|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รู้ไหม...ทำไมบางคนโชคดีเรื่องคู่ บางคนก็โชคร้าย
ได้มาจากเว็บนึง...รวมช็อตเด็ดเกี่ยวกับความรักจากงานเขียนของคุณดังตฤณ
เอามาลงให้เท่านี้ก่อน เดี๋ยวไว้จะมาเพิ่มให้อีกนะคะ ---------------------------------------------------
สัมพันธภาพที่สะอาดที่สุดคือทำความรู้จักกันด้วยไมตรีจิตฉันเพื่อนมนุษย์ธรรมดา สัมพันธภาพฉันเพื่อนมนุษย์จะทำให้เรารู้เห็นเองว่าเขามีเจ้าของหรือยัง หากคุณตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่าถ้ามีเจ้าของ ก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยอย่างเด็ดขาด หรือจนกว่าเขาจะตกลงเป็นมั่นเป็นเหมาะกับแฟนว่าจะเลิกกัน เจตนาเช่นนี้จะทำให้เป็นผู้หลีกจากภัยเวรทางกาม ทั้งในปัจจุบันและอนาคตครับ
พระพุทธเจ้าตรัสว่าคนในโลกนั้น แปดเปื้อนด้วยกาเมสุมิจฉาจารมากกว่าคนที่ปลอดจากกาเมสุมิจฉาจาร และเพราะเหตุนั้นเอง ย่อมน้อยที่เราจะพบคู่ที่ประสบแต่สุข โดยมากจะอยู่กันด้วยความสงสัยว่าใช่คู่ของตัวแน่หรือไม่ อยู่กันด้วยความคิดกลับไปกลับมาว่าตนเองเลือกคู่ถูกหรือไม่ และอยู่กันด้วยความหวาดระแวงว่าคู่ของตนจะไปมีคนอื่นหรือไม่ คนส่วนใหญ่จะไม่ยอมทนว้าเหว่ แล้วก็ตัดสินใจกันผิดๆร่ำไป บางทีก็เริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ยังไม่ผิดบาปชัดเจน เช่นจีบแฟนคนอื่นนี่แหละ
จาก //dungtrin.com/newsletter/prepare016.htm (เตรียมเสบียงไว้เลี้ยวตัว เล่ม ๑ - ตอนที่ ๓) ----------------------------------------------
แม้คู่ที่มีความคิดอ่านดี อยากทำชีวิตให้มีสุข อยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง เรียกว่าเสพสุขในการอยู่ร่วมระดับของบุญ ยังอาจมีความเคลือบแคลงระแวงใจในกันได้ เพราะมีสิทธิ์นอกใจกันตลอดเวลา แต่ถ้าคู่ไหนเริ่มขยับ เริ่มอัพเกรดสัมพันธภาพให้อยู่ร่วมกันในระดับของศีลจะมีความสุขอีกชนิดเกิดขึ้น ที่คู่รักส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้จักกันนัก นั่นคือ *** ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน *** เป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากศีล เป็นคุณของศีลที่เห็นได้อย่างชัดเจน
//202.44.204.76/narupan/PantipSakajcha02.htm --------------------------------------------------
ความรักไม่มีผิดไม่มีถูกตรงที่หวังครอบครอง หวังเป็นอิสระต่อกัน หรือเปลี่ยนใจไปหาคนอื่น แต่จะเริ่มเป็นบาปหรือเป็นบุญตอนที่เลือกจะมีความสัมพันธ์แบบไหนกับใครและอย่างไร
บาปจะเกิด ความผิดพลาดและมลทินติดตัวจะมีต่อเมื่อเราไปยุ่งกับคนมีเจ้าของ บุญจะเกิด ความถูกต้องและราศีสง่าจะมีเมื่อเราคบกับคนดี มีธรรมะ ในลักษณะที่เกื้อกูลให้กันและกันเจริญขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม
จาก //dungtrin.net/newsletter/viewtopic.php?t=59&start=12 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับวันที่ ๑๘ ส.ค. ๒๕๔๘ ------------------------------------------------------
