Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
คำสั้น

รู้สึกว่าเขียนบล็อคเกี่ยวกับธรรมะแล้วไม่มีคนอยากอ่านสักเท่าไหร่แฮะ

แต่กระนั้นเราก็ยังอยากเขียนอยู่ดี

วันนี้เจอหนังสือ "คำสั้น" ของท่านพุทธทาสภิกขุ เห็นน่าสนใจเลยยกมาบางคำ

- ยิ่งโง่ก็ยิ่งคิดว่ากูฉลาด
- สุนัขกับมนุษย์สมัยนี้ใครจะได้นิพพานก่อนกัน
- นอนอะไรกัน ยิ่งนอนยิ่งง่วง
- ศึกษาอะไรกัน ยิ่งศึกษายิ่งเห็นแก่ตัว
- ทำไมนะ ยิ่งเจริญยิ่งยุ่งยากมากขึ้น
- ไม่เป็นปัญหากับคนป่า ยิ่งเป็นปัญหากับคนเมือง
- เพื่อนนั้นมีทั้งช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มปัญหา
- อย่าทำดีเพียงเพื่อดีกว่าคนอื่น
- พระภูมิเอราวัณท่านช่วยแต่คนทำช้างไม้ (อันนี้ขำๆ)
- ยิ่งดีก็ยิ่งยกหัว-หาง-หู แข่งหมา
- ไม่ยอมคือขยายเรื่อง ยอมคือระงับเวร
- พระเจ้าที่แท้จริงไม่รับการอ้อนวอน
- อย่าประชดหรือทำเล่นๆกับกิเลส
- ศรัทธาในสิ่งที่ไม่รู้จัก ไม่แน่ว่าเป็นสิ่งมีค่า
- มีศรัทธาแต่ในสิ่งที่เห็นว่าดับทุกข์ได้
- ให้สติแก่เขาดีกว่าให้เงินเขามากมาย
- จงให้กิเลสได้สมรสกับธรรมะ
- ถือพุทธเป็นสรณะ กับยึดพุทธเป็นของกูนี้ต่างกันลิบ
- ยิ่งเจริญยิ่งไม่รักกัน ยิ่งริษยากัน
- รู้จักทำจิตให้งานกลายเป็นกีฬา หรือปฏิบัติธรรม
- ไม่มีอะไร มีแต่Imaginativity (จินตนาการ)
- ความหลุดพ้นคือหลุดจากลวงของImaginativity
- ถ้าไม่เป็นทาสsex โลกสะอาด สงบ สว่าง
- จิตไม่มีทุกข์เมื่อมันไม่รู้สึกว่ามีกู
- รากฐานแห่งคุณธรรมทั้งปวงคือความไม่เห็นแก่ตัว
- ผิดๆมา ก็ดีสำหรับค้นหาที่ถูก
ถูกๆมา ก็ดีสำหรับค้นหาที่ผิด
- เราคิดว่าจริงตามที่เรารู้สึก ดังนั้นจริงแท้อยู่ที่ไหน
- กินเท่าที่ร่างกายต้องการ มิใช่ลิ้นต้องการ
- เพลงดนตรีจะไพเราะที่สุดต่อเมื่อเรายอมโง่เพื่อเคลิบเคลิ้มให้สุดเหวี่ยง



