บ้านมังคุด+ สวนมะลิ รวมทุกเรื่องที่ (ตัวเอง) อยากรู้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Astro Boy –เด็กชายแห่งดวงดาว

โดยส่วนตัวไม่เคยอ่านการ์ตูน หรือดูทีวี ดูหนังที่เกี่ยวกับ Astro boy มาก่อน แต่เคยเห็นตัวการ์ตูนนี้บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อไปพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นของอาจารย์เกริก ยุ้นพันธ์ที่อยุธยา แล้วต้องถามเพื่อนว่า เจ้าหนูนี่ชื่ออะไร แล้วไม่มีใครให้คำตอบได้ ก็เลยไม่อยากค้างคาใจ จึงไปค้นหาข้อมูลมา ดังนั้นขอได้โปรดใช้วิจารญาณในการอ่านด้วย



แอสโตร บอย หรือ mighty atom หรือ Tetsuwan Atomu ในภาษาญี่ปุ่น เป็นหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่เขียนขึ้นโดยเทซูกะ โอซะมุ ราชาการ์ตูนญี่ปุ่น ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2495 จากนั้นผู้เขียนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในระหว่างปีพ.ศ. 2506-2509 เป็นเรื่องราวการผจญภัยของหุ่นยนต์ที่ชื่อว่า “ แอสโตร บอย”

เทซูกะ โอซะมุ ผู้เขียนเรื่องนี้มีประวัติชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อย ในวัยเด็กเป็นเด็กขี้โรค ผู้เป็นแม่จึงดูแลเขาเป็นอย่างดี และมักพาเขาไปดูละครพื้นบ้านที่ใช้ผู้หญิงแสดงทั้งหมด สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่แฝงอยู่ในการ์ตูนหลายๆ เรื่องที่เขาเขียนขึ้น โอซามุเริ่มเขียนการ์ตูนมาตั้งแต่เรียนมัธยม และยึดเป็นอาชีพในระหว่างที่เรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขาชอบ เขาเคยถามแม่ว่า เขาควรจะเลือกทำอาชีพอะไรดี ระหว่างการเขียนการ์ตูนกับเป็นแพทย์รักษาคนไข้ แม่ของเขาตอบว่า "You should work doing the thing you like most of all- เลือกทำในสิ่งที่ชอบมากที่สุด” หลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เขาจึงเลือกเป็นนักเขียนการ์ตูน แต่ก็ยังไม่ทิ้งวิชาที่ร่ำเรียน ในการ์ตูนหลายเรื่องของเขาจะสอดแทรกวิทยาการด้านวิทยาศาสตร์อยู่เสมอ

แอสโตร บอยก็เช่นเดียวกัน ยังคงกรุ่นกลิ่นอายของเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ และโลกแห่งอนาคต ที่ซึ่งแอนดรอยด์และมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน เรื่องโฟกัสที่การผจญภัยของแอสโตรบอย หุ่นยนต์ทรงพลังที่ถูกสร้างขึ้นโดยดร.เทนมะ แห่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นตัวแทนของลูกชาย “ โตบิโอะ” ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์ ดร.เทนมะสร้างแอสโตรให้มีหน้าตาเหมือนลูกชาย แต่หุ่นยนต์ก็คือหุ่นยนต์ไม่สามารถตอบสนองความรักที่เขามีให้ได้ แถมยังเติบโตไม่ได้ ต้นฉบับในปี 1960 ดร. เทนมะจึงขายแอสโตรให้กับขณะละครสัตว์ผู้โหดร้าย

หลังจากนั้นศาสตราจารย์ โอชะโนะมิซุ หัวหน้ากระทรวงวิทยาศาสตร์คนใหม่ได้เห็นการแสดงของแอสโตรบอยในคณะละครสัตว์ เขาจึงหว่านล้อมให้ Ham Egg คืนแอสโตรให้เขา จากนั้นเขาก็เลี้ยงดูแอสโตรอย่างดี และให้เขาทำหน้าที่พิทักษ์โลกด้วยการกำจัดคนชั่ว เนื่องจากศาสตรจารย์ต้นพบว่าแอสโตรนั้นมีพลังพิเศษและทักษะต่างๆ รวมไปถึงสามารถแสดง (เลียนแบบ) ความรู้สึก ได้เหมือนมนุษย์ ดังนั้นแอสโตรจึงต้องต่อสู้กับบรรดาเหล่าร้ายต่างๆ เพื่อผดุงความยุติธรรม ตามสไตล์การ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไอเดียหลักที่มักพบในการ์ตูนของโอซะมุ

แอสโตรบอยเป็นการ์ตูนซีรีย์ที่ตีพิมพ์ ในระหว่างปี ค.ศ. 1951-1968 และมีอีกสองซีรีย์ในปี 1975 และ 1980-81
แอสโตรบอยถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูน ฉายทางฟูจิทีวีในปี 1963 ผลิตโดยมูชิ โปรดักชั่นของโอซะมุ ก่อนย้ายมาฉายทาง NHK แบ่งเป็น 4 ฤดูกาล ทั้งหมด 193 ตอน ในปี 1964 มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ Hero of Space แบ่งเป็นสามตอนคือ The Robot Spaceship, Last Day on Earth และ Earth Defense Squadron รวมทั้งออกฉายทาง NBC อเมริกา ในชื่อ ไมตี้ อะตอม

