|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
จำเลยพิศวาส # 1
ตอนที่ 1
พี่เก้า! พี่เก้า! อย่าเข้าไปนะ มันอันตรายร่างบางผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นตระหนก ดวงตากลมโตหวานฉ่ำคลอไปด้วยน้ำตา เรียวปากสีสวยเผยอออกจากกันเพื่อปลดปล่อยลมหายใจที่หอบกระชั้นออกมา ร่างบอบบางสั่นสะท้านไปทั่วตัว ฝันอีกแล้วหรือนี่...หญิงสาวยกมือขึ้นทาบอกของตัวเองอย่างเศร้าหมอง เหตุการณ์การที่ฝังใจในอดีตค่อย ๆ กลับมาย้ำเตือนความทรงจำของหล่อนอีกครั้งหนึ่ง พี่เก้า... จันทร์คิดถึงพี่เหลือเกินหล่อนคร่ำครวญถึงเด็กผู้ชายที่เคยผูกพันกันเมื่อครั้งเยาว์วัย ก่อนที่จะถูกกองเพลิงทำลายมันเสียจนย่อยยับ ภาพในอดีตเมื่อสิบสามปีก่อนยังติดตา และมันไม่เคยลบเลือนไปจากใจเลยแม้แต่นาทีเดียว ภาพของเก้าทัพเด็กผู้ชายที่หล่อนผูกพันในอดีต วิ่งหายเข้าไปในกองไฟเพื่อช่วยยายผู้มีพระคุณของเขา และหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับออกมาอีกเลย... หญิงสาวไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า เก้าทัพยังมีชีวิตอยู่หรือว่าได้ตายจากไปแล้ว เพราะหลังจากเพลิงพิโรธนั่นสงบลง ก็ไม่มีใครพบร่างไร้วิญญาณของเก้าทัพเลย หรือบางทีเขาอาจจะมอดไหม้ไปกับกองไฟนั้นแล้วก็เป็นได้ จันทร์ดาวปล่อยน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ที่ขอบตาให้ไหลลงมาตามแก้มนวล หล่อนไม่อาจทนเก็บความเจ็บช้ำแสนสาหัสนี้ได้อีกต่อไป ทั้ง ๆ ที่พยายามจะลบเรื่องราวของเก้าทัพให้ออกจากใจ แต่หล่อนก็ทำไม่ได้เลย เพราะเขายังคงฝังแน่นอยู่ในหัวใจของหล่อนไม่เสื่อมคลาย ความรัก ความผูกพันในอดีตทำให้จันทร์ดาวไม่เคยมองผู้ชายคนไหน หล่อนยินดีจะรอเขา รอทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชาตินี้เขาจะกลับมาหาหล่อนดั่งคำสัญญาที่ให้ไว้หรือเปล่า รอพี่นะ หนูจันทร์ ถ้าพี่ไม่ตาย เราคงจะได้พบกันอีกครั้งหญิงสาวสะอื้นออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดที่เก้าทัพพูดกับหล่อนเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะจากกันตลอดกาล จันทร์ดาวยกมือขึ้นลูบไล้ที่ลำคอไปมาเบา ๆ ล็อคเกตรูปหยดน้ำที่บิดาหล่อนซื้อให้ เก้าทัพได้เอามันไปด้วย เขาบอกกับหล่อนว่านั้นคือสิ่งที่จะทำให้เขานึกถึงหล่อนตลอดเวลา และที่สำคัญมันจะทำให้พวกเขาได้พบกันอีกครั้ง หากเขาไม่ตาย!
