Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
หายหัวไปไหนมา

หายหัวเพราะช่วงที่ผ่านมายุ่ง ๆ อยู่กับการเรียนภาษาจีน ยากมากกกกกกกก จากตอนแรกกะว่าจะเรียนขำ ๆ แต่ตอนนี้มันชักขำไม่ออกสะแล้วเนี่ย

มหาลัยเริ่มเปิดเทอมตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม โชคดีว่าได้เรียนห้องเดิม กับเหล่าซือคนเดิม แต่เหล่าซืออีกคนเป็นเหล่าซือใหม่ สอนวิชาการฟัง และ การพูด แต่ขอบอกว่าน่าเบื่อมาก เหล่าซือเป็นผู้หญิงอายุ 25 แถมไม่ใช่เหล่าซือเต็มเวลาอีกต่างหาก เป็นแค่เหล่าซือพาร์ทไทม์ ที่ว่าน่าเบื่อเนี่ย อาจจะเป็นเพราะเหล่าซือเค้าไม่ใช่มืออาชีพ หรือคงจะไม่มีประสบการณ์ในการสอนมั้ง ไม่ชวนดึงดูด หรือทำให้มีความน่าสนใจในการเรียนเลย เพื่อนในห้องหลายคนคงมีความรู้สึกเดียวกัน พอถึงวิชาเหล่าซือท่านนี้ทำไร เดินออกจากห้องกันทีละคนสองคน เป็นอย่างนี้ประจำในทุกคาบของเหล่าซือท่านนี้ ดีว่าเรียนกับเค้าแค่สองวัน คือวันอังคาร กับวันพฤหัส ถ้ามากกว่านี้คงจะไม่ไหวแน่ ๆ น่าเบื่อจริง ๆ

ส่วนเหล่าซือคนเดิม คือซ่งเหล่าซือ ต้องขอบอกเลยว่าพลโชคดีที่ได้เรียนกับเหล่าซืออีกครั้ง เพราะเพื่อนในห้องเก่า (เพื่อนซี้ จีน่า โดนย้ายห้องเรียนไปเรียนชั้นหกแนะ แรก ๆ เธอก็คร่ำครวญอยากกลับมาเรียนห้องเดิมกับซ่งเหล่าซือ เธอว่าเหล่าซือใหม่สอนไม่ดี ถึงกับไปขอย้ายห้อง แต่ จนท เค้าไม่ให้ย้าย ซึ่งก็ถูกของเค้าแล้วละ ถ้าทุกคนอยากย้ายห้องตามใจตัวเอง จนท คงมีงานให้ปวดหัวกันแย่เลย) หลายคนยังคงแวะเวียนกลับมาหาท่านในตอนพักของแต่ละคาบ แถมเกือบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากกลับมาเรียนกับ ซ่งเหล่าซืออีก ในความคิดของพล ซ่งเหล่าซือ เป็นเหล่าซือที่สอนได้ดีมาก ท่านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่สามารถอธิบายภาษาจีน ด้วยภาษาจีนให้นักเรียนเข้าใจได้ 他真棒 (ta1 zhen1 bang4 เขาเก่งจริง ๆ)

เทอมนี้เริ่มแรกก็เรียนหนังสือต่อจากเทอมที่แล้ว เป็นหนังสือเล่มที่สองของชุด 成功之路 (Cheng2 gong1 zhi1 lu4) หรือ ถนนสู่ความสำเร็จเล่มที่สอง ตอนที่เรียนหนังสือเล่มนี้ ก็ยังสบาย ๆ อยู่ เพราะเรียนแค่เล่มเดียวเกือบทุกวัน ยกเว้นแค่วันศุกร์เท่านั้นที่ต้องเรียนสองวิชา คือวิชาเลือก พลเลือกเรียนวิชา 口语 (kou3yu3) หรือวิชาการพูด ที่เลือกเรียนวิชาการพูดเนี่ย เพราะคิดว่าตัวเองยังพูดไม่ดี แถมยังคิดว่าวิชานี้น่าจะเป็นประโยชน์ที่สุดแล้ว แต่มาถึงตอนนี้กลับนึกว่า ถ้าเลือกเรียนวิชาเลือกได้สองวิชาก็น่าจะดี จะขอเรียน 语法 (yu3fa3) ไวยกรณ์ เพราะแกรมม่าทรงพล ห่วยมากกกกกกกกกกกกก

สรุปก็คือ ทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสเรียนหนังสือแค่เล่มเดียว แต่วันศุกร์เรียนสองเล่ม

พอเรียนจนจบหนังสือ 成功之路 ก็มีการสอบเก็บคะแนนพอดี (ก่อนสอบหนึ่งอาทิตย์ ทรงพลหนีไปเที่ยวมาสะหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ กลับมาสอบพอดี มันกล้ามากกกกกกกกกก) ผลสอบออกมาก็ไม่ถึงกะเลวร้ายนะ คือ ไวยกรณ์เต็มร้อย ทรงพลได้ 79 (วิชานี้เสียใจมากกกกกก เพราะเหล่าซือว่าจริง ๆ พลควรได้สัก 90 你应该九十 ni3 ying1 gai1 jiu3 shi2 คือวันที่สอบเนี่ย ดันมาสายกว่าคนอื่น คือมาไม่สายหรอก แต่เพื่อนคนอื่นนะ เค้ามากันพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว แม้แต่คนที่ไม่ค่อยมาเรียน หรือคนที่มาสายเป็นประจำ มันมากันหมดแล้ว ช้างฟาดเอ๊ย) พอทำข้อสอบเสร็จแล้ว ก็ทบทวนอีกที เปลี่ยนคำตอบข้อโน้นข้อนี้ เลยเป็นที่มาว่าพลควรจะได้สัก 90 มันน่าเสียใจจริง ๆ

