Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 

อาวุธเคมีซีเรีย ใครอยู่เบื้องหลัง



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ว่าคลิปภาพร่างผู้เสียชีวิตชาวซีเรีย

กว่า 1,300 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็กนอนเรียงราย

อยู่ตามพื้นบ้าง และถูกห่อด้วยผ้าขาวบ้าง

ท่ามกลางผู้ปกครองที่ร่ำไห้อย่างหนัก

พร้อมเสียงร้องตะโกนของผู้คน

จำนวนมากที่ดังไปทั่วว่า "อาวุธเคมี!" พร้อมกับขอให้

ผู้ที่อยู่แถวนั้นรีบหาที่หลบภัย และสวมหน้ากาก

ป้องกันการสูดควันพิษ สร้างความตกตะลึงไปทั้งโลกว่า

กำลังเกิดอะไรขึ้นที่ "ซีเรีย"


เป็นฝีมือของใคร

แน่นอนว่าไม่มีฝ่ายใดออกมายอมรับว่าเป็นผู้ส่งอาวุธสังหาร

ที่เป็นจรวดบรรจุสารพิษหลายลำถูกยิงมาจากสถานที่

ที่ไม่มีใครทราบ แล้วมาตกลงที่เขตโกตา

ทางตะวันออกของกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 ส.ค.

แต่ประชาคมโลกพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลภายใต้การนำ

ของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด โดยอัตโนมัติ

เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มกบฏ

ซึ่งกองทัพรัฐบาลกำลังพยายามยึดคืน อย่างไรก็ตาม

นายอิมราน อัล-ซูบี รมว.กระทรวงข่าวสารซีเรีย

ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของเลบานอนว่า

คลิปที่ออกมาเป็น "การแสดง" ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว

และเป็นความพยายามสร้างกระแสโจมตีฝ่ายรัฐบาล


ทำไมต้องตอนนี้

เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่คณะผู้ตรวจสอบ

ด้านอาวุธเคมีของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เดินทางถึงซีเรีย

เมื่อวันจันทร์ เพื่อตรวจสอบเรื่องการใช้อาวุธเคมีใน 3 เมือง

ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค. และทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ศพ

กระตุ้นให้ยูเอ็นออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์

ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ขณะที่ผู้รอดชีวิตหลายคนกล่าวอย่างกังวลว่า

เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นคงมาช่วยพวกเขาไม่ได้แล้ว

เพราะอัสซาดรู้ว่า ทีมงานของยูเอ็นจะไปที่ไหนบ้าง

และที่ทำแบบนี้ก็เพื่อขัดขวางยูเอ็น


ท่าทีสหรัฐ-รัสเซีย

เมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ

กล่าวอย่างตรงไปตรงมาครั้งแรกว่า รัฐบาลซีเรียกำลัง

"ล้ำเส้น" ด้วยการใช้อาวุธเคมี ซึ่งวอชิงตันถือเป็นแรงผลักดัน

ให้ตัวเองต้องมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่กลุ่มกบฏ

แน่นอนว่ารัสเซียต้องออกมาขัดขวาง ด้วยการกล่าวว่า

ฝ่ายกบฏเองก็ใช้อาวุธเคมีเช่นกัน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในครั้งนี้ สหรัฐออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง

ขณะที่รัสเซียกล่าวในเชิงอย่าเพิ่งกล่าวหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ควรรวบรวมข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อน


มุมมองผู้เชี่ยวชาญ

ศาสตราจารย์อเล็กซานเดอร์ เคคูเล

จากสถาบันจุลชีววิทยาคลินิก มหาวิทยาลัยฮัลเลอในเยอรมนี

กล่าวว่า เหยื่อทั้งหมดมีอาการป่วยของโรคทางเคมีต่อระบบประสาท

ไม่ใช่สารพุพองตามร่างกายจากสารเคมี อาทิ แก๊สมัสตาร์ด

ที่ใช้เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่เขายังไม่เห็น

รูม่านตาของเหยื่ออย่างชัดเจน ว่าหดเล็กลงเท่ารูเข็มหรือไม่

ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของการได้รับสารพิษจำพวก

ออร์กาโนฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสารพิษร้ายแรง


ด้านศาสตราจารย์พอลลา วันนินเนน จากสถาบันเวอริฟิน

ในฟินแลนด์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมี กล่าวแสดงความสงสัย

ในขั้นตอนการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เนื่องจากผู้ที่เข้าไปช่วย

ทั้งหมดแทบไม่มีใครสวมเสื้อคลุม หรือหน้ากากป้องกันเลย

ซึ่งเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษด้วยอย่างมาก


ขณะที่นายฮามิช เดอ เบรตตัน-กอร์ดอน ผู้เชี่ยวชาญ

ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งเคยทำงานให้กับหน่วยงาน

ต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษ กล่าวว่า การที่ผู้เสียชีวิต

ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ถือเป็นเรื่องบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า "บางสิ่ง"

ที่เลวร้ายกว่าเดิมกำลังเกิดขึ้นแล้วในซีเรีย

แต่สิ่งนั้นคืออะไร คงต้องใช้เวลาพิสูจน์อีกนานพอสมควร


.............................................


อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2556




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2556
0 comments
Last Update : 27 สิงหาคม 2556 13:01:59 น.
Counter : 1421 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ART19
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]





ความเสมอภาคที่แท้จริง คือ
การที่ทุกคนต้องมีหน้าที่
การทำหน้าที่ของตนเอง
จะเป็นสิ่งที่กำหนดว่า
เราควรได้รับอะไร แค่ไหน
Friends' blogs
[Add ART19's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.