หลังจากนอนจมอยู่กับความโศรกเศร้าจนเช้า หญิงสาวจึงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปหาสมัครงาน เพราะหญิงสาวเรียนจบปริญญาตรีมาได้เกือบสองเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหางานได้เลย ทั้ง ๆ ที่หล่อนไม่ใช่คนเลือกงานสักนิด จันทร์ดาวพาร่างอรชรของตัวเองก้าวลงมาตามขั้นบันไดช้า ๆ วันนี้หล่อนอยู่ในชุดสวยสีฟ้าอ่อนทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเสื้อหรือกระโปรงเข้ารูป ใบหน้ารูปไข่ขาวสะอาดตาประดับด้วยดวงตากลมโตดำขลับ ที่อยู่ภายใต้กรอบขนตางอนยาวสวยงาม ริมฝีปากอิ่มเต็มสีแดงระเรื่อตามธรรมชาติรับกับจมูกโด่งเชิดน้อย ๆ ผมยาวสีดำเหยียดตรงราวกับแพรไหมชั้นดีถูกปล่อยให้ทิ้งตัวอยู่เต็มแผ่นหลัง จันทร์ดาวเป็นบุตรสาวของข้าราชการผู้ใหญ่ในกระทรวงแห่งหนึ่งมีนามว่า การุณ พูลอนันต์ คุณแม่ของหล่อนคือ เดือนเต็ม พูลอนันต์เป็นลูกผู้ดีมีสกุลแต่ตกยาก หญิงสาวมีพี่สาวร่วมสายเลือดหนึ่งคนคือ พิมดาวซึ่งมีอายุห่างจากหล่อนสามปีเต็ม หลังจากสิ้นบุญบิดาแล้ว ครอบครัวของหล่อนก็เหมือนขาดเสาหลักไป เงินทองที่เคยมีจนล้นมือก็ถูกมารดาที่ติดการพนันงอมแงมขนออกมาเล่นจนหมด และเมื่อเงินหมดทรัพย์สินที่พอจะมีค่าที่อยู่ในบ้านก็ถูกนำออกมาขายจนหมดเช่นกัน หญิงสาวจำได้ดีว่าตอนนั้นตัวเองยังไม่จบปริญญาตรีเลยด้วยซ้ำ หล่อนต้องทำงานส่งตัวเองเรียนแทน จากลูกเศรษฐีกลับกลายเป็นยาจกเพียงชั่วเวลาไม่กี่ปี บ้านคือสิ่งเดียวที่หล่อนยังคงเหลืออยู่ แต่หล่อนก็ไม่รู้เหมือนกันว่า วันไหนมารดาจะนำออกไปขายอีก เพราะท่านยังไม่ยอมหยุดเล่นไอ้การพนันบ้า ๆ นั้นสักที คุณแม่คะ วันนี้จันทร์จะไปสัมภาษณ์งานนะคะจันทร์ดาวหยุดบอกมารดาที่กำลังง่วนอยู่กับการนั่งตรวจล็อตตารี่อยู่ในห้องรับแขก ขอให้แกได้ก็แล้วกัน เห็นไปกี่ที่ก็ชวดตลอดเดือนเต็มเงยหน้าขึ้นมองบุตรสาวนิดหนึ่งก่อนจะหันไปใส่ใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่แทน จันทร์ดาวหน้าเสียแต่ก็ฝืนยิ้มออกมา จันทร์จะพยายามค่ะ จันทร์ไปนะคะหญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ผู้ให้กำเนิด แต่ก็ไม่ได้รับความใส่ใจอะไรจากมารดา หล่อนจึงเดินจากไปเงียบ ๆ ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย จันทร์ดาวเดินออกมารอขึ้นรถเมล์ที่หน้าปากซอยบ้าน อดีตที่ผ่านมาสิบกว่าปีค่อย ๆ กลับเข้าสู่ความทรงจำอีกครั้งเมื่อหล่อนเดินผ่านสถานที่ ที่หล่อนกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งเคยมีร่วมกัน เก้าทัพชื่อนี้หล่อนไม่เคยลืมไปจากความทรงจำได้เลย ใบหน้าของเขายังคงเด่นชัดเสมอในหัวใจของหล่อนเสมอ และถ้าตอนนี้พี่เก้าทัพของหล่อนยังมีชีวิตอยู่อายุของเขาก็คงจะยี่สิบแปดปีแล้ว เป็นหนุ่มแน่นเต็มตัวทีเดียว และหล่อนมั่นใจว่าเขาต้องหล่อเหลาเอามาก ๆ คิดแล้วหญิงสาวก็ยิ้มหวานให้กับตัวเอง หล่อนใช้ช่วงเวลาในอดีตระหว่างเขากลับหล่อนคอยเยียวยาหัวใจตัวเองมาตลอด ถึงแม้เขาจะไม่มีตัวตนแล้วในโลกที่โหดร้ายใบนี้ แต่ในโลกแห่งความฝันของหล่อนเขามีตัวตนเสมอ... ขณะที่กำลังคิดถึงอดีตอยู่นั้น รถหรูคันหนึ่งก็แล่นผ่านหน้าหล่อนไป หญิงสาวมองตามรถคันนั้นไปจนสุดสายตา ก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างเอื่อมระอาหัวใจ จันทร์ดาวจำได้ดีว่าผู้หญิงที่นั่นเชิดหน้าอยู่ในรถคันนั้นคือใคร... พิมดาว พี่สาวคนสวยของหล่อนไงล่ะ และรถคันนั้นก็คงเป็นคู่ควงคนใหม่ของพิมดาวนั่นเอง จันทร์ดาวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย พิมดาวไม่เคยยอมรับรู้เลยว่า ตอนนี้ครอบครัวกำลังลำบาก วัน ๆ เอาแต่แต่งตัวสวย ๆ ออกไปกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า โดยมีเดือนเต็มมารดาของหล่อนคอยให้ท้าย
