ชีวิตนี้เป็นของตัวเอง ขอใช้มันให้มีความสุขและคุ้มค่าที่สุด...........
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
9 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 

บุญบั้งไฟ โย่วๆๆ

พรุ่งนี้จะไปเที่ยวงานบุญบั้งไฟครับ อิอิ


ตั้งแต่เกิดมาได้ยินชื่องานบุญบั้งไฟมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยเห็นงานจริงๆสักที เพิ่งมีโอกาสปีนี้ที่มีเวลาว่าง งานบุญบั้งไฟเปรียบเสมือนงานประพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของชาวอีสาน มีการละเล่นพื้นบ้าน มีการจุดบั้งไฟขอฝน มีขบวนแห่และประกวดผาแดงกับนางไอ่ ซึ่งมีที่มาจากตำนานพื้นบ้านด้วย

ว่ากันว่างานบุญบั้งไฟเป็นงานบุญที่สามารถรวมแรงใจของชาวบ้านได้อย่างเหลือเชื่อ ทุกคนอยากเข้ามามีส่วนร่วมกับงาน ตอนเย็นหลังเลิกจากเลี้ยงวัวทำนา ก็มาช่วยกันตกแต่งขบวนแห่ ซึ่งมักจัดให้สอดคล้องกับวิชีวิตชาวบ้าน เช่น จักสานไซขนาดใหญ่ ทำลอบดักปลาขนาดใหญ่ ตกแต่งให้สวยงาม ทำรูปปั้นตัวละครในตำนานผาแดง-นางไอ่ เช่นกระรอกเผือก ม้า พญานาค มีการซ้อมขบวนฟ้อนรำ และบางครั้งได้มีการสอดแทรกแนวคิดเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพด้วย เช่นทำมวนบุหรี่ขนาดยักษ์ ปั้นยุงลายขนาดยักษ์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดและชี้ถึงภัยของยุงพาหะไข้เลือดออก

ในมุมมองของคนที่ทำงานด้านสุขภาพ งานบุญบั้งไฟจึงไม่ใช่เพียงงานเพื่อความสนุกสนานร่าเริง แต่เป็นงานที่สามารถปรับให้เข้ากับยุคกับสมัย และใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อสุขภาพได้อีกด้วย

ตำนานของประเพณีบุญบั้งไฟ ประกอบด้วยนิทานปรัมปรา 2 เรื่อง คือ เรื่องท้าว
ผาแดงและนางไอ่และนิทานเรื่องพญาแถนและพญาคันคาก (คางคก) เรื่องพญาแถนนั้น กล่าวว่า ครั้งหนึ่งพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นคางคก อาศัยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ครั้งนั้นพญาแถน เทพผู้เป็นใหญ่ที่สุดในท้องฟ้า ผู้ดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เกิดพิโรธทำสงครามกับชาวโลกและบันดาลให้ฝนไม่ตกเลย 7 ปี 7 เดือน ชาวโลกได้รับความเดือดร้อนส่งใครไปรบก็พ่ายแพ้กลับมากลับมาหมดชาวโลกพากันหนีพญาแถนมาที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่พญาคางคกอาศัย
อยู่ในที่สุดพญาคางคกได้รวมพลังสัตว์โลก ไปรบกับพญาแถน ปลวกได้ก่อจอมปลวกขึ้นไปถึงสวรรค์ มอดไม้ไปเจาะด้ามอาวุธทหารพญาแถน แมลงป่อง ตะขาบ มดไปกัดไพร่พลพญาแถน
ในที่สุดพญาแถนก็พ่ายแพ้ถูกจับตัวได้ ขอทำสัญญาสงบศึก โดยมีข้อตกลงว่าหากวันใดที่ชาวโลกยิงบั้งไฟขึ้นไปบนท้องฟ้าจะบันดาลให้ฝนตกลงมาเป็นฤดูฝน หากได้ยินกบเขียดร้องก็จะทราบได้ว่า ฝนตกแล้ว หากชาวโลกเล่นว่าวเมื่อใดก็จะให้ฝนหยุดตกกลายเป็นฤดูหนาว
ดังนั้นสมัยต่อ ๆ มาเมื่อถึงเดือนหกเข้าฤดูทำนา ประชาชนจะจุดบั้งไฟสื่อสารให้พญาแถนทราบว่าถึงเวลาที่จะบันดาลฝนให้ชาวบ้าน และจะได้เริ่มต้นฤดูการทำนากันได้