- อยากมีปัญญา ก็ศึกษาเรื่องคนโง่ให้มาก จบ.
- ดีใจคือบวก เสียใจคือลบ ว่างคือไม่บวกไม่ลบ สบายใจกว่า
- หมาเห่าอย่าเห่าตอบเพราะจะเพิ่มหมาขึ้นอีกตัว
- คิดว่าจะบริโภคกามให้อิ่มกามกลับหิวหนักขึ้นไปอีก
- ความเป็นไปตามปัจจัยธรรมชาติมักถูกเข้าใจว่าเทพเจ้าสร้าง
- การรู้สึกว่ามีผู้สร้างผู้คุ้มครองเป็นสัญชาตญาณมากกว่าต้องช่วยตัวเอง
- หายากเหลือเกิน คนที่ทำอะไรได้สมกับชีวีอันไพเราะของตน
- อย่าตั้งชื่อเด็กให้ดีวิเศษเกินไปจนยุ่งยากลำบากใจแก่ลูกหลานจะรักษาชื่อ
- หาพระพุทธเจ้าที่ไหนก็ไม่พบนอกจากหาที่หลังม่านแห่งความโง่ของตน
- เดี๋ยวนี้ แม้แต่ม่านแห่งความโง่ของตนก็ยังหาไม่พบแล้วจะพบพระนิพพานได้อย่างไร
- เราต้องรู้แจ้งด้วยอายตนะทั้งหก มิใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ข้าว วานเพื่อนให้หุงให้เรากินได้ แต่ธรรมให้ใครปฏิบัติแทนไม่ได้
- ถ้ายอมให้เกียจคร้านครอบงำ มันจะเกียจคร้านแม้จะลุกขึ้นกินอาหาร
- อยากสุข อย่าชอบสุขหลงสุข มันจะกัดเอา
- เห็นองค์นอกได้เพียงศรัทธา เป็นพระองค์ในจึงได้ปัญญา
- อย่าให้ตัวกูของกูเข้าอยู่จำพรรษา แต่ให้จิตมีสติปัญญาจำพรรษาเถิด
- ถ้าเห็นแก่ตน จะไม่มองเห็นประโยชน์ตนชนิดที่แท้จริง
- คนเห็นแก่ตน จะไม่มีเมตตากรุณาแม้แก่ตนเอง
- คนเป็นอันมากไม่อาจเข้าถึงหัวใจพุทธ แต่ให้เข้าถึงเปลือก็ยังดี
- พระวรกายแท้ๆยังมิใช่พระองค์ แล้วอัฐิ-พระพุทธรูป-พระเจดีย์จะเป็นพระองค์ได้อย่างไร?

พอแค่นี้ก่อนนะคะ ไว้จะมาต่อใหม่



Create Date : 09 มกราคม 2549
Last Update : 4 เมษายน 2553 18:36:35 น. 6 comments
Counter : 584 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อความที่น่ารู้นะคะ


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:16:13:13 น.  

 
เขียนไปเถอะครับ การให้ธรรมเป็นทาน เป็นการดีอย่างยิ่งครับ อย่าไปคิดเลยครับว่าอยากให้มีคนอ่านเยอะๆ ความอยากมันก็คือกิเลสตัวนึงนั่นแหละครับ สังเกตุดูมองให้เห็น เห็นแล้ววาง เห็นตัวไหนก็ละตัวนั้นไปเรื่อยๆ มันเป็นแค่ปัจจัยที่เกิดเกี่ยวเนื่องกัน เขียนไปเถอะครับ เดี๋ยวผมจะแอบมาอ่านบ่อยๆครับ

ขอผลบุญในการเผยแพร่ธรรมมะของคุณแม่แอมเบอร์ ได้ทำให้คุณแม่แอมเบอร์มีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นครับ


โดย: ใจกระบี่กระจ่างแจ้ง วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:21:25:54 น.  

 
ธรรมสวัสดิ์...

ชื่อวัด... ก็ที่พี่บอกไว้ ในบล๊อกพี่ ที่เคยประกาศไว้ ไป แปดวันเจ็ดคืนนั่นแหละ ที่นี่ไง ==> https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=bluedragonyx&date=18-11-2005&group=5&blog=2


ก็คงคล้ายๆกัน คือ เวลานั่งปฎิบัติ จะปฎิบัติรวมในห้องเดียวกัน แต่จะให้ผู้ชายนั่งด้านหน้า แล้วจึงเป็นแถวของผู้หญิง

