กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
14 กันยายน 2552
 

จำเลยพิศวาส # 2

ตอนที่ 2

หลังจากไปสัมภาษณ์ที่บริษัทอินเตอร์ ดีน มาแล้ว จันทร์ดาวก็ไม่หยุดที่จะออกหาสมัครงานอีก เพราะรู้ตัวเองดีว่า หล่อนคงชวดงานที่บริษัทนั้นแน่ ก็ดันเซ่อซ่าไปต่อหน้าเจ้าของบริษัทนี่ หญิงสาวคิดอย่างท้อใจ
แต่ภาพผู้ชายตัวโต ใบหน้าหล่อเหลาดุดัน ดวงตาเย็นชายังติดตาไม่รู้ลืม แม้จะพยายามสลัดออกไปจากใจมากเท่าไหร่ แต่ก็ยิ่งเหมือนกับยิ่งตอกย้ำมันเข้าไปทุกที หล่อนรู้ถึงกลิ่นไอแห่งแรงดึงดูดระหว่างเขาและหล่อนได้อย่างชัดเจน
“นั่นแกจะไปไหนยายจันทร์”เสียงมารดาดังขึ้นข้างหลัง หญิงสาวหยุดเดินหันไปมอง สภาพที่เห็นทำให้หล่อนรู้สึกหดหู่ไม่น้อย
“คุณแม่พึ่งกลับมาเหรอคะ”เดือนเต็มหัวเราะเบา ๆ เดินเข้ามาใกล้บุตรสาวคนสุดท้อง กวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า จันทร์ดาวแทบอาเจียนออกมากับกลิ่นของแฮลกอฮอล์ที่มาจากตัวของมารดา สภาพผมเพ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู้ยี้ หล่อนไม่อยากจะคิดเลยว่าแม่ของหล่อนไปทำอะไรมา
“ฉันถามแก ไม่ใช่ให้แกมาถามฉัน...”เดือนเต็มตวาดกลับลูกสาว ก่อนจะเดินโซซัดโซเซไปนั่งบนโซฟาใกล้ตัว
“จันทร์จะไปสมัครงานค่ะ”เดือนเต็มหัวเราะเยาะออกมา
“เดินจนขาลากก็ไม่ได้งานหรอกยายจันทร์เอ๋ย... ให้แม่หางานให้ดีกว่า เงินดีด้วยนะ”จันทร์ดาวเม้มปากแน่น หล่อนรู้ดีว่าแม่ของตัวเองหมายถึงอะไร เพราะเดือนเต็มบอกกับหล่อนมาหลายครั้งแล้ว แต่หญิงสาวก็ฏิเสธทุกครั้งไป
“จันทร์อยากใช้ความรู้ที่เรียนมาค่ะ”หญิงสาวตอบกลับเสียงเรียบ น้ำตาไหลทะลักทลายท่วมอยู่ในอก
“เชอะ... ใช้ความรู้ที่เรียนมา ฉันกลัวจะท้องซะก่อนไม่ว่า”เดือนเต็มพูดอย่างดูหมิ่น หล่อนกล่อมบุตรสาวมาหลายครั้งแล้ว แต่จันทร์ดาวใจแข็งเหลือเกิน
จันทร์ดาวมองมารดาอย่างเสียใจ คำพูดของเดือนเต็มทำให้หล่อนรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยอย่างที่สุด หญิงสาวยินดีจะขายทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวที่หล่อนไม่คิดจะขายให้ใคร... พรหมจารี มันเป็นของหล่อน ใครก็ไม่สามารถแย่งชิงไปได้...
“จันทร์ขอตัวไปสมัครงานก่อนนะคะ”หญิงสาวยกมือไหว้มารดา น้ำตารื้น เสียงสะอื้นที่หล่อนพยายามเก็บซ่อนมันไว้ทำให้คำพูดของหล่อนสั่นเครือ เดือนเต็มมองลูกสาวคนเล็กอย่างรำคาญ ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้ไปให้พ้น ๆ หน้า
“จะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันอุตส่าห์หยิบยื่นสิ่งที่ดี ๆ ให้ ไม่อยากได้ก็ตามใจ เชิญเดินต๊อกต๋อยหางานไปเถอะ คงพอยาไส้หรอก”จันทร์ดาวก้มหน้านิ่ง ก่อนจะเดินจากไปอย่างเศร้าหมอง
เดือนเต็มมองตามหลังบุตรสาวไปอย่างดูแคลน หล่อนอยากจะรู้นักว่าจันทร์ดาวจะเก่งไปได้สักกี่น้ำ หล่อนไม่ได้บังคับให้ไปขายตัวสักหน่อย แค่ไปเป็นเพื่อนเที่ยวเพื่อนกินให้กับเจ้าหนี้รายใหญ่ของตัวเองท่านั้น ทำยังกับกลัวทองจะหลุดจากตัวอย่างนั้น
“ผมอยากได้ลูกสาวของคุณ”นี่คือคำพูดของเสี่ยทรงชัย เจ้าของบ่อนการพนันที่หล่อนไปเล่นและติดหนี้ไว้มากมายมหาศาล พูดตอนที่ตื่นมาบนเตียงกับหล่อน
เดือนเต็มใช้เรือนร่างของตัวเองจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้เสี่ยทรงชัยมาเป็นเดือนแล้ว และตอนนี้ดูท่าทางว่าเสี่ยทรงชัยกำลังจะเล็งเป้าหมายใหม่ นั่นก็คือบุตรสาวของหล่อนนั้นเองในเมื่อจันทร์ดาวไม่ยอม หล่อนก็คงต้องไปกล่อมพิมดาวแทน

“อะไรนะคะคุณแม่”เสียงแหลมเล็กของพิมดาวดังขึ้น เดือนเต็มมองบุตรสาวคนโตอย่างหมั่นไส้
“ตกใจอะไรนักหนา แกก็ใช่ว่าจะสดซิงซะที่ไหน เห็นมั่วไม่ซ้ำหน้า”พิมดาวเชิดหน้า ก่อนจะยักไหล่ด้วยท่าทางไม่ยี่หระอะไรทั้งนั้น
“ก็นั่นพิมพอใจนี่คะ แล้วสิ่งที่พิมได้กลับมาก็คุ้ม ทั้งเงินทั้งทอง คุณแม่ก็เห็น”พิมดาวอธิบายด้วยความภาคภูมิใจ
“แต่นี่คุณแม่จะให้พิมไปนอนกับคนแก่คราวพ่อ พิมคงทำใจไม่ได้”หญิงสาวทำท่าขยะแขยงเสียเต็มประดา ก่อนจะก้มหน้าตะไบเล็บเท้าต่อ กางเกงขาสั้นที่ใส่สั้นมากจนแทบปกปิดอะไรไม่ได้
“ก็หลับตาคิดว่าเป็นคนที่แกชอบสิ เสี่ยเขาเงินหนานะ ถ้าถูกใจเขาประเคนให้หมดแหละ มีหวังแกสบายไปทั้งชาติ ไม่ชอบหรือไง”พิมดาวมองมารดาทำท่าครุ่นคิด
“แล้วทำไมไม่บอกยายจันทร์ล่ะ”
เดือนเต็มเบ้ปากเมื่อนึกบุตรสาวคนเล็ก “รายนั้นเขาชอบกินแกลบ ปล่อยมันไปเถอะ สักวันมันก็จะคลาน มาซบที่แทบเท้าเราเองแหละ”
พิมดาวฟังคำพูดของมารดาก็หัวเราะ “คนมันยังไม่เคยนี่แม่ ถ้าลองได้สักครั้งหนึ่ง มีหวังติดงอมแงม”พิมดาวพูดถึงเรื่องเซ็กซ์อย่างสนุกปาก ไม่มีเขินอายแม้แต่น้อย เดือนเต็มเองก็ไม่คิดจะห้ามปรามลูก เพราะหล่อนคิดว่าพิมดาวไปไกลเกินกว่าจะดึงกลับมาแล้ว และอีกอย่างเงินสำคัญกับหล่อนเสมอ... ขอแค่มีเงิน ต่อให้ต้องขายลูกกินหล่อนก็ยอม

