Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

วันแรกกับเรื่องสนุกที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ในไทเป


เด็กท้ายวังเปิดโลกกว้างสู่ไต้หวัน

ไม่ได้มาเขียนบลอกนานมากๆแล้วเกือบปี - ๒ ปี ถ้าจะได้แล้วล่ะ กลับมาคราวนี้ก็ไม่ได้อยู่ในไทยซะแล้ว เพราะต้องมาเรียนต่อที่ไต้หวัน ตอนนี้อยู่มาได้ ๒ เดือนเต็มเกือบเข้าเดือนที่ ๓ มีเรื่องราวสนุกสนานกับประสบการณ์ชีวิตมากมายที่หาไม่ได้ถ้าอยู่ที่เมืองไทย เหอๆ

เนื่องจากผมไม่ได้เขียนไดอารี่ เลยใช้บลอกเป็นไดอารี่ย้อนหลัง จนถึงปัจจุบันเลยละกัน มาเที่ยวนี้จะทำตัวแปลกๆโดยการสอดแทรกภาษาจีนตัวเต็มเพื่อผมจะได้จำได้กับการเรียนแล้วก็เผื่อเป็นประโยชน์กับพี่ๆ น้องๆ ป้าๆ ยายๆที่มาเยี่ยมชมบล็อกด้วย เผื่อใครอยากเที่ยวไต้หวันนะคร้าบบ คนเก่งจีนแล้วอย่าด่านะ ติได้ ชมได้

ในปีแรกของผมนั้น ก็จะมาเรียนภาษาจีนที่ Mandarin Training Center ที่National Taiwan Normal University หรือที่นี่เรียกกันย่อๆ ว่า ซือต้า นั่นเอง ต้องใช้เวลาอยู่ที่ ไทเป ถึงหนึ่งปีทีเดียว (เป็นหนึ่งปีที่คุ้มค่า+นานมากๆในชีวิตที่ต้องห่างจากบ้านเป็นปี) แล้วอีกสองปีก็ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ National Kaohsiung Hospitality College ณ เมืองเกาสง เป็นเมืองทางใต้ของไต้หวัน

เอาล่ะ เริ่มเดินทางกันเลยครับ ก่อนการเดินทางครั้งนี้มีอุทาหรณ์สอนใจทุกท่านครับเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักกระเป๋า เพราะผมโดนมาแล้ว แอบแค้นไชน่าแอร์ไลน์นะจะบอก เรื่องของเรื่องคือตั้งแต่ผมนั่งการบินไทยตั้งแต่เกิดเป็นคนมา(แต่ก่อนผมคงไม่เป็นคน) ผมจะแพคของน้ำหนักประมาณ 15 -20 กิโลโดยประมาณ แต่เที่ยวหลังที่ผมกลับไปคุนหมิงรอบสองน่ะครับ เที่ยวนั้นผมซืออาหารไทย ของไทยไปฝากพี่ที่อยู่ที่นั่นด้วย น้ำหนักเกินไป 28 กิโล ก็เหงือตกไป แต่แอร์กราวนด์การบินไทยก็น่ารักครับ มองหน้าทีนึงแล้วก็ไม่ว่าอะไร เพราะน้ำหนักมันไม่ควรเกินยี่สิบไงครับ แต่อันนี้ก็รอดไป เห็นหน้าเด็กมั้ง(หรือเป่า?) อ่า

แล้วก็มาถึงอุทาหรณ์สอนใจเที่ยวนี้ครับ ด้วยความที่เด็กท้ายวังคนนี้รู้(ดี)ว่า เอาน่าเราเป็นนักเรียน 28 กิโลเด๋วเค้าก็ซัวเอี๋ยให้อยู่ดี แต่คราวนี้ผมนั่งไชน่าแอร์ไลน์สิครับ คุณแม่ก็น่ารักครับ เตรียมไปครบ เตารีด อาหาร ผงซักฟอก(แม่ห่วงครับกลัวผงซักฟอกที่นั่นคุณภาพไม่ดีเท่าเรา) ทุกอย่างเต็มที่ ชั่งจากที่บ้านไป 30 กิโลกรัม ก็เดินไปอย่างมั่นใจ แอร์กราวนด์ของไชน่าแอร์ไลน์ก็ใจดีมากครับ บอกว่า เต็มที่ได้แค่ 20 กิโล เกินกว่านี้ต้องจ่ายกิโลละ 200 บาท อ้อนว่าเป็นนักเรียนก็แล้ว อะไรก็แล้ว ไม่ยอมครับ สรุปหน้าที่คุณพ่อ คุณแม่แบกเสื้อผ้ากลับไปเกือบกระเป๋าเต็มๆ อย่าลืมนะครับทุกท่าน การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า(จริงๆ) แต่ผมรักการบินไทยมากเที่ยวที่แล้วเลยจ่ายค่าน้ำหนักเกินไป 4,000 บาทเต็มๆ (ไว้มีโอกาสเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง)


นี่ก็เครื่องไชน่า แอร์ไลน์ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ก็คงจำข่าวกันได้คือ ไชน่าแอร์ไลน์ ระเบิดที่ญี่ปุ่น อิอิ ผมขึ้นไปลุ้นไปครับ

ตอนที่ผมไปจีนทั้งครั้งแรก หรือครั้งที่สองก็ตามนั่งการบินไทยไป จะรู้ได้ถึงความแตกต่างเลยเพราะว่าอาหารการบินไทยอร่อย แหะๆ แต่อันนี้ก็อร่อยนะ แต่ผมว่ามันทำให้ผมเริ่มคิดได้แล้วว่า "ฮ่า ฮ่า ฮ่า อาหารจืดเริ่มมาเยือนเราแล้ว" เพราะอาหารบนเครื่องเป็นอาหารจีน


คือข้าวราดหน้าปลาจืดๆ ก็อร่อยดี แต่อีกใจนึงไม่ได้นึกถึงความอร่อยหรอกครับ คิดถึงบ้านแล้วชีวิตตัวเองมากกว่า อารมณ์เดียวกะหนังเรื่องเด็กหอเลยที่ชาลีกินข้าวไปร้องไห้ไปน่ะครับ

สิ่งที่คิดตั้งแต่โบกมือบ๊าย บาย พ่อแม่ และพี่ชายมาก็คงต้องคิดว่า "นี่เราจะอยู่ได้หรอวะ ปีนึงเลยนะ" ผมไม่เคยห่างพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ไปค่ายมากที่สุดก็ห้าวัน สี่คืน (ตอนรด.) หนักที่สุดตอนไปเรียนภาษาจีนที่คุนหมิง ( ๓ เดือน) แต่ตอนไปคุนหมิงเหมือนจะนานครับแต่ไม่นาน เพราะนั่งไปกลับเป็นว่าเล่น เพราะต้องมาสอบทุนไต้หวันนี่ล่ะครับ แล้วครั้งนี้นานที่สุดคือ ๓ ปี สุดยอดครับ แต่ก็ต้องทำให้ได้เพื่ออนาคต ไม่รู้อนาคตจะหมดง่ายๆหรือเปล่า เพราะเราก็อยากต่อเอกเลย เหอๆ พอแล้ว เอาโทให้รอดก่อนดีกว่า


นั่งเพลินๆ ไปสักพักนึงก็ได้เห็นน่านฟ้าของเราที่ติดชายทะเลแล้วมีแม่น้ำไหลผ่าน ผมเพิ่งเห็นว่ามุมนี้ของบ้านเราก็มีด้วย ที่มีแม่น้ำคดเคี้ยวยังกะอเมซอนแน่ะครับ


แล้วผมก็เดินทางถึงประเทศไต้หวัน เรียบร้อยโดยสวัสดิภาพครับ มาถึงก็เจอสี่หนุ่ม F四 หรือว่า F4 ต้อนรับเลยครับ เพราะว่ารัฐบาลไต้หวันให้สี่หนุ่มนี้เป็นทูตประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้ไต้หวันครับ

ตัวท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน( 臺灣桃園國際機場 อ่าน Táiwan Táoyuán Gúojì Jichǎng) ก็ไม่ค่อยใหญ่มากนะครับ ที่เคยไปเหยียบที่ท่าอากาศยานต่างๆเช่น คุนหมิง ชีอาน เฉิงตู ปักกิ่ง มา ก็ยังไม่ปลื้มเท่าสุวรรณภุมิ บ้านเราอยู่ดีครับ สวยสุดแล้วของบ้านเรา

เดินออกมาได้อีกนิดนึงหลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรวจมาม่า ตรวจน้ำพริกนรก น้ำพริกต่างๆของผมไปแล้วก็ออกมาที่ด้านนอกครับ อย่าคิดนะครับ อย่าคิดว่าจะมีใครมารับผมแล้วผมจะวิ่งไปโผกอดเขา เพราะว่าผมมาเอง ไม่มีคนที่นี่มารับ หรือไม่ได้ไปเป็นหมู่คณะแต่อย่างใด บินเดี่ยวครับ ปีกแห้งๆของผมนี่ล่ะ



ออกมายังไม่ทันไรเจอภาษาไทยเลยครับ เพราะว่าที่ประเทศไต้หวัน ถือว่าเป็นสถิตที่สำคัญมากว่าคนไทยถือว่าเป็นแรงงานต่างชาติที่มาทำงานที่ไต้หวันมากที่สุดถึงปีละกว่า 100,000 คนเลยทีเดียวครับ จึงมีหน่วยบริการแรงงานคนไทย(ประเทศไทย 泰國 อ่าน Tàiguó ) ส่วนผมพอดีมาเรียน เลยผ่านตรงนี้ไป



ตอนนี้ได้ลุ้นแล้วครับ เพราะว่า ศัพท์จีนในสมองก็มีไม่มาก เนื่องจากเรียนมาเมื่อเดือนเมษา แล้วที่มาไต้หวันเดือนสิงหานานพอดูก็ลืมบ้าง แต่ผมจดวิธีเข้าไปในเมืองว่าเข้าไปอย่างไร เพราะสนามบินนี้อยู่นอกเมืองไทเป ไกลกันพอสมควร เราจึงต้องนั่งรถเข้าไป

รถก็มีอยู่ 2 ประเภท นั่นคือ รถบัสจากสนามบินไปที่ Taipei Main Station (台北車站 อ่านว่า Tái-běi-chē-zhàn) หรือ นั่งรถแท๊กซี่จากสนามบินไปที่เดียวกัน แต่ราคาจะต่างกันมากๆ เพราะว่าถ้านั่งรถบัสจะมีบริษัทนึงที่ราคาถูก(คิดว่าถูกแล้ว) คือ 125 NT ถึง Taipei Main Station เลย แต่ถ้ารถแท๊กซี่ มิเตอร์สตาร์ทที่ 70 NT ที่นี่มิเตอร์จะเริ่มชาร์ทที่ 70 NT ทุกสถานที่นะครับบอกไว้ก่อน แล้วระยะทางจากที่สนามบินมาในไทเปก็เกือบร้อยกิโลเมตรได้มั้ง (ผมไม่รู้ ผมหลับ) ก็น่าจะเกินสองร้อยหยวนขึ้นไปครับ พูดมาซะยาว แนะนำบริษัทรถบัสเผื่อใครจะมา ชื่อว่า ( 國光 อ่านว่า guóguāng) ออกมาจากตม. แล้วเดินตรงไปเห็นป้ายในรูปแล้ว เลี้ยวขวาเลยครับ จะเจอช่องจำหน่ายตั๋วรถหลายบริษัทนะครับ ก็ไปบริษัทนี้เลยเพราะมันถูก หลังจากนี้ก็จะมาถึงที่ Taipei Main Station แล้วครับ


มาถึงแล้วผมก็ต้องยอมเสียตังจ่ายค่าแท๊กซี่เพื่อนั่งไปซือต้าให้ได้ เพราะเท่าที่ฟังมาคือต้องไปหาโรงแรมนอนก่อน แล้วค่อยหาที่พักกัน เรารู้เพียงจุดหมายว่าจะต้องไปถึงซือต้าให้ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าแท๊กซี่มันไม่รู้จักว่าโรงแรมซือต้าอยู่ที่ไหน สรุปผมก็ไปลงแถวๆมหาลัยแล่ะครับ กระเป๋าหนักสองใบ ก็ลากไปครับ ลากไปแบบไม่มีจุดหมาย สุดท้ายต้องถามคนไต้หวันที่เดินอยู่แถวนั้น เขาก็ใจดีพยายามอธิบายเรา แต่เราก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

สุดท้าย เขาให้เรายืมโทรศัพท์โทรหารุ่นพี่ในมหาลัยเดียวกัน เป็นอันว่าผมรอดแล้วครับ เพราะว่าพอรุ่นพี่ในมหาลัยผมมาก็พาไปหาที่พัก ได้นอนหลับพักผ่อนเป็นอันเรียบร้อย ก่อนที่จะเดินทางหาที่พักถาวรที่ผมจะต้องใช้ชีวิต ณ สถานที่แห่งใหม่ เมืองไทเป แห่งนี้ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่น่าลุ้นแล้วครับ ในชีวิตผม เพราะผมต้องอยู่ให้ได้แล้วอยู่ให้รอดด้วย




สรุปคำศัพท์จีน เล็กๆน้อยๆ กับวันแรกครับ

ประเทศไต้หวัน 台灣 หรือ 臺灣 อ่านว่า Táiwān ไถวัน
เมืองไทเป 台北 หรือ 臺北 อ่านว่า Táiběi ไถเป่ย
ประเทศไทย 泰國 อ่านว่า Tàiguó ไท่กว๋อ
คนไทย 泰國人 อ่านว่า Tàiguórén ไท่กว๋อเหริ๋น
พาสปอร์ต 照護 อ่านว่า hùzhào ฮู่เจ้า
ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน 臺灣桃園國際機場 อ่านว่า Táiwan Táoyuán Gúojì Jichǎng ไถวัน เถาหยวน กว๋อจี้ จีฉ่าง (หรือสั้นๆว่า Táoyuán Jichǎng เถาหยวน จีฉ่าง)
สถานีรถ 車站 เรียก chēzhàn เชอจั้น
ตั๋วรถ 車票 อ่านว่า chēpiào เชอเพี่ยว

*คำอ่านภาษาไทยนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการใช้ แต่ในความเป็นจริงแล้วตามหลักการอ่านนั้น เราไม่สามารถอ่านภาษาจีนตามภาษาไทยได้เลย เพราะมันมีหลักการอ่านไม่เหมือนกัน





 

Create Date : 13 ตุลาคม 2550
0 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 23:58:48 น.
Counter : 2077 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


เด็กท้ายวัง2021
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เด็กท้ายวัง2021's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.