Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
หนึ่งเดือนผ่านไปกับอเมริกาจ๊ะจ๋า ได้อะไรบ้างเนี่ย

อืม...มาอยู่เมืองลุงแซมได้หนึ่งเดือน ยังรู้สึกว่าไม่ได้ซึมซับอะไรเลย
อย่างการพูดภาษาปะกิดนี่ก็ยังงู ๆ ปลา ๆ เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มมานิดหนึ่งคือคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วก็ทักษะการฟังอีกนิดหน่อย (ก็เปิดทีวีกรอกหูทุกวัน ไม่ได้มองภาพเลย เปิดทีวีด้วย เล่นเนตด้วย เอิ๊กๆๆ)

อ่า...นึกออกแล้ว ที่เพิ่มมาคือเงินดอลในกระเป๋า ทำงานได้หลายอาทิตย์ก็มีเก็บหลายอยู่ แต่น่าเสียดายที่ต้องเจียดไปออกค่าเครื่องบินบินกลับไปรับปริญญา ยังเก็บมะครบเลย

สิ่งที่เสียหรือได้หว่า? ต่อไปคือ...กล้องดิจิตอล(เริ่ม)เสีย
งานเข้าเลยตรู มาเสียเอาตอนอยู่เมืองนอก แหม...เสียไปได้ ไม่ดูเวลาและสถานที่เลย
อันที่จริงก็พอถ่ายได้ แต่ต้องในที่ร่มเท่านั้น ถ้าออกแดดเมื่อไรเปิดไม่ติดทุกที เปิดทีไรหน้าจอดับตลอด เซ็งจริง ๆ ต้องเสียเวลา(ในการเล่นเนต)มาเล็งกล้องตัวใหม่ ตอนนี้ได้แต่เล็ง ไม่มีกะตังค์ ฮ่าๆ หวังว่าตอนที่มีกะตังราคามันจะลดลงกว่าเดิมหรือไม่หมดสต๊อกไปก่อนนะ

พูดถึงการซื้อกล้อง ก็ขอรวมไปถึงเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ กับราคาที่พอซื้อได้(เมื่อมาอยู่อเมริกา) ในความเห็นส่วนตัว รู้สึกว่าราคาของพวกนี้เมื่อเทียบกับค่าแรงของออแพร์ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นค่าแรงขั้นต่ำ สมมติว่าได้อาทิตย์ละ 200 ดอล หนึ่งเดือนก็ 800 ดอล สามารถซื้ออะไรได้บ้างเอ่ย ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก...

ปิ๊ง...ซื้อกล้องดิจิตอล มือถือ mp3 ได้อย่างละหนึ่งเครื่องในราคาปานกลาง เงินที่เหลือเอาไปเที่ยว สมมตินะ จขบ.ยังไม่ได้เที่ยวไหนเลย เก็บตังอย่างเดียว

ลองมาดูที่เมืองไทยดิ๊ สมมติเงินเดือนประมาณ 8000-10000 บาท ซื้ออะไรได้บ้างในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก...

ปิ๊ง...ซื้อกล้องได้หนึ่งเครื่องในราคาไม่ควรเกินเงินเดือน ฮา... หรือ ซื้อมือถือ(ที่สามารถใช้โทรเข้าออกก็พอแล้ว)ได้หนึ่งเครื่อง บวกกับmp3 ที่ฟังเพลงก็พอ จอสีจอสันเอามาทำไม ประมาณนี้... ส่วนเงินที่เหลือ... เหลือไหม... ไม่รู้