ก็สอน... เดินจงกรม 6 จังหวะ และ อานาปานสติเช่นกัน แต่... ที่นี่... ไม่ได้เจาะจงคำบริกรรม หรือ คำภาวนา ใครถนัดแบบไหน หรือ มีจริตยังไง เคยฝึกมายังไง ก็ตามแต่จะพึงพอใจ แต่ถ้าใครไม่เคยฝึก ไม่เคยปฎิบัติมาก่อนเลย ก็จะมีบอกให้ เป็นแนวทางให้เลือก ก็... ได้ทั้งนั้น ทั้ง ยุบหนอ พองหนอ ทั้ง พุทธ-โธ และ... เมื่อถูกเวทนาจับ ก็เป็น เจ็บหนอ ปวดหนอ ( อันนี้เป็นพี่เอง ถ้าถูกเวทนาจับ หรือบางครั้ง พี่ก็ไม่ใช้คำบริกรรม ไม่ใช้คำภาวนาเลย กำหนดสติไว้ที่ลมหายใจ ปลายจมูกเท่านั้น ใช้ฟังเสียงลมหายใจตัวเอง แทนคำภาวนา แทนคำบริกรรมในบางเวลา ) ซึ่ง... เทียบกันแล้ว เจมี่ คงจะ ปฎิบัติมาก่อนพี่ พี่คงต้องขอคำชี้แนะจากเจมี่น่ะนะ ถ้าเราได้มาเจอกันละก็ แต่ไปแล้ว จะถูกจริตของเจมี่หรือเปล่า พี่ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือตอนนี้... พี่รู้สึกว่า ถูกกับจริตของพี่ และ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไปด้วยกัน รวมทั้งแม่พี่ด้วย

พระอาจารย์ ก็มีเมตตาจิต สอนเรา ให้คำแนะนำเราด้วยดี

อืม... ก็คงไม่ต่างกันมากละมั้งนี่... ถ้าเจมี่ จะลองหาที่เปลี่ยนบรรยากาศดู ก็ลอง ไปด้วยกันซักครั้งดูก็ได้ แล้วไว้พี่ก็จะลองไปกับเจมี่ดูบ้างเหมือนกัน



แผนที่... พี่ไม่มีหรอก
แต่รู้สึกว่า น้องที่เป็นคนชวนพี่ครั้งแรก จะมี เดี๋ยวพรุ่งนี้ จะลองสอบถามเค้าดูให้

แต่อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟย่อย "บันไดม้า" และ ก็อยู่ใกล้วัดเขาบันไดม้า ซึ่งเท่าที่รู้ ก็คือ เสด็จพ่อ รัชกาลที่ ๕ ท่านเคยเสด็จประภาส แล้วเอาม้าลงที่นี่ ก็เลยตั้งชื่อว่า "บันไดม้า" นับจากนั้นมา

ถ้าจะไป... ถ้าเจมี่มาคนเดียว ก็ไปด้วยกันดีกว่า จะเอารถไปทำไม หลายๆคัน เปลืองน้ำมัน เปลืองทรัพยากรธรรมชาติโดยใช่เหตุ

แล้วเดี๋ยวจะโทรไปคุยอีกทีละกัน


สำหรับเพื่อนๆ ท่านอื่นๆ ถ้าสนใจ
ก็ลองไปอ่าน ที่ผมคุยกับเจมี่เค้าไว้
ที่บล๊อกก่อนหน้านี้ นะครับ

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=amber&date=08-01-2006&group=13&blog=3


โดย: Phoenixนิลมังกร วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:21:45:20 น.  

 
และ ขออนุโมทนา กับ การเผยแพร่ คำสอนของท่านพุทธทาสด้วยครับ


โดย: Phoenixนิลมังกร วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:21:49:49 น.  

 
ขอบคุณแม่แอมเบอร์ที่เผยแผ่ธรรม
บางที การที่อ่านเรื่องธรรมะจากคุณมากๆ ก็ทำให้ฉันละอายแก่ใจ เพราะอยากสิ้นจากบ่วงวัฏสงสาร แต่ไม่ได้เริ่มต้นปฏิบัติตนให้เป้นชิ้นเป็นอันเสียที


โดย: รักแรกคลิก IP: 136.8.1.100 วันที่: 10 มกราคม 2549 เวลา:8:11:18 น.  

 
สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆที่เคารพทุกท่าน

คุณค้างคาวสาวสองพันหนึ่งปี (ขอแหย่กันเล็กๆพอขำๆ อย่าโกรธกันนะคะ) - ไว้แม่แอมเบอร์จะเอามาลงเพิ่มอีกค่ะ เมื่อวานพิมพ์แล้วมึนเลยค้างไว้แค่นั้นก่อน มาอ่านอีกนะคะ

คุณพี่ใจกระบี่ - ขอบพระคุณที่ชี้แนะค่ะ จริงอย่างที่ว่าความอยาก ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีต่างก็เป็นกิเลสด้วยกันทั้งสิ้น ทางที่ดีคือการรู้แล้วปล่อยวาง รู้แล้วปล่อยวาง...ขอบคุณที่เตือนสตินะคะ