เคอร์นั่งอ่านเอกสารหน้าตาเคร่งเครียด รายงานการขาดทุนย่อยยับทุกปี ทำให้เขากลุ้มใจไม่น้อย ชื่อเสียงของบริษัทตอนนี้ย่ำแย่อย่างมาก ไม่มีธนาคารแห่งไหนกล้าเปิด OD เพิ่มให้เขาสักที่หนึ่ง แต่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาหลักของเขาตอนนี้ เพราะเงินทองของเขาและบิดามากมายจนใช้ไปอีกสิบชาติก็ไม่มีทางหมด
แต่สิ่งที่เขาต้องเร่งจัดการในเร็ววันก็คือ ตัวบุคลากรที่ทำงานในบริษัท เพราะเขารู้สึกว่าคนพวกนี้ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ หากมาช่องทางคดโกงได้ พวกเขาจะไม่รีรอในการทำมันทันที เขาจะต้องกำจัดพวกไร้ค่าพวกนี้ให้หมดบริษัท
“คุณขวัญตาเข้ามาพบผมหน่อย”ชายหนุ่มกดอินเตอร์คอมเรียกเลขาหน้าห้อง ไม่ช้าประตูก็ถูกเปิดออกอย่างเบามือ เรือนร่างอวบอิ่มที่แทบจะไม่มีเสื้อผ้าปกปิดเดินนวยนาด ยิ้มหวานเข้ามา เคอร์กวาดสายตามองนิ่ง ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวออกมา
“เงินเดือนคุณเท่าไหร่ น้อยมากจนหาเสื้อชุดที่มันดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง”เคอร์ตวาดลั่น เลขาสาวตัวสั่น หล่อนไม่คิดว่าเจ้านายใหม่จะดุร้ายถึงเพียงนี้ เพราะปกติเจ้านายคนก่อนของหล่อนชอบจะตายที่หล่อนโชว์ของดีแบบนี้ ทั้งจำทั้งคลำ และหล่อนก็ไม่คิดว่าพ่อหนุ่มที่หล่ออย่างร้ายกาจคนนี้ จะมีความคิดที่แตกต่างไปจากผู้ชายคนอื่น แต่ผิดคาด
“คะ คือ...”
“ออกไปให้พ้นหน้าผม แล้วก็กลับมาในอีก 10 นาทีข้างหน้าในชุดที่ดูเป็นคนมากกว่านี้”ชายหนุ่มพูดเสียงกร้าว ดวงตาสีเข้มของเขาจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเหยียดหยาม
“ถ้าช้าไปแม้แต่วินาทีเดียว คุณก็เก็บของออกไปจากบริษัทของผมได้เลย เชิญ!”ขวัญตารีบวิ่งออกจากห้องทำงานของเจ้านายใหม่แทบไม่ทัน
เคอร์มองตามไปด้วยความชิงชัง...
ผู้หญิงก็เหมือนกันทุกคน คิดจะใช้ร่างกายมายั่วยวนผู้ชายให้ขาดสติ แต่ขอโทษมันใช้ไม่ได้สำหรับเขาอย่างแน่นอน ถึงแม้เขาจะต้องการเซ็กซ์ แต่เขาก็จะเลือกจากผู้หญิงที่คู่ควรที่เขาจะนอนด้วยเท่านั้น
ความใคร่คือสิ่งปกติของชีวิตเขา... แต่ความรักคือสิ่งที่เขาต้องวิ่งหนีมัน...

