Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

Business Trip to Singapore







วันพุธที่ 5 มิถุนายน 2556

วันนี้ต้องเดินทางไปสิงคโปร์ มี training วันพรุ่งนี้แต่เช้า เลยต้องไปล่วงหน้า 1 วัน เลือก flight สาย ๆ จะได้มีเวลาจัดการให้ช้างต้นไปโรงเรียนเรียบร้อยก่อน อีก 4 วันค่อยกลับมาเจอกันใหม่

จัดการช้างน้อยเรียบร้อย ก็ออกจากบ้านเลย เพราะอยากจะไปชิว ๆ ไม่ต้องรีบมากจะได้มีเวลาเดิน Duty Free ด้วย Trip นี้เดินทางด้วย Thai Airways flight TG 413 จะถึงสิงคโปร์ตอน 14.30 check-in ที่โรงแรมได้พอดี

check-in ล่วงหน้ามาแล้ว สะดวกดี มาถึง load กระเป๋าแป๊บเดียว เพื่อนบอกว่าออกนอกประเทศเอากระเป๋าใบใหญ่ ๆ ไปหน่อยเผื่อหิ้วอะไรกลับมาได้ (ไม่อยากเอาใบใหญ่ไปเพราะที่เพื่อนบอกให้เผื่อนี่แหละ) ไม่เอาวุ้ย ใช้ใบประจำนี่แหละ (อาการติดกระเป๋า)


Load กระเป๋าเรียบร้อย เหลือเวลาอีกชั่วโมงนึง ตอนแรกคิดว่าจะเดินชิว ๆ ดูของใน duty free ไปเรื่อย ๆ แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะเดินเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึง gate สักที gate inter มันไกลกว่า gate domestic ที่เคยขึ้นประจำ เริ่มจะไม่ชิวแล้ว ไหนฟระ C7 กว่าจะถึง เดินจนเหนื่อย


Bye Bye Thailand




TG413 (37A) เสิรฟ์บะหมี่ไก่ รสชาติเลวร้ายมาก (สำหรับเรา) ไม่อร่อยแต่ไม่มีให้เลือกเพราะอีกเมนูเป็นข้าวแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย..หมด ทั้ง ๆ ที่ก็นั่งแถวต้น ๆ นะทำไมมันหมดเร็ว หลังจัดการกับอาหารเรียบร้อย บันเทิงอยู่กับหน้าจอส่วนตัวไปสักพักใหญ่ ๆ เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง เครื่อง Landing @ Changi Airport (Terminal 1) โดยสวัสดิภาพ (ครื้มฝน สงสัยเดี๋ยวคงตก)


ออกจาก Airport มุ่งหน้าเข้าเมือง ปลายทาง Novena Square


Check-in at Oasia Hotel (#1806)


พักที่นี่จะเดินทางด้วย MRT สะดวกเพราะจากโรงแรมเดินเชื่อมทางใต้ดินไปที่สถานี Novena ได้ทันที มิน่าล่ะ ที่อ่านจากหนังสือเค้าบอกว่าคนสิงคโปร์นิยมใช้ทางเชื่อมที่อยู่ใต้ดิน ฝนตกแดดออกก็ไม่มีอุปสรรคต่อการเดินทาง เพราะตัวอาคารส่วนใหญ่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า (มันก็สะดวกจริง ๆ นะ แค่ลงให้ถูกฝั่งออกให้ถูกทางแต่มันครั้งแรกสำหรับเรา อาจจะยากโหน่ย สงสัยต้องถามทางไปเรื่อย ๆ วุ้ย (Orchard อยู่ห่างจากที่นี่แค่ 2 station หุหุ)

Review ห้องพัก #1806 (มีภาพจิ๊ดเดียว)

อยู่ชั้น 18 นอนคนเดียว แต่คนจอง ๆ เป็น Twin bed ให้ ช้านล่ะงงจริง ๆ แต่เอาเถอะ นอนได้ ขี้เกียจเปลี่ยน












