ปัญหาสายตายาวเมื่อมีอายุมากขึ้น นอกจากจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ยังก่อให้เกิดความหงุดหงิดทั้งในด้านการมองเห็นและบุคลิกภาพ บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเลนส์แว่นตาอันดับหนึ่งของโลกจากฝรั่งเศส จึงได้เชิญเซเลบริตี้คนดัง ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จจาก 5 สาขาอาชีพ มาร่วมเปิดใจพร้อมแชร์ประสบการณ์ของการเป็นผู้ใช้แว่นสายตาในชีวิตจริง พร้อมแง่คิดมุมมอง วิชั่นดี ชีวิตเคลียร์ จากเลนส์ วารีลักซ์ เอส ซีรีส์ (Varilux S Series) เลนส์โปรเกรสซีฟนวัตกรรม ล่าสุดของเอสซีลอร์ ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการด้วย 2 เทคโนโลยีใหม่ทั้งนาน็อพติคส์และซินครอนอายส์ ทำให้มีมุมมองที่กว้างขึ้น และการใช้ชีวิตที่มีความสุขขึ้นในทุกด้านเลยทีเดียว
นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท เอสซีลอร์ จากฝรั่งเศสได้ก่อตั้งมาประมาณร้อยกว่าปีแล้ว เราเป็นผู้ผลิตเลนส์คุณภาพเยี่ยมระดับ Hi End ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของโลก เพราะเน้นกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง พัฒนานวัตกรรม (innovation) พัฒนาการให้บริการ (service) และครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่เอสซีลอร์เป็นผู้ค้นคว้าเลนส์โปรเกรสซีสรายแรกของโลก ด้วย เลนส์ วารีลักซ์ เอส ซีรีส์ เลนส์โปรเกรสซีฟนวัตกรรมล่าสุด ภายใต้คอนเซปต์เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟที่เป็นที่สุดแห่งการมองเห็นแบบไร้ขีดจำกัด เป็นการออกแบบเลนส์เฉพาะบุคคล พร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะทำให้ผู้สวมใส่แว่นตารู้สึกสบายตาสบายใจ เคลื่อนไหวสายตาไปมาได้อย่างสมดุล ไม่บิดเบือน ได้ภาพที่คมชัด มีมุมมองกว้างกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไป มองไกลได้กว้างขึ้น ผู้ที่ใช้เลนส์วารีลักซ์ เอส ซีรีส์ จะได้มุมมองที่เป็นธรรมชาติ ใช้ชีวิตได้สมบูรณ์แบบ และยังมีส่วนช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก
หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธ์ ผู้จัดละครและบอสใหญ่แห่งบรอดคาซท์ไทย เทเลวิชั่น จำกัด เล่าว่า ถ้าเห็นพี่หน่องก็ต้องเห็นแว่นตา พี่หน่องใส่แว่นมาตั้งแต่มัธยมจนเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าไปแล้ว ตอนนี้เวลาจะมองอะไรแต่ละทีก็จะต้องมองลอดแว่นหรือไม่ ก็ต้องถอดแว่น ซึ่งจริงๆ แล้วการมองลอดแว่นทำให้เสียบุคลิกภาพ ดังนั้น การที่เราต้องมองระยะใกล้ แล้วมามองระยะไกล มันก็เป็นปัญหาระดับชาติได้เหมือนกัน ต้องค่อยๆ ขยับแว่นปรับโฟกัส สำหรับเลนส์โปรเกรสซีฟ อย่าง วารีลักซ์ เอส ซีรีส์ ช่วยชีวิตในการมองเห็นได้ดีขึ้นมาก เข้าทำนองที่ว่า วิชั่นดี ชีวิตเคลียร์ คือโลกสดใส เคลียร์ชัดทุกมุมมอง
