Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 

14 วัน จากน่านฟ้าไทย สู่จีนความสัมพันธ์มิลืมเลือน



ก้าวแรกสำหรับเด็กท้ายวังที่ได้เดินออกนอกวังไปต่างประเทศกับมิตรภาพที่ได้รับจากเพื่อนเยาวชนไทยและเยาวชนจีน ความรัก ความผูกพัน มิตรภาพไทย - จีน มิลืมเลือน




โครงการ สานสัมพันธ์เยาวชนไทย - จีน (ครอบครัวเดียวกัน) ดำเนินการขึ้นจากข้อเจรจาของนายกรัฐมนตรีไทยกับนายกรัฐมนตรีของจีน โดยการแลกเปลี่ยนเยาวชนประเทศละ 100 คน ซึ่งสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ(สท.)กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลเยาวชนเป็นดำเนินการ โครงการนี้ดำเนินการระหว่างวันที่ 13 - 26 ตุลาคม 2548 ณ ศูนย์วิชาการและนันทนาการเซนต์คาเบรียล 2000 จังหวัดนนทบุรี และสาธารณประชาชนจีน โดยอบรมที่ไทยวันที่ 13 - 16 ตุลาคมและเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนวันที่ 17 - 26 ตุลาคม 2548

อิอิ ด้านบนคือรายละเอียดอย่างเป็นทางการต่อไปนี้จะขอเป็นกันเองละครับ



ต้องบอกแบบรั่วๆก่อนเลยว่า ไม่ได้คิดว่าค่ายนี้ตอนกลับจะทำให้เกล้ากระผมน้ำตาไหล เพราะตัวเองทำค่ายมาเยอะ เข้าใจบรรยากาศเวลากลับค่าย แต่เรื่องมันไม่ได้อย่างที่คิดครับ ขอเริ่มเล่าเลยละกัน

วันที่ 13-16 ตุลาคม 2548 ณ เมืองศิวิไลซ์ ไทยแลนด์
และดินแดนศูนย์นันทนาการเซนต์คาเบรียล 2000 อิอิ ถ้าภาษาบ้านๆคือ ค่ายลูกเสือ แต่ภาษาอย่างที่พวกเราชาวไท่กั๋วตั้งกันคือ รีสอร์ท อิอิ แอบหรูเวรี่มัชอ่ะครับ


ระหว่างที่เราอยู่ช่วงนี้หรอครับ ก็กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์โดยพี่ๆจากเมธาฟอรั่ม เป็นกลุ่มผู้หญิงหมดเลยครับ น่ารักดี แต่วันแรกรู้สึกจะมีหัวหน้ากลุ่มที่เป็นผู้ชายมาเล่นกลุ่มสัมพันธ์กับพวกเรา อิอิ วันแรกหรอ เหมือนไม่ใช่วันแรกอ่ะ เพราะว่าจริงๆ จะต้องเงียบๆ ไม่ค่อยได้คุยกับใคร แต่ด้วยการอาศัยความสูงอายุของเราเข้าว่า ก็รู้จักกันแล้วหลายคนเหมือนกัน

อ่า แล้วตอนบ่ายของวันที่ 13 ก็ได้ลงกลุ่มของตัวเอง กลุ่มของเราตั้งชื่อว่า อุลตร้าแมน อิอิ กลุ่มเพื่อนๆมีชื่อแตกต่างกันไปอ่ะครับ เช่น เฉิ่ม ต้มยำกุ้ง แล้วก็อีกหลายกลุ่ม สำหรับกลุ่มของเราหรอครับ มีทั้งสิ้น 14 คน วันแรกๆน้องๆ
ก็ผลัดกันเป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่ตอนไปจีน ด้วยความวัยรุ่นอีกล่ะ เราก็เลยได้เป็นหัวหน้ากลุ่มโดยปริยาย แหะๆๆๆ จิงๆอ่ะคริสตินเขาคงอยากเป็นหัวหน้ากลุ่มอ่ะ แต่ด้วยความแก่ เอ้ยวัยรุ่นของเรา เขาจึงต้องยอม กลุ่มของผมมีแน่นๆเลยนะ คือ
1. กำนันตุ้ย พ่อหนุ่มผู้รองอาวุโสแห่งกลุ่ม เดินทางมาจากย่านทุ่งสวนดุสิต และโรงเรียนโบสถ์หินอ่อนที่งดงามด้วยฝีมือของเจ้านายที่เป็นนายช่างใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
อุปนิสัยกำนัน : สามวันแรก ตาแกจะเครียดเพราะว่าตอบสอบเอนทรานซ์ คิดดูเองละกันเขานั่งสนุกกับกลุ่มสัมพันธ์ กำนันแกนั่งเคี้ยวหมากนั่งอ่านตำรา อิอิ ขำขำนะ แต่หลังจากนั้น ฝักบัวที่มีรูเยอะๆว่ารั่วได้แล้วนั้น ตาแกยิ่งกว่า ยิ่งตอนไปจีนนี่ทำให้กลุ่มอุลตร้าแมนรั่วอย่างถึงที่สุด จนเป็นกลุ่มติดทอปชาร์ตไปเลย(เด๋วค่อยเล่าว่าติดทอปชาร์ตยังไง)