คู่หญิงชายนั้นมีหลายแบบ ไม่ได้มีแต่คู่เวรกับคู่แท้
คำว่า คู่แท้ จะทำให้คุณนึกถึงเพศตรงข้ามที่ติดตามกันไปทุกภพทุกชาติ เป็นตัวเป็นตนจับจองกันอย่างถาวรไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งธรรมชาติไม่ได้มีอะไรอย่างนั้น ตามกฎเหล็กข้อแรกสุดคือ ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป
หากหันมาใส่ใจกับคำว่า คู่บุญ และ คู่บาป แทน อย่างนี้จะเห็นอะไรกระจ่างขึ้น เพราะคนเราทำบุญทำบาปสลับกันได้ ไม่มีใครทำบุญทำบาปร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตลอดไป และนั่นก็แปลว่า คู่บุญอาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบุญกันมามากกว่าร่วมทำบาป ส่วนคู่บาปก็อาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบาปกันมากกว่าร่วมทำบุญ
มองอย่างนี้อคติจะลดลงอย่างฮวบฮาบทันที ประเภทขัดเคืองใจนิดหน่อยก็เหมาว่านี่คู่เวรของเรา หรือประเภทต้องตาต้องใจเมื่อเริ่มพบก็เหมาว่านี่แหละคู่แท้ของฉัน เราจะเห็นตามจริงว่า ถ้าต้องตาเมื่อเห็น ถ้าเย็นใจเมื่อใกล้ อันนั้นก็เป็นคะแนนทางความรู้สึกด้านดีชั้นแรก ต่อเมื่อมีความผูกพันผ่านเหตุการณ์ดีร้าย หรือที่เรียกง่ายๆว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ตรงนั้นค่อยเป็นคะแนนสะสมในชั้นต่อๆมา กระทั่งปักใจเชื่อได้ว่าเป็นคู่บุญกันจริงๆ
//dungtrin.com/prepare/archieve/prepare064.htm เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับวันที่ ๑ ธ.ค. ๒๕๔๘ -----------------------------------------------------
หากอดีตกาลคุณเคยครองเรือนกับผู้มีบุญเสมอกันทั้ง ๔ ข้อ(อาจหย่อนนิดหย่อนหน่อยได้) ขอเพียงได้มาพบกันในชาตินี้ก็จะเกิดแรงดึงดูดที่ก่อความรู้สึกแสนดีอย่างประหลาด เหมือนเข้ากันได้ทุกอย่างเหมือนเห็นกันได้ทุกแง่มุมด้วยความเข้าใจกระจ่าง
และขอเพียงเกื้อกูลกันนิดๆหน่อยๆ เช่นฝ่ายหนึ่งมาถามทาง อีกฝ่ายบอกทางให้เท่านี้ก็จะเกิดแรงปฏิพัทธ์ขึ้นอย่างรุนแรง ชนิดที่ฝ่ายชาย (ซึ่งมีธรรมชาติเป็นรุก)อาจยื่นข้อเสนอเดินพาไปส่ง และฝ่ายหญิงก็ตกลงรับข้อเสนออย่างยินดีเต็มใจทันทีแล้วการตกลงร่วมทางกันไปจนกว่าจะตายก็ติดตามมาอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรซับซ้อนไม่มีเหตุการณ์น่าปวดหัว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคู่บุญประเภทนี้
แน่นอนว่าสายตาทั่วไปมองแล้วย่อมนึกอิจฉาโดยไม่มีใครเข้าใจต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดจึงมีคู่ที่น่าอิจฉาได้ปานนั้นรู้แต่ว่ามีจริง แต่ไม่รู้ว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร ต้องต่อว่าใครที่แกล้งลำเอียง ความจริงคือคู่บุญได้รับความยุติธรรมจากธรรมชาติกรรมวิบากต่างหากแต่อาจเป็นความยุติธรรมที่ลึกลับเพราะนำอดีตชาติมาแสดงให้เห็นเป็นภาพยนตร์ตามโรงไม่ได้