รถลีมูซีนสีดำสุดหรูแล่นเข้ามาจอดภายในตึกสูงใหญ่ ผู้คนต่างรีบวิ่งมารับหน้ากันอย่างกระตือรือร้น และเมื่อรถจอดสนิท รภป.ก็รีบวิ่งเข้าคำนับก่อนจะเปิดประตูรถให้อย่างนุ่มนวล ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสุดหรูก้าวลงมาจากรถ เรือนกายแข็งแกร่งยืนตระหง่านสูงกว่าทุกคนในที่นั้น ใบหน้าหล่อเหลาสุดเซ็กซี่เรียบเฉยราวกับทะเลน้ำแข็ง ดวงตาคมกล้าสีนิลที่อยู่ภายใต้ขนตายาวงอนราวกับสตรีเย็นชาดุดัน จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบสีสวย โหน่งแก้มสูงรับกับช่วงคางบึกบึน ใบหน้าของเขาช่างเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากผู้หญิงได้เป็นอย่างดี คุณเคอร์เชิญด้านในครับชายหนุ่มเดินเข้าไปตามพรมแดงที่ถูกเตรียมไว้ต้อนรับเขา ช่วงขาแข็งแรงก้าวไปตามทางเดินที่ถูกเตรียมไว้อย่างมั่นคง ความสง่างามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการเป็นนักล่าล้อมรอบกายของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจปราศจากรอยยิ้มโดยสิ้นเชิง ผมต้องการดูข้อมูลทางบัญชีของบริษัททั้งหมดผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อ พูดกับผู้จัดการที่มาต้อนรับเขาเสียงเรียบ ดวงตาเย็นชาของเขาจ้องคู่สนทนาซึ่งเป็นลูกจ้างนิ่ง เคอร์ แพทเตอสัน ลูกชายบุญธรรมคนเดียวของ มิสเตอร์ คาโก้ แพทเตอสัน อายุ 65 ปี เป็นชาวไอริช ที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในลอนดอน ภรรยาเสียชีวิตจากไปกว่าสิบปี ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโรงแรมหรูระดับห้าดาวทั่วโลก เคอร์ เป็นชายหนุ่มหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ อายุ 28 ปีเต็ม ผิวสีน้ำตาล รูปร่างสูงใหญ่ กำยำ ดวงตาเย็นชาไร้ซึ่งความปรานี ใบหน้าเรียบสนิทดุดัน เขาเป็นชายหนุ่มที่ค่อนข้างจะเก็บตัว แต่ถึงกระนั้นข่าวคราวของเขาก็มีออกมาให้สาว ๆ ได้ชุ่มชื่นหัวใจเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่การงานที่กำลังไปได้สวย หรือแม้แต่คู่ควงที่เขามักจะเปลี่ยนเป็นว่าเล่นก็ตาม เขาเหมือนเสือร้าย ที่รอคอยเวลาที่จะตะครุบเหยื่อที่หลงเข้ามาในรัศมีอันโหดร้ายของเขา ไม่มีใครรู้ว่าอดีตของเคอร์เป็นมาอย่างไร ไม่มีใครกล้าถาม แต่ถึงจะถามก็จะไม่มีคำตอบหลุดรอดออกมาจากปากของเขาอยู่ดี จึงมีการคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา แต่ถ้าดูจากลักษณะของเขาแล้ว เคอร์ไม่ใช่สายเลือดของผู้ชายฝั่งยุโรปอย่างแน่นอน แม้เขาจะสูงใหญ่ไม่ผิดเพี้ยนกับบุรุษในแถบนั้นก็ตาม ครับ คุณเคอร์ผู้จัดการวัยกลางคนรับคำ ก่อนจะรีบลนลานออกจากห้องทำงานของว่าที่เจ้าของคนใหม่ของบริษัท อินเตอร์ ดีน ไป
