จำเลยพิศวาส # 4
ตอนที่ 4หลังจากทำใจอยู่ในห้องน้ำนานโข จันทร์ดาวก็รวบรวมความกล้ากลับเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้ง สมควรหัวหน้าของหล่อนทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่พูดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าแม้แต่น้อย ต่อรองราคาซับพลายเออร์เจ้านี้ให้ผมหน่อย ผมขอด่วนสมควรพูดด้วยน้ำเสียงปกติ จันทร์ดาวนั่งตัวสั่น หล่อนไม่รู้จะทำยังไงดี จะทำงานต่อไป หรือว่าจะลาออกดีค่ะจันทร์ดาวนั่งก้มหน้านิ่ง หล่อนไม่กล้าแม้แต่จะเงยขึ้นมองผู้ชายคนนั้น มันน่ากลัวและก็โหดร้ายเกินไปสำหรับหล่อนเป็นไงบ้างล่ะ ที่เตือนไว้เข้าใจหรือยังเกสรเพื่อนร่วมงานของหล่อนเดินเข้ามาหา มองหล่อนอย่างเห็นใจ ก่อนจะก้มลงกระซิบกระซาบคำพูดที่หล่อนฟังแล้วหน้าไปทั่วสันหลังนี่แค่เริ่มต้น ไอ้บ้ากามนี่มันจะบีบจนเราต้องยอมมัน พี่โดนมาแล้วแต่โชคดีหน่อยที่พี่ไม่สวยเท่าจันทร์ไม่งั้นมันคงไม่ปล่อยไว้อย่างนี้ ระวังตัวให้มากขึ้น ทางที่ดีถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทองอะไร ก็ไม่หางานอื่นทำดีกว่า เพราะแผนกนี้คือนรกดี ๆ นี่เองแล้วไม่มีใครทำอะไรเขาได้เลยหรือคะจันทร์ดาวถามอย่างสงสัย เกสรส่ายหน้าพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันเกสรเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองแล้ว จันทร์ดาวถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเหรอ... หล่อนกำลังต้องการเงินจนตัวสั่นต่างหากจันทร์ดาวตัดสินใจทำงานอยู่ที่บริษัทนั้นต่อไป แต่หญิงสาวพยายามระมัดระวังตัวมากขึ้น หล่อนจะไม่ยอมอยู่ในห้องทำงานตามลำพังกับสมควรเป็นอันขาด และตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาสมควรก็ไม่เคยทำตัวหยาบคายแบบนั้นกับหล่อนอีกเลย หญิงสาวเบาใจขึ้น แต่หล่อนหารู้ไหมว่า ยามทะเลสงบอย่างนี้มันน่ากลัวกว่ายามมีเกลียวคลื่นขนาดไหนเสร็จสักทีหญิงสาวถอนหายใจออกมา มือบางวางปากกาลงบนโต๊ะอย่างโล่งใจ เมื่องานที่สมควรสั่งให้หล่อนทำเสร็จสิ้นลง จันทร์ดาวเก็บข้าวเก็บของเข้าที่แล้ว ก็เปิดลิ้นชักหยิบกระเป๋าถือขึ้นมาสะพาย ก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปยังประตูและก้าวออกไปเคอร์ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อลิฟท์ถูกกดเปิดจากด้านนอก และเมื่อมันเปิดออก ภาพของสตรีที่เขาจำได้ติดตาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มยืนจ้องมองหล่อนนิ่ง ดวงตาคมเข้มดุจเหยี่ยวนั้นเป็นประกาย แต่ใบหน้าหล่อล้ำเลิศกลับเฉยชาจนเดาความรู้สึกไม่ออกคุณ...จันทร์ดาวพูดไม่ออก หล่อนตกใจไม่น้อยที่พบเจอเขาอีกครั้ง และมันก็เหมือนครั้งเดิม ๆ ที่พวกเขาจะเจอะเจอกันในลิฟท์เข้ามาสิ ผมจะรีบกลับเขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเอาแต่ยืนจ้องหน้าเขานิ่ง ไม่ยอมก้าวเข้ามาในลิฟท์ค่ะ...