จากที่พิมพ์ ๆ มาทั้งหมด รู้สึกว่าประเทศเราเหมือนถูกเอาเปรียบ แหม...ก็เป็นประเทศเกษตรกรรมนี่เนอะ จะไปสู้พี่ญ่ายยยยอย่างมะกันเค้าได้ยังไง
เมื่อไหร่ไทยแลนด์จะพัฒนา(แล้ว)สักทีคะ? คำถามนี้ผายมือไปที่นักการเมืองค่ะ(โปรดนึกภาพพิธีกรกำจัดจุดอ่อน) ...เงียบฉี่... (ตัดภาพมาที่พิธีกรอีกครั้ง) ค่ะ ตอนนี้ท่านผู้มีเีกียรติ(เกียจ)ทั้งหลาย กำลังวางแผนขัดแข้งขากันเองหรือว่ากำลังเล่นกีฬาสีอยู่ ไม่ว่างตอบค่ะ จบรายการ

กลับมาๆๆ ออกมหาสมุทรไปไกลโข ล่องเรือยอร์ชกลับมาเทียบท่า

หนึ่งเดือนกับการเลี้ยงเด็ก(ไม่)ไร้เดียงสา มีอะไรฮา ๆ เยอะเลย ขอยกตัวอย่างแค่น้ำจิ้ม

ที่นี่เวลาเด็ก ๆ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หรือที่เรียกว่า บู ๆ เช่นแผลที่เกิดจากการเกา แผลเล็กแผลน้อย กระจ้อยร่อยกระจิ๊ดริด ก็จะมีประเพณีการจูบที่บาดแผล เชื่อว่าจะทำให้แผลหาย นังออแพร์หื่นก็ถือโอกาสแต๊ะอั๋งหนุ่มน้อยไปในตัว ส่วนหนูน้อยแมดดี้ที่เป็นผู้หญิงก็จูบเหมือนกัน(ตามประเพณี ฮ่า ๆ)

มีอยู่วันหนึ่ง หนุ่มน้อยหน้ามนเดิมเข้ามาหา พร้อมกับยื่นเท้ามาให้ดู แล้วพูดว่าบู ๆ ด้วยความฉลาดปราดเปรื่องของนังออแพร์ก็รู้เลยว่าเจ้าหนุ่มหมายถึงมีแผลที่ตรีน จูบให้หน่อย เอิ่ม...ตรีนนะจ๊ะตรีน หนูไปบุกน้ำลุยโคลนที่ไหนมาทั้งวันบ้างแล้วเนี่ย จะให้เจ๊จูบ แต่ด้วยภาระหน้า่ที่อันยิ่งใหญ่ที่แบกรับ กระเหรี่ยงหัวดำก็จำใจก้มลงไปเกือบจะสัมผัสกับผิวตรีนของหนุ่มน้อยอยู่แล้วเชียว แต่หนูน้อยแมดดี้ก็วิ่งปรี๊ดเข้ามาแล้วบอกว่าจะจูบให้เอง อร๊ายยยย พระเอก?ขี่ม้าขาวมาช่วยเจ้าหญิงหัวดำแล้ว พอแมดดี้ทำการจูบ(ตรีน)ให้หนุ่มหน้ามน ทั้งคู่ก็แฮปปี้กระดี้กระด้าวิ่งไปเล่นของเล่นต่อ ทิ้งให้ออแพร์นั่งถอนหายใจโล่งอกอยู่ตรงนั้น ม่ายช่ายละแก อันที่จริงก็ไม่เป็นไรหรอก เท้าเจ้าหนุ่มก็ขาวๆอวบๆดี ไม่ได้เลอะเปรอะเปื้อนอะไร แต่ก็ขำ ๆ แบบว่ามีแผลตรงเท้าก็ยังจะให้จูบ ฮ่าๆๆ เด็กหนอเด็ก