วิขาต่อมาคือ 读写 (du2 xie3) เต็มร้อย ได้ 86 วิชาการฟัง 听力 (ting1 li4) เต็มร้อยได้ 86 เหมือนกัน ส่วนวิชาสุดท้าย 口语 การพูดจากเต็มห้าสิบได้ 41 ก็ถือว่าน่าพอใจ ไม่ถึงกะเลวร้ายอะไร แต่ก็ยังแอบเสียใจอยู่เล็ก ๆ ว่าควรจะทำได้ดีกว่านี้

หลังจากสอบเสร็จ ก็ได้หนังสือใหม่มา 3 เล่ม ก็แบบว่าเอ๊ะ ยังไงเพราะเคยเรียนแค่ทีละเล่มเท่านั้น ค่าเทอมก็ไม่ได้จ่ายเพิ่มสะหน่อย เพราะจ่ายทีเดียวตั้งแต่ตอนเริ่มเรียนแล้วนี่หว่า ทำไมเหล่าซือใจดีแจกทีละสามเล่มเลยละนี่

พอสอบเสร็จนั่นแหละ ถึงได้ถึงบางอ้อ เพราะตอนนี้ทรงพลต้องเรียนหนังสือวันละสองเล่ม จันทร์ พุธ เรียน 语法 读写 วันอังคารกับพฤหัสเรียน 语法 听力 口语 ส่วนวันศุกร์ก็เรียน 语法 กับวิชาเลือก 口语 แบกหนังสือไปเรียนกันหลังอานกันเลยทีเดียว

ส่วนเรื่องการบ้าน ไม่ต้องห่วง มีทุกวัน มากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไป วันไหนมีน้อยอย่านึกว่าจะสบายนะ เพราะต้องเตรียมบทเรียนสำหรับวันรุ่งขึ้น ถ้าไม่เตรียมก็จะไม่รู้เรื่องอีก ต้องอ่าน ต้องแปลไปก่อนถึงจะเข้าใจว่าบทเรียนกล่างถึงอะไร อันไหนไม่เข้าใจก็อาศัยถามเหล่าซือ หรือเพื่อนในห้องเอา แต่เพื่อนในห้องหลายคนเลยนะ ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาเรียน เคยคิดนะว่าถ้าทำอย่างเค้าบ้างจะเป็นไงนะ แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า ตัวเองก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วน้อ จะมาทำเล่น ๆ คงไม่ไหว ไม่เข้าใจขึ้นมาใครจะช่วยเราได้ เลยทำให้เริ่มมีอาการเครียดเล็กน้องถึงปานกลาง (เมื่อวันพฤหัส ทำการบ้าน กับ แบบทบทวนตั้งแต่ ห้าโมงเย็น ถึงห้าทุ่มอะ แบบทุ่มเทมากกกกกกกกก เกินจำเป็น)

มาถึงตอนนี้ ก็พูดจีนได้มากขึ้นแล้วนะ พูดเนี่ยไวยกรณ์ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง แต่ก็ยังหน้ามึนพูด แต่ปัญหาในการเรียนภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติ คือไม่ใช่เฉพาะทรงพลคนเดียวนะหลายคนเลยคือ การเขียนนี่แหละ พลไม่ค่อยขยันเขียนเท่าไร คือให้อ่านนะอ่านได้นะ จำได้ว่าตัวอะไรเป็นตัวอะไร (แต่ไม่ทั้งหมดนะ) แต่พอปิดหนังสือแล้วให้เขียนให้ดูหน่อยเนี่ย ใครทำงี้มีการเคืองกันเลยทีเดียว แต่ถ้าใช้พิมพ์ในคอมเนี่ย ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะพิมพ์พินอินไป ตัวจีนจะขึ้นมาให้ดู อาศัยว่าจำได้ก็ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร (แต่เพื่อนในห้องบางคน อย่างเก่งอะ เขียนได้หมดทุกตัว แต่ก็น้อยคนนะ) อีกปัญหาก็คือไวยกรณ์ อ่อนแอมากถึงมากที่สุด อีตาคำรณเนี่ย ชอบมาหัวเราะว่า ภาษาจีนมีไวยกรณ์ที่ไหน ทำเป็นพูดดี ใครเข้าใจไวยกรณ์จีนได้ง่าย ๆ ถือว่าโชคดี แต่ไม่ใช่ทรงพล แบบว่าโง่มาก ถึงมากที่สุดเลยอันนี้

และปัญหาใหม่ล่าสุดที่ตอนนี้กำลังเจออยู่ ก็คือเดี๋ยวนี้จำตัวจีนได้เยอะ แต่ดันจำความหมายไม่ได้นี่สิ เวลาออกไปข้างนอก เห็นภาษาจีนบางตัวก็อ่านได้บ้างแล้วนะ แต่ภาษาจีนเนี่ยมันจะเก๋ตรงที่มีความหมายเป็นตัว ๆ ไป แต่ถ้าเอาไปรวมกับตัวอื่นขึ้นมาเมื่อไร ความหมายก็จะเปลี่ยนไปมากบ้างน้อยบ้าง อย่างคำว่า 你好(Ni3 hao3) มันจะแปลว่าสวัสดี แต่ถ้าเป็นตัว ๆ เนี่ย 你 มันจะแปลว่า เธอ หรือ คุณ 好 มันจะแปลว่า ดี จริง ๆ มันน่าจะแปลว่า เธอดี มากกว่า สวัสดีนะ นั่นแหละ ปัญหาใหม่ คือจะได้เป็นตัว ๆ แต่พอมารวมกัน บางทีก็จำได้บ้าง หรือเดา ๆ ได้บ้าง แต่บางตัว ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ทำเป็นบ่นไปงั้นแหละ จริง ๆ นะโง่เองต่างหากละ