จันทร์ดาวฉีกยิ้มกว้าง เก็บมือถือใส่กระเป๋าถือใบเล็กอย่างดีใจ หล่อนอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ ให้สมกับข่าวดีที่หล่อนพึ่งจะได้รับ ในที่สุดหล่อนก็ได้งานแล้ว แถมยังเป็นบริษัทที่หล่อนคิดว่าชวดไปแล้วซะด้วย
อินเตอร์ ดีน... บริษัทใหญ่ที่ใคร ๆ ก็อยากจะร่วมงานด้วย หญิงสาวรีบมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างรีบร้อน ไม่รู้ว่าแม่ของหล่อนจะดีใจกับหล่อนด้วยหรือเปล่า แม้เงินเดือนจะแค่หมื่นต้น ๆ แต่สวัสดิการอื่น ๆ รวมแล้วก็เฉียดสองหมื่นบาทเลยทีเดียว
“เงินเดือนแค่หยิบมือ แค่ค่าถุงน่องฉันยังไม่พอซื้อเลยยายจันทร์”พิมดาวออกมาอย่างดูแคลน จันทร์ดาวหน้าเศร้า ก้มลงมองจานข้าวของตัวเองนิ่ง
หล่อนล่ะอุตส่าห์นำข่าวดีมาบอกแม่และพี่สาว แต่ดูสิไม่มีใครสนใจ หรือแม้แต่จะดีใจกับหล่อนเลยสักคน ทำราวกับว่าการพยายามของหล่อนคือสิ่งที่น่าสมเพชอย่างนั้น
“นั่นสิ แค่ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ไม่พอแล้ว ทำเป็นดีใจไปได้”เดือนเต็มผสมโรงเข้ากับบุตรสาวคนโปรด แจ๋วซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของจันทร์ดาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกสงสารคุณหนูของหล่อนจับใจ
เพราะตั้งแต่คุณผู้ชายเสียชีวิตไป จันทร์ดาวก็กลายเป็นเบี้ยล่างให้แม่กับพี่สาวโขลกสับตลอดเวลา แต่กระนั้นคุณหนูของหล่อนก็ไม่ยอมตอบโต้แม้แต่น้อย และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หล่อนทนอยู่ดูแลจันทร์ดาวต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้เงินเดือนสักบาทมานานเป็นสิบปีแล้วก็ตาม หล่อนตัวคนเดียว ไม่มีคนให้รัก จะมีก็แต่จันทร์ดาวคนเดียวเท่านั้นที่ผูกพันด้วย
“ถ้าเราใช้อย่างประหยัดก็น่าจะพอนะคะ”จันทร์ดาวพูดเสียงอ่อย น้ำตาหยดแหมะลงบนจานข้าว เดือนเต็มเห็นแล้วก็รู้สึกรำคาญเต็มทน
“เจ้าน้ำตาอีกแล้ว ตามใจแกเถอะยายจันทร์ ถ้าอยากลำบากนักก็ไม่มีใครว่าแกหรอก ฉันหาผัวรวย ๆ ให้ก็ไม่ชอบ”เดือนเต็มพูดกับจันทร์ดาวอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันไปพูดกับพิมดาวที่ลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป
“แล้วนั่นแกจะไปไหนยายพิม อิ่มแล้วหรือไง”
“พิมมีนัดค่ะ กับผู้ชายทั้งหล่อทั้งรวย”พิมดาวยิ้มหวานให้มารดา
“แกก็อย่าไปให้มันฟันง่ายนักล่ะ ดูดเงินเข้ากระเป๋าให้ได้เยอะ ๆ ก่อน ค่อยปล่อยมันไป”เดือนเต็มสอนลูกสาวให้ทำสิ่งที่หน้าละอายหน้าตาเฉย ราวกับสิ่งที่หล่อนพูดนี่คือสิ่งที่สามัญชนคนทั่วไปเขาทำกัน
จันทร์ดาวแทบทนฟังคำพูดของมารดากับพี่สาวไม่ได้ หญิงสาวหน้าแดงซ่าน หันไปมองแจ๋วที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักอย่างละอายแทนพิมดาวและแม่ของหล่อน
“จันทร์ขอตัวนะคะ”เมื่อคล้อยหลังพี่สาว จันทร์ดาวก็ขอตัวออกไปจากห้องอาหารอีกคน เดือนเต็มบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดที่ลูกสาวคนเล็กไม่ได้ดั่งใจ
“ทำตัวน่าเบื่อจริง ๆ ลูกคนนี้”
“อ้าว คุณหนูจันทร์เป็นลูกสาวคุณเดือนเหรอคะ แจ๋วไม่ยักกะรู้นะเนี่ย”แจ๋วพูดขึ้นด้วยเสียงประชดประชัน เดือนเต็มหันไปมองสาวใช้อย่างแค้นเคือง
นี่ถ้าไม่ติดว่าหล่อนต้องการคนรับใช้ล่ะก็ หล่อนคงตบนังนี่ตายคามือไปแล้ว ปากดีเหลือเกิน
“หุบปากไปเลย สักวันฉันจะเลาะฟันแกออกมานังแจ๋ว”เดือนเต็มลุกขึ้นยืนอย่างโมโห ก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกจากห้องอาหารไป
แจ๋วมองตามไปอย่างสมเพช นี่ถ้าไม่ติดว่าคุณหนูจันทร์อยู่ที่นี่ล่ะก็ หล่อนก็คงไม่ทนอยู่ให้แม่ลูกใจยักษ์พวกนี้เหยียดหยามหรอก