เมื่ออยู่ตามลำพังในห้องทำงาน ชายหนุ่มก็ผ่อนลมหายใจออกมาช้า ๆ เรือนร่างสูงใหญ่ กำยำ ภายใต้เสื้อผ้าเนื้อดีสุดหรูเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้หนังแท้สีดำสนิท ดวงตาคมเข้มที่เคยดุดันตอนนี้อ่อนแสงลง หัวใจที่อ้างว้างกำลังล่องลอยไปในที่ ๆ หนึ่งที่ไกลออกไป สุดท้ายเขาก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง... เมืองไทย เหตุการณ์เมื่อสิบสามปีก่อนค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง หรือถ้าจะให้พูดกันจริง ๆ เขาบอกได้เลยว่า ตัวเองนั้นไม่เคยลืมเรื่องราวในอดีตได้แม้แต่วินาทีเดียว ยายทองดี... เมื่อคิดถึงหญิงชราวัยเฉียด 80 ปี ที่มีพระคุณกับเขาท่วมหัว เคอร์ก็อดน้ำตาคลอไม่ได้ ความรัก ความเมตตาของยายทองดีที่มีต่อเขาซึ่งไม่ใช่แม้แต่สายเลือดของท่าน ทำให้เขารักและเทิดทูนยายทองดีมากมายเหลือเกิน เพราะถ้าไม่ได้ยาย ป่านนี้เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นจะสามารถมีชีวิตรอดมาจากกองขยะที่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาเอาไปทิ้งไว้ได้หรือเปล่า บางทีเขาอาจจะถูกมดรุมกัดหรือไม่ก็หิวตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็เป็นได้ ภาพความยากจน ข้นแค้นในวัยเด็กผุดขึ้นมาในความทรงจำราวกับดอกเห็ดที่ได้รับสายฝนเย็นฉ่ำ ห้องเช่าในสลัมเล็ก ๆ คือที่พักพิงของเขากับยาย ถึงใคร ๆ จะพากันตราหน้าว่าเป็นเด็กสลัม แต่เขาก็ไม่เคยน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองแม้แต่น้อย เพราะความสงสารที่เห็นยายทองดีต้องลำบากหาเลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็กด้วยการเก็บขยะขาย อดบ้าง อิ่มบ้าง เขาก็มีความสุขขอเพียงได้อยู่กับยายเท่านั้น แต่ตอนนี้ยายทองดีไม่อยู่แล้ว... ยายจากไปพร้อมกับกองไฟนั่น แม้เขาจะพยายามมากแค่ไหนที่จะเข้าไปช่วยยาย แต่ตัวเองก็ทำได้แค่วิ่งเข้าไปในกองไฟนั่นเท่านั้น เพราะเขามารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่ในโรงพยาบาลในลอนดอนซะแล้ว และตั้งแต่นั้นมา เคอร์ก็อาศัยอยู่ที่ลอนดอนมาตลอดสิบสามปี แม้บางครั้งจะอดคิดถึงแผ่นดินเกิดขึ้นไม่ได้ และเคอร์ก็ไม่คิดจะกลับไป เพราะที่เมืองไทยเขาเปรียบเสมือนคนไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีใครที่รอคอยการกลับไปของเขาสักคน. เว้นเสียแต่เธอคนนั้น! ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างสับสน เขาไม่มั่นใจเลยสักนิดว่า เจ้าหล่อนจะยังรอเขาอยู่อีกหรือเปล่า บางทีหล่อนอาจจะไม่มีเขาอยู่ในหัวใจอีกแล้วก็เป็นไปได้ เคอร์พยายามสลัดความว้าวุ่นใจเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตออกไป เพื่อให้ตัวเองนั่นหันมาจดจ่ออยู่กับรายงานหลายสิบแฟ้มถูกนำมากองไว้บนโต๊ะทำงานใหญ่ตรงหน้าแทน หนุ่มหล่อนึกไปถึงตอนที่อยู่ลอนดอนกับคาโก้ เขารู้ข่าวจากเลขาส่วนตัวของบิดาว่า ตอนนี้ท่านได้เทคโอเวอร์บริษัทยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยไว้ได้แห่งหนึ่ง และโดยไม่รอให้เสียโอกาส เคอร์จึงขอบิดาให้ตัวเขาไปบริหารงานที่นั่นแทนคนที่ท่านได้จัดหาไว้ โดยให้เหตุผลว่าเขาพูดภาษาไทยได้ ชายหนุ่มแค่นยิ้มขณะเอื้อมมือหนาสีแทนไปหยิบแฟ้มเอกสารแฟ้มหนึ่งขึ้นมาเปิดดูคร่าว ๆ ก่อนจะยักไหล่ เมื่อเห็นตัวเลขติดลบแดงเทือกไปหมด และเมื่อเขาศึกษารายละเอียดทั้งหมดของบริษัทฯ ชายหนุ่มก็พบว่าเจ้าของคนเก่าบริหารงานผิดพลาดเป็นอย่างมาก และไว้ใจพนักงานระดับสูงมากเกินไป ทำให้การคดโกงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และนั่นก็เป็นผลที่ทำให้บริษัทนี้ต้องล่มสลาย... แต่เมื่อมันตกมาอยู่ในมือของเขา มันจะต้องรุ่งเรือง และจะต้องไม่มีคำว่า ผิดพลาด เด็ดขาด!