บ่นเสร็จแล้วก็สบายใจขึ้นมาหน่อย อาทิตย์นี้ได้หยุดสามวันรวด คือตั้งแต่ วันเสาร์ถึงวันจันทร์ วันจันทร์เค้าปิดชดเชยวันแรงงาน (แล้วนักเรียนไปเกี่ยวอะไรกับวันแรงงานด้วยน้อ แอบสงสัยนิด ๆ แต่ก็ดีใจได้หยุดกะเค้าไปด้วย ) แต่เดี๋ยวไม่พรุ่งนี้ก็วันจันทร์ ก็ต้องเตรียมบทเรียนบทต่อไปอีกแล้ว นักเรียนโข่งชักเหนื่อยสะแล้ว ปีหน้าจะเรียนอีกปีดีหรือเปล่าเนี่ย

ปล.ช่วงนี้เห็นมีหนังใหม่เข้าที่ปักกิ่งอยู่เรื่องหนึ่ง เห็นโปสเตอร์อยู่แถว ๆ สถานีรถไฟใต้ดิน แอบขำในการแปลเป็นภาษาอังกฤษของเค้า แบบว่าแปลตรงตัวดีมาก ชื่อภาษาจีนคือ 东风雨 (dong1 feng1 yu3) แปลเป็นอังกฤษตรง ๆ เรียงตัวกันมาเลยนะว่า East Wind Rain เค้าก็แปลถูกแล้วอะน้อ แต่ก็ขอขำนิดนึงอะ แปลตรงจริง ๆ ลมฝนทิศตะวันออก


Create Date : 01 พฤษภาคม 2553
Last Update : 2 พฤษภาคม 2553 10:05:41 น. 25 comments
Counter : 828 Pageviews.

 
ดีจ้าคุณพล ....


ถึงไม่ได้มาทักทายกันบ่อยๆ แต่ไม่ได้ลืมกันแน่นอนค่ะ
แบบว่าจะลืมได้ไง เพื่อนบล็อกน่ารักอย่างคุณพลน่ะลืมกันไม่ได้
ง่ายๆ หรอกนะค่ะ เพราะว่าเขียนเรื่องราวอะไรเราก็อ่านจบ
แม้จะตัวหนังสือล้วนๆ เราก็ต้องขยายตัวหนังสือแล้วก็อ่านมันรวดเดียวเลย
เรียกว่าชอบจะได้อ่านเรื่องราวของคุณพลนะ เพราะฉะนั้นแม้ไม่ได้
มาทักทายกันตลอดเวลา แต่ก็คิดถึงกันอยู่เรื่อยๆ นะจ้ะ
(แอบปากหวานก่อ่นเลย ฮี่ๆ)


พูดเรื่องเรียนหนังสือยามนี้แล้ว ทำให้เราไพล่ไปคิดถึงตอนไปเป็น
นักเรียนโข่งเรียนภาษาที่ 3 เหมือนกันค่ะ ประมาณว่า
ปวดหมองมากเลย เพราะว่ามันยากอ่ะ ซึ่งเรื่องยากมันก็ธรรมดานะ
แต่ด้วยเพราะว่าตัวเองไฟไม่แรงพอ คือ พูดง่ายๆ ว่าขี้เกียจ ไม่ขยันซึ่งจะไป
บ่นที่ไหนก็ไม่ได้ มันเลยทำให้เราไม่ค่อยขยับในเรื่องภาษาเร็วเท่าที่ควร
ที่เราบ่นนี่ขนาดว่าไปเรียนภาษาดัตช์ซึ่งตัวหนังสือเค้าก็ใช้เป็นภาษาอังกฤษนะ
เราก็บ่นว่ายากแล้ว แต่คุณพลเรียนภาษาจีน การพูดเอย เขียนเอย มันเรียกว่า
ดับเบิ้ลยากกว่าที่เราเคยเจอหลายเท่านัก เพราะฉะนั้นพูดเรืองยาก
ไม่เท่าไหร่เพราะเข้าใจเลยค่ะว่ามันต้องยากแน่นอน ที่เข้าใจได้มากก็เพราะว่า
ตอนเราเรียนหนังสือ เราเทคคอร์ส ญป. 4 ตัว แทบตายเลยค่ะ เพราะเจอการเขียน
ภาษาคันจิ แค่ไม่กี่ร้อยตัว เรายังแทบคลานแน่ะ นี่คุณพลไปเรียนแบบล้วนๆ
ตัวหนังสือจีนเลยแบบนี้ เอิ๊ก ๆ ถ้าเป็นจิ๋วนิดคาดว่าน้ำลายฟูมปากแน่นอนเลยค่ะ

เอาค่ะ สู้ๆ นะค่ะ เชื่อว่าความตั้งใจที่คุณพลมี .. รับรองว่าเป็นแรงหนุน
ให้คุณพลทำได้ค่ะ ... ไม่ยากเกินความพยายามเน๊าะ


ปล. ร้านที่เราไปทานกับเพื่อนตอนไปพิดโลก เราก็จำชื่อไม่ได้จริงๆ
ความจำเรื่องสถานที่ ชื่อ ตอนนี้เหมือนว่าความสามารถหดอ่ะค่ะ
แปลกแต่จริงว่าตอนนี้เวลาไปไหนจะต้องมีปากกาและสมุดเล็กๆ ติดตัวเอาไว้
ตลอดเลย มีอะไรก็จดเอาไว้กันลืม ซึ่งถ้าไม่ทำก็เป็นแบบนี้เลยค่ะ ลืมแน่นอน
ไม่รู้ว่าคุณพลเป็นเหมือนเราหรือเปล่าค๊า ??


โดย: JewNid วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:32:22 น.  

 
^
^

นี่ล่ะหนอ พลังแห่งการไม่ได้คุยกันนาน มาเม้นท์ที เอาไปอัพบล็อก
ได้เลยนะค่ะหนิ ยาวเชียว


โดย: JewNid วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:32:58 น.  