จันทร์ดาวลงจากรถแท๊กซี่ มือบางกระชับกระเป๋าถือแน่น ก้าวเท้าเข้าไปในที่ทำงานใหม่ของตัวเองด้วยท่วงท่ามั่นใจ แต่ภายในนั้นตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว
หญิงสาวถูกนำตัวไปให้ผู้จัดการแผนกจัดซื้อ เผื่อรับฟังระบบการทำงานคร่าว ๆ ของบริษัท คุณสมควรผู้จัดการของหล่อนเป็นชายสูงวัย หัวล้าน พุงป่อง และท่าทางจะหัวงูไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะดูจากสายตาที่มองหล่อนมานั้น มันทำให้หล่อนหนาวไปทั่วสันหลัง แต่หล่อนก็พยายามจะไม่คิดอะไร เพราะอาจจะเป็นบุคลิกของเขาก็เป็นได้
“เป็นไงจันทร์ดาว ผู้จัดการแนะนำอะไรบ้าง”เพื่อนร่วมแผนกเดินเข้ามาหา และนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ใกล้กับหล่อนที่สุด จันทร์ดาวยิ้มให้อย่างจริงใจ
“ก็การทำงานทั่ว ๆ ไปนะค่ะ จันทร์ยังใหม่อยู่ แต่จะพยายามทำให้เต็มที่”เกสรอดรู้สึกสงสารผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ หล่อนจะรู้ไหมนะ ว่าผู้จัดการของหล่อนน่ะเลวร้ายขนาดไหน ลูกน้องทุกคนที่สวยเข้าตาจะต้องถูกลากขึ้นเตียงด้วยทั้งหมด
ถ้าคนไหนไม่ยอม เจ้าเฒ่าบ้ากามนี้ก็จะหาเรื่องใส่ร้ายเพื่อมาแบล็คเมล์ให้ผู้หญิงที่มันต้องการยอมสยบให้มัน ไม่เว้นแม้หล่อนก็ไม่เว้น เกสรคิดอย่างชอกช้ำ หล่อนไม่อยากให้จันทร์ดาวต้องเป็นแบบหล่อนเลย
“ระวังตัวไว้บ้างก็แล้วกัน”เกสรเตือน ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ระวังตัวเหรอคะ”จันทร์ดาวถามออกไปอย่างประหลาดใจ แต่รุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่ยิ้มให้หล่อนและเดินจากไป หญิงสาวงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนจะก้มหน้าอ่านระเบียบบริษัทในมือต่อไป

