Group Blog All Blog
|
เจรจาต่อรอง หลังจากที่พี่เซลล์ใจดียอมตกลงขายที่สองแปลงให้แล้วเราเลือกแบบบ้านได้แล้ว ก็ถึงคราวที่เราต้องตกลงราคากัน (ขอข้ามขั้นตอนการต่อราคานะ เดี๋ยวจะหาว่าเราเขี้ยว) สรุปราคาที่ตกลงกันได้แล้วก็ถึงคราวผ่อนดาวน์ เนื่องจากบ้านเกินวงเงินที่ธนาคารจะอนุมัติได้ ก็เลยต้องดาวน์เยอะ(มาก) บวกกับที่เราไม่มีหลักฐานทางการเงินอะไรเลย ก็เลยขอผ่อนดาวน์เพื่อทำสเตทเมนท์ด้วย พี่เซลล์ทำหน้าหนักใจอีกตามเคย หน้าที่เราคือออดอ้อนให้เค้าใจอ่อน และอีกตามเคยพี่เค้าตกลง แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องจ่ายดาวน์หมดก่อนถึงจะเริ่มสร้างบ้าน ณ วินาทีนั้นเราก็ตอบตกลงไปก่อน โดยลืมคิดถึงทุกอย่างไป พอผ่อนไปได้หกเดือน ทางโครงการให้ลองยื่น pre-approve ดู โดยบอกว่าประมาณอาทิตย์นึงรู้ผล แต่เอาเข้าจริงรอไปสองเดือนกว่าธนาคารจะมาบอกว่า"ตอนนี้ทางธนาคารไม่มีนโยบาย pre-approve ต้องยื่นเอกสารจริงเลย" เอาหล่ะสิ ทำไงดี ถ้าธนาคารไม่อนุมัติ ชั้นจะเอายังไงดี ว่าแล้วก็เริ่มพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปไหว้พระแล้วขอให้กู้ผ่าน (ไม่นิยมการบน เพราะกลัวจำไม่ได้) ผ่านไปอีกสองเดือนธนาคารโทรมาบอกว่าให้เราเลือกอัตราดอกเบี้ยว่าจะเอาแบบไหน เอาหล่ะสิ ไม่ได้จบการเงินมาซะด้วย จะรู้มั๊ยเนี่ยว่าแบบไหนคุ้มที่สุด เฮ่อ!!! ว่าแล้วก็โทรหาเพื่อนที่จบด้านนั้นให้ช่วยคิด ก็ได้ความว่ากู้แบบปีแรก 2.75% แล้วปีถัดมาเป็น MRR-1% แต่ว่าเราเลือกทำประกันด้วยก็เลยถูกลงอีก .25% เอาน่า อย่างน้อยก็ได้ตรวจสุขภาพฟรี แต่ต้องจ่ายค่าประกันเพิ่มขึ้นอีกแสนกว่า สรุปว่าคุ้มมั๊ยเนี่ย พอโทรไปบอกเจ้าหน้าที่แบงค์ปั๊บก็ได้รับคำตอบว่า"ได้ครับ ถ้าธนาคารอนุมัติแล้ว ผมจะดำเนินการให้ทันทีครับ" อ้าว! ที่ให้คิดหัวหมุนนี่ ชั้นยังกู้ไม่ผ่านเหรอเนี่ย ผ่านไปสามวัน เจ้าหน้าที่คนเดิมโทรมาบอกว่า"ผ่านแล้วครับ เดี๋ยวเจอกันที่สำนักงานที่ดินได้เลย" เย้! ในที่สุด ก็เป็นหนี้สมบูรณ์แบบซะที Free TextEditor |
babe_pingu
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |