Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

แอนเดอร์สัน กับ น้องแอ๊บ

บล็อกนี้แบบว่าคันปากอยากเม้าท์เรื่องเพื่อนที่เรียนภาษาจีนในห้องเดียวกันสักหน่อย เพื่อนคนแรก ชื่อแอนเดอร์สัน 安的孙 เป็นหนุ่มน้อยชาวแองโกล่า ที่ตั้งใจว่าจะมาศึกษาหาความรู้ด้านภาษาจีน และเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่เมืองจีนโดยไม่จะกลับประเทศเลย ถ้าเรียนไม่จบ ระยะเวลารวม ๆ คร่าว ๆ ก็ประมาณ 5 ปี คิดดูแล้วกันว่าเธอมุ่งมั่นแค่ไหน





แอนเดอร์สันเป็นคนตั้งใจเรียนมาก กล้าเขียนอย่างนี้เพราะพลได้เรียนร่วมชั้นกับแอนเดอร์สันมาตั้งแต่เมื่อเทอมที่แล้ว เท่าที่จำได้เนี่ยเทอมที่แล้ว แอนเดอร์สัน ไม่เคยขาดเรียนเลยสักวันเดียว ในขณะที่คนอื่น แตะมือกันขาดเรียนเป็นระยะ ๆ แถมนั่งเรียนก็นั่งข้างหน้า ถ้ามีอะไรไม่รู้ ไม่แน่ใจ ก็กล้าพูดกล้าถามเหล่าซือ บางทีเหล่าซือหาอาสาสมัครอ่าน หรือเขียนอะไรสักอย่าง แอนเดอร์สันเห็นไม่มีใครพูดอะไรสักที เธออาสาสมัครทำเองสะงั้น เรียกว่าถ้าใครมีนักเรียนอย่างแอนเดอร์สันนี่ น่ามาสอนทุกวันจริง ๆ



เทอมนี้พลยังได้เรียนห้องเดียวกะแอนเดอร์สันเหมือนเดิม ถือว่าโชคดีอย่างนึงเชียวละ แถมเธอเปลี่ยนที่นั่งมานั่งหน้าพลสะงั้น (พลนั่งอยู่แถวรองสุดท้ายหลังห้อง) เวลามีศัพท์คำไหนแอนเดอร์สันไม่เข้าใจ ก็จะหันมาถามพล อันไหนตอบได้ก็ตอบ อันไหนตอบไม่ได้ก็เปิดดิคให้ดู เป็นอันชอบใจกันทั้งสองฝ่าย แถมไม่รู้เป็นไง อีแอนเดอร์สันเนี่ย ชอบมาขอหมากฝรั่งพลกินสะด้วย สงสัยมันชอบของฟรี ใคร ๆ ก็ชอบวะน้อ เมื่ออาทิตย์ก่อน วันเกิดแอนเดอร์สัน พลเลยซื้อหมากฝรั่ง กับ นมให้อย่างละกล่อง เป็นอันชอบใจกันทั้งคนให้และคนรับ





แอนเดอร์สันจะมาเรียนเช้าเป็นอันดับแรก ๆ ของห้องเสมอ มีอยู่วันแอนเดอร์สันมาเรียนช้ามาก ช้ากว่าพลอะ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พอมาถึงห้อง พลเลยพูดกับแอนเดอร์สันว่า วันนี้ฉันนึกว่าเธอจะไม่มาเรียนสะแล้ว เธอก็ตอบว่า มาสิ มาแน่นอน ฉันจะมาเรียนทุกวัน ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้น ป่วยก็ต้องมาเรียน ยังไงก็ต้องมา แต่ปรากฏว่ามีอยู่วัน แอนเดอร์สันไม่มาเรียนสะงั้น ถามรูมเมท 同屋 ของแอนเดอร์สันก็ได้ความว่าแอนเดอร์สันไม่สบาย เลยไม่สามารถมาเรียนได้ พอวันรุ่งขึ้นพลก็เลยแซวแอนเดอร์สันว่า ไหนเธอว่าไม่สบายก็จะมาเรียนไง เธอก็ยิ้มแหะ ๆ ตอบพลว่า เมื่อวานฉันไม่สบายหนัก เลยมาไม่ได้