ส่วนอีกตำนานหนึ่ง คือผาแดงกับนางไอ่
อันนี้เพื่อนผมเล่าให้ฟังเมื่อเดือนที่แล้ว มันเล่าว่า สมัยก่อนในแม่น้ำจะมีพญานาคอาศัยอยู่ ครั้งหนึ่งบุตรชายของพญานาคได้ขึ้นมาเที่ยวโลกมนุษย์ และพบเห็นนางไอ่ซึ่งเป็นสาวงาม ก็เกิดหลงรัก
พญานาคได้แปลงกายเป็นกระรอกด่อนยักษ์(ด่อน ภาษาอีสานแปลว่าขาว) เพื่อมาแอบดูนางไอ่ แต่โชคร้ายมีคนพบเห็นกระรอกยักษ์จึงใช้ธนูยิงจนตายแล้วตัดแบ่งชิ้นเนื้อแจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านกิน
พญานาคเป็นเป็นพ่อทราบข่าวว่าลูกชายถูกยิงแล้วเอาไปกินก็โกรธมากจึงดลบันดาลให้พื้นดินถล่ม น้ำท่วมหมู่บ้านคนที่กินเนื้อกระรอกด่อนตายเกือบหมด เหลือเพียงผาแดงที่เป็นหนุ่มรูปงามขี่ม้ามาช่วยนางไอ่ไว้ได้แล้วควบม้าหนีไปด้วยกัน และคงเพราะตำนานนี้เกี่ยวข้องกับพญานาคซึ่งเป็นเทพแห่งน้ำ จึงได้มีการจัดขบวนแห่ที่เกี่ยวข้องกับตำนานนี้ไว้ด้วยกัน

นอกจากเรื่องตำนานแล้ว ในงานบุญบั้งไฟยังมีการเซิ้งเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศและความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ซึ่งจะกระทำด้วย ความสนุกสนาน ไม่มีการทะเลาะวิวาท คำเซิ้งและการแสดงประกอบจะออกไปในเรื่องเพศ เพราะเชื่อกันว่าสัญลักษณ์ทางเพศเป็นเครื่องหมายของการสืบพันธุ์ ความอุดมสมบูรณ์ และการเจริญงอกงาม

เห็นว่าจะมีไอ้จ้อน กับน้องหนูไม้แกะสลักอันโตๆ เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญบั้งไฟด้วยครับ ^ ^"


ส่วนไฮไลท์เด็ดของงาน หลายๆท่านคงทราบกันแล้วนั่นคือการจุดบั้งไฟแข่งประชันกัน ในแต่ละหมู่บ้านจะมีบั้งไฟขนาดต่างๆ เช่นบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน (บั้งไฟหมื่นคือบั้งไฟที่ใช้ดินประสิว 12 กิโลกรัม บั้งไฟล้านก็ลองคูณดูละกันครับ) ถ้าบั้งไฟของใครไปได้ไกล หรือขึ้นได้สูงก็ชนะ เจ้าของบั้งไฟจะถูกหามแห่ไปรอบๆ บั้งไฟของใครแตกหรือซุก็ถือว่าแพ้ จะถูกจับไปโยนลงบ่อโคลนเป็นที่สนุกสนาน



พรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยวงานบุญบั้งไฟที่จังหวัดเล็กๆแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน จะสนุกหรือไม่สนุกอย่างไร จะมาเล่าให้ฟังละกันครับ :)






 

Create Date : 09 มิถุนายน 2549
10 comments
Last Update : 9 มิถุนายน 2549 22:00:15 น.
Counter : 1277 Pageviews.

 

ยังไม่เคยไปเหมือนกันแหะ เพราะว่าเคยไปอิสานแค่ครั้งเดียวเอง ไปเข้าค่าย >_<

ปกติชอบไปภาพใต้กับตะวันออก


ส่วนเรื่องคำร้องของงานนี้ เคยได้ศึกษามาบ้างจากวิชา Thai Soc
แต่โดยส่วนตัวก็ไม่เคยไปสัมผัสของจริงหรอก ...

 

โดย: สาวแว่นเลี้ยวซ้าย 9 มิถุนายน 2549 11:26:17 น.  

 

รับทราบ!!!

 

โดย: BAYROCKU 9 มิถุนายน 2549 11:37:44 น.  