จากที่พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัส ว่าหญิงชายจะพบกันทั้งชาตินี้และชาติหน้า ก็เพราะมีเหตุ คือต่างฝ่ายต่างมีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาเสมอกัน คำว่า "เสมอกัน" นั้น อย่างน้อยที่สุดคือร่วมยินดีไปในแนวความเชื่อเดียวกัน มีใจปรารถนาจะรักษาศีล มีใจอยากสละให้ และอย่างน้อยพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าฝ่ายหนึ่งเสนอ อีกฝ่ายนอกจากไม่สนองแล้วยังเอาแต่ขัดๆๆ
ยิ่งไปกว่านั้น พระพุทธเจ้ายังเคยตรัสว่า ความรักจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเหตุสองประการ ประการแรกคือเคยอยู่ร่วมกันมาในอดีตชาติ ประการที่สองคือชาตินี้ได้เกื้อกูลกัน นั่นแหละความรักอย่างลึกซึ้งถึงจะเกิดได้
มองด้วยข้อสรุปนี้ คู่บุญตัวจริงก็คือคนที่เคยคิดดี พูดดี ทำดีต่อกันมาก่อน รวมทั้งมีศรัทธาไปในทางเดียว แข็งแรงในศีลข้อเดียวกัน มีใจคิดสละประมาณเดียวกัน และอย่างน้อยต้องพูดกันรู้เรื่องประมาณเพลินคุยได้ไม่รู้เบื่อ ประเภทใส่บาตรครั้งสองครั้ง อาจมีผลให้เกิดความรู้สึกปิ๊งๆบ้าง แต่จะไม่มีเหตุปัจจัยส่งเสริมสนับสนุนให้ได้พบกันบ่อยๆ ได้เกื้อกูลกันโดยปราศจากอุปสรรคขัดขวางอย่างสิ้นเชิง พูดง่ายๆ ว่าต้องสร้างปัจจัยใหม่กันเหนื่อยพอดูครับ
//dungtrin.net/newsletter/viewtopic.php?t=70&start=77 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับวันที่ ๑ ก.ย. ๒๕๔๘ ---------------------------------------------------
ผัวตัวเมียที่มีบารมีอันได้แก่ทาน ศีล สมาธิ และปัญญาเสมอกัน หรือคล้อยตามกัน ย่อมมีโอกาสได้พบเจอบ่อยกว่าคู่อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจิตเป็นกุศลแล้วอธิษฐานสำทับร่วมกันเสมอๆ ก็จะให้ผลแรงเป็นทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ หนักแน่นมั่นคงและเป็น ตัวจริง ของกันและกันอย่างยากจะหาใครมาแทนที่
(ทางนฤพาน บทที่ ๑๐ ผู้วิเศษ) ----------------------------------------------------------
ถ้าเป็นคู่แท้ที่เคยร่วมบุญร่วมบารมีกันมาก่อน ก็มิใช่ว่าจะต้องด่วนเจอทันใจเสมอไป แต่อาจรอจังหวะเหมาะสมที่เมื่อพบกันแล้วต่างอยู่ในภาวะพร้อมจะร่วมทางกุศลดังเดิมอีกด้วย
แรงเหวี่ยงของกรรมใหญ่ฝ่ายกุศลจะดึงดูดให้วิญญาณตามติดกันไปเรื่อยๆ คล้ายดาวแม่กับดาวบริวารนั่นแหละ ตราบใดเรายังมีใจเห็นดีเห็นงามกับกุศลผลบุญของเขา แล้วก็ร่วมกันทำประโยชน์ให้สาธารณชนไม่เลิกรา เกิดใหม่ก็ได้อยู่ด้วยกันอีกเสมอไป เว้นแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพลาดไปอยู่ภพต่ำ ปล่อยให้อีกฝ่ายโดดขึ้นไปอยู่สูงตามลำพัง ก็อาจคลาดกันระยะหนึ่ง
(กรรมพยากรณ์ : ชนะกรรม ตอนที่ ๔๑ ชนะกรรม) ---------------------------------------------------------
