Happy day with me by เชฟตูน บ้านหวานเย็น Page : at TOON cafe'

Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
เกร็ดความรู้คู่ครัวเรือนและสารพัดวิธีแก้ 9

- ประโยชน์ของแมงลัก
ใครที่ชอบทาน แมงลักบ้าง แล้วทราบถึงประโยชน์หรือไม่ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...


"แมงลัก" เป็นผักสวนครัว ที่มีหน้าตาคล้ายกับกะเพราและโหระพา เป็นผักที่รู้จักกันดี เนื่องจากนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารได้หลากหลาย เช่น เอาใบมาใส่ในแกงเลียง หรือกินสด ๆ คู่กับขนมจีนน้ำยา เป็นต้น

ประโยชน์ของ ใบแมงลัก คือ ช่วยขับเหงื่อ ขับลมในลำไส้ แก้วิงเวียน แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ หรือจะนำใบแมงลักมาต้มกับน้ำ ดื่มเป็นประจำก็จะช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้หรือ โรคทางเดินอาหารได้ด้วย และใบแมงลักยังให้สารเบต้าแคโรทีนและแคลเซียม ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

ส่วนเม็ดแมงลักก็มีสรรพคุณ คือ มักจะถูกนำไปทำเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน เนื่องจากเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน และยังมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก แถมยังช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย

วิธีรับประทานก็ให้นำเมล็ดแมงลักประมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำร้อน 1 แก้ว หรือจะชงกับน้ำผึ้งหรือน้ำสมุนไพรต่าง ๆ ก็ได้

ข้อควรระวัง จะต้องรอให้เม็ดแมงลักพองตัวเต็มที่เสียก่อนจึงค่อยกินไม่เช่นนั้น แทนที่จะช่วยระบาย ก็กลับจะทำให้ท้องผูกแทน


- ลดความเค็มของปลาเค็มด้วยหลักเกลือจิ้มเกลือ
หลายคนคงจะเคยมีปัญหาเกี่ยวกับความเค็มของปลาเค็มที่หมักจนเค็มปี๋ รับประทานแทไม่ได้ วันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ ในการลดความเค็มของปลาเค็มของคุณ ด้วยหลักเกลือจิ้มเกลือมาฝากกันค่ะ

วิธีที่จะลดความเค็มของปลาเค็มด้วยวิธีเกลือจิ้มเกลือสามารถทำได้ง่าย ๆ นั่นก็คือ ให้นำปลาเค็มไปแช่ในน้ำเกลือ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที หลังจากนั้นก็นำไปล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง โดยล้างแบบผ่าน ๆ เท่านั้น จากนั้นก็ตากไว้ให้แห้งก่อนที่จะนำไปทอดตามปกติ แค่นี้เราก็จะได้ปลาเค็มที่ไม่เค็มจนเกินไปแล้วค่ะ.


- สารพัดวิธีล้าง
การล้างตู้เย็น จะล้างตู้เย็นให้สะอาดให้ใช้ โซดาคาร์บอเนต ( โซดาทำขนม หรือ เบ้กกิ้งโซดา ) 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงในน้ำประมาณ 1 ลิตร หรือ 4 ถ้วย แล้วล้างออก กลิ่นเหม็นจะ หมดไป

ล้างจานหรืออ่างที่เป็นสแตนเลส
อ่างล้างจานหรือตู้เก็บถ้วยจานที่เป็นสแตนเลสให้ใช้ แอลกอฮฮล์หรือยาสีฟัน ทา แล้วจึงขัดออก ทำความสะอาดด้วยน้ำอีกครั้ง เช็ดด้วยผ้านุ่ม ๆ ให้แห้ง

ล้างขวดแก้วขวดแก้วที่หมองขุ่น ใส่ ทราย ลงไปเล็กน้อยเติมน้ำอย่าให้เต็ม เขย่าแรง ๆ แล้วจึง เทออก ล้างด้วยน้ำผสมผงซักฟอก แล้วจึงล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ขวดจะใส

ล้างภาชนะที่เปื้อนแป้ง ไข่ นม
จาน ชาม หรือภาชนะที่เปื้อน แป้ง ไข่ นม ให้ล้างด้วย น้ำเย็นธรรมดา จะล้างออก ง่ายกว่าน้ำอุ่นจะทำให้แป้ง ไข่ นมติดแน่นยิ่งขึ้น เพรราะความร้อนทำให้แป้ง ไข่ นมที่ติดกับภาชนะสุกทางที่ดีใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดออกก่อนแล้วล้างด้วยสบู่หรือ น้ำยาล้างจานแล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาด

ล้างถาดเงินถาดเงินเมื่อใช้แล้วต้องล้างให้สะอาดทันที แล้วเช็ดให้แห้งจึงเก็บ การเก็บเพื่อ ไม่ให้ถาดเงินด่างดำ ให้วาง สารส้ม ไว้ในถาดสัก 1 ก้อน จะทำให้ถาดนั้นสะอาด อยู่เสมอ


- การหั่นผัก ไม่ใช่แค่การหั่นให้มันขาดเท่านั้น แต่ควรคำนึงว่าทำอย่างไรที่จะคงวิตามินและแร่ธาตุทั้งหลายในผักให้คงอยู่ ซึ่งเมื่อนำไปประกอบอาหารแล้วทำให้ผักนั้นอร่อยยิ่งขึ้น ก็ทำได้ง่ายๆ โดย ... 1.เวลาหั่นผัก ไม่ควรหั่นให้ชิ้นเล็กเกินไป เดี๋ยวสารอาหารมันจะย่อยสลายไปหมด และ 2. เมื่อหั่นผักแล้วไม่ควรแช่น้ำไว้นานๆ หรือแช่เก็บในตู้เย็น เพราะจะทำให้วิตามินและแร่ธาตุที่อยู่ในผักสลายไป ฉะนั้นควรนำไปปรุงอาหารทันที