 
เธอนี่ก็เรียนเก่งใช่เล่นนะ

ได้คะแนนแบบนี้ไม่ท็อปก็ต้องรองท็อปละว้า

ชั้นเพิ่งรู้ว่าคนจีนและไทยมีวันหยุดแรงงานไล่เลี่ยกันเลย เราหยุดวันที่สาม จันทร์นี้ชดเชยวันแรงงานที่หนึ่งพ.ค. เอก็เหมือนกันเหรอ ก็นักเรียนมันก็ต้องใช้แรงงานเหมือนกันนี่เนอะ เลยได้หยุดพร้อมผู้ใช้แรงงาน ฮ่าๆๆๆ รู้ไว้ซะ

เธอช่างเข้าอกเข้าใจคนอื่นซะจริง ปาล์มเพื่อนชั้นมันไปกับทัวร์จริงด้วย ชั้นเลยบอกวางั้นยังไม่ต้องส่งไป เดี๋ยวมันเที่ยวไม่หนุก

ชั้นได้ส่งเมลืเอที่มีเบอร์ พร้อมเว็ปเพจหน้านี้ให้มันแล้วนะ เผื่อเป็นประโยชน์เรื่องปักกิ่งเพราะเธอแนะนำอะไรไว้ค่อนข้างละเอียด

ขอบคุณมากจ้า


โดย: anchesa IP: 202.176.98.95 วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:21:33 น.  

 
เดี๋ยวมาอ่านไปหาแว่นก่อน แต่อยากเม้นท์
แม๊ ไปถอดหัวอยู่แถวใหนจ๊ะพล ถึงได้หายหัวไปเลย คิดถึงจัง

ปล.....พี่มันบ้าทำได้ทุกอย่าง ตอนที่พี่กำลังแหวกพวกฝรั่งแถวนั้นมันหยุดดูแล้วหัวเราะ พี่บอกน้องให้รีบถ่ายตรูเริ่มอายแล้วน่ะ


โดย: เดินทางรอบโลก วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:42:46 น.  

 
โฮะๆๆ.. ได้ฤกษ์กลับบล็อกละนะน้องฉัน

คะแนนขนาดนี้ ยังมาถ่อมอยู่นั่นแหละว่าโง่ ต๊ายยย.. นี่ขนาดโง่นะยะ

เข้าใจเรื่องตัวภาษาจีนกับความหมายและการอ่าน เพราะตัวคันจิที่นี่ก็ครือๆกัน ป้าโซไม่ได้เรียนเป็นเรื่องเป็นราวแบบพลหรอก แต่สามารถลักจำได้เป็นบางตัวที่เห็นบ่อยๆ คล่องๆ ไอ้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่เรานี่ ยากเนาะ..

พลเข้มแข็งดีเนอะ ที่อุตสาหะเรียนมาจนได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ยากแสนยาก ว่าแต่.. ถามหน่อยเหอะว่าทำไมถึงเลือกเรียนภาษาจีนอ้ะ คุณคำรณก็ไม่ได้เป็นคนจีนซะหน่อย เอ๊ะ.. หรือเป็น?


โดย: ป้าโซ วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:59:47 น.  

 
โอ๊ย คิดถึงมั่กมาก พี่เข้าบ้านพลไม่ได้นานมากแล้ว ได้แค่เกาะประตูรั้วและไปทิ้งเม้นต์ไว้ที่หลังไมค์ แอบโอดไปกับป้าเดซี่ด้วยว่าบ้านพลรับแต่แขกวีไอพี ป้าเลยบอกว่าพลไม่อยู่ หนีเที่ยว

เรียนเก่งนิตัวเอง ขนาดไม่ใช่ภาษาเรา ยังทำคะแนนได้ตั้งเยอะแน่ะ ถ้าหากให้พี่เรียนสงสัยจะครองตำแหน่วงบ๊วยดองประจำห้องแหงม ก็ใจมันคอยแต่จะคิดว่าภษาจีนมันยาก ตอนน้องณัฏเรียนที่รร.แล้วทำคะแนนได้น้อย พี่ยังไม่กล้าบ่นเลยเพราะตัวเองไม่รู้เรื่อง ตกลงไอ้ที่ว่าจะเรียนเล่นๆของพลนี่ไม่หมูเลยเนอะ


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:12:06 น.  

 
หวัดดีจ้าพล

แหม...กว่าจะเปิดบล็อกนะ ชาวบ้านชาวช่องก็ไปโอดครวญบ้านป้ากันใหญ่ว่าพลหายไปไหน หารู้ไม่ เราแทบจะไม่ได้เจอกันเล้ยยยยยยย

ป้ายังนึก ๆ ว่าพลเบื่อบล็อกซะแล้ว พอชีวิตส่วนตัวมันยุ่งมาก ๆ ป้าก็รู้ตัวเลยว่าบล็อกเนี่ยมันเบียดบังเวลาเราไปเยอะมากเลยนะ

ไม่รู้จะให้กำลังใจเรื่องเรียนยังไงดี ตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ตอนนี้คุณวรพลก็ไปลงเรียนภาษากวางตุ้งกับเค้ามั่งและ อยู่ฮ่องกงมาเป็นสิบปี เธอไม่เคยไปเรียนจริง ๆ จังกะเค้าเลย

ภาษาจีนกลางกับภาษากวางตุ้งมันใกล้เคียงกันมากเลยนะ คำบางคำใช้เหมือนกันเด๊ะ แต่ออกเสียงต่างกันเท่านั้นเอง

ด๊นดนก็ชอบพูดภาษาจีนกลางที่บ้าน โชว์ออฟว่างั้นเหอะ คุณวรพลเค้ายังคิด ๆ ไว้เลยว่า ปิดเทอมเค้าอาจจะหาเวลาไปเมืองจีน ด๊นดนจะได้มีโอกาสใช้ภาษาจีนกลาง บอกแผนให้ด๊นดนฟัง เธอชักจะเริ่มกลัว หายซ่า ไม่กล้าโชว์ออฟที่บ้านอีกเลยอ่ะ



โดย: Oops! a daisy วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:07:51 น.  