อีกเรื่องคือออแพร์โดนเด็กย้อน แบบเถียงไม่ออก!!
เรื่องมีอยู่ว่าเวลาแมดดี้ดูทีวี บางทีก็นึกอยากจะเล่นของเล่นซะงั้น ไอ้เราก็บอกให้ปิดทีวีก่อนแล้วค่อยไปเ่ล่น เด็กมันก็ย้อนว่า ตะเองก็ปิดดิ เค้าจะไปเล่น คุณกระเหรี่ยงก็ยื่นคำขาดไปเลยว่าคุณเปิดคุณก็ปิดสิ เจอมุขนี้เด็กเลยจำยอม ตรูเปิด ตรูปิด จบ แล้วมุขนี้ใช้แทบทุกครั้งที่แมดดี้ใช้ให้ออแพร์ปิดทีวี
ทีนี้ตอนหัวค่ำ ออแพร์คนขยัน(เหรอ)ก็เปิดไฟห้องน้องแมดดี้เพื่อนำผ้าไปซัก ก็กำลังเอาผ้าใส่เครื่อง(ห้องซักผ้าอยู่ติดกับห้องเด็ก) แมดดี้กำลังจะเดินลงบันได กระเหรี่ยงก็ตะโกนขอให้ปิดไฟในห้องให้หน่อย(ขี้เกียจเดินไปเอง) เด็ก(ไม่)ไร้เดียงสาก็ตอบกลับมาว่า โน ยูเปิด ยูปิด แล้วหนูน้อยก็เดินลงบันไดไปอย่างมีชัย ...เงียบไปสองวิ จากนั้นเสียงกรี๊ดนังออแพร์ก็ดังขึ้น(ในใจ) ฮ่าๆๆๆ การโดนเด็กย้อนมันเจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจจริง ๆ

อันที่จริงอยู่กับเด็กมีเรื่องน่ารัก ๆ อีกเยอะเลย แต่จำรายละเอียดไม่ได้มาก ก็เลยขอเล่าให้ฟังแค่เรื่องสองเรื่องพอขำ ๆ

เรื่องฮาที่ไม่เกี่ยวกะเด็ก เรื่องอาหารการกิน ไอ้เรามันพวกไม่กินของที่เป็นสัญลักษณ์เมืองไทย เอ๊ะยังไง ตัวอย่างเช่น ถั่วงอก แตงกวา อะไรพวกนี้ คือกินได้ แต่ถ้าให้เลือกก็ไม่กิน ตอนนั่งทานข้าวเย็นโฮสเห็นไม่กินแตงกวาก็ถามว่าไม่ชอบเหรอ ไอ้เราก็อธิบายไม่ถูกว่าไม่เชิงว่าไม่ชอบ แต่ไม่กิน(อะไรของมัน) โฮสก็พูดแซวใหญ่เลยว่าไปตรวจดูป่ะว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า ไม่กินของไทยเนี่ย ไม่ใช่คนไทยแน่เลย นาน ๆ เข้าโฮสก็เลยเข้าใจว่าเราไม่ชอบทานอาหารไทย ม่ายช่ายนะ หนูกินด้ายยยยย แต่เสียงร้องไปไม่ถึงโฮส เพราะเป็นภาษาไทย ก๊ากๆๆๆ โฮสเคยถามว่าอาหารไทยเป็นไงเหรอถึงไม่กิน ไอ้เราก็อธิบายไม่ถูกไงว่าที่กินอ่ะ กินอาหารเหนือ อาหารพื้นเมืองพวกนี้ (คำศัพท์อาหารเหนือแต่ละอย่างสุดจะหาvocabมาเทียบ มันยากจริง ๆ จอร์ช) ส่วนอาหารไทย(ภาคกลาง)ที่เราแสดงอาการว่าไม่กินเพราะมันไม่ใช่ของที่กินทุกวัน T^T หมดปัญญาจะอธิบาย โฮสเข้าใจไปเรียบร้อยว่าไม่ชอบกินอาหารไทย กระซิกๆ

แต่ไม่ต้องห่วงจขบ.เพราะอาหารแต่ละวันที่โฮสทำแลดูไฮโซต่อกระเพาะมากมาย เช่นอาหารที่มีกุ้งตัวใหญ่ ๆ สเต๊กเนื้อ ฯลฯ แค่นี้ก็เจริญอาหารแล้ว คริๆ