จันทร์ดาวก้าวเข้าไปในลิฟท์ด้วยท่าทางหวาดหวั่น หล่อนไม่เข้าใจตัวเองนักว่าทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยเวลาที่ต้องประจันหน้ากับเขา หัวใจเต้นแรงเหมือนกลอง ความร้อนวูบวาบบางอย่างเกิดขึ้นทันทีเมื่อกลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของเขาลอยมาแตะจมูกหญิงสาวพยายามจะไม่ใส่ใจกับความผิดปกติของตัวเองอย่างที่สุด แต่เจ้าความรู้สึกแปลก ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวไปตามเส้นเลือดก่อนจะขมวดปมรวมกันอยู่ที่บริเวณท้องน้อย จันทร์ดาวแทบจะหายใจไม่ออกกับปฏิกิริยาที่ตัวเองมีต่อเขายิ่งยืนอยู่ใกล้เท่าไหร่ ความไร้ยางอายก็ควบคุมหล่อนเข้าไปทุกที ภาพหล่อนโอบกอดกับเขาอย่างรักใคร่ ผุดขึ้นมาในห้วงสำนึก ไหนจะริมฝีปากได้รูปสุดแสนจะเซ็กซี่นั่นอีก สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้ลำคอของหล่อนแห้งผากราวกับอดอยากน้ำมาแรมปี และไม่ช้าแก้มสาวก็แดงระเรื่อเมื่อคิดไปว่าริมฝีปากคู่สวยนั้นจุมพิตลงมาบนเรียวปากอิ่มของตัวเองหยุดจ้องผมเสียที...เสียงนี้ของเขาเรียกสติหล่อนกลับคืนมา จันทร์ดาวเบิกตากว้างมองเขาอย่างอับอาย ก่อนจะรีบขยับตัวไปยืนหันหลังให้เขาชิดกับผนังลิฟท์ แต่กระนั้นเสียงห้าวห้วนแกมรู้ทันของเขาก็ยังคงก่อกวนหล่อนไม่หยุดผมไม่ชอบผู้หญิงให้ท่า ถ้าผมต้องการ ผมจะไขว้คว้าไว้เองจันทร์ดาวแทบอยากจะเอาหัวมุดลงไปใต้พื้นลิฟท์ที่หล่อนยืนอยู่ ทำไมนะ ทำไมกัน ทำไมหล่อนต้องมาเจอะเจอเขาด้วย เขาคือซาตานร้ายดี ๆ นี่เอง เพราะทุกครั้งที่เจอเขา หล่อนควบคุมความรู้สึกวาบหวามที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนไม่ได้เลยนี่เขาทำอะไรกับหล่อนกัน...เคอร์ปลายตามองผู้หญิงที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่อย่างดูแคลน เขากวาดสายตามองเรือนร่างอรชรนั้นตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะวกขึ้นมาที่ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมดำขลับ รอยยิ้มเยาะปรากฏเด่นชัดที่มุมปากคุณมีแผนอะไรหรือเปล่า ถึงได้ทำงานดึกดื่นขนาดนี้...จันทร์ดาวสะดุ้งน้อย ๆ กับคำพูดกล่าวหากลาย ๆ ของเขา หญิงสาวเม้มเรียวปากแน่น พยายามข่มใจอย่างที่สุดที่จะไม่หันหน้าไปโต้ตอบคำพูดแสนจะทุเรศนั้นแต่ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณคงรู้ว่าผมเลิกงานเวลานี้ทุกวัน...เขาพูดยานคาง จ้องมองแผ่นหลังของสาวน้อยตรงหน้าด้วยสายตาชิงชังมาดักรอผมใช่ไหม!