 
ดีใจจังเลย ที่เข้าบล็อกพลได้ คุยกับคุณพีร์เหมือนกัน บ่น ๆ ว่าเข้าบล็อกพลไม่ได้ เลยต้องไปบอกป้าเดซี่หน่อย

พลพูดอย่างนี้ ทำให้รู้สึกเลยว่าตายแล้วภาษาจีน (ฉบับย่อ แบบเน้นพูด) ที่ตัวเองเคยเรียนนี่คืนเหล่าซือไปหมด

แล้วทำให้ย้อนนึกถึงเหล่าซือ การสอนให้น่าสนใจ การสนใจลูกศิษย์นี่สำคัญจริง ๆ นะ ตอนรัชชี่เรียนก็เรียนทั้งหมด 5 เล่มค่ะ เล่ม 1-4 เจอเหล่าซือคนเดียวกัน ชอบมาก จนเล่ม 5 สุดเซ็งเลย เพราะว่าพอไปถึงเล่ม 5 แล้วจำนวนนักเรียนแต่ละห้องก็ลดลงไง ดังนั้นก็เลยยุบรวมเป็น 1 ห้อง

เหล่าซือที่สอนเล่ม 5 นี่สอนตามหนังสือ แต่เหล่าซือคนแรกพยายามให้เราแต่งประโยคเอง ไม่ใช่ลอก ๆ หรืออ่าน ๆ ตามหนังสือ

แต่คะแนนที่พลได้ก็โอเคนะจ๊ะ

อ้อ เล่าให้ฟัง ที่ทำงานรัชชี่เพิ่งจัดทดสอบภาษาอังกฤษ เน้น listening 50 ข้อ gramma , reading รวม 50 ข้อ ด้วยความไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษ ผลสอบออกมาทำเอาอับอาย (โชคดีที่เขาเป็น confidential) ทำเอาเมื่อวานไปหาซื้อหนังสือข้อสอบ TOEIC จะเอามาฝึกฟัง ฝึกทำซะหน่อย เสียเซลล์น่ะ เพราะว่าปกติก็คิดว่าภาษาอังกฤษตัวเองพอไหว


โดย: รัชชี (รัชชี่ ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:37:59 น.  

 
นี้คุณนายหายหัวไปที่แท้ก็อ่านหนังสือหามรุ้งหามค่ำนี้เอง นับถือเลยวะตั้งแต่เช้ายันมืด ดีและเรื่องเรียนมรึงขยันก็ดีแหละดีใจกับเมืองด้วยที่ตั้งใจเรียน ผิดกับตรูโดยสิ้นเชิง อิอิ

ดีนะที่โน้นไม่มีคนูลพเอียงเหมือนที่นี่ ตรูเบื่องเรื่องเดี่ยวเรื่อง ครูลำเอียงมีอคติกับหญิงไทยและดูถูก แบบประมานว่าไม่ค่อยสนใจอยากจะซักถามเท่าไร ถ้าไม่มีปัญหาหรือไม่ยกมือถามก็ไม่เคยเดินมาถามหลอกมีแต่เดินไปโต๊ะอื่น ตรูนะถ้าไม่มีปัญหาจริงๆจะไม่เคยยกมือถามเลยให้ตายเหอะ
ประมานว่าพวก ผญไทย มรึงมีสามีเลี้ยงมรึงเอาใว้ที่หลัง ใส่ใจแต่อีพวกปรากีสถานพวกอบพยบ

มาแล้วเดี่ยวขอยาวเลยนะมรึง
แบบว่า เมือวันมีครูเขามาบอกว่าให่เอาใบวุฒิที่เรามีจากประเทศเราเอามาเที่ยบวุฒิที่นี้แล้วทาง สำนักงานด้านการศึกษาเขาจะออกใบประกาศให้คือใบเทียบวุฒิ ตรูทำเสร็จแล้วได้มาและวเป็นภาษานอร์ก ตรูเอาให้ครูดู ชีอ่านแล้วนิ่งไปอยู่พักใหญ่ คงจะคิดว่าตรูนี้จบ ม.6 หรอทำอาชีพที่พวกชีเดากันนะ ฮ๋าาาา สะใจตรูจริง
ตรูไปละ ว่างๆมรึงก็มาออนหน่อยนะ พูดถึงเรื่อง นี้แล้วคันปาก


โดย: หญิงอวบ (kearaly ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:40:01 น.  

 
แว๊ะมาบอกอีกรอบ อับบล๊อกแล้วเด้อออออ


โดย: หญิงอวบ (kearaly ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:48:10 น.  

 
เออ กลับมาซะทีน่ะพล มีแต่คนบ่นว่าหายหัวไป

เข้ามากี่ทีก็ วีไอพี จนเซ็ง

ไม่มีอะไรหรอกแค่ห่วงว่าที่หายไปน่ะ หายจริงๆอ่ะปล่าว

น้าเห็นพลเรียนหนังสือจีนแล้วนึกถึงตอนเด็ก แม่อุตส่าห์เคี่ยวเข็ญจะให้ได้ภาษาจีน แต่เรา ไม่เอาไหน เรียนไปเล่นไป ตอนนี้เพิ่งจะมารู้สึก เสียดายจริงๆ

แต่ก็ยังมีงูๆปลาๆ นิดหน่อย พอขอข้าวชาวบ้านกินได้ค่ะ

ต้องอยู่เมืองจีนอีกนานเท่าไหร่นี่


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:19:05 น.  

 
พี่ให้กำลังแบบสั้นๆๆนะจ๊ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

แต่เห็นผลคะแนนของพลแล้ว อือ...เก่งนะเรา


โดย: เดินทางรอบโลก วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:28:39 น.  