- การนึ่งหลักการนึ่งทุกอย่างจะคล้ายกัน ตั้งน้ำในลังถึงให้เดือดพล่าน แล้วจึงใส่อาหารเข้าไป กะเวลา ที่อาหารจะสุกทั่วแล้วจึงเปิดฝาดู (ไม่เปิดฝาบ่อย)


- เคล็ดลับปลานึ่งเตรียมปลา ล้างให้หมดคาว ทาเกลือหรือสารส้ม บางตำราว่า ล้างด้วยเหล้าจีน เสร็จแล้วซับให้แห้ง นึ่งด้วยน้ำเดือดพล่าน จะรู้ว่าปลาสุกหรือไม่ ใช้ส้อมจิ้มดู ถ้าทะลุถึงกลางตัวแสดงว่าปลาสุก ตกแต่งให้สวยงามพร้อมเสริฟ


- ซึ้ง/หม้อชั้นนึ่ง
การต้มชาวจีนนิยมลวก หรือทอด เนื้อสัตว์ที่มีกลิ่นคาว ให้กลิ่นจางลงก่อน แล้วจึงนำไปต้ม อาหารแข็ง สุกยาก เช่น เมล็ดถั่ว เมล็ดบัว ต้องแช่น้ำให้นุ่มก่อนจึงนำไปต้ม


- เห็ดหอม ให้แช่น้ำหรือน้ำอุ่นจะนุ่มเร็วขึ้น ตัดก้านแข็งออกและควรนำน้ำเห็ดหอมไปใช้ต่อด้วย และหากนำเห็ดหอมไปผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอมแล้วจึงนำไปปรุงอาหารต่อ จะทำให้อาหารหอมน่าทานมากขึ้น หากจะ ต้มผัก ให้มีสีสวย ใส่เกลือเล็กน้อย ต้มน้ำให้เดือดพล่าน และวิธีลวกผักก็คล้ายกันเพียงแต่ พอผักสุก ให้รีบช้อนขึ้นมาแช่น้ำผสมน้ำแข็งทันที จะรักษาสีให้สดและผักกรอบอร่อย


- ต้มปลาสด ให้ต้มในน้ำเดือด บีบมะนาวเล็กน้อย เนื้อปลาจะขาวนุ่ม ไม่คาว


- การเก็บรักษาเห็ด เห็ดสดเมื่อซื้อมาแล้ว ห้ามล้างน้ำ ให้ปอกส่วนที่สกปรกทิ้ง แล้ววางไว้ในที่อากาศถ่ายเท หรือจะเก็บนานขึ้นหากนำไปต้มในน้ำเดือด เหยาะเกลือเล็กน้อย นาน 3 - 5 นาที ช้อนขึ้นแล้วเติมน้ำพอท่วม แช่ตู้เย็นช่องธรรมดา เก็บได้นาน 2 - 3 วัน

**ขอบพระคุณที่มาจาก //www.geocities.com ด้วยนะคะ



ขอให้ทุกๆ วัน มีแต่ความสุขน๊า ...






Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 19:06:54 น. 6 comments
Counter : 622 Pageviews.

 
มีประโยชน์ค่ะ


โดย: Elbereth วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:20:55 น.  

 
เอาของดีมีประโยชน์มาฝากกันอีกแล้วนะจ๊ะ


โดย: yayojung วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:03:43 น.  

 
ขอบคุณค่ะ

หนอนมาเก็บข้อมูล


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:47:09 น.  

 
แวะมาเก็บข้อมูลค่า
ขอบคุณค่ะ


โดย: KaPookLook (pook_sb ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:13:04 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ


โดย: kobnon วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:50:04 น.  

 
ดีค่ะ


โดย: Macys วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:07:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เชฟตูน บ้านหวานเย็น
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกท่าน .. ดีใจที่แวะมาทักทายกันนะคะ

สูตรที่มีและลงไว้ในบล็อกเชฟตูน บ้านหวานเย็นนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นสูตรที่คิดว่าอร่อยและคัดมาแล้วประมาณนึงค่ะ
และบางสูตรนี้ใช้ทำขายจริงด้วยนะคะ

สูตรทั้งหมดที่มีในบล็อกนี้ เชฟตูน บ้านหวานเย็นไม่หวงเลยค่ะ และยินดีที่เพื่อนๆ จะหยิบไปทดลองทำกัน แต่เชฟตูน บ้านหวานเย็นขอเสียงเม้นต์หรือรูปขนมที่เพื่อนๆ ทำไว้มาเติมกำลังใจให้กันหน่อยได้รึเปล่าคะ จะได้เอาไว้เป็นแรงใจในการสรรหาสูตรของกินอร่อยๆ มาฝากกันเรื่อยๆ .. อย่างน้อยจะได้รับรู้ด้วยว่าเพื่อนๆ เอาไปทำแล้วอร่อยกันบ้างมั๊ย? ที่สำคัญ เราจะได้มีเพื่อนใหม่ และจะได้รู้จักเพื่อนที่รักในการทำของกินอร่อยๆ กันมากขึ้นอีกนิดด้วยนะคะ

ยินดีที่รู้จักเพื่อนใหม่ และยินดีต้อนรับเพื่อนๆ สู่บล็อก "เชฟตูน บ้านหวานเย็น" ทุกคนๆ ค่ะ



Friends' blogs
[Add เชฟตูน บ้านหวานเย็น's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.