คำพูดสุดจะหลงตัวเองของเขา ทำให้หล่อนแทบอาเจียนออกมา หญิงสาวหันขวับกลับไปมองผู้ชายเจ้าของคำพูดเฮงซวยนั้นด้วยความไม่พอใจไม่ใช่สักหน่อย คุณหลงตัวเองเกินไปแล้วนะหล่อนเถียงเสียงดัง ลืมตัวไปสนิทว่ากำลังอับอายเขาอยู่ที่เผลอไปจ้องหน้าเขาแบบจะกลืนกินอย่างเมื่อครู่นี้เคอร์หัวเราะเยาะออกมา มองก็รู้ว่าหล่อนนั้นเจ้าเล่ห์มากแค่ไหน ให้ผมเชื่อคุณหรือไง เมื่อกี้ก็เห็นอยู่... คุณแทบจะกินผมด้วยสายตาของคุณอยู่แล้วเขาย้ำเตือนความน่าละอายของหล่อน จันทร์ดาวแก้มแดงด้วยความอับอาย ฉะ ฉัน...เถียงไม่ออกหรือไง... ก็มันเป็นเรื่องจริงเขาย้ำความคิดอันน่าสะอิดสะเอียนนั้นอีกครั้ง หญิงสาวหน้าร้อนผ่าว เลือดแห่งความอับอายแล่นไปทั่วร่างไม่จริง... ที่ฉันมองคุณก็เพราะว่า...ก็เพราะอะไร ไหนลองบอกเหตุผลดี ๆ มาสักข้อหนึ่งสิเขาหัวเราะเยาะ ขณะขยับเรือนร่างหนากำยำนั้นเข้ามาใกล้หล่อน จันทร์ดาวแทบจะหายใจไม่ออก เมื่อกลิ่นอายของเขาลอยเข้ามาแตะจมูกอีกแล้ว และนั่นก็เป็นผลให้เลือดสาวในกายของหล่อนซู่ซ่าขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุฉันแค่ตกใจที่เห็นคุณก็เท่านั้น...เป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก... แต่ความจริงแล้ว แค่คุณยอมรับมาว่าพอใจผม แค่นั้นก็จบ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้หญิงมาให้ท่าผมแบบนี้เขาพูดอย่างหลงตัวเองสุดกำลัง จันทร์ดาวหน้าแดง อยากจะซัดหน้าหล่อ ๆ นั้นขึ้นมาตงิด ๆคุณหลงตัวเองเกินไปแล้วนะคะ ฉันไม่ได้ให้ท่าคุณ และก็จะไม่มีวันทำด้วย จำเอาไว้...หญิงสาวตวาดแว๊ดออกมาด้วยความโมโห เคอร์หัวเราะออกมาอย่างชอบใจเมื่อเห็นผู้หญิงตรงหน้าแทบจะเต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธชายหนุ่มอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ทำไมเขาถึงต้องมาต่อปากต่อคำกับผู้หญิงคนนี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่มันไม่จำเป็นสักนิด และที่สำคัญเขากลับต้องการอยู่ใกล้ ๆ หล่อนให้นานกว่าที่เป็นอยู่ด้วยแต่ท่าทางของคุณไม่ใช่...คุณจะคิดอย่างไรฉันไม่สน... แต่ฉันไม่ได้ให้ท่าคุณประตูลิฟท์เปิดออกทันเวลา ก่อนที่หล่อนจะขาดใจตายเพราะความโอหังของเขาซะก่อน หญิงสาวกำลังจะก้าวออกไป แต่เคอร์ดึงข้อมือกลมกลึงนั่นไว้เสียก่อนยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนี่เขาดึงหล่อนให้เข้ามาในลิฟท์อีกครั้ง ก่อนจะกดลิฟท์ให้วิ่งขึ้นไปชั้นบนสุด จันทร์ดาวร้องออกมาอย่างตกใจคุณจะทำบ้าอะไรกันคะ ปล่อยมือฉันนะหญิงสาวสะบัดมือให้พ้นจากอุ้งมือของเขา แต่ไม่หลุด เขาดึงหล่อนเข้าไปใกล้ หญิงสาวแทบละลายกับความชิดใกล้นั้นผมต้องการให้คุณยอมรับความจริง ผมไม่ชอบคนโกหก...เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ จันทร์ดาวหัวใจเต้นรัวเร็วจนแทบทะลุอกออกมา มองใกล้ ๆ เขาก็ยิ่งหล่อเหลือเกินฉันก็บอกคุณไปแล้วนี่คะ เรากลับบ้านกันเถอะ ไหนคุณว่าคุณจะรีบกลับไงหญิงสาวพยายามปรับอารมณ์ให้เย็นลงที่สุด แม้ภายในใจจะโมโหแสนโมโหที่เขาพยายามจะให้หล่อนยอมรับว่าตัวเองให้ท่าเขายอมรับมาก่อนสิเขายังย้ำคำเดิม ใบหน้าหล่อคมคายก้มเข้ามาใกล้หล่อน หญิงสาวตัวสั่นขึ้นมาทันที ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาเป่าลดพวงแก้มนวล คะ คือฉัน...