Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2564
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 มิถุนายน 2564
 
All Blogs
 
นัดที่ 6 ปารากวัย 0 บราซิล 2




















 


ฟุตบอลโลก 2022 (รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้)

สนาม : เอสตาดิโอ เดเฟนโซเรส เดล ชาโก้


เนย์มาร์ จัดการซัดประตูและจ่ายให้เพื่อนยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยพาทีมชาติบราซิล บุกเอาชนะ ปารากวัย 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา
    ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ช่วงเช้าวันพุธที่ 9 มิถุนายน เจ้าถิ่น ปารากวัย สะดุดเจ๊ามา 3 เกมติดต่อกันหลังออกไปเสมอกับ อุรุกวัย 0-0 ทำให้ทีมรั้งอันดับที่ 4 ของตาราง

    ฝั่ง บราซิล บราซิล ชนะมา 6 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังเปิดบ้านเชือด เอกวาดอร์ 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดล่าสุด ทำให้ทีมรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนในเวลานี้ โดยทาง ตีเต้ กุนซือใหญ่จัดแนวรุกลงสนามครบครันทั้ง  ริชาร์ลิซอน, กาเบรียล เชซุส, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ เนย์มาร์

    เปิดฉากได้แค่ 5 นาทีเป็น บราซิล ที่ชิงออกนำได้ก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส กระชากบอลทางฝั่งขวาแล้วตบมาหน้าประตู จังหวะแรก ริชาร์ลิซอน ยิงไม่ดีบอลเลยมาตกหน้า เนย์มาร์ จากนั้นกัปตันทีมแซมบ้าจับบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงยัดเสาแรกพาทัพเซเลเซา ออกนำ 1-0

    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครั้งแรก ริชาร์ลิซอน ส่งบอลเข้าประตูจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายเต็มข้อ ทว่าผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน และหมด 45 นาทีแรก บราซิล บุกนำ 1-0

    นาที 69 ริชาร์ลิซอน กระชากจากครึ่งสนามมาถึงในกรอบเขตโทษก่อนจะจิ้มด้วยซ้ายแต่ กุนตาโว่ โกเมซ ตามมาสไลด์บอลบล็อกเอาไว้ได้ทัน

    นาที 87 เกมบุกของ ปารากวัย บ้าง และคราวนี้ อัลแบร์โต้ เอสปิโนล่า ได้จบสกอร์ แต่บอลยังไปเข้ามือของ เอแดร์ซอน 

    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บราซิล มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ เนย์มาร์ ผ่านบอลมาให้ กาเบรียล บาร์โบซ่า เอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายส่งบอลเสียบเสาสอง และจบเกมด้วยชัยชนะของทีมเยือน 2-0 ส่งผลให้ บราซิล คว้าชัย 6 เกมรวด รั้งจ่าฝูงของตาราง ส่วน ปารากวัย มี 7 คะแนน

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    ปารากวัย : อันโตนี่ ซิลวา,โรเบิร์ต โรฮาส(อัลแบร์โต้ เอสปิโนล่า น.61), กุสตาโว โกเมซ, จูเนียร์ อลอนโซ่, โอมาร์ อัลเดเรเต้, กัสตัน ฆิเมเนซ(กาเบรียล อวาลอส น.61), อังเคล การ์โดโซ่(อันโตนิโอ บาเรย์โร่ น.80), ซานติอาโก้ อาร์ซาเมนเดีย, มาติอัส บิยาซันติ(ออสการ์ โรเมโร่ น.73) , อังเคล โรเมโร่(บราเรียน ซามูดิโอ น.80), มิเกล อัลมิร่อน

    บราซิล : เอแดร์ซอน, ดานิโล่, เอแดร์ มิลิเตา, มาร์กินญอส, อเล็กซ์ ซานโดร, เฟร็ด(ลูกัส ปาเกต้า), กาเซมิโร่, ริชาร์ลิซอน(กาเบรียบ บาร์โบซ่า น.82), กาเบรียล เชซุส(เอแวร์ตอน น.82), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่(ดั๊กลาส ลุยซ์ น.73), เนย์มาร์

ข้อมูลจาก https://www.siamsport.co.th 








 



Create Date : 09 มิถุนายน 2564
Last Update : 9 มิถุนายน 2564 15:39:06 น. 0 comments
Counter : 559 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.