“นี่อะไรกันคุณสมควร ทำไมราคาที่คุณซื้อมาถึงได้แพงหูฉี่อย่างนี้ คุณไม่ได้เปรียบเทียบราคาหรือไง”เคอร์ตวาดลั่น เมื่อเห็นรายงานการสั่งซื้อวัตถุดิบหลักของบริษัท ที่แพงขึ้นอย่างน่าใจหาย
“เจ้าที่ผมซื้อนี่ถูกที่สุดแล้วครับ ตอนนี้อุปกรณ์ก่อสร้างแพงมาก ถ้าไม่เชื่อคุณเคอร์ก็ลองหาราคาดูซิครับ”สมควรผู้จัดการจัดซื้ออธิบายอย่างไม่สะทกสะท้าน เขาไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น เขามีบัญชีซับพลายเออร์อยู่ในมือ ถ้าเคอร์กล้าไล่เขาออก งานของบริษัทต้องหยุดชะงักแน่
“คุณท้าผมหรือไง”เคอร์หรี่ตามองอย่างเอาเรื่อง ผมจะไม่เซ็นต์ใบสั่งซื้อนี้เด็ดขาด เชิญคุณไปหาเจ้าใหม่ที่ให้ราคาต่ำกว่านี้ หรือไม่ก็ต่อรองราคาให้ถูกลง เราซื้อล็อตใหญ่เรามีอำนาจต่อรองอยู่แล้ว”เคอร์พูดอย่างหัวเสีย
“นี่คุณต้องให้ผมสอนวิธีการจัดซื้อที่ดีให้ด้วยหรือไง”
“แต่ผมไม่รับปากว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ก็จะพยายามแล้วกันครับ”สมควรพูดอย่างอวดดี ขนาดเจ้าของคนเก่ายังไม่กล้าหือกับเขาเลย แล้วไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนี้เป็นใคร กล้าดียังไงถึงมากำแหงใส่เขา
“คุณสมควร!”เคอร์ตวาดเสียงห้วน จ้องมองชายแก่ตรงหน้าอย่างเดือดดาล
“ผมจะพยายามครับ”สมควรเห็นว่าเคอร์ไม่ยอมลงให้เขาเหมือนกับเจ้าของคนเดิม เขาจึงยอมรับปากแต่โดยดี
“งั้นก็ออกไปได้แล้ว”เคอร์ออกปากไล่อย่างไม่รักษาหน้า ก่อนจะก้มหน้าลงตรวจสอบรายงานนั้นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อออกมานอกห้องของเคอร์แล้ว สมควรรีบเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองอย่างหัวเสีย ก่อนจะระบายอารมณ์กับข้าวของบนโต๊ะทำงานของตนเอง
“มึงอย่าคิดนะว่าจะตัดบ่อเงินบ่อทองกูได้ ไอ้หน้าอ่อน”สมควรกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างแรง ก่อนจะจัดการโทรศัพท์ไปสั่งงานลูกน้องที่อยู่นอกห้องทำงานให้เข้ามาพบ
จันทร์ดาวเคาะประตูเบา ๆ ก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้ยินคำอนุญาตจากเจ้าของหล่อนแล้ว สมควรยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นจันทร์ดาวที่เข้ามาหาเขา
“ผู้จัดการมีอะไรจะให้จันทร์ทำหรือคะ”จันทร์ดาวเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของสมควร
สมควรยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียด ลูกน้องคนใหม่ของเขาสวยน่ารักจริง ๆ ตัวจริงสวยกว่าในรูปตั้งเยอะ เขาคิดไม่ผิดเลยจริง ๆ ที่รับหล่อนเข้ามา จะว่าไปแล้วเขาไม่ได้เลือกลูกน้องด้วยความสามารถในการทำงาน แต่เขาเลือกด้วยความสามารถบนเตียงต่างหาก และรายนี้ก็ท่าทางจะไร้เดียงสาน่าหม่ำเสียด้วย
“ไม่... พี่เรียกหนูมาเพราะว่าอยากคุยด้วย”จันทร์ดาวขมวดคิ้วอย่างงงกับคำพูดของหัวหน้า และก็อดรู้สึกใจคอไม่ดีไม่ได้ เมื่อสมควรลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังของหล่อน
หญิงสาวตัวสั่น เมื่อรู้สึกได้ว่าสมควรยืนใกล้กว่าที่ควรจะเป็น “ใส่น้ำหอมอะไรเนี่ย หอมจัง”จันทร์ดาวรีบเบี่ยงตัวออกห่าง หันไปมองหัวหน้างานอย่างตกใจ สมควรเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาคู่สวยนั้นก็รีบแก้ตัว เขาไม่อยากให้ไก่ตื่นซะก่อน
“พี่มีงานให้ทำนะ”สมควรรีบทำสีหน้าจริงจัง จันทร์ดาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หล่อนคิดว่าสมควรเป็นตาเฒ่าหัวงูซะแล้ว หล่อนฝืนยิ้มออกมา
“งานอะไรคะ”หล่อนถามอย่างพาซื่อ สมควรเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน ก่อนจะส่งซองเอกสารให้กับหล่อน
“เอาเอกสารในนี้ไปให้กับคน ๆ หนึ่ง”สมควรหยุดพูดนิดหนึ่งเมื่อเห็นแววตาสงสัยจากหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะอธิบายต่อ
“เขาจะรอหนูอยู่ที่หน้าธนาคาร แค่ส่งซองให้แล้วก็กลับมาเลย”จันทร์ดาวรับฟังนิ่ง อดสงสัยไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเพราะหล่อนพึ่งมาใหม่
“ห้ามเปิดซองดูเด็ดขาด มันเป็นความลับของบริษัทฯ ถ้าแพร่งพรายออกไปบริษัทจะเสียหายมาก หนูคงรับผลนั้นไม่ไหว”สมควรขู่
“ค่ะ แต่ให้จันทร์เอาไปตอนไหนคะ”หญิงสาวถาม
“ตอนพักเที่ยงไง ฉันอนุญาตให้หนูเข้าทำงานสายได้ แต่ห้ามเปิดดูเด็ดขาด”สมควรกำชับอย่างมีพิรุธ จันทร์ดาวรับซองเอกสารมาถือ ก่อนจะเดินออกไปห้องทำงานของสมควร
ทำไมนะ ทำไมหล่อนถึงต้องรู้สึกแปลก ๆ ชอบกลด้วย ในซองเอกสารนี้มีอะไรกันแน่ และใครกันคนที่หล่อนต้องไปพบ
แต่คงเป็นเรื่องงานล่ะมั้ง หญิงสาวปลอบใจตัวเอง มือกระชับซองเอกสารแน่น ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของหล่อน ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานที่มองมายังหล่อนด้วยสายตาแปลก ๆ ชอบกล
“ระวังตัวไว้บ้างก็แล้วกัน”คำพูดของเพื่อนร่วมงานที่ชื่อเกสรดังขึ้นมาในสมอง จันทร์ดาวถอนหายใจออกมาแรง ๆ ทุกอย่างรอบตัวของหล่อนตอนนี้ล้วนแต่ผิดแปลกน่าสงสัยไปหมด