 

อยากไปบ้างนะครับ ไม่เคยเห็นจริง ๆ เหมือนกัน

 

โดย: POL_US 9 มิถุนายน 2549 11:48:34 น.  

 

น่าอิจฉาจัง

 

โดย: นายกาเมศ 9 มิถุนายน 2549 14:25:42 น.  

 

อยากไปมั่งเหมือนกันค่ะ

 

โดย: นมัสเต 9 มิถุนายน 2549 17:27:43 น.  

 

เหมือนกำลังอ่านรายงานอยู่
รอวันนึง จะได้ไปเที่ยวและถ่ายรูปกะเค้าบ้าง

 

โดย: ถวิลหา 9 มิถุนายน 2549 17:29:42 น.  

 

อยากไปเหมือนกันครับ

 

โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า 9 มิถุนายน 2549 19:41:23 น.  

 

อยากไปครับ

 

โดย: นายเบียร์ 10 มิถุนายน 2549 12:16:43 น.  

 

ภาพงานมหกรรมบุญบั้งไฟล้าน อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 2550
//www.pantown.com/board.php?id=23631&area=3&name=board3&topic=61&action=view

โดย บ้านเมืองออนไลน์ เมื่อเวลา 12:19:00 วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2550 เที่ยวงานมหกรรมบั้งไฟล้าน จุดบั้งไฟไหว้พระธาตุ โฮมญาติพนมไพรที่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 30

พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ บุญบั้งไฟ เป็นงานบุญประเพณีที่มีอยู่คู่คนอีสานมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการจุดเพื่อถวายปู่ตา อารักษ์ และบุญวิสาขบูชา เพื่อเป็นการบูชาเทพยดาอารักษ์ มเหศักดิ์ หลักเมือง ซึ่งเชื่อว่า

จะทำให้พระยาแถนหรือผีฟ้าบันดาลดลประทานฝนให้แก่มนุษย์โลก ซึ่งอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีการจัดงานบุญประเพณีจุด บั้งไฟมาอย่างช้านาน และยังเป็นแหล่งรวมบั้งไฟที่ยิ่ง

ใหญ่ไม่แพ้ที่ใดในโลก ไม่ว่าจะเป็นบั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน และยังเป็นแหล่งผลิตบั้งไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมทั้ง การประกวดประชันบั้งไฟกันอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ก่อนที่จะนำไปจุดพุ่งขึ้นสู่ยอดฟ้าตื่นตา

น่าอัศจรรย์ นายวิจักษณ์ ชิณโคตรพงศ์ นายอำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ประธานในการจัดงาน กล่าวว่า ประเพณีบุญบั้งไฟถือว่าเป็นประเพณีสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวพนม ไพรประเพณีหนึ่งที่มีการจัดกัน

อย่างยิ่งใหญ่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมักจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปี เพื่อบวงสรวง เซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้บันดาลสิ่ง ที่ดีแก่มนุษย์ ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ก่อนการทำนาจะมาถึง

และจากตำนานบุญบั้งไฟนั้น ได้อธิบายถึงประวัติความเป็นมา ตามความเชื่อของชาวอีสานอยู่ 2 ตำนาน คือ ตำนานเรื่อง ผาแดงนางไอ่, ตำนานเรื่องพระยาคันคาก ซึ่งเรามักจะเห็นหุ่นจำลองเรื่องพระยา

คันคาก หรือท้าวผาแดงนางไอ่ ประกอบในขบวนแห่บั้งไฟเสมอ นายวัชรินทร์ เอี่ยมรัศมีกุล กรรมการจัดงาน กล่าวว่า บุญบั้งไฟพนมไพรนอกจากจะจัดขึ้นตามประเพณีเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอฟ้าขอฝนแล้ว

ยังเป็นการจัดเพื่อ บวงสรวงองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ ที่ชาวพนมไพรให้ความเคารพนับถือ โดยเชื่อว่าองค์พระธาตุเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณเจ้าพ่อมหาธาตุที่คอยคุ้มครอง ปก ปักรักษาให้ชาว

พนมไพรมีความร่มเย็นเป็นสุข ผู้ที่ไปกราบไหว้ขอพรมักประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากการบูชาองค์พระมหาธาตุแล้วการจัดงานยังถือเป็นเทศกาลที่ สำคัญ ที่ชาวพนมไพรซึ่งไปอยู่ในที่ต่างๆ จะต้องเดิน