หล่อนเหมือนเด็กพึ่งหัดพูด ชายหนุ่มหัวเราะออกมา ก่อนจะดึงหน้าออกห่างจากหล่อนไป คำตอบของคุณ... ผมรู้อยู่แก่ใจแล้วล่ะเคอร์ก้าวถอยหลังออกห่างจากหล่อนก้าวหนึ่ง ขณะเดียวกันที่ประตูลิฟท์ก็เปิดออกอีกครั้งพอดี ชายหนุ่มก้าวเดินออกไป หญิงสาวมองตามด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะก้าวเท้าเดินตามเขาไป คุณหมายความว่ายังไงไม่ทราบ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ให้ท่าคุณสักหน่อย ฉันทำงานจนดึกก็จริง แต่ใครจะไปทราบล่ะว่าคุณจะอยู่ดึกเหมือนกันเคอร์หันหลังกลับมาหรี่ตามองสตรีที่เดินตามเขาออกมาจากลิฟท์ ใบหน้างามของหล่อนแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหล่อนน่าใคร่ขนาดไหน แม้ตัวเองพยายามหลีกเลี่ยงความคิดแบบนี้กับเจ้าหล่อนก็ตามทีและที่คุณเดินตามผมออกมาจากลิฟท์นี้ อย่าบอกนะว่าไม่ได้ให้ท่าผมจันทร์ดาวจ้องมองหน้าเขา สลับกับห้องทำงานที่เขากำลังจะเดินหายเข้าไปก็คุณพาฉันขึ้นมาเองนี่...หล่อนเถียง และพึ่งรู้สึกตัวว่าหล่อนเผลอเดินตามเขาออกมาผมลืมของเลยกลับขึ้นมาเอา แล้วคุณทำไมไม่กลับลงไป ตามผมออกมาทำไมมิทราบเขาถามเสียงยียวน จันทร์ดาวจนปัญญาที่จะพูดกับเขา หล่อนได้แต่มองเขาอย่างโมโห ก่อนจะหมุนตัวกลับเดินเข้าลิฟท์ไป ปากแข็งชะมัดเคอร์หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินหายกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองจันทร์ดาวนั่งเหม่อมองพระจันทร์ในคืนเดือนแรมอยู่ที่ระเบียงบ้าน สายลมเย็นที่พัดมาแตะแต้มผิวบางนั้นช่างนุ่มนวลราวกับสัมผัสของกลีบกุหลาบ หญิงสาวถอนหายใจออกมาแรง ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านพ้นมาคนบ้า... ใครอยากจะให้ท่าคุณไม่ทราบจันทร์ดาวนึกไปถึงใบหน้าหล่อเหลาของเคอร์ ยามที่โน้มเข้ามาใกล้ ๆ ใบหน้าของหล่อน คิดแล้วแก้มนวลก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที เขาทำให้หล่อนจิตใจแตกกระเจิง ความรู้สึกที่หล่อนไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมี กลับผุดขึ้นมาถึงขีดสุด ความรุ่มร้อนบางอย่างที่หล่อนไม่รู้จักจู่โจมเข้าใส่จนแทบหงายหลังฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณทั้งนั้น... ฉันรักพี่เก้าหญิงสาวพยายามนึกถึงใบหน้าของเก้าทัพเอาไว้ แต่มันก็ลางเลือนเต็มทน เพราะหล่อนคิดภาพของเก้าทัพตอนเติบใหญ่เป็นหนุ่มแน่นไม่ได้เลย เนื่องด้วยหล่อนกับเก้าทัพจากกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และต่อให้เก้าทัพมายืนอยู่ตรงหน้าหล่อนตอนนี้ หญิงสาวก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองนั้นจะยังจดจำเขาได้หรือเปล่าพี่เก้า... จันทร์อยากรู้จริง