ขณะที่ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล แฮร์ สไตลิสต์ และเจ้าของธุรกิจ ชลาชล กรุ๊ป ผู้มีแว่นตานำเทรนด์แฟชั่นที่เข้าคู่กับบุคลิกเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร เล่าว่า ตัวเองเป็นคนใส่แว่นตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ประกอบกับที่มีปัญหาเรื่องสายตา ด้วยความที่ทำงานกับเส้นผม มันมีความละเอียดอ่อน ต้องเพ่งสายตาตลอดเวลา โดยส่วนตัวเป็นคนเลือกใช้เลนส์โปรเกรสซีฟคนแรกๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะจะพยายามมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรม ทำให้มุมมองในการมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบกับที่เลนส์ วารีลักซ์ เอส ซีรีส์ สามารถทำสีเลนส์ให้ได้ด้วย เพราะว่าเราชอบลุคแฟชั่น เลนส์สีก็ช่วย อำพรางสายตาได้ ให้แววตาดูสดใส มีอะไรไม่เหมือนคนอื่น คิดง่ายๆ ว่าเวลาที่คนเรามองไม่เห็น มองอะไรก็ไม่ชัดไม่เคลียร์ ชีวิตมันก็ลำบาก หงุดหงิด แต่ถ้าจะให้วิชั่นดี มีชีวิตเคลียร์ได้เหมือนอย่างฝีมือตัดผมก็ต้องเอาสายตาเราไว้ก่อน เข้าทำนองดวงตาก็เป็นหน้าต่างของหัวใจ คือถ้ามองอะไรชัดก็จะคิดดีได้นะ ให้วิสัยทัศน์เป็นไกด์นำพาชีวิต ถ้าไกด์เบลอก็ไม่ได้นะ ทุกอย่างอาจจะดูเลวร้าย ถ้ารักถนอมสายตาก็ต้องดูแลเขาไปให้ดีตลอด
ด้าน หนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด หนุ่มนักธุรกิจผู้มีใบหน้าอ่อนกว่าวัย เล่าว่า ใส่แว่นตาเพราะเป็นคนมีปัญหาทางด้านสายตา สายตาสั้นมาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนก็ใส่แว่นมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นเรียนหนัก นั่งอยู่หลังห้อง ก็ว่าทำไมมองอะไรไม่ชัด ถึงได้รู้ว่าตัวเองสายตาสั้น พออายุเริ่มมากขึ้นสายตาก็เริ่มยาว อีกอย่างก็เกี่ยวกับอาชีพด้วย เพราะต้องใช้สายตาส่องเพชร ชัดไม่ชัด เพชรแท้ไม่แท้ และเป็นคนชอบดูคอนเสิร์ตมาก เพื่อนๆ เขาหันซ้ายหันขวากันมีความสุขสนุกสนาน แต่เราหันตาซ้ายก็เห็นไม่ชัด หันตาขวาก็ไม่ชัด แต่พอลองเปลี่ยนมาใช้เลนส์ วารีลักซ์ เอส ซีรีส์ แล้วลองเดิน รู้สึกว่าอยู่ในโลกเหมือนจริงมากขึ้น ภาพที่เรามองเห็นมันก็คมชัด มองไกลก็กว้างขึ้น มองใกล้ก็ได้ไม่มึน ไม่เวียนหัว ซึ่งตอนนี้ผมว่าเลนส์ตัวนี้ ช่วยให้ชีวิตผมมีความสุขมากขึ้น จากการได้เห็นอะไรที่มันเหมือนจริง ไม่ต่างจากที่ว่า วิชั่นดี ชีวิตเคลียร์ พูดง่ายๆ ก็คือทำให้ดูเพชรพลอยสวยขึ้นแน่ๆ
ด้วง-ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด ชายหนุ่มมาดเข้ม ภายใต้กรอบแว่นสายตากลมดำ ที่มีบุคลิกโดดเด่น เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตจริงของตนเองว่า สายตาของผมสาหัสครับ มีทั้งสั้น เอียง และยาว มีครบหมด เป็นผู้พิการทางสายตาอย่างนั้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งงานของผมเป็นงานสถาปนิกต้องใช้สายตาไปตรวจงานภาคสนาม กลับมาออฟฟิศก็มานั่งคิดงาน เป็นความวิกฤติของชีวิตมากๆ ใช้สายตาทั้งระยะไกล ระยะใกล้ อยู่คู่กับเลนส์ โปรเกรสซีฟมาหลายปีมากแล้ว ช่วงกว้างของเลนส์ วารีลักซ์ เอส ซีรีส์ กำลังดี ทำให้สบายมากขึ้น เวลานั่งทำงาน มองภาพคมชัดมากขึ้น อ่านค่าสายตาคมชัดลึก และแม่นยำมากขึ้น ผมคิดว่าทุกคนมีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ แต่บางครั้งก็อาจมีอะไรมาบดบัง ทำให้เรามองไม่เห็นชัดเจน ถ้าเอาออกไปก็ชัดเจนขึ้น นี่ละครับที่เรียกว่า วิชั่นดี ชีวิตเคลียร์ในแบบฉบับของผม
แล้วคุณล่ะ เลือกแว่นตาให้เหมาะกับความต้องการตัวเองอย่างไร.