 31 ธันวาคม 2552 22:47:38 น.  

 

 

โดย: Candydolls 1 มกราคม 2553 2:11:21 น.  

 



สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ตูน
ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวัง และปรารถนานะคะ
ขอให้ร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง
ไม่มีทุกข์ไม่มีโศก มีแต่ความสุขตลอดปี และตลอดไปค่ะ

สุขสันต์วันปีใหม่ 2010 ค่ะ

 

โดย: JJ&TheGang 1 มกราคม 2553 11:34:15 น.  

 

ยาวมากเลยค่ะ เดี๋ยวเข้ามาอ่านต่อจ๊ะ อิอิ

สวัสดีปีใหม่จ้าน้องตูน ขอให้รวยๆๆ สวยๆๆ เฮงๆๆ น่ะคะ สุขภาพแข็งแรงด้วยจ้า

 

โดย: MommyKitchen 1 มกราคม 2553 14:45:26 น.  

 

ขอบคุณเช่นกันค่ะ

 

โดย: nim (Benim ) 1 มกราคม 2553 14:56:55 น.  

 

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

 

โดย: Chefin 1 มกราคม 2553 15:37:50 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สวัสดีปีใหม่จร้า ขอให้เจ้าของบล็อกและครอบครัว
สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ คิดอะไรก็ขอให้สำเร็จ
ในทุกๆเรื่องจร้า และขอบคุณสำหรับคำอวยพรใน
วันเกิด ขอให้พรนี้จงกลับไปที่ตัวเจ้าของบล็อก
ด้วยเช่นกัน

 

โดย: ยายกุ๊กไ่ก่ 1 มกราคม 2553 15:54:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เชฟตูน บ้านหวานเย็น
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกท่าน .. ดีใจที่แวะมาทักทายกันนะคะ

สูตรที่มีและลงไว้ในบล็อกเชฟตูน บ้านหวานเย็นนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นสูตรที่คิดว่าอร่อยและคัดมาแล้วประมาณนึงค่ะ
และบางสูตรนี้ใช้ทำขายจริงด้วยนะคะ

สูตรทั้งหมดที่มีในบล็อกนี้ เชฟตูน บ้านหวานเย็นไม่หวงเลยค่ะ และยินดีที่เพื่อนๆ จะหยิบไปทดลองทำกัน แต่เชฟตูน บ้านหวานเย็นขอเสียงเม้นต์หรือรูปขนมที่เพื่อนๆ ทำไว้มาเติมกำลังใจให้กันหน่อยได้รึเปล่าคะ จะได้เอาไว้เป็นแรงใจในการสรรหาสูตรของกินอร่อยๆ มาฝากกันเรื่อยๆ .. อย่างน้อยจะได้รับรู้ด้วยว่าเพื่อนๆ เอาไปทำแล้วอร่อยกันบ้างมั๊ย? ที่สำคัญ เราจะได้มีเพื่อนใหม่ และจะได้รู้จักเพื่อนที่รักในการทำของกินอร่อยๆ กันมากขึ้นอีกนิดด้วยนะคะ

ยินดีที่รู้จักเพื่อนใหม่ และยินดีต้อนรับเพื่อนๆ สู่บล็อก "เชฟตูน บ้านหวานเย็น" ทุกคนๆ ค่ะ



Friends' blogs
[Add เชฟตูน บ้านหวานเย็น's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.