หลังจากที่ลงเสาเอกแล้ว ลืมเล่าให้ฟังว่ามีวิศวกรมาแนะนำตัวเองว่าเค้าเป็นคนคุมบ้านเรา ขออนุญาตเรียกว่าพี่วิก็แล้วกันนะคะ พี่วิเข้ามาแนะนำตัว แล้วก็คุยกันเรื่องบ้านเรา เค้าแนะนำหลายอย่าง เราก็รับฟัง แล้วด้วยความที่เราไม่อยากรอนาน หลังจากบ้านเสร็จอยากเข้าอยู่เลย ก็เลยมีความคิดว่าจะเรียกช่างอินทีเรียมาดูงานแล้วเริ่มไปพร้อม ๆ กันเลย เราถามพี่วิว่าเราควรจะเรียกช่างมาดูตอนไหน พี่วิบอกว่าเค้ามีคนรู้จัก ถ้าอยากดูผลงานเค้าจะแนะนำให้ เราก็ตกลง

อาทิตย์นึงหลังจากนั้นเค้านัดให้เรามาบอินทีเรียที่พี่วิหามา โดยที่ย้ำกับเราว่าพี่วิไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้เราคุยกันเอง เราก็คิด เออ! ดีจัง เค้าไม่กินหลายต่อ พอดูผลงานแล้ว เราพอใจในระดับนึง (ย้อนหลังนิดนึง พี่วิบอกว่าบ้านเราค่อนข้างใหญ่คงใช้งบประมาณล้านกว่า ๆ อันนี้เรารับได้)

พอมาคุยกันเรื่องราคา ปรากฏว่าเค้าบอกว่าบ้านเราต้องใช้งบประมาณ 4-5 ล้านบาท เราอึ้งไปเลย พูดไม่ออก เราถามเค้าว่าต้องแพงขนาดนั้นเลยเหรอ เค้าบอกว่าเป็นเพราะว่าต้องทำทุกอย่าง แล้วลูกค้าส่วนมาก็มักจะไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่โครงการให้มา เช่น พื้น, ห้องน้ำ เป็นต้น เราเลยบอกเค้าว่าแล้วถ้าเราไม่เปลี่ยนพื้นหล่ะ(จะเปลี่ยนทำไม เพราะบ้านเราเป็นบ้านสั่งสร้าง ถ้าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนตั้งแต่เแรกเลยดีกว่า) แค่อยากให้ทำเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วอินให้ เค้าก็เงียบไปแป๊บนึง เราเดาว่าเค้าคงรู้ว่าเราไม่พอใจ แ้ล้วตอบเราว่างั้นก็น่าจะเหลือประมาณ 2-3 ล้าน เราแอบคิดว่าทำพื้นใหม่มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ 

ตามที่ทุกคนคาด เราบอกว่าขอคิดดูก่อน หลังจากนั้นไม่กี่วันพี่วิก็โทรมาตามว่าตกลงจะทำกับเพื่อนเค้ามั๊ย เราก้อยังเลี่ยง ๆ อยู่ จนตอนนี้บ้านเรากำลังเทคานชั้นแรกอยู่ พี่วิโทรถามบอกเราว่า ตกลงเราจะทำกับเพื่อนเค้ามั๊ย เพราะว่าเค้าจะต้องวางแปลนเรื่องไฟแล้วนะ อ้าว! แล้วตอนที่เอาพิมพ์เขียวมาให้เราก็มีแปลนไฟกับแปลนประปามาแล้วนี่หน่า ทำไมจะยังต้องคุยกับอินทีเรียด้วยหล่ะ งงบวกหงุดหงิดมาก ๆ สรุปว่าพี่วิมีเอี่ยวด้วยใช่มั๊ยเนี่ย ถึงได้โทรมาเร่งเราจัง