หมดแม๊ก ไม่มีไรจะเล่าละ


ก่อนจากลา ขอปล.นิดหนึ่งว่า บางคนที่ไม่ค่อยรู้จักโครงการออแพร์ แล้วเข้ามาอ่านบล๊อกนี้ อาจจะรู้สึกว่าเป็นออแพร์มันดีจังเลย มีความสุขงั้นงี้ ไม่มีอะไรเป็นขวากหนาม แต่จขบ.ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า การเป็นออแพร์ต้องเปิดใจมาก ๆ เปิดให้กว้าง รับทุกสิ่้งทุกอย่างได้ แต่ไม่ใช่รับมาใส่ตัวจนแทบระเบิด
ต้องเตรียมใจรับความอะไรต่อมิอะไรทั้งหลายตั้งแต่ตัดสินใจสมัครโครงการออแพร์ อย่างเ่ช่นความอดทนรอ...รอโฮส รอการติดต่อ ยืนยัน เป็นต้น

เมื่อมาเหยียบอเมริกา ก็ต้องเผื่อใจไว้ว่ามันอาจจะไม่เป็นเหมือนที่ได้ยินได้ฟังได้อ่านมา เพราะประสบการณ์ของออแพร์หนึ่งคน ก็คือหนึ่งประสบการณ์ เทียบกันไม่ได้ และอย่านำมาเทียบ โฮสใครโฮสมัน ชีวิตใครชีวิตมัน ต่างกันแน่นอน แม้ว่าเซ๊งต่อโฮสเดียวกันก็ได้รับประสบการณ์ไม่เหมือนกันแน่นอน

ที่จขบ.เล่าจากกรุ๊บบล๊อกที่ผ่านมาก็คัดสรรแต่เรื่องที่ควรเล่า เรื่องที่เป็นสากล แต่บางที ไฟในอย่านำออก จึงดูเหมือนว่า บล๊อกนี้ดีเลิส หนทางโรยด้วยกลีบกุหลาบ เป็นออแพร์นี้ดีจัง ง่ายจัง สบายจัง ไม่ใช่เลย

จขบ.แค่เป็นคนที่ปรับตัวง่าย กินง่าย อยู่ง่าย แต่ไม่ใจง่าย(แอบฮาทำไม กำลังจริงจัง-*-) ฉะนั้น ปัญหาที่ประสบ จึงทำให้กลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไม่ใหญ่โต ไม่ upset จิตตก ต้องทำใจ ปรับใจ เข้าใจ แล้วความสุขจะตามมา

และไม่ได้หมายความว่าจขบ.ไม่มีความสุขแล้วมาเขียนหลอกชาวโลกว่าแฮปปี้เสียเต็มประดาเพื่อเรียกเรตติ้ง แต่จขบ.มีความสุขกับการได้มาโครงการออแพร์จริง ๆ ความมุ่งมั่งแต่เดิมช่วยทำให้ปัญหาที่พบมลายหายไป เราทำดีกับเขายังไง ก็ได้รับสิ่งดีกลับมา

ชีวิตยังต้องเดินต่อไป หนึ่งเดือนกับอะไรหลายอย่าง เป็นแค่ขั้นบันไดเล็ก ๆ ที่ยังต้องมุ่งหน้าไปให้ถึงขั้นสูงขึ้น ๆ เสมือนเส้นทางชีวิตไม่มีที่สิ้นสุด


เจอกันครั้งหน้า จะมีเรื่องอะไรมาเล่านั้น โปรดติดตามตอนต่อไป...



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2552 0:35:42 น. 6 comments
Counter : 747 Pageviews.

 
คุณจบข.วันนี้เขียนดีจัง ตรงใจเลย เพราะเราเคยโอแปร์มาก่อน ก็ได้ประสบการณ์ต่างกัน มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี ทุกอย่างต้องอดทน แต่ที่สำคัญต้องมีความสุข จะได้ชนะอุปสรรคได้ สู้ๆนะ เพราะหนทางยังอีกยาวไกล เราเอาใจช่วยจ้า
มีคำถามว่า เดี๋ยวนี้เงินรายสัปดาห์ที่โฮสจ่ายเป็นอาทิตย์ละสองร้อยเหรียญแล้วเหรอ ผิดกับตอนเรามาเป็นเลย


โดย: ไผ่ (Coucou Bamboo ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:31:58 น.  