แอนเดอร์สันเป็นคนตั้งใจเรียนมากอย่างที่บอก แถมขยันคัดลายมืออีกต่างหาก เธอจะมีสมุดอยู่เล่ม คัดภาษาจีนเยอะมาก แล้วจากที่ดู เธอคงคัดทุกวัน ส่วนเวลาเรียน เธอจะไม่ชอบคุยไร้สาระ มีอยู่ครั้ง น้องแอ๊บ (เธอเป็นใคร เดี๋ยวจะบอกทีหลัง) มานั่งกับเธอ แล้วหันมาคุยกะพลซึ่งนั่งอยู่ข้างหลัง แอนเดอร์สันคงฟังเหล่าซือพูดไม่รู้เรื่อง รีบหันมาบอกเลยว่า ฟังครูสิเธอ 听听ทำเอาพลอายแอนเดอร์สันไปเลยว่า เออน้อ คนตั้งใจเรียนแต่พลมาทำให้เค้าเสียสมาธิ และทุกวันอย่างที่บอกว่าแอนเดอร์สันจะมาเรียนเช้า ส่วนพลซึ่งมาสาย เวลามาถึงแล้วเห็นเพื่อนในห้องทำอะไรกันอยู่ พลก็จะถามแอนเดอร์สันว่าเค้ามีอะไร ทำอะไรกัน แอนเดอร์สันจะต้องหันมาพูดกับพลทุกทีเลยว่า สวัสดีทรงพล 你好 ทำเอาพลรู้สึกว่าเออ ตัวกูนี่ไม่มีมารยาทเอาสะเลยน้อ เช้า ๆ เจอกันไม่รู้จักทักทายสวัสดีเพื่อนก่อนเลย จบเทอมนี้แล้ว แอนเดอร์สันก็ว่าจะเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ปักกิ่งต่อ ซึ่งพลมั่นใจแน่นอนว่าแอนเดอร์สันทำได้แน่นอน (ถ้าภาษาจีนเธอดีขึ้นนะ ) แล้วก็ดีใจที่มีเพื่อนอย่างแอนเดอร์สัน ทำให้การเรียนในห้องไม่น่าเบื่อ อยากไปเรียนทุกวันก็เพราะมีเพื่อนอย่างแอนเดอร์สันนี่แหละ



เพื่อนในห้องคนต่อมาที่อยากจะเม้าท์มอยให้ฟัง ก็คือ น้องแอ๊บ เป็นหญิงไทยตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก มองเผิน ๆ เหมือนคนจีนเลยละ ครอบครัวเธอเป็นครอบครัวไทยเชื้อสายจีนที่มีฐานะ น้องแอ๊บ เป็นยังไงเวลาอยู่ในห้อง ถ้าจะพูดให้เคลียคือ ตรงกันข้ามทุกอย่างกับแอนเดอร์สัน



เหตุที่เรียกเธอน้องแอ๊บเนี่ย เป็นเพราะว่าเมื่อเทอมแรกที่เรียนร่วมห้องกัน เธอซึ่งอายุก็พอตัวอยู่แล้วนั้น (ซึ่งขัดกับเพื่อนส่วนใหญ่ในห้องที่เกือบทั้งหมดอยู่ในวัยทีน ส่วนพลแก่สุด ) บอกกับพลว่า พี่พลเรามาแอ๊บเป็นเด็กกันเถอะ พลก็แบบไม่ไหวจะเคลียนะจ๊ะน้อง พี่แอ๊บไม่ไหวแล้ว ถึงแม้จะใจรักแต่ใบหน้ามันไม่ให้ และอีกอย่างคือ เสียงเธอเวลาพูด กับเวลาอ่านหนังสือในห้อง มันขัดกันอย่างแรงงงงงงงง คุยกันปกติเสียงก็เหมือนทั่ว ๆ ไป แต่เวลาเหล่าซือเรียกเธออ่านหนังสือปุ๊บ เสียงเธอจะเปลี่ยนปั๊บ เป็นเหมือนเด็กน้อยที่อ่านหนังสือไม่ค่อยออก ต้องมีคนคอยบอก แต่ถึงจะมีคนบอกเวลาเธออ่านไม่ออก เธออาจจะหูไม่ดี ก็ไม่ยอมอ่านตามที่เพื่อนบอกสักที ด้วยเหตุนี้ เลยพลเลยถือวิสาสะตั้งชื่อใหม่ให้เธอว่า น้องแอ๊บ



เวลาอยู่ในห้อง น้องแอ๊บจะมีกิจกรรมมาทำให้หายเบื่อกับการเรียนหลายอย่างมาก อาทิเช่น กิน เล่นโทรศัพท์ ออกไปคุยโทรสับนอกห้อง (ในเวลาเรียน) หรือถ้าเบื่อมาก ๆ ก็นอนมันในห้องนั่นแหละ คำศัพท์ใหม่ ๆ นะหรอ ไม่ได้แอ่มน้องแอ๊บหรอก ไม่รู้จัก ไม่เเคยเตรียมบทเรียนมาก่อน ไม่เคยทำการบ้าน ไม่เคยคัดลายมือ เวลาเรียนในห้อง เหล่าซือจะเรียกนักเรียนทุกคนเรียงลำดับกันไป ให้พูด ให้อ่านคำศัพท์ กันทุกคน แต่หลายครั้งที่ถึงตาน้องแอ๊บ เธอจะมีคำพูดติดปากว่า หนูอ่านไม่ได้คะ 我不会 ตลอดดดดดดดดดด หรือไม่ก็ อึ๊อือ เป็นอันรู้กัน ว่าต้องข้ามเธอไปสะ หรือบางทีพอใกล้ถึงตัวเธอ ก็ออกไปนอกห้องสะงั้น หรือไม่ก็นอนมันเอาหัวพาดโต๊ะนะแหละ จะได้ไม่ต้องเรียก นอนนี่นอนเอาจริงเอาจังเลยนะ บางครั้งตื่นมา หน้าเป็นรอยยับตามขอบหนังสือเลยแล้ว



เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนรุ่นน้องคนนึงบอกพลว่าน้องแอ๊บเป็นเด็กทุนนะจ๊ะเธอ พลก็แบบเฮ่ยใช่หรอ เค้าออกจะดูดีมีฐานะ จะมาด้วยทุนได้ไงแก บ้านเค้าคงส่งมามั้ง เพื่อนก็ว่า จริง ๆ นะเธออยู่หอเก้า (หอสำหรับเด็กทุนเท่านั้น) พลก็แบบว่าไม่น่าเป็นไปได้อะ เพราะดูเธอไม่สนใจเรียนใด ๆ เลย เคยคุยกันเธอก็ว่า เรื่องเรียนเนี่ย เธอไม่ซีเรียสนะ เรียนขำ ๆ ไม่สนว่าจะต้องพูดได้คล่องปรื๊ออะไร ไม่เอาไม่สนใด ๆ ทั้งสิ้น สนแต่สิ่งบันเทิงเริงใจอย่างอื่นมากกว่า มีอยู่ครั้งเธอชวนเพื่อน ๆ ในห้องว่าน่าจะทำความรู้จักกันมากกว่านี้โดยการไปดื่มด้วยกันตอนกลางคืน จากวันที่เธอชวนจนถึงวันนี้ พลยังไม่เคยไปกับเธอเลย สรุปกับน้องแอ๊บเนี่ย เรื่องเรียนอย่าไปคุยอะไรกะเธอ ถ้าคุยเรื่องกิน ดื่ม เที่ยวเนี่ย เธอจะคล่องกว่าคุยเรื่องเรียน เรียกว่าแนวใครแนวมันว่างั้น



เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้คุยกันเรื่องเธอเป็นเด็กทุนหรอ เธอก็ตอบว่าใช่คะ หนูเป็นเด็กทุนของกระทรวง..... พลก็ว่าเออเก่งวะ เธอก็ว่า เอาจริง ๆ นะพี่ พ่อหนูมีคนรู้จักอยู่ในกระทรวง เค้าเก็บทุนนี้ไว้ให้หนูเองแหละ ไม่ต้องไปสอบแข่งกับคนอื่น ส่วนเด็กทุนของกระทรวงอีกสองคนนะ กลับไปเมืองไทยก็ต้องไปทำงานใช้ทุนด้วยนะพี่ หนูไม่ต้อง พลก็เฮ่ย เป็นเด็กทุน ก็น่าจะตั้งใจเรียนกว่านี้หน่อยนะ (เพราะความที่ไม่เคยดูหนังสือ บ่อยครั้งเลยที่น้องแอ๊บหันมาถามพล ทั้ง ๆ ที่ศัพท์นั้น ๆ เรียนไปแล้ว) ให้สมกับทุน เธอก็ตอบว่า ไม่รู้สิ หนูไม่คิดว่าการเรียนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พลก็อ้าว แล้วอย่างนั้นจะไปเอาทุนเค้ามาทำไม ทำไมไม่ให้คนที่เค้าอยากได้จริง ๆ มาละหนู เธอก็ว่า ก็แหมพี่ มีคนเอาทุนมายื่นให้ตรงหน้าแล้วจะไม่เอาหรอ (เธอก็พูดถูกของเธออะน้อ) พลเลยจบข่าว ห่าจิก อีช้างฟาด



เรื่องของ แอนเดอร์สัน กับ น้องแอ๊บ ก็เป็นด้วยประการฉะนี้แล ความเหมือนที่แตกต่าง

ปอลอ เมื่อไรระบบเส้นสายต่าง ๆ จะหมด หรือ น้อยลงไปจากประเทศไทยที่รักสักทีน้อ




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2553
15 comments
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 11:59:34 น.
Counter : 899 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 16 พฤษภาคม 2553 11:22:03 น.  

 

อื้มมนะ คนแบบนี้ก็มีด้วยเนอะ น่าเสียดายทุนแทนกระทรวงนั้นจังเลยนะคะ

 

โดย: เก่ง (keng_toshi ) 16 พฤษภาคม 2553 15:43:53 น.  

 

บอกได้คำเดียวว่า "เสียดาย" ....

ปล. ขำค่ะ "พลเลยจบข่าว ห่าจิก อีช้างฟาด" ด่าได้สะใจดี...

 

โดย: Honey and Moonney 16 พฤษภาคม 2553 16:08:11 น.  

 

เออ อีช้างฟัดจริงๆเลย คนที่ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือตาแทบหลุด แต่อีช้างฟัด เป็นเสียอย่างนี้ ภาษีตรูทั้งนั้นน่ะ (ทุกวันนี้เรายังจ่ายภาษีที่เมืองไทยเน้อ ก็มีกิจการมีที่ดิน ก็ต้องจ่ายไป ไม่หลบ ไม่หนี เหมือนใครบางคนหรอก มีหน้าที่จ่ายก็ต้องจ่าย)


แต่เราชื่นชมแบบแอนเดอร์สันนะ เพราะตอนที่ก้อเรียนที่เมืองไทย หรือ ที่ไอร์แลนด์ เวลาเรียนนี่ตั้งใจมาก แล้วไม่คุยเลย ไม่ชอบคุยในเวลาเรียน แต่ถ้าเลิกเรียนแล้วเม้าท์แตกได้เลย คือกลัวเสียสมาธิ


พี่พลจ๊ะ น้องก้อไม่ได้แก่ขนาด เถาะ หรือ มะโรงจ้า อ่อนลงมาอีกหน่อย คริคริ แต่รุ่นๆ เดียวกันนั่นแหละ


ตอนนี้เพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันบอกว่า หน้าประมาณยี่สิบสาม ส่วนที่เหลือ ฝากแบงค์ใหนไว้ก็ไม่รู้ ต้องไปถอนคืนแล้ว

ปอลิง

สูตรบร็อคโคลี่ เอาไปลองแล้วเป็นไงบ้าง แจ่มม่ะ ไม่เหมือนแต่แก้ขัดได้ ช่วงนี้ก้อไม่ค่อยติดขัดอาหารไทย เพราะชอบไปแจมบ้านเชฟร้านอาหารไทยบ่อยๆ ผลพลอยได้คือ น้ำหนักเพิ่มอีกแล้ว น่าจะอยู่แบบอดอยากบ้างจะได้ผอม