การที่มีอัตภาพได้มาเจอกันแล้วรู้สึกดี ก็ถือว่าเป็นบุญเก่าที่ให้ผลเป็นกุศลวิบากอยู่แล้ว นั่นเป็นของในอดีตล้วนๆ นับแต่วินาทีแรกที่พบกัน แม้ว่าวิบากเก่าอาจจะยังให้ผลไม่หมดสิ้น มีแรงหนุนให้อยากคบหา หรือมีความหนุนเนื่องให้เกิดเหตุการณ์ดีๆ ปัจจัยประกอบดีๆ ก็ต้องถือว่าทั้งสองต้องเลือกเอาเอง กำหนดเอาเอง ว่าจะทำปัจจุบันให้เป็นอย่างไร ถางทางอนาคตให้ดีร้ายแค่ไหน
จะเลี้ยงความรู้สึกดีต่อกันไว้ได้นั้น บุญเก่าอาจมีส่วนในแง่ของการเอื้อปัจจัย แต่ไม่ได้เป็นประกันชัดเจนเหมือนบุญใหม่แน่นอน
//www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001500.htm#4 ----------------------------------------------------------
หากชาติใกล้เตือนกันและกันตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ต่างฝ่ายต่างมีรูปร่างหน้าตาต้องใจเพศตรงข้าม พอมาเจอกัน ก็เอ็นดูเสน่หา หลงใหลในกันและกันรุนแรง ชนิดที่ใครอื่นหมื่นแสนก็ทำให้หลงไม่ได้เท่า
หากชาติใกล้อาจจูงมือกันเข้าวัดเข้าวา ฝึกภาวนาให้เกิดความตั้งมั่นทางจิตใจ เจริญปัญญาให้แก่กล้าหวังความหลุดพ้นในที่สุดด้วยกัน ตั้งความปรารถนาว่าจะพบเพื่อเกื้อกูลกันให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ไม่ขวางกันและกันในเส้นทางมรรคผล พอมาเจอกัน ก็เกิดความผ่องใส เย็นรื่น แค่อยู่ด้วยกันเฉยๆก็อาจเป็นแรงสะกิดอีกฝ่ายให้สงบลงจากทุกข์ และโน้มน้าวกันให้ใฝ่แต่เรื่องแสนดี งดงาม ไม่เป็นที่ระคายต่อกัน เจอพระสงฆ์องค์เจ้าก็แต่ที่ดีๆ ไม่ลุ่มหลงประเภทพาญาติโยมลงเหว
//www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001500.htm#4 -------------------------------------------------------
มีคู่รักหลายคู่ ที่ทำบุญมาด้วยกันแค่ระดับทาน อาจรวยร่วมกัน เจอกันยิ่งรวยมหารวยเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ปัญญาที่จะประคองรักร่วมกันอาจขาดไป ได้กันแล้วก็เบื่อกัน ไม่ต่างกับเสพสมบัติชนิดอื่นๆ ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงอาจมักมากในกามจนต้องออกไปเลอะเทอะข้างนอก และคนมีเงินนั้น ผิดศีลได้มากข้อนัก คงไม่ต้องขยายความ
มีคู่รักอีกหลายคู่ ที่ชวนกันรักษาศีลมาก่อน จะโกหกนั้นไม่เอา บี้มดตบยุงก็ไม่ยอม แต่ขาดทานบารมีร่วมกันมา ชวนกันอดออม ชวนกันตระหนี่เสียมาก เพราะไม่รู้ค่าของทาน ไม่เชื่อผลของทาน เกิดมาเจอกันอาจจะรักกันดูดดื่มปานจะกลืน เพราะรูปสวยด้วยกันทั้งคู่ แต่ขอโทษ ต้องกัดก้อนเกลือกินจนตาย ถึงสัญญาเก่าที่เจือด้วยความบริสุทธิ์ของศีลจะดึงรั้งไม่ให้นอกใจกัน ก็อยู่ร่วมกันอย่างอัตคัดขัดสน ผอมแห้งแรงน้อย เจ็บออดๆแอดๆ ก็เป็นเหตุให้เกิดความเบื่อหน่ายกันและกันอันเนื่องจากความเป็นอยู่ได้อีก
โดยความไม่สมบูรณ์ของ ทาน ศีล ภาวนา ที่บำเพ็ญมาร่วมกัน คู่รักที่เป็นปุถุชนทั่วไปจึงมักขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายสิ่ง ที่จะเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงตามวิถีทางธรรมชาติ ให้มั่นคงในรักต่อกัน หรือให้มีความสุขสดชื่นบำรุงจิตใจกันและกัน ฉะนั้นถ้าหากอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีปัจจัยปรุงแต่งชนิดที่เป็นกุศล หล่อเลี้ยงให้เกิดความชุ่มชื่นใหม่ๆ ทวีขึ้นทุกๆวัน ก็เป็นธรรมดาที่ความรักจะโรยราลงตามธรรมชาติใจที่เบื่อหน่ายของเก่าซ้ำซากจำเจ
//larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001500.htm#4 ----------------------------------------------------------
คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนักกันว่าบุญกรรมที่มีกำลังส่งผลสูงสุด มีอิทธิพลดีร้าย และเป็นตัวจัดสรร เลือกคู่ครองให้เราอย่างแท้จริง ได้แก่กรรมทางกาย วาจา ใจที่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า "นิสัยใจคอ" นั่นเอง นิสัยคือพฤติกรรม หรือการกระทำที่สั่งสมจนเกิดความเคยชิน และนั่นก็ตรงกับศัพท์บัญญัติทางพุทธคือ อาจิณณกรรม
//www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/008652.htm#2 -------------------------------------------------------
เกี่ยวกับเรื่องของเนื้อคู่หรือคู่แท้ สังสารสัตว์ที่มาจับคู่กันนั้น
ไม่ใช่มีใครดลบันดาล ไม่ใช่มีฐานะคู่กันโดยเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยกรรมสัมพันธ์ทั้งสิ้น //www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001630.htm#27 ----------------------------------------------------------
วิธีที่จะเจอคนจริงใจกับเรา ไม่ว่าในด้านความรักหรือธุรกิจ ไม่ใช่ด้วยความบังเอิญ ทำนองเดียวกับที่ไม่มีใครงมเข็มในมหาสมุทรเจอโดยปราศจากเครื่องช่วย ซึ่งในที่นี้ก็คือกรรมนั่นแหละ คุณต้องเข้าใจหลักกรรมข้อหนึ่ง คือ เมื่อให้สิ่งใดย่อมไม่สูญเปล่า ต้องมีการสะท้อนตอบเป็นการได้รับสิ่งนั้นคืนมาเสมอ ฉะนั้น หากตอนนี้อยู่ในช่วงรับความไม่จริงใจซึ่งเราเคยทำไว้กับใครมาก่อนก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่า ขอให้สร้างเหตุ สร้างเครื่องช่วยให้เราไปพบกับคนจริงใจในกาลข้างหน้า คือพยายามจริงใจกับคนอื่นโดยไม่ย่อท้อ ก็แล้วกัน
(เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม ๑)
Create Date : 02 มีนาคม 2549 |
Last Update : 9 ตุลาคม 2552 14:25:19 น. |
|
9 comments
|
Counter : 913 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Bee1st วันที่: 2 มีนาคม 2549 เวลา:16:26:01 น. |
|
|
|
โดย: prncess วันที่: 2 มีนาคม 2549 เวลา:18:03:37 น. |
|
|
|
โดย: นมัสเต วันที่: 2 มีนาคม 2549 เวลา:19:57:47 น. |
|
|
|
โดย: ชายคา วันที่: 2 มีนาคม 2549 เวลา:22:11:27 น. |
|
|
|
โดย: biggg วันที่: 7 มีนาคม 2549 เวลา:12:20:50 น. |
|
|
|
โดย: Mocha Macchiato (Mocha Macchiato ) วันที่: 20 มีนาคม 2549 เวลา:3:15:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
นี่คือปรัชญาที่แม่บีใช้อยู่ค่ะ
ทำให้ชีวิตคู่มีความสุขตามที่มันควรเป็นไป
แล้วที่สำคัญที่สุด อยู่เพื่อให้ชีวิตที่กำลังเติบโตมีความสุข และมีครอบครัวที่พร้อมหน้า
สองปรัชญานี้ก็โอเคละ