ในภาคภาษาอังกฤษเปิดเรื่องด้วยเพลง และคำว่า There you go, Astro Boy On your mission today! Here’s the countdown and the blastoff! Everything is go Astro Boy…”

ในปี 2007 การ์ตูนเน็ตเวิร์คได้นำเอาแอสโตรบอย เวอร์ชั่น NBC กลับมาฉายอีกครั้ง โดยจัดฉายทั้งหมด 52 ตอน

ในปี 1962 มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดง โดยดำเนินเรื่องเหมือนที่ฉายทางทีวีในปี 1959-60 ก่อนที่จะมีการสร้างเป็นการ์ตูนซีรี่ฉายทางทีวี ฉากเปิดเรื่องประมาณ 1 นาทีเป็นภาพการ์ตูน ฟิล์มที่เหลืออยู่เป็นภายนตร์ขาว-ดำ มีความยาว 1 ชั่วโมง 15 นาที ถือเป็นการเริ่มต้นประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์ของญี่ปุ่น เนื่องจากจะมองเห็นกระดาษขาวปิดที่ลำกล้องปืนก่อนยิง บางฉากมีการตัดต่อเพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวหรือการเคลื่อนตัวของสตันท์ ซึ่งเปรียบได้กับการสร้างภาพยนตร์อเมริกันเกรด B ในปัจจุบัน

โอซะมุได้พบกับวอลท์ ดิสนีย์ในปี 1964 ดิสนีย์กล่าวกับเขาว่า อยากจะทำบางอย่างเหมือนที่โอซะมุทำบ้าง ในปี 1999 โคลัมเนียพิคเจอร์และจิม เฮนสัน ประกาศที่จะทำแอสโตรบอย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำ ในปี 2005 เจแปนไอเม็กจึงเริ่มงานสร้งโดยยึดต้นฉบับการ์ตูนในปี 2003-2004 ในชื่อว่า Astro Boy/Tetsuwan Atomu--- Visits rhe person,IGZA—100,000 Light Years Away ! สำหรับฉายในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังมีการสร้างเป็นซีรีย์ฉายทางภาพยนตร์ในปี 1980 และ 2003 และในปี 2009 นี้ก็จะเป็นการ์ตูนฮอลลีวูด โดยเดวิด โบเวอร์ ผู้ให้เสียงพากย์ ล้วนแต่เป็นดาราดังๆ อย่าง คริสตีน เบลล์ นิโคลัส เคจ นาทาน เลน มีกำหนดฉายเดือนตุลาคม 2009 นี้

ข้อมูลจาก wikipedia



Create Date : 22 มกราคม 2552
Last Update : 30 มกราคม 2552 9:23:32 น. 1 comments
Counter : 2065 Pageviews.

 
เจ้าแม่ข้อมูลจริงๆ


โดย: เซียวเล่งนึ้ง (เซียวเล่งนึ้ง2006 ) วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:23:51:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Baan Mangkut
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนอยากรู้ไปหมดทุกเรื่อง จึงชอบค้นคว้า ทดลองเพื่อให้ได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้

ชื่อ "มังคุด" มาจากแมวน้อยสีเทา บางคนก็บอกว่ามันคือสีสวาด ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว จึงไปไหนมาไหนไม่สะดวก โลกของมังคุดคือ "บ้าน"

บ้านของมังคุดประกอบไปด้วย คุณแม่ คุณตา คุณยาย และพี่ๆ สี่ขา ได้แก่ พี่สาวมะลิ พี่ขนมตาล พี่น้อยหน่า คุณป้าถุงเงิน และคุณยายมะขาม กับคุณหมาๆ อีก 4 ตัว คือ คุณซาลาเปา คุณดาร์กี้ น้องตังเมและแตงโม
แวดล้อมไปด้วยกองหนังสืออีกมากมายที่อ่านไปแล้วเกือบทุกเล่ม แต่ก็ยังไม่หมดซะที

ส่วน "มะลิ" เป็นชื่อแมวน้อยสีขาว พี่สาวมังคุด ซึ่งโลกของเธอคือสวนและต้นไม้เล็กๆ หน้าบ้าน มะลิมักชอบลับเล็บกับเถาพวงคราม จากนั้นจะปีนขึ้นไปอาบแดดบนหลังคาโรงเก็บของของคุณตา ช่วงหน้าร้อนจะมีนกอีแพรด (คุณตาบอก) สองตัวคอยบินโฉบหัวมะลิทุกเช้าและบ่าย โดยที่มะลิไม่เคยจับมันได้ ยกเว้นบางครั้งที่แอบไปเอาลูกนกจากรังกลับบ้านไปให้คุณยายช่วยเลี้ยง ซึ่งก็ตายทุกที
Friends' blogs
[Add Baan Mangkut's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.