ส่วนเรื่องเมืองไทยเหรอ ปลงแล้ว ช่วงนี้น้องสาวมาทัวร์ยุโรป เลยไม่ห่วงเท่าไหร่ แต่วันอังคารกลับแล้ว ไปหลบกระสุนต่อ น่าสงสารชีวิตนักข่าวไทย เงินเดือนราชการ ทำงานยิ่งกว่า ฉนวนกาซ่า ค่าเสี่ยงภัยไม่มี

 

โดย: ก้อ IP: 88.151.27.234 16 พฤษภาคม 2553 20:25:08 น.  

 

หวัดดีจ้าพล....

น้องแอ๊บนี่ เดาว่าอนาคตคงมีพรมกลีบกุหลาบปูรอไว้เรียบร้อย ถึงได้ไม่อนาทรร้อนใจในการใฝ่หาความรู้ใส่ตัวเลย

เห็นผมน้องแอนเดอร์สันแล้วก็เนอะ ตอนยังไม่ถักเปียเนี่ยก็ไม่ได้ยาวอะไรเลยเนอะ สงสารคนถักอ่ะ คงเมื่อยมือพิลึก

 

โดย: Oops! a daisy 16 พฤษภาคม 2553 21:33:20 น.  

 

ดอกไม้ งาม แต่ทรงผม เริ่ดๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ

 

โดย: Anitapa 17 พฤษภาคม 2553 13:20:15 น.  

 

เป็นความแตกต่างที่เทียบให้เห็นระหว่างคนที่มีความตั้งใจจริง กับคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ .. หรือเปล่า?

เพราะบ้านเรามีระบบอย่างนี้.. เลยทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นค่อนข้างห่าง อีกนานเลยแหละ กว่าระบบนี้จะหายไปจากบ้านเรา ..


ปล. วันแม่เรอะ.. เป็นวันที่น่าจะสบายสำหรับแม่ใช่มะ เรื่องไรจะต้องทำอะไรเป็นพิเศษให้ลูกกิน แค่กอดแน่นๆ หอมสักฟอดก็เหลือแหล่..

 

โดย: ป้าโซ 17 พฤษภาคม 2553 15:28:46 น.  

 

อืมม์ น่าจะเรียกว่า เด็กเส้น...
ฟังแล้วแย่จังครับ ระบบเส้นสายแบบนี้แย่มาก
ล้างผลาญงบประมาณ ตัดโอกาสชาวบ้านชาวเมือง
อิจฉาอ้ายพ๊นนะเนี่ยที่มีเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ

ว่าแต่ตอนนี้ภาษาอ้ายพ๊นไปถึงไหนแล้ว
ถ้าสมมุติจะบอกว่า "ดูแลตัวเองนะ"
ภาษาจีนพูดว่าไงอ่ะอ้ายยย วานบอกที่

.........................................................
ตอบอ้ายพ๊นจากบล๊อกผม
1.ไม่มีการสวดอภิธรรมใด ๆ ครับมีแต่พิธีคารวะศพ
การสวดหรือไหว้แบบเวียตนามจะทำหลังจากฝังศพแล้ว 3 วัน

2.ตอนงานศพทวด จำได้ครับ เพราะผมอยุ่ที่บ้านนั่นตลอด
และได้รับการบอกเล่าเรื่องธรรมเนียมจากยายเสมอ เพราะผมนอนบ้านยายดึก ๆ ก็ถามนั่นนี่ ให้ยายเล่าให้ฟัง
ผมสนใจเรื่องพวกนี้บางทีถามจนยายรำคาญ

3.โลงศพที่ใช้ฝังแบบเวียตนามต้องเป็นไม้เนื้อแข็งแบบในรูปเท่านั้นครับ มีบางกรณีเค้าจะซื้อไม้ไว้ใต้ถุนบ้าน
พอใครเสียชีวิตก็ให้ช่างมาทำ ราคาก็ไม่แพงอย่างซื้อสำเร็จครับ แต่คนจนคนรวย ถึงเวลาก็จะต้องหาให้มีแระ...