คุณพี่ชาย - ขอวันที่แน่นอนอีกทีนะคะ ว่าแต่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันนี่จะทำยังไงดี (เกรงว่าจะโดนซักว่าไปกับใครที่ไหนยังไง จะบอกว่า "อ๋อ ไม่เคยเห็นหน้าเหมือนกันพ่อ"...โดนด่าและโดนห้ามแน่ๆ จะมุสาก็ไม่อยาก) ขอบคุณอย่างยิ่งที่มาบอกบุญต่อนะคะ

คุณรักแรกคลิก - "ความละอายใจ" เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนดีนะคะ ความละอายต่อบาปเป็นธรรมของผู้เป็นเทวดา ทุกคนต่างก็มีอัตตากันทั้งนั้น ต่างก็เห็นว่าตัวเองถูก ถ้าว่ากันตามภาษาจิตวิทยามันก็คือกลไกในการป้องกันตัวเองอย่างนึงนั่นเอง อย่าไปกังวลเลยค่ะ ไม่มีใครในโลกนี้ไม่ทำบาปไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม แม่แอมเบอร์ก็เคยทำบาปเยอะนะ แล้วตอนนี้เวลาที่เผลอสติก็ทำบาปไปเยอะ แม้แค่ชั่วขณะจิตที่คิดโกรธ อยาก ยึดติดก็เป็นบาปแล้ว และก็เป็นเพราะเหตุนี้เองพระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสสอนให้เจริญสติเพื่อให้รู้เท่าทันใจตัวเองให้มากที่สุดจะได้ทำบาปได้น้อยที่สุด เมื่อละกิเลสได้หมดสิ้นก็จะได้ไม่ต้องมาเกิดกันไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ ต้องมาวนเวียนอยู่ในกองทุกข์กันแบบนี้ไม่สิ้นสุดเสียที

ตัวแม่แอมเบอร์เองไม่ได้หวังสูงถึงขนาดจะบรรลุในชาตินี้ แค่ขอให้ตัวเองเพียรพยายามในการเจริญสติให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะระลึกได้ในทุกๆวัน และรักษาศีลห้าให้มั่นคง ได้เท่านี้ก็นับว่าดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้ว ไม่ใช่ว่าอยากจะดีเด่กว่าคนอื่น แต่แม่แอมเบอร์ทำแล้วมีความสุขกว่าเดิม ตรงที่ละความยึดมั่นถือมั่นไปได้เยอะ พอใจเราไม่ไปยึดกับสิ่งต่างๆหรือความคิดต่างๆได้เราก็สงบ พอสงบก็มีสติ รู้ว่าควรทำอะไร จะทำอย่างไรให้ชีวิตเราดีขึ้น ทำนองนั้นน่ะค่ะ

คุณรักแรกคลิกเป็นคนดี จิตใจดี เป็นคนกตัญญู เท่านี้ก็ดีมากแล้วค่ะ แต่ถ้ามองเห็นว่าชีวิตนี้เป็นทุกข์ แล้วอยากจะหาทางแก้ไขนั้น ก็มีทางเดียวคือเจริญสติปัฏฐานสี่ เป็นทางสายเอกสายเดียว ฟังดูแล้วอาจจะงงๆ แต่ของอย่างนี้ใครทำใครได้ค่ะ เอามาบอกเล่ากันก็เข้าใจได้ในระดับฟังแล้วเข้าใจ หรือคิดตามแล้วเข้าใจ จะไม่เหมือนกัน "ภาวนมยปัญญา" คือปัญญาที่เกิดจากการภาวนา (การเจริญสติ/ วิปัสสนากรรมฐาน) เมื่อได้ปัญญาอย่างที่ว่ามานี้จะเข้าใจความเป็นไปของโลกจากส่วนลึกของจิตวิญญาณเรา และความอยากได้อยากมีจะหลุดออกไปเองโดยเราไม่ต้องสั่งไม่ต้องบังคับ ตอนนั้นจะรู้สึกว่าในหัวสมองมันใสกระจ่าง นิ่งสนิทปราศจากความคิดฟุ้งซ่านใดๆ และสงบเย็นจริงๆ (ซึ่งถ้าทำได้แบบนี้แล้วก็ยังต้องปฏิบัติต่อไปนะคะ ไม่งั้นมันก็หายไปได้เหมือนกัน - อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านว่าไว้ว่ามันไม่เที่ยง แปรปรวน และดับไปได้เป็นธรรมดานั่นแหละ)