จันทร์ดาวก้าวลงจากรถแท็กซี่มิเตอร์หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ร่างอรชรก้าวเดินตามทางคอนกรีตไปหยุดอยู่หน้าตึกขนาดใหญ่หลายสิบชั้น ความโอ่อ่าที่พบเห็นทำเอาหญิงสาวแทบถอดใจหันหลังกลับ แต่สุดท้ายแล้วหล่อนก็ต้องฝืนใจเดินหน้าต่อไป เมื่อนึกถึงผลร้ายที่จะตามมาหากหล่อนไม่ได้งานทำ อินเตอร์ ดีนหญิงสาวอ่านชื่อบริษัทที่ป้ายขนาดใหญ่ ก่อนจะก้มลงมองเอกสารในมือของตัวเอง และเมื่อรู้ว่ามันคือที่เดียวกันไม่ผิดแน่ หล่อนจึงรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปด้านใน ความเย็นฉ่ำบวกกลิ่นหอมละมุนของสเปรย์ปรับอากาศชั้นดีลอยเข้าจมูก หญิงสาวสูดความสดชื่นนั้นเข้าไปเต็มปอด เดินตรงเข้าไปยังประชาสัมพันธ์คนสวยที่ยืนแจกยิ้มหวานให้กับผู้มาติดต่อ มาติดต่อใครคะเสียงหวาน ๆ เป็นมิตรจากประชาสัมพันธ์สาวสวย ทำให้จันทร์ดาวรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง หลังจากตื่นเต้นจนแทบก้าวเท้าไม่ออกอยู่นาน หญิงสาวใจเต้นระทึก รู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางยังไงบอกไม่ถูก ดิฉันมาสัมภาษณ์งานค่ะหญิงสาวพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย ก่อนจะรีบอธิบายต่อเมื่อเห็นคู่สนทนาทำสีหน้าแปลกใจ เอ่อ... มีฝ่ายบุคคลโทรตามมาค่ะ รู้สึกว่าจะชื่อคุณ พิกุลค่ะ คุณพิกุลออกจากงานไปแล้วค่ะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวดิฉันจะลองถามกับเจ้าหน้าที่บุคคลคนอื่นให้นะคะ แต่... ตำแหน่งอะไรคะ เจ้าหน้าที่จัดซื้อค่ะจันทร์ดาวรีบตอบออกไป จากนั้นคู่สนทนาของหล่อนก็ยกโทรศัพท์ขึ้นโทรไปที่ไหนสักแห่ง ก่อนจะวางสายและเชิญหล่อนให้เข้าไปรอในห้องรับรอง เดี๋ยวจะมีฝ่ายบุคคลมาสัมภาษณ์คุณนะคะจันทร์ดาวยิ้มให้กับสาวสวยตรงหน้า เมื่อถูกทิ้งให้อยู่ในห้องรับรองคนเดียว หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ มือบางเย็นเฉียบ ความหวาดหวั่นทำให้หล่อนตื่นเต้นจนเกินเหตุ สมองน้อย ๆ คิดวกไปวนมาต่าง ๆ นานา หล่อนจะได้งานนี้ไหมนะ ในเมื่อหล่อนไม่มีประสบการณ์เอาเสียเลย เป็นเด็กสาวพึ่งจบมาหมาด ๆ ความหวาดวิตกจนเกือบจะเป็นวิกลจริตร้องบอกหล่อนแบบนั้น แต่หล่อนก็ไม่ได้เรียกเงินเดือนสูงมากนัก นั้นก็น่าจะทำให้พอมีหวังอยู่บ้างน่า หญิงสาวพยายามปลอบใจตัวเอง รอเกือบสองชั่วโมงก็มีเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบุคคลเข้ามาสัมภาษณ์หล่อน จันทร์ดาวรู้ตัวเองดีว่าหล่อนตอบพลาดไปหลายจุด แต่นั้นก็ยังไม่สามารถชี้วัดชะตากรรมของหล่อนได้ จนกว่าจะได้สัมภาษณ์กับผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อซะก่อน เดี๋ยวช่วงบ่ายคุณสมควร ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจะสัมภาษณ์คุณอีกรอบนะคะ ที่ชั้น 10 ห้องซ้ายมือห้องแรกค่ะ ตอนนี้เชิญคุณตามสบายเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเดินออกจากห้องไปแล้ว จันทร์ดาวถอนหายในออกมาอย่างโล่งอก ความตื่นเต้นเริ่มน้อยลง แต่มันคงมาอีกระลอกในตอนบ่าย จันทร์ดาวเดินออกมาจากห้องรับรอง หล่อนพยายามจดจำเส้นทางอย่างขะมักเขม้น เพราะห้องหับที่บริษัทนี้เยอะมาก เส้นทางก็ค่อนข้างคดเคี้ยว และที่สำคัญแต่ละชั้นล้วนตกแต่งคล้ายคลึงกันไปหมด