ๆ ว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจันทร์ดาวเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่เหลือเพียงเศษเสี้ยวนั้นนิ่ง ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยคราบน้ำตา มือบางยกขึ้นประกบกันเป็นดอกบัวตูมดวงจันทร์เจ้าขา... ถ้าพี่เก้าของจันทร์ยังไม่ตาย ได้โปรดพาเขากลับมาหาจันทร์ด้วยนะคะหญิงสาวกล่าวออกมาด้วยความหวัง แม้ความหวังอันนี้มันจะน้อยนิดแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็สามารถช่วยเยียวยาหัวใจอันเดียวดายของหญิงสาวให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้ในโลกแห่งความจริงนี้ในขณะที่จันทร์ดาวกำลังนั่งขอพรจากดวงจันทร์นั้น อีกฝากหนึ่งของขอบฟ้า เคอร์ก็กำลังนั่งมองดวงจันทร์อยู่เช่นเดียวกันหนูจันทร์ของพี่ ป่านนี้เธอยังรอพี่อยู่อีกหรือเปล่าชายหนุ่มถอนหายใจออกมา ก่อนจะยกแก้วบรั่นดีในมือขึ้นกระดกพรวดจนหมดแก้วเธอยังรักพี่อยู่หรือเปล่า...เคอร์ยกมือขึ้นลูบไล้ เจ้าล็อคเก็ตรูปหยดน้ำที่เขาห้อยติดตามมาตลอดสิบสามปีที่ผ่านมา ความรัก ความผูกพันในอดีตทำให้ชายหนุ่มไม่อาจลืมเลือนเจ้าของล็อคเก็ตนี้ได้สักนาทีเดียวหล่อนแสนดี... ใจดีเหลือเกิน เขายังจำความมีน้ำใจของหล่อนได้ไม่มีเสื่อมคลาย จันทร์ดาวยอมถูกแม่ของหล่อนตีเพื่อออกมาช่วยเขาเก็บผักไปขายหน้าสลัม หรือแม้แต่ยอมอับอายเพื่อน ๆ ด้วยการมาช่วยเขาคุ้ยเขี่ยกองขยะเพื่อหาของเก่าไปขายพี่รักเธอ หนูจันทร์เคอร์วางแก้วบรั่นดีลงบนโต๊ะ ก่อนจะกลับเข้ามานั่งบนเตียงกว้างขนาดใหญ่ ชายหนุ่มพยายามจินตนาการภาพของจันทร์ดาวยามหล่อนเติบโตขึ้นเป็นสาว แต่พลันภาพของผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็แทรกเข้ามาแทนที่ผู้หญิงที่พยายามหาทางอ่อยเขาอย่างละอาย หล่อนจงใจที่จะรออยู่จนเจอเขา ยายบ้าเอ๋ย...เคอร์สบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อเขาเริ่มรู้สึกถึงความหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้แม้จะพยายามบอกตัวเองตลอดเวลาว่าเขามีผู้หญิงที่สมควรรักอยู่แล้ว แต่ทำไมนะ หัวใจไม่รักดีของเขาถึงได้วอกแวกไปคิดถึงแม่ผู้หญิงไร้ราคาคนนั้นด้วย แค่มองก็รู้แล้วว่าหล่อนใช้อะไรแลกกับตำแหน่งงานที่ทำเคอร์คิดอย่างสะอิดสะเอียน ร่างสูงใหญ่ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยล้า ดวงตาคมกล้าค่อย ๆ ปิดลงทีละน้อย ราวกับพยายามปิดกั้นเรื่องราวที่กำลังก่อกวนหัวใจให้จางหายไป แต่มันก็ไม่อาจช่วยให้เขาสามารถลบเลือนภาพของแม่พนักงานสาวที่เขาไม่รู้จักแม้แต่ชื่อคนนั้นให้ออกไปจากหัวใจได้เลย เขาเป็นอะไรไปกันแน่... ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนสามารถทำให้เขาว้าวุ่นใจได้ขนาดนี้มาก่อน และหล่อนเป็นใครกันทำไมถึงทำให้เขาคิดถึงอยู่ได้ตลอดเวลา ทั้ง ๆ เจ้าหล่อนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น... เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้อีกแล้ว... เคอร์พยายามบอกตัวเองอย่างนั้นเช้าวันต่อมา จันทร์ดาวเดินออกมารอรถโดยสารประจำทางที่หน้าปากซอย เรือนร่างอรชรอยู่ในชุดฟอร์มเรียบ ๆ ของบริษัท แต่กระนั้นความงดงาม อ่อนหวานก็ยังเปล่งแสงออกมาอย่างไม่น่าเชื่อเคอร์มองภาพสาวงามที่ยืนอยู่ตรงป้ายรถประจำทางนิ่ง ดวงตาคมกล้ามีแววแห่งความพึงพอใจฉายชัด ริมฝีปากหยักได้รูประบายรอยยิ้มออกมาอย่างลืมตัวขึ้นรถสิจันทร์ดาวเงยหน้าขึ้นมองรถสปอร์ตคันหรูที่เคลื่อนมาหยุดนิ่งตรงหน้าของหล่อนด้วยสายตาแห่งความประหลาดใจ ใบหน้าหล่อคมคายของเคอร์ทำให้หล่อนอดใจเต้นไม่ได้ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่รบกวนคุณดีกว่า...จันทร์ดาวขยับเดินหนีออกห่าง เคอร์เคลื่อนรถตามไป ผมไม่ชอบถูกปฏิเสธ โดยเฉพาะพนักงานของตัวเอง...เขาย้ำถึงความต่ำต้อยของหล่อนอย่างน่าละอาย หญิงสาวสบตากับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ประกายตาบางอย่างของผู้ชายในรถทำให้แก้มสาวแดงขึ้นมาแต่ฉันไม่สะดวกค่ะ ขอโทษนะคะ รถมาพอดีหญิงสาวเดินเลี่ยงออกไปอีกครั้ง เมื่อหันไปเห็นรถประจำทางวิ่งมาจอดอยู่ใกล้ แต่ประกาศิตต่อมาของเขาก็ทำให้เท้าของหล่อนต้องชะงัก หยุดเดินกะทันหัน ขึ้นรถเดี๋ยวนี้!ทำไมต้องบังคับกันด้วยคะ ฉันแค่ไม่อยากรบกวนคุณเท่านั้นจันทร์ดาวเดินเข้าไปหยุดใกล้ ๆ รถสปอร์ตหรู ก้มหน้าลงไปพูดเสียงเบากับเขา เพราะขืนหล่อนยังตะโกนเหมือนเมื่อครู่นี้อยู่อีกล่ะก็ มีหวังหล่อนต้องเอาบีบคลุมหัวแน่ ๆ ก็คนที่ยืนรอรถอยู่ใกล้ ๆ ต่างจ้องมองหล่อนเป็นตาเดียวกัน ราวกับหล่อนคือสิ่งประหลาดอย่างนั้นก็ขึ้นรถมาสิ ผมจะรีบไปทำงานเขาสั่งเสียงห้วน ขณะโน้มตัวข้ามฝั่งมาเปิดประตูรถให้กับจันทร์ดาว หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะตัดสินใจขึ้นรถไปกับเขาคุณต้องการอะไรกันแน่คะหล่อนถาม เคอร์ไม่ตอบ ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังคงจ้องมองไปยังท้องถนนกว้างที่คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์นานาชนิดนี่คุณคงไม่คิดว่าฉันให้ท่าคุณอีกหรอกนะคะ เพราะถึงฉันจะต่ำต้อย เป็นแค่เพียงพนักงานระดับล่างที่คุณเองไม่แม้แต่จะรู้จักชื่อ แต่ฉันก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ทำอะไรน่าละอายอย่างเช่นให้ท่าคุณลงไปหรอกค่ะจันทร์ดาวจ้องมองซีกหน้าหล่อเหลานั้นอย่างตัดพ้อ ความน้อยใจแล่นขึ้นมาจุกอกเคอร์หันหน้ากลับมามองผู้หญิงที่บริภาคเขาด้วยความคับข้องใจ ก่อนจะยักไหล่หนาข้างหนึ่งขึ้น รอยยิ้มหยันที่มุมปากปรากฏเด่นชัดแต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ...เขาลากเสียงยาวยานคาง ซึ่งหญิงสาวไม่ชอบน้ำเสียงดูถูกคนแบบนี้ของเขาเลยผู้หญิงทุกคนไม่เคยมีใครไม่ให้ท่าผม... คุณก็คงไม่ดีไปกว่าผู้หญิงที่ผมเคยผ่านมา หรือคุณจะปฏิเสธว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้เราต้องเจอหน้ากันนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ...เขาหัวเราะเยาะในลำคอ จันทร์ดาวแก้มร้อนผ่าวเมื่อได้ฟังคำพูดหลงตัวเองสุดฤทธิ์ของเคอร์ฉันไม่กลัวหรอกนะ หากคุณจะไล่ฉันออกหล่อนพูดเสียงขุ่นเพราะฉันแทบอาเจียนกับความหลงตัวเองของคุณชะมัด มันน่าทุเรศมากคำพูดของหล่อนเป็นเหตุให้รถกระตุกอย่างแรง เนื่องจากเคอร์เหยียบเบรคกะทันหัน หญิงสาวยกมือขึ้นลูบศีรษะของตัวเองไปมาด้วยความเจ็บระบม เมื่อหัวของหล่อนกระแทกกับกระจกหน้ารถอย่างจังคราวหลังอย่าบังอาจมาพูดจาแบบนี้กับผมอีก เพราะผมไม่คิดจะรับฟัง...แต่มันเรื่องจริง...จันทร์ดาวพูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัว แต่พอสบตาคมกล้าที่มีกองไฟสุมอยู่แล้วก็รู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมาทันทีหุบปาก!เขาตวาดลั่น มองหล่อนอย่างเดือดดาล ก่อนจะเหยียบคันเร่งเคลื่อนรถออกไปอย่างรวดเร็ว จันทร์ดาวไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีก หล่อนลอบมองเขาอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเบือนหน้ามองออกไปยังวิวข้างทางแทน มองสิ่งสวย ๆ งาม ๆ ยังดีเสียกว่าทนฟังคำพูดจาไร้น้ำใจจากเขาเคอร์นั่งกุมขมับอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ใบหน้าหล่อคมคายเคร่งเครียด ดวงตาคมจ้องมองไปนอกหน้าต่างกระจกนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแรง ๆ ทำไมฉันต้องไปยุ่งกับเธอด้วยนะชายหนุ่มรำพึงออกมาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ขณะเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้หนังสีดำชั้นดีหรือว่าเพราะหล่อนหน้าตาสะสวยถูกใจเขา แต่ไม่ล่ะ... เขาไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนทั้งสิ้น นอกจากจันทร์ดาว เด็กผู้หญิงใจดีเมื่อสิบสามปีก่อนเท่านั้นเคอร์สะบัดศีรษะไปมา มือหนายกขึ้นบีบขมับของตัวเองเบา ๆและไม่ช้าใบหน้าสวยหวานน่ามองของแม่พนักงานสาวคนนั้น ก็เข้ามาวนเวียนในหัวสมองของเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ ให้สมกับความคับข้องใจนักยายผู้หญิงบ้า! เธอทำอะไรกับฉันกันแน่ชายหนุ่มทุบกำปั้นลงบนโต๊ะทำงานแรง ๆ เขาไม่พอใจตัวเองเป็นที่สุด ที่หยุดคิดถึงผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ผู้หญิงที่ไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาแม้แต่น้อย เพราะแม้แต่ชื่อของหล่อนเขาก็ไม่รู้จัก และชายหนุ่มก็ไม่คิดจะไปขวนขวายหาด้วย มันไม่จำเป็นเลย เพราะหล่อนก็แค่พนักงานระดับล่างของเขาเท่านั้นจบตอนจ้า