ทางกลับบ้านเกิดเพื่อมากราบไหว้พ่อแม่ ผู้มีพระคุณและบรรพบุรุษของตนเอง และร่วมกิจกรรมงานบุญ มีความรื่นเริง สนุกสนานกันทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้คนที่มาเห็นแล้วต้องอดที่

จะเอ่ยชมไม่ได้ จนเป็นที่รู้จักกันในงาน จุดบั้งไฟ ไหว้พระธาตุ โฮมญาติพนมไพร โดยในปีนี้เราได้สร้างบั้งไฟ 10 ล้านขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศ โดยใช้ท่อ พีวีซี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว, ยาว

6 เมตร จำนวน 1 บั้ง เพื่อจุดเฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และถวายองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพนมไพรให้ความ

เคารพ นับถือ นายมนตรี พันธโคตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพนมไพร เปิดเผยว่า การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟของชาวพนมไพรในปีนี้ถือว่ามีความยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ซึ่ง นอกจากจะเป็นการจัดเพื่อร่วม

เฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษาแล้ว ยังมีการส่งบั้งไฟแสน และบั้ง ไฟล้านเข้าประกวดจากประชาชนทั่วประเทศจำนวนมากมายเป็น

ประวัติกาล จนมีการขนานนามการจัดงานบุญบั้งไฟในปีนี้ว่า มหกรรมบั้งไฟล้าน เพราะมีจำนวนบั้งไฟ ล้านถึง 100 บั้ง บั้งไฟแสน 150 บั้ง และบั้งไฟหมื่นไม่ต่ำกว่า 300 บั้ง ที่ต้องใช้เวลาในการ

จุดตั้งแต่เช้ามืดจนถึงค่ำ โดยบั้งไฟล้านและบั้งไฟแสนมีการจุดแข่ง ขันชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัลอีกมากมาย จึงการันตีได้ว่างานบั้งไฟที่มีความยิ่ง

ใหญ่นักท่องเที่ยวนับแสนแห่ชม การจุดบั้งไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีที่นี่ที่เดียว นายคม กนกนภากุล เทศมนตรีตำบลพนมไพร ซึ่งเป็นฝ่ายพิธีการกล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ตรงกับวันที่ 30 พ.ค.-1

มิ.ย. 2550 โดยมีหมาย กำหนดการดังนี้ วันที่ 30 พ.ค. เป็นวันเซิ้ง หรือวันโฮม ซึ่งจะเป็นวันที่ลูกหลานชาวพนมไพร เพื่อนฝูงและญาติมิตร จะเดินทางกลับมาบ้านเกิด เพื่อพบปะสังสรรค์กันอย่าง

สนุกสนานกันทั่วทุกถนน ตรอก ซอกซอย และหมู่บ้าน วันเดียวกันจะมีขบวนเซิ้งของชาวบ้านเพื่อขอรับบริจาคจตุปัจจัย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในสมทบทุนในการทำบุญ โดยการ เดินเท้าปรบมือ ตีฉิ่ง ตีกลอง ฟ้อนรำ

และร้องเพลงกลอนเซิ้งพื้นเมืองโบราณ เป็นคำอวยพรให้กับผู้คนที่บริจาคสิ่งของ โดยจะไปเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 3- 5 คน เซิ้งไปทั่ว เมืองพนมไพร วันที่ 31 พ.ค. เป็นวันแห่ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ

เดือน 7 มีการจัดขบวนแห่บั้งไฟที่ตกแต่งอย่างยิ่งใหญ่สวยงามตระการตา ประกอบกับขบวนฟ้อน เซิ้งของแต่ละคุ้ม รวมทั้งหน่วยงานราชการ ประกอบการแสดงที่สนุกสนาน ตามตำนานบุญบั้งไฟ และ

วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น โดยขบวนจะเริ่มจากบริเวณสี่แยกหน้า อำเภอแห่ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลที่คลาคล่ ำไปด้วยผู้คน ผ่านปะรำพิธี และถนนสายต่างๆ ก่อนมุ่งสู่วัดกลางอุดมเวทย์ อันเป็นที่

นับถือของชาวพนมไพรมา ตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อถวายสักการะองค์มหาธาตุ และจัดให้มีการประกวดขบวนแห่สวยงาม บั้งไฟสวยงามรวมทั้งธิดาบั้งไฟด้วย ส่วนตอนกลางคืนจะเป็นการแสดง คอนเสิร์ตของ