เคอร์ขมวดคิ้วเข้มของตัวเองเข้าหากัน ก่อนจะจ้องมองผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเขา ใบหน้าคมคายเย็นชาสุด ๆ ดวงตาที่จ้องมองหล่อนนั้นเหมือนกับพยัคฆ์ร้าย คุณเข้ามาทำอะไรในนี้เสียงของเขาห้วน จนจันทร์ดาวตกใจ จ้องมองเขาอย่างหวาดหวั่น แข้งขาสั่นเทา มือบางเย็นเยียบ ท่าทางและอำนาจที่น่าหวั่นเกรงของเขาทำเอาหล่อนหนาวไปทั่วสันหลัง ดิฉันมาสัมภาษณ์งานค่ะ คะ...คุณสมควรใช่ไหมค่ะหญิงสาวพยายามบังคับให้ตัวเองตอบออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ แต่นั่นมันปกปิดเขาไม่ได้แม้แต่น้อย สมควรหรือ...ชายหนุ่มหรี่ตามอง ริมฝีปากบางเฉียบหยักโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน เอ่อ... ค่ะหญิงสาวตอบ ดวงตากลมจ้องมองเขาอย่างตกตะลึง หล่อนบังคับสายตาให้มองไปที่อื่นไม่ได้เลย เขาดูดีและหล่ออย่างร้ายกาจ จันทร์ดาวจ้องเขาไม่วางตา หญิงสาวลืมตัวไปชั่วขณะ ตั้งแต่เกิดมาหล่อนยังไม่เคยเจอะเจอผู้ชายคนไหน มีพลังแห่งบุรุษเพศรุนแรงอย่างนี้มาก่อน ช่วงไหล่กว้างที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตเนื้อดีทำให้หล่อนสั่นสะท้าน เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน แต่ถึงกระนั้นหล่อนก็รู้ได้โดยอัตโนมัติว่าเขาสูงใหญ่เอาการเลยทีเดียว ช่วยออกไปดูป้ายชื่อหน้าห้องซะใหม่คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวได้สติ ความร้อนที่เกิดจากความอับอายส่งผ่านลำคอขึ้นมาอยู่ที่พวงแก้ม หล่อนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ และก็เลิกมองผมแบบจะกลืนกินซะที ออกไปได้แล้วความอับอายกระแทกเข้าใส่หล่อนจนหน้าชา จันทร์ดาวแทบล้มทั้งยืน หญิงสาวเบิกตากว้าง จ้องมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อในความไร้มารยาทของเขา เรียวปากอิ่มที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปกลอสสีธรรมชาติเม้มเข้าหากันแน่น แก้มสาวแดงระเรื่อด้วยความอับอาย ถ้าหล่อนมีมนต์วิเศษตอนนี้ล่ะก็ อย่างแรกที่หล่อนจะขอก็คือ การหายตัวไปจากห้องนี้ ฉะ ฉัน... ออกไปจากห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ผมจะเล่นงานคนที่ปล่อยคุณขึ้นมาเขาไล่ซ้ำเสียงเดือดดาลขณะมองร่างอรชรที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอย่างดูแคลน แววตาของเขาเย็นชาเป็นที่สุด ตั้งแต่เกิดมาหล่อนยังไม่เคยเจอใครมารยาททรามแบบนี้มาก่อน ดิฉันขอโทษค่ะ...จันทร์ดาวกัดฟันพูดแทบไม่เป็นคำ ก่อนจะค่อย ๆ พยุงร่างของตัวเองหายออกไปจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว และหญิงสาวแทบอยากร้องไห้ออกมา เมื่อเงยหน้าขึ้นมองป้ายหน้าห้องนรกที่หล่อนหลงเข้าไป ประธานกรรมการบริหารสูงสุด หญิงสาวรีบสาวเท้าเดินออกจากหน้าห้องนั้นอย่างอกสั่นขวัญหาย นี่หล่อนบ้าไปแล้วหรือนี่ ทำไมถึงโชคร้ายขนาดนี้ เข้าห้องไหนไม่ว่า ดันมาเข้าห้องเจ้าของบริษัท จันทร์ดาวขมวดคิ้วทำท่าครุ่นคิดถึงคำพูดของฝ่ายบุคคลคนนั้น ก็เขาบอกให้หล่อนขึ้นมาชั้นที่ 20 ไม่ใช่เหรอ... หรือว่าหล่อนจำผิด! หญิงสาวถอนหายใจออกมาอความสิ้นหวังกระจายไปทั่วร่าง เมื่อสมองพยายามพร่ำบอกหล่อนว่าตัวเองนั่นแหละที่จำห้องสัมภาษณ์ผิด แล้วนี่หล่อนจะมีสิทธิ์ได้งานไหมนี่ จันทร์ดาวคิดอย่างท้อแท้ ก่อนจะเดินคอตกหายเข้าไปในลิฟท์
