+++ Food Photography Workshop at Sangdee Gallery & Cafe' +++
Food Photography Workshop at Sangdee Gallery & Cafe' สวัสดีค่ะ มากับเช้าวันจันทร์ที่สดใส อิอิ ... วันนี้ไม่มีขนมมาฝากนะคะ แต่ว่ามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ เมื่อวันเสาร์เกดได้มีโอกาสไปร่วม workshop การถ่ายภาพที่ " แสงดีแกเลอรี่แอนด์คาเฟ่ " มาค่ะ งานนี้ต้องขอขอบคุณ " พี่หม่าว ...... Factory Girl " พี่สาวที่น่ารักที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้น้องได้ไปร่วมทำเวิร์คชอปดี ๆ อย่างนี้นะคะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมเวิร์คชอปถ่ายรูปที่เสียเงิน ... ฮ่าๆๆ โดยปกติการถ่ายรูปหลาย ๆ คนอาจจะมีประสบการณ์แบบเกดคือ หัดถ่ายเอง ถามจากเพื่อน และอ่านหนังสือเอง .... จากนั้นก็พัฒนาการถ่ายรูปเองนะคะ สำหรับการไปร่วมเวิร์คชอปในครั้งนี้เกด อาจารย์ผู้สอนก็คือคุณ Marisa Marchitelli หรือว่าคุณจ้า ค่ะ ซึ่งเป็นเจ้าของ Sangdee Gallery & Cafe' สำหรับใครที่สนใจนะคะ สามารถร่วมเป็นแฟนได้ในเฟซบุคค่ะ Sangdee Gallery & Cafe' on Facebook ซึ่งจะมีกิจกรรมดี ๆ มาให้ได้ร่วมเรื่อย ๆ นะคะ สำหรับเวิร์คชอปในครั้งนี้ก็จะมีภาคการบรรยายและปฏิบัติให้เราได้ลงมือฝึกปฏิบัติจริง ค่ะ การเรียนไม่ได้เรียนเพื่อใช้กล้องนะคะ แต่ว่าเป็นการเรียนว่าถ่ายรูปอาหารควรถ่ายอย่างไร คลาสนี้เป็นคลาสภาษาอังกฤษค่ะ .... มีเพื่อน ๆ มาเวิร์คชอปทั้งหมด 10 คน เป็นต่างชาติซะครึ่ง เริ่มอึ้ง อึ้ง ... แต่ว่าก็สู้โว๊ย สาวเชียงใหม่.... ไม่กลัวภาษาอังกฤษ (อยากบอกว่าเกดเป็นคนที่อ่อนเรื่องภาษาค่ะ แหะๆ ) สรุปเรื่องการถ่ายรูปอาหารมาโดยรวมเลยละกันนะคะ ว่าปกติการถ่ายทำภาพอาหารควรจะต้องมีอุปกรณ์และเทคนิคที่ต้องคำนึงดังต่อไปนี้ Food Photography Technical Concern 1. ASA / ISO (ความไวแสง) คือความสามารถในการรับแสงของฟิล์มสำหรับถ่ายภาพ หรือเซนเซอร์รับภาพของกล้อง ความไวแสงสูงๆ จะทำให้รับแสงได้เร็ว สำหรับ ISO ที่ใช้ควรจะใช้ ISO ต่ำ เพราะว่าวัตถุที่เราต้องการถ่ายนั้นอยู่กับที่ ตรงนี้ใครสงสัยสามารถไปอ่านได้นะคะ มีหลายเวปที่แนะนำเช่น //www.taklong.com , //www.ohophoto.com 2. Tripod หรือว่าขาตั้งกล้องนั่นเอง เพราะว่าจะช่วยทำให้เราถ่ายรูปได้ง่าย มือไม่สั่น รูปที่ได้มีความคมชัดค่ะ 3. Lense เลนส์สำหรับถ่ายรูป โดยปกติก็จะใช้เลนส์ที่มีระยะโฟกัสเดียวหรือว่า Fixed Focus 4. F-Stop ค่ารูรับแสงของกล้องค่ะ ค่าตัวรูรับแสงได้จากอัตราส่วนความยาวโฟกัสของเลยส์กับเส้นผ่านศูนย์กลาง ค่า F ก็จะเป็นตัวเลขเช่น 1, 1.4, 1.8, 2.8, 5.6, 8, 11, 16, 22, 32 ซึ่งถ้าตัวเลขมากก็จะทำให้แสงผ่านได้น้อย ค่าตัวเลขน้อยแสงผ่านได้มาก เช่นเราใช้ F เท่ากับ 2.8 ถาพที่ได้ก็จะเป็นแบบหน้าชัดหลังเบลอ ยิ่งค่า F ยิ่งน้อยไปเท่าไหร่ก็ยิ่ทำให้ความเบลอด้าหลังมากขึ้นเท่านั้น 5. Shutter Speed ความเร็วของชัตเตอร์ ตรงนี้ถ้าเราใช้ขาตั้งกล้อง ก็สามารถผ่านไปได้เลย เพราะว่าบางครั้งการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ๆ กว่าที่ชัตเตอร์จะถ่ายภาพทีนึงอาจะใช้เวลาเป็น 5-10 วินาที แล้วแต่ว่าแสงมากน้อยขนาดไหน ไม่รู้ว่าเป็นกันบ้างไหมคะ เวลาที่ถ่ายรูปแล้วชอบหยุดหายใจ บางครั้งเกือบตายจนกว่าชัตเตอร์จะลั่นได้ดังแกร๊ก 6. White Balance ค่าสมดุลย์สีขาว ปกติก็จะตั้งให้เป็น AWB หรือว่า Auto White Balance คือให้กล้องปรับค่าโดยอัตโนมัติ อันนี้คือเรื่องคร่าว ๆ นะคะ แต่ว่าถ้าใครที่อยากจะรู้เรื่องโดยละเอียดอาจจะต้องลองเรียนการถ่ายภาพเบื้องต้นดูค่ะ ของเกดมีน้องกอล์ฟแนะนำให้ เลยพอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เรื่องอยู่ดี .... สำหรับเวิร์คชอปการถ่ายภาพก็ได้แบ่งกันเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ 3 คน กลุ่มเกดพิเศษหน่อยก็ 4 คน เป็นคนไทย 2 มีเกดกับพี่อ๋อ พี่พูดอังกฤษได้เริ่ดมาก ... ที่จริงก็พูดกันเก่งทุกคนยกเว้นเกด แหะๆ และก็มีพี่ Mari เป็นคนญี่ปุ่น แล้วก็มีสาวสวยอย่าง Krit ทางคุณจ้าก็ให้เลือกกันว่าจะถ่ายรุปอะไรบ้าง กลุ่มเกดก็เลือก Cake&Cupcake , Noodle, Salad หุหุหุ ..... ลุยกันเลย อันนี้เป็นภาพที่เกดถ่ายนะคะ ..... ทุกอย่างก็ช่วยกันจัดแล้วก็ลองมองผ่านกล้องกันอีกที ซึ่งคนที่ทำเป็นอาชีพจริง ๆ เค้าก็จะใช้การต่อผ่านคอมเลยค่ะ ไม่ได้มองจากกล้อง จะเห็นว่ามีการถ่ายภาพซ้ำ ๆ หลาย ๆ ชอตแต่ว่ามีการเปลี่ยนอุปกรณ์ประกอบฉาก ปรับค่าความสว่าง ปรับการโคลสอัพ ....... อันนี้ต้องลองดูค่ะ โดยปกติเราต้องจัดวางของตกแต่งก่อนที่จะวางอาหารที่เราต้องการถ่ายนะคะ เช่นเค้กที่เป็นครีม ไม่อย่างนั้นอาจจะทำห้ครีมเยิ้มได้ ถ้าเป็นผักก็ทำให้เหี่ยวได้เหมือนกัน อาจจะลองเปลี่ยนภาชนะที่ใส่ดู ซึ่งอาจจะเวิร์คหรือไม่เวิร์คก็ได้ เมื่อเราถ่ายรูปเสร็จก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายก็คือ ..... การตกแต่งภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อให้ภาพมีความสมบูรณ์ขึ้น บางคนอาจจะใช้โปรแกรม Light room, Photoshop, Photoscape ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดกันเลยค่ะ สำหรับเกดใช้ Photoshop ที่ใช้แบบแค่ปรับแสง การcropภาพบางส่วน นอกนั้นใช้ไม่เป็นค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็เปิดเอาจากหนังสือทำดูค่ะ มาดูภาพที่ถ่ายเสร็จแล้วนะคะ ภาพนี้ไปถ่ายมาจากของเพื่อนกลุ่มข้าง ๆ ค่ะ .... จัดได้เก๋มาก ๆ เป็นของแบคกราวน์ของพาสต้าค่ะ .... จากของสิ่งเดิม .... เพียงแต่ว่ามีการโคลสอัพเข้าไปอีกนิด ภาพคัพเค้ก ...... ของเอสแอนด์พี อันนี้ไม่ได้ทำเองนะคะ ภาพคัพเค้กเหมือนกัน ...... การวางองค์ประกอบต่างกัน เรื่องของสีสันก็มีส่วน .... ไม่ควรให้มากเกิน หรือน้อยเกิน ภาพนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเท่าไหร่ ..... อาหารหรือว่าขนมที่ทำเป็นชิ้น ควรจะไม่มีเป็นเศษ ๆ แบบนี้ อย่างที่เห็นมีครีมเหลือ ๆ ในจาน ทำให้เค้กดูหมดความน่าทาน ถ้าให้ดีควรตัดเป็นชิ้นแล้ววางไว้ดีกว่า บางครั้งอย่างขนมที่เราอยากให้เห็นว่าเราทาน ควรใช้มือบิมากกว่าใช้ฟันกัด พระว่าเวลาเราใช้ฟันกัด อาจจะเห็นรอยฟันทิ้งไว้ ทำให้คนอื่นที่มองภาพที่เราถ่ายแล้วอาจจะเกิดความไม่น่ากินก็เป็นได้ ภาพของข้าวซอย .... ที่มีส่วนประกอบของเครื่องเคียงที่ทำให้มีสีสันชวนทานมากขึ้น ภาพข้าวซอยที่คีบขึ้นมา ..... แอบมีสีตัดกันนิดหน่อยของสีเหลืองด้วยสีม่วงของหอมแดง ลากันด้วยภาพสุดท้ายด้วยภาพสลัด ....... ที่มีสีสันสดใส สำหรับการที่จะถ่ายภาพนั้นต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนค่ะ หาความรู้ใหม่ ๆ ซึ่งไม่ต่างกับการทำขนม ที่จะต้องหาสูตรและลองพลิกแพลงดัดแปลงเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ ของเปิดหูเปิดตามอง เปิดใจให้กว้างเพื่อพบกับสิ่งที่แปลกไปกว่าสิ่งที่เราพบเห็นทุกวัน ขอบคุณค่ะ ปล. อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ของวันแม่ เตรียมพบกับ How to ทำเค้กมาลัย นะคะ
Create Date : 19 มกราคม 2555 |
Last Update : 19 มกราคม 2555 16:02:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 802 Pageviews. |
|
|