Believe and you will find your way

อมยิ้มสีฟ้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Ay....me!
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add อมยิ้มสีฟ้า's blog to your web]
Links
 

 

@@รัก และ อาลัย@@

เรื่องก็มีอยู่ว่า

มีคนไข้ที่วอร์ดคนนึง
เป็นผู้หญิงอายุประมาณ46ปี
เดิมเธอเป็นโรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ....ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ายังไง(dermatomyositis)
วันนึงชักโดยไม่ทราบสาเหตุ
สมองขาดเลือด.....ตั้งแต่นั้นมาก็นอนไม่รู้สติ
สาเหตุการชักยังไม่ทราบแน่ชัด
อาจจะเป็นเพราะโรคเดิมหรือเปล่าก็ไม่มีใครทราบได้
(ตรวจอะไรก็ไม่พบจริงๆ)

ก็มานอนอยู่ที่โรงพยาบาล
คุณสามี และ ลูกสาวจะมาหาทุกวัน
คุณสามีจะเอาผ้าขนหนูชุบน้ำสะอาดคอยเช็ดตามมือ ตามเท้า เช็ดหน้า...ลูกสาวก็จะช่วยพ่อเอาผ้าไปชุบน้ำให้
(.....ฮือ.......แค่ดูก็รู้ว่ารักมากๆ)

คุณสามีมักจะเกรงใจไม่กล้าเรียกหมอหรือคุณพยาบาลไปดูดเสมหะให้....(นอนโรงบาลนานๆมันก็มีปอดบวมกันมั่งแหละ)
หรือไม่ว่างๆก็จะเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดสายที่จะต่อtubeดูดเสมหะอีกทีนึง.....(แอบดูกับเพื่อน..คุณพ่อนี่น่ารักสุดๆอ่ะ) สงสัยเห็นหมอทำเลยทำมั่ง.....เอิ้กๆ

สองสามวันก่อนคุณคนไข้ก็ความดันไม่ค่อยดีเลย ออกไปทางต่ำ
ก่อนหน้านี้คุณพ่อก็ตัดสินใจไม่ปั๊มหัวใจหรือใช้ยากระตุ้นหัวใจใดๆถ้าเผื่อคุณคนไข้ไม่ไหว
ให้แต่น้ำเกลือเท่านั้น

วันนี้ตอนเช้า
คุณคนไข้อาการไม่ค่อยดี
มือเท้าเย็น(ก็เย็นมาหลายวันแล้วล่ะ)
ฟังเสียงหัวใจได้ แต่คลำชีพจรที่แขนไม่ค่อยได้
วัดความดันได้เสียงเบา....ต้องตั้งใจฟัง
ฟังได้แค่เสียงแรก.....น้อยกว่า60
พี่โทรตามญาติ

ซักพัก
เราก็เห็นคุณสามีเดินเร็วๆเข้ามาในวอร์ด
หน้าตาร้อนรนกว่าปกติ
มาถึงก็เดินเข้าไปที่เตียงคุณคนไข้จับมือและพูดอะไรบางอย่าง
ทำแบบนี้อยู่นาน
ลูกสาวก็เข้ามาเหมือนกัน...
วันนี้คุณสามีก็ยังเอาผ้ามาบรรจงเช็ดหน้า มือ แขน เท้าให้เหมือนเดิม

ก้อดแค่นี้ดิชั้นก็น้ำตาซึมๆ
ญาติคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันมา
คุณสามีก็ยิ้มกับคนอื่นและบอกให้คนอื่นคุยกะคุณภรรยา
มือนึงก็ยังจับมือของภรรยาไว้ไม่ปล่อย...

เศร้าๆอ่ะ.....แต่ไม่ได้นะ
ต้องใจแข็งเข้าไว้

()
ตอนประมาณบ่ายโมง
หัวใจก็ค่อยๆบีบตัวน้อยลง
ความดันวัดไม่ได้
และก็.......จากไป
ตอนนั้นเราลงไปข้างล่างพอดีและก้อกลับมาทำงานอยู่ในห้อง

ออกไปดูอีกทีก็มีคนเข็นเตียงคนไข้ออกมา
ผ้าเขียวห่มจนถึงหน้าอก
หน้ายังเปิดไว้
เห็นแก้มและปากถูกแต่งไว้ด้วยสีแดงระเรื่อเหมือนนอนหลับไปเฉยๆ
แว่นสายตาที่เอามาใส่ทำให้รู้สึกเหมือนมีชีวิตมากขึ้น
คนไข้เป็นครูน่ะแล้วก็เป็นChristianด้วยถึงได้แต่งหน้าก่อน

ตอนลงไปข้างล่างเราก้อลงลิฟท์ตัวเดียวกันคนไข้
(ไปกับเตียงคนไข้เลย)
ไม่สยองอ่ะ แต่เศร้าๆมากกว่า

เฮ้อ
สงสารลูกสาวชะมัด
แต่เอาเหอะเนอะ

ที่จริงก็ไม่ได้เจอคนไข้ไร้วิญญาณครั้งแรก
แต่นี่แบบ.....เห็นลูกและสามีมาดูแลอย่างดี
เห็นถึงความผูกพัน
แบบนี้แล้วมันเลยอินน่ะ.......




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2549
5 comments
Last Update : 15 กรกฎาคม 2549 20:10:25 น.
Counter : 569 Pageviews.

 

อ่านแล้วก็อดใจหายไปด้วยไม่ได้ค่ะ..คนจากไปน่ะไปสบายแล้ว..แต่คนข้างหลังนี่สิคะ ที่ยังต้องทุกข์ทรมารกับความสูญเสียไป(อาจจะ)จนกว่า ชีวิตจะหาไม่..

 

โดย: i'm not superman 15 กรกฎาคม 2549 20:19:43 น.  

 

สาเหตุของการตายก็คือการเกิด

ถ้าไม่อยากตาย ก็ไม่ต้องเกิด

จริงไหมจ๊ะคุณโยม...

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณป้าด้วยครับ

 

โดย: นู๊นู IP: 203.155.190.5 16 กรกฎาคม 2549 1:00:36 น.  

 

ฮือออออออ... เข้ไม่ชอบเรื่องการสูญเสียเลยเจ้าค่า ถึงรู้ว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็กลัวเหลือเกินเจ้าค่า ฮือ..


..กำลังนึกภาพว่า ตอนเราแก่ ถ้าเราเจ็บป่วย เราจะมีใครที่รักและดูแลเราจนวันตายแบบนี้มั่งไม๊หนอ ด้วยอ่ะเจ้าค่า ..

 

โดย: Jakaey 16 กรกฎาคม 2549 1:50:21 น.  

 



อ่านแค่นี้ก้อบ่อน้ำตาแตกแล้วล่ะ

ขอให้ปัยสู่สุขคติคับ

 

โดย: pooktoon 16 กรกฎาคม 2549 2:49:54 น.  

 

พี่มาขออนุญาต แอดบล้อกนู๋อ่ะจ้ะ..

sms ของพี่..พรุ่งนี้เช้ามีเวลาพี่จะมาเขียนต่อนะ..เรื่องมันยาววว ง่ะ..

 

โดย: i'm not superman 18 กรกฎาคม 2549 22:35:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.