4. เป็นรูปพี่แนทไม่ผิดครับ คนเสื้อดำเดินถอยหลัง
ผมเรียกว่า "ยาย" แต่พี่แนทเรียกว่า "ย่า" ครับผม

ปล.สถานการณ์กรุงเทพเลวร้ายที่สุดเลยพี่ ไม่เคยพบเคยเห็น

 

โดย: peeradol33189 17 พฤษภาคม 2553 20:15:30 น.  

 

อ่านบล็อคนี้เเล้วมันเจ็บใจ อยากเห็นหน้าน้องเเอ็บนั่นจัง เนี่ยเเหละน๊า เอาคนที่มีเส้นเเต่ไม่มีความรู้มาทำงานในหน่วยงานบริหารประเทศเนี่ย มันน่าเจ็บใจจริงๆค่ะ ว่าเเล้วก็มีเรื่องเม้าท์ คือๆกันเลยค่ะที่นี่มีนักขี้ทูตที่เอาตำเเหน่งมาทำเรื่องน่าเกลียดค่ะ คือเเบบว่านักขี้ทูตที่นี่เขาเอาลูกสาวของเพื่อนมาทำงานที่นี่(โดยที่เด็กคนนี้มาเเบบวีซ่านักท่องเที่ยว) มาทำในตำเเหน่งที่มีพี่คนไทยคนหนึ่งเขาทำอยู่ด้วยค่ะ เเล้วเขาก็ไม่จ่ายเงินให้พี่คนนี้เฉยเลย เอาไปจ่ายให้ลูกสาวของเพื่อนที่เขาพามา เเถมยังหักเอาเงินเดือนของพนักงานที่ทเป็นพนักงานประจำที่นี่ครึ่งหนึ่งเพื่อเอาไปโปะให้กับลูกสาวของเพื่อนนักขี้ทูตด้วย เจ้าหน้าที่ที่โดนหักเงินก็พูดอะไรไม่ได้เดี๋ยวโดนเด้ง

พอละๆๆๆไม่บ่นๆๆๆ น่าอิจฉาพี่พลนะคะที่มีนักข่าวประจำตัว อย่างนี้ไม่มีพลาดข่าวสารบ้านเมืองเลยนะคะนั่น
ยูทูปที่เมืองจีนบล็อกหรือคะ อิอิอิปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเลยหนูเนี่ย นึกว่าเค้าบล็อกเเต่เฟซบุ๊คกะอากู๋ อย่างนี้ก็อดดูละครไทยๆล่ะสิคะเนี่ย

เรื่องภาษาจีนหนูก็ได้นิดหน่อยค่ะ เคยเรียนสมัยเด็กๆเเต่จำไม่ค่อยได้ละค่ะ เเบบว่าดูตัวหนังสือออก(เดาเอา) เเต่ไม่ได้เรียนตัวเขียนเเบบของเมืองจีนนะคะ หนูเรียนเเบบของไต้หวัน ดังนั้นถนัดฟังของไต้หวันมากกว่าค่ะ ภาษาจีนเเผ่นดินใหญ่เนี่ยฟังไม่รู้เรื่อง เร้ยอาศัยอ่านซับกับฟังประกอบกันถูๆไถๆไป ยิ่งตอนนี้ที่ทำงานหนูก็เปิดดูละครจีนเนี่ยค่ะ เอามันทั้งกวางตุ้งทั้งจีนกลางให้มันตีกันตายไปข้างหนึ่งเลย

มีความสุขกับการเรียนนะคะ

 

โดย: aoiobake 17 พฤษภาคม 2553 20:16:21 น.  

 

อีกนิด...
เด็กผู้ชายผูกผ้าแดง คือน้อง เนอร์ ลูกชายคนโตของพี่แนทเค้าละครับอ้ายพ๊น...

 

โดย: peeradol33189 17 พฤษภาคม 2553 20:17:45 น.  