สำหรับคนติดกาแฟ


แต่เลิกดื่มกาแฟมาพักใหญ่ ๆ แระ ยังดีที่มีชาให้เลือกหลากหลายด้วย


ตอนนี้ฝนโปรยแล้ว แต่อย่างที่บอก สายฝนคงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคนชอบเดินทางและสำรวจเที่ยวชมอะไรใหม่ ๆ เดี๋ยวมุดดินไป Orchard พร้อมแล้วไปล่ะ


ที่ Orchard Station มีทางออกหลายทาง และเชื่อมกับ Ion Mall ห้างใหญ่ (ใหญ่จริง เดินซะเมื่อย) คนสิงคโปร์คงชอบ shopping ห้างเยอะร้านแยะ คนก็เยอะ และตอนนี้ก็เริ่มเทศกาล Sales แล้วด้วย เดินห้างจนดึก 3 ทุ่มกว่า กลับโรงแรม หมดแรง เตรียมตัวพรุ่งนี้ออกไป Woodland แต่เช้า



วันพฤหัสที่ 6 มิถุนายน 2556

เช้าวันแรก at Singapore ออกจากโรงแรม 7 โมงครึ่งไป Woodland training อยู่ที่นั่นทั้งวัน จบด้วยมื้อค่ำที่ห้างย่าน Woodland นั่นแหละ (จำชื่อห้างไม่ได้อีกตะหาก) สองทุ่มกว่าฝนตกหนักเชียว เพื่อน ๆ ที่มา training ด้วยกันยังสนุกกับการ shopping ส่วนอิชั้นอยากจะกลับ เลยขอตัวกลับโรงแรมก่อน อยากนอน กลับมาก็ไม่ได้นอน นั่งอ่านหนังสือถึงตี 1 ที่อ่านนานอ่านเพลินวางไม่ลง เพราะเตรียมวางแผนการเดินทางจะเที่ยวยังไงให้ได้หลากหลายที่สุดในครึ่งวันที่มีเวลาก่อนจะกลับ (ดู serious มั้ย จริงจังนะเนี่ย จะหลงไม่ได้เลย ต้องเป๊ะ ๆ เท่านั้น เพราะเวลามันมีจำกัดจริง ๆ)



วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2556

วันนี้ยังคง training ต่อเนื่องจากเมื่อวาน ตอนเย็นฝนก็ตกหนักอีก มา Singapore รอบนี้เจอฝนทุกวัน แต่ไม่ทันได้เปียกหรอก มุดดินตลอด กลับถึงโรงแรม รีบ ๆ เอาสัมภารกไปเก็บ แล้วคว้ากระเป๋าออกไป Takashimaya เพราะมีสัญญาใจกับช้างต้นไว้ ว่าจะต้องซื้อของฝาก he ถ้าไม่มีติดมือกลับไปอาจมีการงอนกันได้ เพราะ trip นี้ he ปล่อยให้อิชั้น on board แบบง่ายดายไม่ถามจุกจิกซักคำ ก็เลยต้องตบรางวัล

อยู่สิงคโปร์ก็เดินห้างยันดึกเหมือนอยู่กรุงเทพฯ ทุกวัน ไปวนเวียนอยู่แผนกของเล่น ในที่สุดก็ได้ของฝากให้ช้างต้น คิดว่าต้องถูกใจ ^_^

มีแต่ของฝากชาวบ้าน ของตัวเองไม่มีเลย ที่สำคัญอัยกล่อง ๆ ใหญ่พวกนี้ต้อง hand carry ขึ้นเครื่องอีกตู เพราะบอกแล้วว่าจะไม่หิ้วกระเป๋าใหญ่ ไม่ซื้อของ (แต่ก็ซื้อจนได้) กลับถึงห้องเตรียมจัดกระเป๋า พรุ่งนี้ตื่นปุ๊บจะได้ check out แล้วออกไปตะลอนทัวร์ เวลายิ่งมีน้อย ๆ อยู่




วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2556

วันนี้ตื่นสายกว่าปกตินิดนึง รีบ ๆ จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ check out ตอน 10 โมง ฝากกระเป๋าไว้ก่อนเดี๋ยวกลับมาแล้วค่อยตรงไป airport จากที่นั่ง ๆ นอน ๆ อ่านคู่มือเที่ยวสิงคโปร์อยู่หลายชั่วโมง สรุปได้ว่าคงต้องเลือกไปลง MRT ที่สถานที่ Raffles จากสถานีนี้จะไป Marina Bay ช้านต้องไปเบิ่งสิงโตทะเล Merlion ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวจะเหมือนมาไม่ถึง Singapore แล้วเดินเล่นเลาะ ริมแม่น้ำไปได้หลายที่หน่อย ดีนะที่เอารองเท้าแบน ๆ มา พร้อมแระ...ไปเที่ยวดีกว่า เดี๋ยว 3 โมงต้องกลับถึงโรงแรมเพื่อรีบบึ่งไป airport เกือบ 5ชั่วโมงต่อจากนี้ เดินอย่างเดียววุ้ย...เพราะถ้านั่งรถอาจจะหลงได้

ภาพรวม ๆ จากการเดิน เดิน และก็เดินร่วม 5 ชั่วโมง เวลามันผ่านไปเร็วมาก ๆ

จาก Raffles Stataion (Exit E) โผล่ขึ้นมาเดินเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอกับแม่น้ำ ด้านซ้ายจะเป็น Fullerton Hotel โรงแรมเก่าแก่ของสิงคโปร์ จากตรงนี้เดินข้ามฝั่งไปก็จะเป็น Marina Bay




เดินริมแม่น้ำที่สิงคโปร์ ก็จะได้ feel คล้าย ๆ เดินที่ Asiatique เพราะมีรูปหุ่นหล่อสำริดแบบนี้ตั้งอยู่ตามทางเดิน


เรือล่องแม่น้ำ ไม่มีเวลานั่ง ไว้โอกาสหน้ามา มีเวลาเยอะ ๆ จะมาล่องเรือบ้าง


The Art House พิพิธภัณฑ์แสดงศิลปะจร้า


มาจนถึง แต่กว่าจะเดินมาถึง ก็ไปขลุกอยู่ในร้านขายของที่ระทึกอยู่นาน
ออกจากร้านมา แดดกำลังเปรี้ยงเลยอ่ะ


Merlion เค้ามาถึงสิงคโปร์แระนะ


Check-in




จากจุดชมวิวปากแม่น้ำสิงคโปร์ตรงนี้ เราจะมองเห็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์เรียกได้ว่าเกือบครบ ขาดก็เพียงแต่ไม่ได้ไปให้ถึงตรงแต่ละจุดเท่านั้นเอง อย่างที่บอก เวลาไม่พอจริง ๆ

Marina Bay Sands


เห็น ArtScience Museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาศาสตร์อยู่ข้าง ๆ
เป็นอาคารสถาปัตยกรรมรูปทรงคล้ายดอกบัวบาน





The Esplanade - Theatres on the Bay โรงละคารริมอ่าว
สถาปัตยกรรมแบบนี้ คงได้แรงบันดาลใจมาจากเปลือกทุเรียนบ้านเรา (เหมือนจริง ๆ)




เห็น Singapore Flyer อยู่ลิบ ๆ ทางซ้ายมือ เวลาขึ้นไปแล้วคงได้ feel คล้าย ๆ กับที่มีที่ Asiatique เพราะเป็นวิวแม่น้ำเหมือนกัน กลับมาขึ้นที่บ้านเราก็ได้ (ปลอบใจตัวเอง เวลาไม่อำนวย งือ ๆ)

ชมวิวจุใจ เดินย้อนกลับมาทางเดิม จาก The Art House คราวนี้เดินเลาะ ๆ ริมแม่น้ำ เดินมาเรื่อย ๆ ผ่าน Asian Civilization นิดนึง ด้านหลังพิพิธภัณฑ์เจอท่านเซอร์ยืนเท่ห์อยู่ Sir Stamford Raffles แถวนี้เค้าเรียกว่า Raffles Landing Site ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ท่านได้เหยียบลงบนแผ่นดินสิงคโปร์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 June 1819 ด้านหลังรูปปั้นจะเห็นตึก OUB Centre, UOB Plaza และ Rebublic Plaza (ข้อมูลจากหนังสือเที่ยวสิงคโปร์จร้า)