เคอร์มองตามร่างบอบบางที่หายไปกับบานประตูด้วยดวงตาเฉยชา ผู้หญิงคือสิ่งที่เขาไม่เคยปรารถนาจะพบเจอด้วยในเวลาทำงาน เว้นเสียแต่ยามอยู่บนเตียงเท่านั้น ชายหนุ่มเปลี่ยนคู่ควงบ่อยเสียจนเขาจำไม่ได้เสียแล้วว่าเดือนนี้คู่ควงคนล่าสุดของตัวเองนั้นชื่อว่าอะไร เขาไม่ต้องการภรรยา ต้องการแค่นางบำเรอเท่านั้น ผู้หญิงก็มีอย่างเดียวที่สามารถทำให้ผู้ชายได้ก็คือ เซ็กซ์ ความรักที่แท้จริงมันเหือดแห้งไปจากหัวใจของเขามาสิบกว่าปีแล้ว เขาไม่มีหัวใจสำหรับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ไม่ว่าเจ้าหล่อนจะสวยหยาดเยิ้ม หรือเซ็กซี่ ถูกใจเขาขนาดไหน แค่อาทิตย์เดียวก็มากเกินพอแล้ว สำหรับค่ำคืนบนเตียงกับพวกหล่อน เพราะหัวใจของเขามีเจ้าของแล้วนั่นเอง... รอคอยแค่สักวัน ที่จะได้พบเจอกัน...
จันทร์ดาวเปิดประตูเข้าบ้านอย่างเบามือ ใบหน้างามฉาบไปด้วยความผิดหวังชัดเจน หญิงสาวกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณห้องรับแขกแต่ก็ไม่พบเจอใครสักคน หล่อนทิ้งตัวลงนั่งโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง เดี๋ยวทางเราจะติดต่อกลับไปนะคะนี่คือคำพูดของคนที่หล่อนไปสัมภาษณ์ด้วย ลมหายใจร้อน ๆ ถูกพ่นออกมาจากเรียวปากอิ่มสวยของจันทร์ดาว หญิงสาวนึกถึงเหตุการณ์หลังจากที่ออกมาจากห้องทำงานของผู้ชายอันตรายคนนั้น หล่อนจำได้ว่าตัวเองวิ่งกระหืดกระหอบลงลิฟท์มาที่ชั้นล่างสุดเพื่อถามหาห้องสัมภาษณ์ แต่คำตอบที่หล่อนได้กลับมาก็คือคุณสมควร ผู้จัดการแผนกจัดซื้อติดธุระด่วนมาสัมภาษณ์หล่อนไม่ได้ ให้รอติดต่อกลับ จันทร์ดาวนั่งหลับตานิ่งอยู่บนโซฟานุ่มพักใหญ่ อุปสรรคที่กำลังทดสอบหล่อนอยู่นี้ ทำไมมันช่างยากเย็นเหลือเกินในการก้าวข้ามผ่านมันไป แต่ละก้าวราวกับหล่อนกำลังเหยียบบนหนามแหลมคม หญิงสาวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของตัวเอง มารดาของหล่อนไม่อยู่บ้าน อีกแล้ว หล่อนรู้ดีว่าแม่ของตัวเองอยู่ที่ไหน จันทร์ดาวน้ำตาคลอเบ้า เมื่อนึกถึงความยากแค้นหลังจากบิดาจากไป แม่ของหล่อนติดการพนันงอมแงม ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า อีกหน่อยบ้านหลังนี้ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย ก็คงไม่แคล้วต้องถูกขายไปอีกอย่างแน่นอน ร่างบางหยุดชะงักอยู่หน้าห้องหนึ่งซึ่งเปิดประตูค้างไว้ เสียงครวญครางอย่างสมสุขของชายหญิงดังเล็ดลอดออกมา หญิงสาวจำได้ดีว่านั่นคือเสียงของพิมดาวพี่สาวของหล่อนนั่นเอง ส่วนผู้ชายคนนั้นจันทร์ดาวไม่รู้จักแต่เท่าที่จำได้นี่ไม่ใช่คนเดิมเมื่อเดือนที่แล้วแน่ หญิงสาวมองตามช่องประตูห้องเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้แก้มสาวร้อนผ่าว ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนของพี่สาวหล่อนนั่งทับอยู่บนส่วนกลางลำตัวของผู้ชายร่างกายบึกบึนคนหนึ่ง สะโพกของพิมดาวส่ายวนไปมา พร้อมกับเสียงครางที่ฟังแล้วจันทร์ดาวแทบอาเจียน กริยาของพี่สาวและผู้ชายคนนั้นราวกับกำลังขี่ม้ากันอยู่ ผลัดกันลุกผลัดกันรับอย่างไร้ยางอาย