All Blog |
เดินได้เร็วแค่ไหน เมื่อหลายปีมาแล้วสมัยที่ยังทำงานในป่าเขา มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำงานลากยาวจน เกือบค่ำโดยที่ไม่มีพาหนะอยู่ใกล้ตัว เป็นเหตุให้ต้องเดินกลับแคมป์ เนื่องจากไม่มีใครมีไฟฉายติดตัวเพราะไม่คิดว่าจะเลิกงานเอาเย็นย่ำปานนั้น พอตะวันโพล้เพล้จึงต่างเริ่มใจไม่ดีเพราะในป่าอย่างนี้เมื่อมืดแปลว่ามืดจริงๆ มืดชนิดที่ยื่นมือมาข้างหน้ายังมองไม่เห็น พวกเราจึงจ้ำกันจนสุดฝีเท้าเพื่อจะให้ถึงแคมป์ก่อนที่จะสิ้นแสง คนที่นำหน้าลิ่วคือคนงานชาวท้องถิ่นที่เราจ้างมาช่วยแบกหาม จำได้แม่นยำว่าหมอนั่นเดินเร็วจนผมแทบจะต้องวิ่งเหยาะตามทั้งที่เขาช่วยแบกเครื่องมืออยู่ ระยะทางไม่กี่กิโลนั่นทำเอาหอบและเหงื่อโทรมทั้งที่อากาศเริ่มเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ เพิ่งเข้าใจวันนั้นเองว่าที่โบราณว่าเดินจนขาขวิดนั้นเป็นอย่างไร เมื่อมาเริ่มเดินออกกำลังกาย ลองจับเวลาและระยะทางดู พบว่าแม้เดินเร็วจนขึ้นไปแตะที่ 9 นาทีต้นๆต่อ ก.ม.แล้ว ยังไม่รู้สึกว่าเร็วและเหนื่อยเท่าวันนั้น อันนี้คือเดินด้วยท่าธรรมชาติที่คนทั่วไปจะพึงเดิน ไม่ใช่เดินแบบบิดสะโพกอย่างนักกีฬาเดินเร็วแข่งขันกัน สำหรับหารเดินแบบแข่งขันนั้นเมื่อลองค้นข้อมูลดู วิกิพีเดียบอกว่า สถิติโลกของการเดินเร็วประเภท 50กิโลเมตรชาย อยู่ที่ 3:32:33 ชั่วโมง 3 ชั่วโมงเศษๆกับระยะทาง 50 ก.ม. ถ้าเทียบบัญญัติไตรยางศ์ดื้อๆ สมมุติว่าคุณ โยฮาน ดินิสที่เป็นเจ้าของสถิติเดินด้วยความเร็วสม่ำเสมอ แกจะมีเวลาเฉลี่ยต่อกิโลเมตรที่ประมาณ 4 นาทีกับอีก 15 วินาทีเศษ และจะเดินครบระยะทางมาราธอนที่เวลาประมาณ 3ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนนักกีฬาหญิงทราบว่าจะมีการแข่งในระยะทาง50 ก.ม. ในอนาคตอันใกล้นี้ ปัจจุบันนักกีฬาหญิงแข่งขันกันที่ระยะทาง 20 ก.ม. เจ้าของสถิติคือสาวชาวจีนชื่อ หลิว หง ที่เวลา 1: 24 : 38 ชั่วโมง สำหรับนักวิ่งเพื่อสุขภาพทั่วไป ใครที่วิ่งฮาล์ฟมาราธอนหรือ 21 ก.ม.ด้วยเวลาใกล้เคียงคุณหลิวถือว่าอลังการมากทีเดียว ส่วนเราๆ ท่านๆที่เดินเพื่อสุขภาพและไม่มีโค้ชฝึกสอนคงเดินได้ไม่เร็วปานนั้น ตั้งเป้าหมายแค่ 8 นาทีเศษๆต่อกิโลเมตรก็น่าจะพอแล้ว แค่นี้ก็ไม่ง่ายหรอก |
Link |