 
นึกได้ว่ายังไม่ได้ตอบเธอเรื่องสอนหนังสือ
แหมอุตส่าห์ทำเป็นลืมๆ เพราะไม่ค่อยอยากพูดถึง คือเคยสอนราชภัฎแถวหลักสี่กับปาล์มนี่แหละ แต่ตอนนี้ปาลืมนังสอนอยู่ เพราะรายนั้นชอบการเป็นอาจารย์มาก ชอบตรวจการบ้านเด็ก ส่วนชั้น ไม่ชอบตรวจอ่ะ

ตอนสอนก็สนุก แต่บางครั้งเจอทางมหาลัยอัดนักศึกษาเข้ามาเรียนวิชาพิ้นฐานเป็นร้อยๆ ก็แทบลมจับตอนเห็นจำนวน ถ้าวิชานการอ่านก็ไม่เท่าไหร่ ใช่มั้ยเธอ แต่บ้งครั้งวิชาฟังพูด แล้วจะเรียนกันห้องละเกือบร้อยคน เขอแค่ได้ลงทะเบียนส่งๆไปงั้นเหรอ...ชั้นเลยไม่ไห่จะเคลยร์ อยู่ได้สามปีขอออกมาตั้งหลักก่อน
เรื่องก็เป็นฉะนี้แล....


โดย: anchesa วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:45:50 น.  

 
คุณทรงพลที่รัก..

รบกวนคุณช่วยไปเสนอหน้าเข้าบล็อกคนที่อยู่ญี่ปุ่นคนอื่นหน่อยดิ ว่าจะมีอาการเป็นอย่างบล็อกป้าโซหรือเปล่า? ครือออ.. มันแว่บๆเข้ามาน่ะพล ว่าจีนกับญี่ปุ่นงอลลลกันหรือเปล่า เออเนาะ..คนเรา..

แต่ถ้ามันจะเป็นอย่างที่ป้าโซมั่ว พลน่าจะเข้ามาอ่านไม่ได้เลยต่างหากเนาะ แล้วมันเป็นอันหยังน่อ?

ป้าโซฝากรูปที่เจ้ากบน้อย.. ImageShack พลเคยมีปัญหากับการดูรูปที่นี่มั้ย? หลุดจากนี้ป้าโซก็หมดปัญญาแล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะความรู้เรื่องคอมพ์ของป้าโซ.. เลยขั้นโง่..

ที่ถามเรื่องภาษาจีน เพราะคิดว่าพลน่าจะตามคุณคำรณไปหลายๆที่ คิดว่าคงไม่อยู่ที่จีนนี่นานนัก เดี๋ยวก็เปลี่ยนไปอีก(หรือเปล่า?)


โดย: ป้าโซ วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:58:26 น.  

 
ยินดีที่อ้ายพ๊นกลับคืนมาแล้ว
ยังบ่นกันกับคุณรัชชีว่าทำไมบล๊อกอ้ายคือเข่าบ่ได้

เท่าที่อ่านบล๊อกเริ่มมีอักษรจีนมาบ้างแระ
แสดงว่าภาษาจีนของอ้ายดีขึ้นแล้วแต่อ้ายไม่รู้ตัวล่ะ


ภาษาจีนเป็นภาษาที่ยาก แต่เป็นภาษาสากล ที่นับมาใคร
เรียนรู้แล้วคงได้เปรียบมาก หวังว่าอ้ายก็คงจะคือกันเนาะ


คึดฮอด ครับอ้าย...


โดย: peeradol33189 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:12:28 น.  

 
เหวอ อยู่ตั้งสามปี อีกหน่อยเก่งภาษาจีนแน่เลย

เขาว่ารู้ภาษาจีนหากินได้ทั่วโลก เพราะไม่ว่าที่ไหนต้องมีคนจีนค่ะ
แม่เคยบอกพลว่าอยาไปสวิส

แต่ลูกสาวว่าไม่ต้องไปไกลขนาดนั้น ราคาถูกกว่าสวิสด้วย ก็เลยพาน้าไป Mittenwald


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:58:09 น.  

 
เม้นท์ต่อเมื่อกี้ดันไปกดผิด

ที่ Mittenwald ก็สวยเหมือนสวิส หิมะเยอะมาก

สวยสุดเลย อยากไปเล่นหิมะก็ได้เล่นแล้วค่ะพล

ถ้ามีโอกาสจะไปตอนดอกไม้บานอีก อิอิ ฝันไปก่อง


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:33:39 น.  

 
เออ..เลยงง แทนตัวว่าแม่ซะอีก ขออำไพนะคะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:35:29 น.  

 
Why did you lern chainis.
ก้อแล้วทำไมถึงต้องเรียนภาษาจีหล่ะ?
จากลับมาเปิดโรงเรียนสอนภาษาจีนที่พิษณุโลกเหรอ?
แฮะ ๆ ๆ ขยันจริงเนาะ


โดย: james_nmn@hotmail.com IP: 118.173.239.45 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:11:59 น.  