 

พล.... ประสบการณ์ของพี่ พี่คิดว่า คนเก่งไม่ใช่คนเรียนเก่งและขยันเรียน

แต่เป็นคนที่รู้จักคนเยอะๆ เข้ากับใครแล้วใครๆ รัก คนเรียนดีเป็นคนละอย่างกับคนฉลาดนะครับ คนฉลาดจะคิดแตกต่าง อาจจะไม่ค่อยเรียน ไม่ค่อยมาห้องเรียนเช้า

แต่พวกเหล่านี้ละ เอาตัวรอด และเมื่อทำงานมักจะก้าวหน้ากว่าคนที่มาเรียนเช้า

ไม่เชื่อ ไม่ว่าอะไร นะ พี่อาจจะคิดแตกต่าง เท่านั้น

แต่ เป็นประสบการณ์ตรง ของพี่ ของเพื่อนพี่ล้วนๆ ซึ่งเป็นแบบนี้เยอะ

พวกขยันเรียน มาแต่เช้า แล็กเชอร์จดละเอียด สอบได้คะแนนสูง พวกเหล่านี้ จะไม่ค่อยคุยกับใคร จะตั้งใจฟังครู นั่งหน้าสุดของห้อง จะมุ่งแต่ทำการบ้าน มุ่งแต่จะอ่านเพิ่มในห้องสมุด

ใครชวนไปกิน ชวนไปเที่ยวไหน จะไม่ไป ใครขอลอกแลกเชอร์ จะมีข้ออ้าง แต่ความหมายเบื้องหลังข้ออ้าง คือจะไม่อยากให้อะไรกับใคร เป็นพวกที่รักตัวเอง ไม่อยากจะช่วยเหลืออะไรใคร

หมายเหตุ พี่ไม่ได้ว่าอะไร น้องแอนเดอร์สันนะครับ อย่าเข้าใจแบบนั้น

ต่อ....แล้วนิสัยแบบนี้ จะติดตัวมาตอนทำงาน ใครจะขอยืมอะไร จะไม่ให้ยืม ใครจะถามอะไร จะบอกไม่ว่าง หากจะบอก ก็บอกอย่างเสียไม่ได้ บอกแบบไม่ละเอียด ตอนเข้าประชุม จะชอบนั่งใกล้ประธาน ใครไม่ตั้งใจฟังประชุม จะหน้าบึ้ง

ตามหลักจิตวิทยา พวกที่ขยัน ไปแต่เช้า ทำการบ้านไม่เคยวันไหนไม่ครบ พวกนี้นับเป็นคนที่มุ่งงาน เกิดมาเพื่อมุ่งเรียน เปรียบไปก็แบบคนขวาตกขอบ

ส่วนพวกที่เอาแต่ คุยสนุก แต่งตัวทันยุค มีเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง หัวเราะร่า ไม่ค่อยอยากจะฟังครู อยากคุยกับเพื่อนมากกว่า ก็พวกที่ไม่อยากเรียนนั่นแหละ แต่อยากจะทำกิจกรรมนอกเหนือจากเรื่องที่เรียนเยอะๆ ทำกิจกรรมกับกลุ่มที่เรียนด้วยกันไม่พอ ยังอาสาไปทำกิจกรรมแปลกๆนอกกลุ่มที่เรียนด้วย

เช่น ไปค่ายอาสา ไปเตะบอลเล่นบาส ไปเล่นสเก๊ตเล่นเกม หรือไปนั่งออนเอ็มแทนการอ่านค้นข้อมูลในห้องสมุด ชอบไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ชอบไปถ่ายรูป วาดภาพ เล่นดนตรี ดูหนัง กินนอกบ้าน ดูแล้วนับว่าเป็นคนไร้สาระ เป็นบร้า นะ พล นะ

แต่คนกลุ่มหลังนี่ละ มีเพื่อนเยอะ มีเพื่อนหลายกลุ่ม เรียนจบออกมาแบบเกือบตก นี่ละ แต่ขอ บอกว่า ไม่มีใครรู้หรอก เพราะไม่ได้เอาปริญญา หรือ ทรานสคริป ไป ปะไว้บนใบหน้า

พวกนี้ไม่รู้จักหรอกคำว่า A หรือเกียรตินิยม แต่วันเกิด วันรับปริญญา วันแต่งงาน เพื่อนๆเยอะเป็นบร้า