ติดตามตอนต่อไปค่า



Create Date : 14 กันยายน 2552
Last Update : 14 กันยายน 2552 10:59:19 น. 4 comments
Counter : 418 Pageviews.  
 
 
 
 
อ๋อพออ่านตอนที่ 2 พอจะรู้แล้วว่าทำไมคุณ ใบบัว ถึงให้ชื่อเรื่องเช่นนี้ คงไม่พ้นนายสมควรนี้แน่ ที่เป็นดาวแห่งความโชคร้ายของหนูจันทร์ เฮ้อให้น่าสงสาร
 
 

โดย: จา IP: 124.121.67.139 วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:16:17:18 น.  

 
 
 
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
มีลางน่าสงสารนางเอกอีกแล้วอ่ะ
 
 

โดย: มนุสสา IP: 216.15.63.80 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:11:49:52 น.  

 
 
 
ต้องรอดูต่อไปค่ะ ว่าหนูจันทร์จะทำยังไง
 
 

โดย: yamong IP: 192.168.20.146, 124.157.151.203 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:14:23:35 น.  

 
 
 
อะจ๊าก หลงเข้ามาค่ะอ่านเรื่องนี้ได้เรื่องเดียว

นายสมควร สมควรโดน......

พระเอกปากร้ายไปไหมคะ รักไม่ลง

 
 

โดย: raccoon IP: 118.172.35.58 วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:1:23:26 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

baiboau
 
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




[Add baiboau's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com