 
ดีจ้าคุณพล

ขอบคุณนะค่ะที่แวะไปคุยด้วยกันเรื่อง ปสก.เรื่องการถ่ายรูปนะค่ะ
ตอนนี้มันมีประเด็นเรื่องผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายวิจารณ์ภาพถ่าย
อันนี้เข้าใจค่ะเพราะว่าเราก็เจอ ..แรกเริ่มก็ปรี๊ดๆ เหมือนกัน
เพราะว่าเราก็คิดเหมือนกันค่ะว่า แหม เราน่ะไม่ได้เอามาโชว์เพื่อเอา
รางวัลหนิ ถ่ายไปก็สนุกเฮฮาตามประสา แรกเริ่มก็ไม่ได้คิดว่า
เค้ามาวิจารณ์อะไรมากา อาจจะพูดไปตามปากที่เค้าเจาะมาพูดอ่ะนะคะ่
เพราะวาจากลักษณะท่าทางของการอ่านบล็อกเค้าแล้วก็ออกแนวแพร่มๆ
แบบว่าหาทางลงไม่ได้ที่เค้าทำออกบ่อยๆ ทีนี้คือ มาสังเกตุว่า
เออ มันไม่ได้เป็นแนวนานๆ ทีนะ แต่ว่ามันถี่เลย .. เอาล่ะเดี๋ยวถ่ายรูป
เจดีย์ รูปวัด ทีนี้ด้วยความสวยที่เราคิดว่าเราชอบก็ถ่ายไป
ไม่ได้คิดมากอ่ะไร วันหนึ่งเจอว่า "ทำไมถ่ายไม่ครบองค์ประกอบ
ทำไมยอดเจดีย์หาย" ... อื้อ นั่นยกหนึ่ง ... ยกสองมาอีก ...
ถ่ายรูปเด็ก ทำไมถ่ายหัวครึ่งเดียว ทำไมไม่ถ่ายเต็มหัว เพราะว่าบลาๆ
นี่ยังแค่สองยกนะค่ะ จริงๆ มีมากกว่านั้นอีกนะ ซึ่งแรกเริ่มยอมรับเลยว่า
เออ มันจะอะไรกันนักหนา โกรธไม๊ ก็ไม่โกรธอ่ะค่ะแต่ว่ารำคาญ(ประสาแดก)
แต่หลังๆ เราว่าข่างเหอะค่ะ เพราะว่าฟังมากก็เก็บเอาไว้จำว่า เออ
คนนี้เค้าชอบแบบนี้แต่ว่าเราไม่ได้กลับไปถ่ายรูปสนองเค้าหรอก
เพราะว่าเราสนองความรู้สึกเรามากกว่าไม่ใช่เขา .. เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดมากค่ะ
เพราะว่าถ้ามันมาจากคนที่เค้ารักและก็มีความต้องการอยากแนะนำ
จริงๆ แล้วเราว่านะของแบบนี้มันรับรู้ด้วยใจค่ะว่า สิ่งที่เค้าแนะนำ
มันดี .. และด้วยลักษณะของคำพูดในการพูดคุย แนะนำมันจะต้องมา
เป็นแบบนุ่มนวล เป็นสเต็ป ไม่ใช่มาแนวติงๆ แล้วจากไปแบบ
ไม่ได้เอ่ยว่าอะไร .. ซึ่งมันก้โอเคนะคุณพล เราว่าของแบบนี้ก็ปล่อยค่ะ
เค้าแนะนำมาก็ถือว่าจำเอาไว้ ถ้าเป็นคำแนะนำด้วยเหตุผลก็โอเคเลย

อ้อ...มีอีกอย่างค่ะ .. คือ เราเคยโดนคนเขียนหลังไมค์มาเหมือนต่อว่า
ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเธอเองเลย .เธอเคยถามและติงว่า
ทำไมเราชอบถ่ายรูปแบบสแน็ปคน .. เพราะว่าสมัยก่อนตอนอยู่
ไกลบ้านอยู่ฝั่งยุโรปเค้าเห็นเราแอบถ่ายคนบ่อยๆ ในกริยาต่างๆ เค้าเคย
พูดทำทองว่าถ่ายทำไม นี่ถ้าเป็นเมกาถูกฟ้อง ถูก ตร. จับไปปรับ
แล้วนะเพราะว่าถือว่าละเมิดสิทธิส่วนตัว....

ฟังแล้วแบบมันสั้นและห้วนเกินกว่าการมาพูดคุยกันตามประสาเพื่อน
จิบกาแฟ เราได้ยินก็ยอมรับว่าฉุนว่า .. เออ ก็ดีที่เราไม่โดนและเราเอง
ก็ไม่ได้ไปสแน็ปแบบเอามาลงเพื่อทำลายชื่อเสียงคนหนิหว่า
และก็สแน็ปในระยะที่ห่าง ไม่ได้ละเมิดสิทธิเค้าแบบไปประชิดตัว
และที่สำคัญเราถ่ายรูปเหล่านี้เพราะมันเป็นธรรมชาติดี และอีกอย่าง
ถ้าภาพไหนเราว่าเราถ่ายแล้วมันโอ เราเดินไปหาแบบเลย
ไปบอกเค้าเลยค่ะว่า เราแอบถ่ายรูปเค้านะ แล้วรูปมันออกมาดี
ทีนี้ก็โชว์ให้เค้าดูแล้วขออีเมล์ไว้และก็ส่งให้เค้าทีหลังด้วยล่ะค่ะ
แบบนี้เวลาเจอที่คนที่เราส่งรูปให้แล้วเค้าตอบกลับมาขอบคุณสำหรับรูป
มันก็เป็นอะไรที่เราดีใจแล้วล่ะค่ะ และคิดได้อย่างนี้เราก็สบายอ่ะ
เพราะว่าเราไม่เคยต้องเจอประสบการณ์แบบ ตร. จับ โดนด่าเพราะแอบถ่าย
ซึ่งก็คนส่งข้อความมาเค้าก็คงเคยเจอ แรกเริ่มก็ดีนะว่าเออดี
มี ปสก.มาแบ่งปัน แต่อีกเสียงนั้นก็บอกว่า "สมน้ำหน้ามัน" ฮาๆ


โดย: JewNid วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:11:29 น.  

 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=anchesa

นี่บล็อคใหม่ชั้นจ้ะ ถ้าเข้าไปดูมิวสิควีดีโอไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเพลงเฉยๆ ขนาดแกบอกไม่รู้จะเม้นอะไรเพราะดูไม่ได้ ก็ยังอุตส่าห์ทิ้งเม้นไว้ให้ทราบ ขอบคุณมากนะ