แล้วเพื่อนๆเหล่านี้ละ จะส่งเสริม ยิ่งหากตนเองเป็นคนฉลาด โอ แวว รวย แววขายของได้ แววไปที่ไหนเจอคนนั้นคนนี้ รู้จักไปทั่ว

ไปสนามบอล ก็เจอคนรู้จัก ไปดูละคร ก็เจอคนรู้จัก ไปงานศพ ก็มีคนรู้จัก ไปติดต่อราชการ ไปโรงพยาบาล ไปธนาคาร ไปบริษัทโน้นนี้ โอย ไง เจอ แต่คนรู้จัก

ก็เพราะเขาสนุก เขาร่วม และ แ ร ด ไปทุกกิจกรรม ทักทายกะคนได้ซะหมดทุกแบบ ทุกความสนใจ ทุกบุคลิก นั่น เอง

เอ พี่ เขียนบร้าอะไร ละเนี่ย?

พล ฉลาด พล คงจะจับประเด็นบางอย่างจากคอมเมนต์นี้ ได้มั๊ง?

.....................

พล อยากจะทานข้าวผัดหมูบ้างมั๊ย? พี่เพิ่งผัดใหม่ๆ ยังไม่ชืดนักหรอกนะ พล

 

โดย: yyswim 17 พฤษภาคม 2553 23:22:20 น.  

 

นิ้เพื่อนคนที่สีผิวเหมือนแกนะขยันดีโน๊ะที่ห้องเรียนฉันก็มีวะสีผิวทรงผมมาตากแถบเดี่ยวกันกันเพื่อนแกเลย เรียนเก่งอีกต่างหาก เด็กทุนนี้ก็เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆโน๊ะ แล้วเขานอนหลับในห้องอาจารย์ไม่ว่าหรือวะ

 

โดย: หญิงอวบ IP: 88.91.127.146 18 พฤษภาคม 2553 14:45:41 น.  

 

ตกลงว่ายกให้แอนเดอร์สันเป็นนักเรียนดีเด่นของห้องไปเลยเนาะ

เล่าเรื่องน้องแอ๊บแล้วชักอยากเห็นหน้า แล้วก็เสียดายเงินของประเทศน่ะนะ
เคยมีน้องคนหนึ่งเล่าให้ฟังเหมือนกันว่า มีเพื่อนได้ทุน แต่พอรับทุนไปปุ๊บ ก็เอาตังค์ไปเลี้ยงเพื่อน ๆ เฮ้อ

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 19 พฤษภาคม 2553 8:55:45 น.  

 

อ่านเรื่องของน้องแอ๊บจบแล้วมันจี๊ดที่หัวใจอ่ะ

คนที่เค้าอยากได้ทุนเพื่อมาศึกษาหาความรู้เลยอดเลย เพราะนังแอ๊บมันฉกมาแล้วหนึ่งทุน เมื่อไรเรื่องแบบนี้มันถึงจะหมดไปจากประเทศไทยน่ะ

ส่วนแอนเดอร์สัน เค้ามีความตั้งใจสูงเกินไป คนแบบนี้ความมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนเรื่องเรียนมักมีน้อย

เอาเป็นว่า พลก็เรียนแบบสบายๆๆ อย่าให้ขาด ให้เกินเหมือนเพื่อนสองคนนั่น จะได้ไม่เครียด และไม่ต้องเสียเงินซื้อเสื่อ เน๊อะ

 

โดย: เดินทางรอบโลก 19 พฤษภาคม 2553 14:20:42 น.  

 

พี่พล เราไปกรี๊ดใส่หน้าเจ๊แอ๊บหนึ่งทีป่ะ ฮ่าๆๆๆ

ป.ล รูปดอกไม้สวยมากๆเลยค่ะ ส่วนผมของแอนเดอร์สันอ่ะ รู้สึกว่าเพื่อนสาวเค้าถักให้บ่อยๆ ถักเก่งมากมาย

 

โดย: 八层人 IP: 123.119.72.92 22 มิถุนายน 2553 16:25:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


aoigata
Location :
Biel Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add aoigata's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.