รูปหล่อสำริดอีก


เริ่มเหนื่อย เดินมาไกลมากแล้วเนี่ย
มาถึงหัวมุมถนน Hill Street เจออาคารกระทรวงวัฒนธรรม (MICA Building) อยู่ตรงหัวมุม River Valley Road หน้าต่างเก๋มาก ๆ หลากสีสวย ๆ สด ๆ


หลายรูปไปงั้นแหละ มันก็มุมเดิม ๆ






ที่สิงคโปร์จะข้ามถนนเค้าใช้อุโมงค์เดินลอดข้ามแยกกัน เดินข้ามไปฝั่งตรงอาคารกระทรวงก็จะเป็นย่าน Clarke Quay อาคารสวย ๆ สีสด ๆ อีกแล้ว













มองนาฬิกา สงสัยจะหมดเวลาเดินเที่ยวแล้ว ตอนนี้บ่าย 2 โมงครึ่ง ต้องเผื่อเวลาเดินย้อนกลับไปขึ้น MRT ที่สถานี Raffle (red line) เดินย้อนอีกไกลเลยล่ะ กลับถึง Osia late จากที่ plan ไว้ 15 นาที รีบ ๆ โกยกระเป๋าขึ้นรถ ระหว่างทางฝนโปรยลงมาอีก (ฝนตกตั้งแต่วันมาถึงยันวันกลับ) ถึง Airport ปุ๊บ load กระเป๋า (check-in มาแล้วล่วงหน้า) รีบเดินจ้ำ ๆ เข้าไปใน duty free เพราะยังขาดของที่คนสำคัญฝากซื้ออีกหนึ่งชิ้น แต่ดูแล้วราคาไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไหร่ แต่ที่ duty free ที่สิงคโปร์ chocolate เยอะดี ถูกใจคนชอบ chocolate เยี่ยงเรา อยากเดินอีกแต่ไม่มีเวลาแล้ว โชคดีที่ Gate D40 มันไม่ไกลอยู่ระแวกร้านที่ขายของนั่นแหละ ซื้อจนนาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง

Bye Bye Singapore




Take off from Singapore by TG408 1815 (35A)


อาหารที่เสริฟ์ แม่เจ้า มันยังคงเป็นบะหมีไก่อีกเหมือนเดิม เหตุผลคือข้าวหมดแล้ว (ขากลับนี่ก็นั่งต้น ๆ นะ 35A เนี่ย ตรูยังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอเนี่ย) ครั้งหน้าตรูจะระบุเลยว่าต้องข้าวเท่านั้น บะหมี่ไม่กิน บิน 2 flight เจอทั้ง 2 flight เลยอ่ะ เซ็งเป็ด โกรธอ่ะ มันไม่อร่อย เบื่อ ไม่กินก็ไม่ได้ หิว...ฝรั่งที่นั่งข้าง ๆ he บอกว่า no choice (เค้าคงไม่อยากกินบะหมี่ไก่เหมือนกัน) แต่ he กินบะหมี่ไก่กะ red wine ด้วยอ่ะ

ตามกำหนดแล้วต้อง Landing 1935 แต่กัปตันบอกว่าสุวรรณภูมิฝนตกหนัก ลงไม่ได้และก็ยังมีอีกเกือบ 8 ลำที่ลงไม่ได้เหมือนเรา งั้นเราจะบินวนก่อน บินอยู่สักพัก ดูที่ monitor show ว่าเราอยู่ชลบุรี (วนไกล) เกือบ 2 ทุ่มกว่าจะ Landing ได้ กลับถึงบางกอก สยามเมืองยิ้มโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับถุงของเล่นพะรุงพะรัง ถึงบ้านช้างไม่รอช้า รีบประกอบเสร็จ ถูกใจ he ตามคาด อิชั้นแถมรถ Tomica ให้อีก 4 คัน เพราะถ้ามีแต่ลานจอดรถแต่ไม่มีรถ เดี๋ยวก็จะถามหาอีก เลยซื้อมาซะให้ครบ



......The End......




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2556
0 comments
Last Update : 7 กันยายน 2556 11:52:24 น.
Counter : 2740 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


angel-touch
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add angel-touch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.