ง่วงยังคะ หวังว่าคงไม่ทำให้คนอ่านหลับคาจอคอมกันเสียหมด

พักนี้แม่แอมเบอร์ก็โดนมารขี้เกียจ กับมารเซ็ง และมารเบื่อแผดเผาเอาน่าดูเหมือนกัน แต่ "มารไม่มี บารมีไม่เกิด" หลวงพ่อจรัญท่านว่าไว้อย่างนี้ แม่แอมเบอร์เลยต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยการดูสภาพว่าตัวขี้เกียจ ตัวเซ็ง ตัวเบื่อมันเป็นยังไง ดูมันไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็ "คงทนอยู่ไม่ได้และดับไป" เหมือนกัน (จะได้เห็นว่าไม่มีอะไรสักอย่างในโลกที่เที่ยงแท้ถาวร) แต่กว่าจะจับตัวมาร (หมายถึงรู้ทันว่าโดนมารเล่นงานเอา) ก็ย่ำแย่ไปเรียบร้อยแล้ว แสดงว่าต้องฝึกฝน ต้องอดทน และเพียรพยายามให้มากขึ้น

ถ้าชนะตัวเองไม่ได้ เราก็ไม่มีวันเอาชนะอะไรในโลกนี้ได้...เห็นด้วยไหมคะ แปลกนะที่การเอาชนะอะไรก็ไม่ยากเท่ากับการชนะใจตัวเอง ทั้งๆที่เราคิดว่ามันคือ "ใจของเรา" เองนี่แหละ แต่ถ้าอะไรได้มาง่ายมันก็คงไม่มีค่า

คุณรักแรกคลิกอย่าไปท้อใจ อย่าตำหนิตัวเอง ทุกๆคนเคยทำผิด และยังทำผิดอยู่ ทุกคนอยากมีความสุขไม่อยากมีทุกข์กันทั้งนั้น แต่ความสุขจะกลับกลายเป็นทุกข์ได้ เพราะอะไร? เพราะความไม่แน่นอนนั่นเอง ยิ่งเรายึดติดมาก ยิ่งเราหวังมาก เราก็ยิ่งทุกข์ แม้กระทั่งการคาดหวังกับตัวเองก็เช่นกัน เริ่มง่ายๆดีไหม คุณรักแรกคลิกไม่ต้องคิดอะไรมาก ทำอย่างที่เคยทำอยู่ทุกวัน แต่ขอให้รู้เท่าทันกายและใจของตัวเองว่ากำลังเป็นอย่างไรอยู่ กำลังตักข้าว ยกช้อน ใส่ปาก อม เคี้ยวๆ กลืน กำลังฟุ้งซ่าน คิดมาก หงุดหงิด โกรธ เสียใจ ดีใจ สุข ทุกข์ รู้ให้ทัน กำลังเดินก็ให้รู้ว่าตอนนี้เท้าไหนก้าวอยู่ ซ้ายหรือขวา พยายามกำหนดรู้ให้ได้ทุกขณะที่พอจะระลึกได้ ฝึกเข้าบ่อยๆจนเป็นนิสัยติดตัว คุณรักแรกคลิกจะเห็นสิ่งที่แม่แอมเบอร์พยายามอธิบายเอง แล้วคุณจะผิดพลาดในชีวิตน้อยลง และมีประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆมากขึ้น และอย่างมีความสุขขึ้นด้วย

พี่ๆเพื่อนๆคนไหนจะชี้แนะว่าตรงไหนแม่แอมเบอร์พูดข้าม หรือพูดผิดก็เชิญได้นะคะ บอกตรงๆว่าแม่แอมเบอร์ก็ไม่ค่อยจะฉลาดกับเขาสักเท่าไหร่นักหรอก ฮ่าๆๆ

ขอความสวัสดี และความเจริญในธรรมจงมีแด่พี่ๆเพื่อนๆทุกคนนะคะ


โดย: แม่แอมเบอร์ วันที่: 11 มกราคม 2549 เวลา:12:32:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่แอมเบอร์
Location :
United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]





Friends' blogs
[Add แม่แอมเบอร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.