เหล่าศิลปินเพื่อชีวิตมากมาย เช่น หมู-พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, หงา คาราวาน, มาลีฮวนน่า, มงคล อุทก ซึ่งเป็นลูกหลานชาวพนมไพร, ประทีป ขจัดพาล, หนุ่มภูไท และศิลปินเพื่อชีวิตอีกมาก

มาย วันที่ 1 มิ.ย. วันจุดบั้งไฟ ชาวบ้านจะเตรียมบั้งไฟขอตนเองออกไปยังฐานจุดตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเข้าคิวลงทะเบียนเข้าแข่งขัน บั้งไฟแสนบั้งไฟล้านของใครทำ เวลาขึ้นดีที่สุดจะได้รับถ้วยพระราชทานฯ

ไปครองพร้อมเงินรางวัลอีกมากมายจากหน่วยงานต่างๆ ที่สนับสนุน ซึ่งในทุกๆ ปีที่ใกล้บริเวณฐานจุดจะมีประชาชนทั้งในและ นอกพื้นที่จากทั่วสารทิศหลั่งไหลกันมารอชมการจุดบั้งไฟปีละนับแสนๆ คน ซึ่ง

บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน และสุดแสนอลังการในการจุดบั้งไฟ ซึ่งจะมีให้ชมเป็น ระยะๆ หากบั้งไฟผู้ใด หรือค่ายใด แตกหรือ ชุ (ไม่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า) เจ้าของหรือช่างทำบั้งไฟจะถูกหามลงคลุกขี้

โคลนอย่างสนุกสนาน นอกจากความสนุกแล้วความ ปลอดภัยคือหัวใจของการจัดงานที่ทางคณะกรรมการมีระบบการกำหนดเขตดูบั้งไฟที่ปลอดภัย ระบบการปฐมพยาบาลที่พร้อมของโรงพยาบาลพนมไพร และ

เจ้าหน้าที่ ตำรวจที่คุมเข้ม คอยช่วยเหลืออย่างพร้อมสรรพด้วย นอกจากจะได้เที่ยวชมงานบุญประเพณีการจุดบั้งไฟอันยิ่งใหญ่ของชาวพนมไพรแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อและถือเป็นเอกลักษณ์ของ

ชาวพนมไพรที่มีการ สืบทอดการทำมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย นั่นคือ ข้าวปุ้นซาว หรือขนมจีนสดนั่นเอง ซึ่งคนทำจะทำกันแบบสดๆ ในกระทะใบบัวอันใหญ่ เสิร์ฟกินร้อนๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยว ราด กับน้ำยาปลา

หรือน้ำยากะทิ แนมด้วยผักสดพื้นเมืองสมุนไพรนานาชนิดที่มีทั้งแบบสดและแบบลวกให้เลือกกิน อร่อยลิ้นไม่แพ้อาหารพื้นเมืองแซ่บๆ จากที่อื่นเลย อย่าลืม 30 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ เชิญเที่ยว

งานมหกรรมบั้งไฟล้านอันยิ่งใหญ่แล้วไปเปิบข้าวปุ้นซาวของดีเมืองพนมไพร ที่ จ.ร้อยเอ็ด..... สมพงษ์ อัศวแสงพิทักษ์/ร้อยเอ็ด

 

โดย: ฺBKK IP: 124.120.146.87 21 ตุลาคม 2550 20:47:50 น.  

 

กลุ่มเพื่อน 5.63 โรงเรียนอุตรดิตถ์ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ ทีมงานพิพิธภัณฑ์พืชแห่งแรกของกรุงสยาม "พิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพ" จัดเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับเหมันตฤดู วันออกพรรษา 2553 "เชียงคานยังหวานอยู่" ณ บ้านครูแดงโฮมสเตย์ อ.เชียงคาน จ.เลย วันที่ 23-25 ต.ค. 2553 มีโปรแกรมกิจกรรมที่น่าสนใจดังนี้
วันที่ 23 ตุลาคม 2553
06.00 - 12.00 น. เดินทางสู่จังหวัดเลย,รับประทานอาหาเที่ยงตามอัธยาศัย
13.00 น. ถึงจึงหวัดเลย พบกันที่ร้าน แชมป์โปรเจค (ตรงข้ามโรงพยาบาลเมืองเลยราม
13.30 - 14.30 น. ขบวน Rally รถยนต์ 5.63 และเครือข่าย เดินทางสู่อำเภอเชียงคาน
14.30 - 15.00 น. เข้าที่พัก ผักผ่อนตามอัธยาศัย
15.00 - 15.30 น. ชมทัศนียภาพแก่งคุดคู้ อำเภอเชียงคาน
15.30 - 17.30 น. Walk rally หรรษา 5.63 พาสนุก
17.30 - 18.30 น. ปั่นจักรยาน เที่ยวถนนชายโขง เมืองเชียงคาน