ขอแชร์ประสบการการถ่ายรูปสแนปคน ที่เมืองไทยนี้เองฮ้า บนรถไฟฟ้าบีทีเอส กะจะถ่ายรูปอาเขยตัวเองที่สะพายกระเป๋าอาผู้หญิงน่ารักเชียวเค้านั่งอยู่ ชั้นนั่งตรงข้าม ถ่ายเสร็จ นังผญ บ้าๆบอๆที่นั่งติดอาผช.ชั้นเดินมาถามว่าถ่ายอะไร เอามาให้ดูเดี่ยวนี้! ลบไปเลยนะ!
พูดเสียงดังมากเลยอ่ะ ชั้นก็พยายามบอกว่าไม่ได้ถ่ายเธอ ถ่ายญาติ มานก็จะขอดู ชั้นก็ใจหายวบ เพราะชั้นว่าตัวมันก็ดูน่าถ่ายจริงๆ เป็นผญ.แต่งชุดสั้นๆ เหมือน บันนี่รูดเสา แต่เป็นชุดสี่น้ำตาลที่พิเสษคือ มันใส่หมวกซานตาคลอสยาวๆใหญ่สีแดงแปรดบนหัวกะบาลด้วย ชั้นก็ตัดใจว่
เอาให้มันดูปรากฎว่าติดรูปอาชั้นไปเต็มๆ ส่วนมันที่แค่หัวเข่า เพราะมีคนยืนบังมันอยู่
ชั้นเลยได้โอกาสบอกไปว่า นี่ไง ไม่เห็นเลย จะเอาไงอีก ก็บอกแล้วว่าถ่ายญาติ ชั้นได้ที
ขี้แพะไหล
ตะโกนใส่หน้ามันไปใหญ่เลยด้วยความสะใจ

ณ ตอนนี้เถียงกันที่บันไดทางลงรถไฟฟ้า ที่หน้ารานหนังสือสักอย่าง เกือบถึงจุดทางออกแล้ว
ชั้นรีบเดินหนี มันก็ตะโกนใหญ่เลย
ว่า จะฟ้องตำรวจมาถ่ายรูปทำไม หัวเข่าชั้นนะ ลบรูปออกไปเลย ตำรวจชั้นจะฟ้องตำรวจ มันไม่แฟร์
กูกับญาติรีบเดินกันใหม่ แต่ติดที่ชั้นเสือกหาบัตรรถไฟฟ้าไม่เจอนี่สิ ต้องหยุดค้นกระเป๋าอีก มันก็ตะโกนไล่หลังมาแล้ว อาผช.ชั้นเค้าเป็นฝรั่ง อายุสักหกสิบสองเค้าเลยหันไปพูดนิ่งๆ ว่าไม่ต้องตามมาแล้ว เราไม่ได้ถ่ายรูปคุณ จบได้แล้ว พอซะที

พอดีกับที่ชั้นหาบัตรรถไฟฟ้าเจอ ไอ้บัตรนี่ก็เวรจริงๆ พอจะรีบๆ เสือกนึกไม่ออกว่าเก็บไว้ที่ไหน อยากจะร้องไห้จริงๆ ตอนนั้นน่าสิ่วน่าขวานมาก

โฮ้ย มันเลยเลิกตามพอดี
ชั้นก็อายยาติๆเลย เพราะเค้าเป็นต่างชาติ แต่โชคดีที่เค้าไม่ทับถมอะไรเรา แถมอยู่ช่วยเถียงข้างเราอีก จบแบบซาบซึ้ง

ชั้นเขียนยาวไปไหมวะ ทำเหมือนที่นี่เป็นฟอรั่มไปเลย ไว้แดสงความเห็นต่อกระทู้ ฮ่าๆๆๆ



โดย: anchesa วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:48:02 น.  

 
แค่อ้ายพ๊นแวะมาเยี่ยมมาหยาม กะดีใจแล่ว
มาซ้ากะบ่เป็นหยังดอกอ้าย...

บ้านหลังนี่สวยมากเลยแระอ้าย
สุขสบายแต่ก็แพงพอดู

ในบล๊อกผมเขียนเรื่องความฝันด้วย
อ้ายพ๊นแปลให้ทีมีคนบอกว่าผมฝันแบบนี้เสดงว่าจะ
เจอเนื้อคู่ +


ปล.ที่กรุงเทพฯร้อนอบอ้าวมาก ถึงมากที่สุดแบบไม่เคยเป็นมาก่อน คือเหนี่ยวตัวทั้งวัน ภาวนาให้ฝนมาเยือนไว ๆ
ยอมเปียกฝนดีกว่าร้อนแบบวันนี้ ...


โดย: peeradol33189 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:06:02 น.  

 
น้องกันต์อยู่เพชรบุรีค่ะ บ้านเขาทำฟาร์มกุ้งฟาร์มปลานิล

นานๆทีจะได้เจอกัน เดือนสิงหานี้น้องกันต์ก็จะได้น้องสาวอีกคนค่ะ

ปีนี้น้าได้หลานสามคนแน่ะ เดือนนี้ได้หลานสาวอีกคนจ้า

ได้เมื่อไหร่จะเอารูปมาอวดให้ดูประสาคนแก่เห่อหลาน ค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:36:19 น.  

 
อยากได้ลมจากปักกิ่งมาปัดเป่าความร้อนบ้างจัง บ้านพี่ร้อนสุดๆเลยค่ะ ฝนคงลืมไปว่าเมืองไทยยังมีภาคใต้อยู่ด้วย เลยไปตกแต่กรุงเทพซะงั้น

พักนี้ยังยุ่งอยู่อีกรึปล่าวเอ่ย ผลสอบเป็นยังไงบ้าง สบายอยู่แล้วนะ ฝีมือระดับพลซะอย่าง ว่างๆก็ไปเดินเล่นบ้านพี่อีกนะ


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:42:53 น.  

 
หายไปนานๆๆๆๆๆมากเลย เพื่อนคงเรียนหนักหนาสาหัสเอากาน แต่ไม่ต้องหวงนะเพื่อน คุณฝรังนะส่งมาเราดูแลให้ก็ได้ เพื่อนจะได้เรียนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วงหน้า พวงหลัง เพื่อน กทม. ร้อนมากจนไขมันเราละลายไปเป็น 10ๆๆๆ ก.ก


โดย: เพื่อนสาวสุดสวย IP: 203.209.103.28 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:46:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aoigata
Location :
Biel Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add aoigata's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.