จันทร์ดาวรีบละสายตาจากภาพตรงหน้า รีบเดินไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ถัดไปอีกห้องหนึ่งอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามแดงระเรื่อ แม้ภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อสักครู่นี้จะไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับหล่อน เพราะพิมดาวทำอย่างนี้ประจำกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า แต่หล่อนก็ยังทำใจให้ชาชินกับภาพอุจาดตาพวกนี้ไม่ได้ หล่อนแทบอยากจะอาเจียนทุกครั้งที่เห็นมัน
ติดตามตอนต่อไปค่า
Create Date : 14 กันยายน 2552 |
Last Update : 14 กันยายน 2552 11:03:46 น. |
|
19 comments
|
Counter : 726 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: จา IP: 124.121.67.139 วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:16:13:38 น. |
|
โดย: มนุสสา IP: 216.15.63.80 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:9:30:01 น. |
|
โดย: maxim IP: 10.1.1.27, 203.146.11.102 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:13:45:25 น. |
|
โดย: yamong IP: 192.168.20.146, 124.157.149.232 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:14:16:46 น. |
|
โดย: ลูกเกต IP: 125.27.15.1 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:15:14:14 น. |
|
โดย: อีฟจ้า IP: 124.121.121.199 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:11:38:16 น. |
|
โดย: jin IP: 222.123.59.128 วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:12:28:44 น. |
|
โดย: moon_ch IP: 210.86.135.81 วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:15:09:21 น. |
|
โดย: Kinji IP: 203.131.211.143 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:52:29 น. |
|
โดย: MeKitty IP: 172.17.63.2, 58.8.15.234 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:52:23 น. |
|
โดย: BoWz IP: 114.128.18.48 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:00:06 น. |
|
โดย: นัท IP: 161.246.72.64, 161.246.254.165 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:9:52:55 น. |
|
โดย: rki IP: 118.174.26.55 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:20:07:27 น. |
|
โดย: Sophia IP: 212.68.10.6 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:15:59:20 น. |
|
โดย: Alan IP: 124.120.104.125 วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:7:49:12 น. |
|
โดย: nuupul IP: 110.164.27.60 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:22:03:07 น. |
|
โดย: amp IP: 58.9.35.199 วันที่: 24 มกราคม 2553 เวลา:15:26:46 น. |
|
โดย: เก๋ IP: 203.144.144.164 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:22:32:03 น. |
|
โดย: Aoy IP: 10.187.1.120, 10.176.253.226, 58.137.129.220 วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:14:22:03 น. |
|
| |
|
baiboau |
|
|
|
|