วันที่ 23 ตุลาคม 2553
06.00 - 12.00 น. เดินทางสู่จังหวัดเลย,รับประทานอาหาเที่ยงตามอัธยาศัย
13.00 น. ถึงจึงหวัดเลย พบกันที่ร้าน แชมป์โปรเจค (ตรงข้ามโรงพยาบาลเมืองเลยราม
13.30 - 14.30 น. ขบวน Rally รถยนต์ 5.63 และเครือข่าย เดินทางสู่อำเภอเชียงคาน
14.30 - 15.00 น. เข้าที่พัก ผักผ่อนตามอัธยาศัย
15.00 - 15.30 น. ชมทัศนียภาพแก่งคุดคู้ อำเภอเชียงคาน
15.30 - 17.30 น. Walk rally หรรษา 5.63 พาสนุก
17.30 - 18.30 น. ปั่นจักรยาน เที่ยวถนนชายโขง เมืองเชียงคาน

24 ตุลาคม 2553
05.00 - 06.30 น. รับอรุณยามเช้าที่ภูทอก
06.30 - 07.30 น. ชาว 5.63และเครือข่าย บำเพ็ญกุศล ไหว้พระ ทำบุญตักบาตร ยามเช้าที่เชียงคาน
07.30 - 08.30 น. รับประทานอาหารเช้า และแลกเปลี่ยนสนทนาเวลาเช้าที่เชียงคาน
อาหารเช้า
- กาแฟเลิศรส และขนมไทย ๆ
- ขนมจีนน้ำแจ่ว
- ข้าวต้มทรงเครื่อง
08.30 -09.30 น. ชาว 5.63 และเครือข่าย บำเพ็ญประโยขน์ บริจาคเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม สมุดเครื่องเขียน ฯลฯ ให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ณ โรงเรียนมูลมัง หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดท่าแขก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
09.30 - 10.30 น. นัดดวลกอล์ฟ สำหรับคนรักกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟ อาทิตย์ กำลังเอก ค่ายศรีสองรัก จ.เลย
- เดินทางท่องเที่ยวตามอัธยาศัย
1. ไหว้พระธาตศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย
2. ไหว้พระที่วัดเนรมิตวิปัสสนา อ.ด่านซ้าย จ.เลย
3. เที่ยวสะพานไทย -ลาว อ.ท่าลี่ จ.เลย
4. เที่ยวท่าสด็จ จ.หนองคาย
เดินทางท่องเที่ยว ค้างคืนตามอัธยาศัย
25 ตุลาคม 2553 เดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
Rally รถยนต์ 5.63 และเครือข่าย เดินทางสู่อำเภอเชียงคาน
14.30 - 15.00 น. เข้าที่พัก ผักผ่อนตามอัธยาศัย
15.00 - 15.30 น. ชมทัศนียภาพแก่งคุดคู้ อำเภอเชียงคาน
15.30 - 17.30 น. Walk rally หรรษา 5.63 พาสนุก
17.30 - 18.30 น. ปั่นจักรยาน เที่ยวถนนชายโขง เมืองเชียงคาน
ยินดีต้อนรับสู่เชียงคาน
ด้วยสัจจะและไมตรีจาก
พ.ต.ท.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ รอง ผกก. สภอ.ภูกระดึง จ.เลย และคณะ
นางกมนวรรณษ์ วัฒนศรีทานัง
นายวิชรัตน์ บุปผาพันธ์ และ
นายเรืองวิทย์ ล้อศิริรัตน์

 

โดย: กลุ่มพื่อน 5.63 อ.ต. IP: 210.246.186.9 20 ตุลาคม 2553 18:14:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Carlziess Lens
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"a man is not where he lives,bus where he loves.. ...."

Friends' blogs
[Add Carlziess Lens's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.