 
สวัสดี คุณ แมวดำข้างหน้าต่างค่ะ ดีใจจังที่วันนี้มีไรมาเล่าสู่กันฟังอีกแล้ว เราเอง(จิง ๆ ต้องแทนตัวเองว่าพี่ ก๊ากก ๆ ๆ ) ก็กำลังเตรียมตัวจะไปออแพร์เหมือนกัน แต่เอกสารยังไม่เสดเรย เหอะๆ (จะได้ไปปะเนี๊ย) อายุจะเกินแร้วคร้า จิงๆ ก้อพยายามศึกษาอ่านข้อมูลเยอะเหมือนกันนะ อ่านหมดเรยทั้งเรื่องที่เป็นแง่ดี และแง่ลบ ดีใจมากที่ได้มาเจอ blog ของน้องแมวดำ (ยอมรับซะทีว่าเราแก่) เป็นประโยชน์มากเรยคร้า สำหรับคนที่เป็นออแพร์ด้วยกัน หรือสำหรับคนที่เค้าสนใจ ยังไงก้อมา up blog บ่อย ๆ นะจ๊ะ

สู้ ๆ นะคร้า


โดย: คนอีกคน (dorakey ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:47:11 น.  

 
ตอบคุณไผ่
เงินรายสับดาห์ที่กำหนดคือ 195.75 ดอลลาร์ค่ะ เขาปรับรายได้มาแล้วสองรอบ รอบนี้รอบสุดท้ายกระมัง แต่โฮสส่วนใหญ่จะปัดเป็น 200 ดอลลาร์ เพื่อนออแพร์หลายคนก็ได้ประมาณนี้แหละค่ะ

คุณ dorakey
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ และเป็นกำลังใจให้ได้เป็นออแพร์ไวๆค่ะ
อันที่จริงมีประสบการณ์ใหม่ๆแทบทุกวันค่ะ แต่ว่ามันเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ต้องคอยรวบรวมให้มากพอ(ถ้าไม่ลืมเสียก่อน)ถึงเอามาเขียนบอกทีเดียวค่ะ
จขบ.ก็เข้าใจค่ะ เพราะก่อนจะมีโฮสติดต่อก็ตามอ่านจากบล๊อกชาวบ้านเขาเหมือนกัน อิๆ


โดย: แมวดำข้างหน้าต่าง วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:43:41 น.  

 
อยู่ Dc คะ เพิ่งมาเมื่อต้นเดือนนี้เองคะ หวังว่าคงมีโอกาศ ได้เจอกันนะคะ


โดย: noon IP: 68.48.71.80 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:22:21 น.  

 
มาแอบอ่าน blog น้องอีกแล้ว เป็นคุณครูนี่เขียนหนังสือได้ดีนะนี่ เขียนได้น่าสนใจดี มาลเ่าประสบการณ์บ่อยๆ นะ จะคอยติดตามผลงาน อยู่ที่ไหนถ้าเราคิดว่าเรามีความสุข ความสุขมันก็จะเกิดในใจเรา สู้สู้ค่ะ พี่เอาใจช่วย


โดย: Wizard_bc วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:53:00 น.  

 
สวัสดีครับ ติดตามอ่านมาห่าง ๆ ครับ รู้สึกชื่นชม ยินดี ในการก้าวเดินไปข้างหน้าของคุณ คำเขียนของคุณน่าอ่านดี
ว่างๆจากซ่อมรถจะเข้าดูอีกครับ
อืม .. ..อยากดูภาพมากกว่านี้ซักหน่อยด้วยนะครับ


โดย: presentday@hotmail.com IP: 203.144.144.164 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:38:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวดำข้างหน้าต่าง
Location :
Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Que sera sera
Whatever will be will be
The future's not ours to see
Que sera sera
What will be, will be.
Friends' blogs
[Add แมวดำข้างหน้าต่าง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.