2. แพนด้าน้อยสายพันธุ์ใหม่ไม่อ้วนบวกตัวเล็ก สำหรับหมีน้อยนี้ มาจากโรงเรียนแห่งหนึ่งอยู่ในวัง เป็นเด็กที่น่ารักมากๆ แต่เสียนิสัยเป็นอย่างยิ่งคือเธอจะชอบหายตัวไประหว่างการเดินไปไหนมาไหนของกลุ่ม เวลาเรียกทีหนึ่งจะเห็นเธอแต่ต้องก้มตัวเล็กน้อยนะ ส่วนตัวกับแพนด้าน้อยจะคุยกันมากมายเกี่ยวกับเรื่องรั้ววังเพราะเป็นความสนใจส่วนตัว

อุปนิสัยแพนด้า : ตอนแรกเงียบมากๆ ไม่ค่อยกล้าคุยด้วย ด้วยความที่เรามันอยู่แค่ตามท้ายวัง ไม่ได้เข้าไปในวังซะที แต่สักพักพอลงกลุ่มก็คุยกันดี แพนด้าจะปลื้มกำนันเป็นพิเศษ แต่เราก็ชอบไล่ตามคุยกับแพนด้าเพราะคุยสนุกดี เป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ค่อยรั่วเท่าไหร่แต่ด้วยการที่มีหัวหน้ากลุ่มอย่างเราต้องรั่วด้วย เข้าจ๊ายยย

3. เจ๊น้อย (แฟนกำนันตุ้ย) เธอเป็นคู่กัดของกำนันตุ้ย ทะเลาะกันตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสำเนียงเสียงละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้ยหรือเจเนต เขียวในภาพยนตร์เรื่องแหยม ยโสธร แล้วก็เสียงแหบเสน่ห์ของเทอก็ช่างเป็นที่น่าชักชวนให้คนในกลุ่มสนุกสนานไปกับชีวิตเธอ

อุปนิสัย: บอกได้ประโยคเดียวว่าเธอเป็นคนที่ ฮา เด๋อด๋า ขำ ตลก แต่น่ารักตามสไตล์เธอ

4.อาหมวยจากไชน่าทาวน์(My China Girl) สำหรับผู้หญิงคนนี้ เรียนอยู่ที่โรงเรียนในมหาลัยพื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงเรียนเป็นสีเขียว เดินไปเดินมาอาจเจอวัววิ่งชน เพราะความอุดมสมบูรณ์ อิอิ แซวเล่นอ่า เทอคนนี้รั่วจนถึงรั่วที่สุด แต่น่ารักมั่กกๆๆๆๆๆๆ ในสายตาของเรา (อิอิ เทอคนนี้มีเรื่องยาวๆ แต่ส่วนตัว อิอิ)

อุปนิสัย : ร่าเริง สนุกสนาน ขำขำ

เหนื่อยแระ เอางี้ละกันกลุ่มสนิทก็มีโอ๊ต ตอง เจ๊รุ้ง นางสาวไทยนามว่าเจื้อย และก็ท่านทูตเก่ง (คนสุดท้ายนี่สุดๆอ่ะ)

อ่า เราพูดถึงบุคคลไปก็หมดแล้ว
คราวนี้เรามาพูดถึงวันเวลา 4 วันที่เราอยู่ในกรุงเทพกันบ้างดีกว่า


งับๆๆๆ กิจกรรมตลอด 4 วันที่เราอยู่ที่เมืองไทย นั้นกิจกรรมส่วนใหญ่ก็คือการฝึกทักษะเบื้องต้นในการใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองจีนนั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพ กลุ่มสัมพันธ์ การฝึกภาษาจีนเบื้องต้น(ขอบอกว่าพี่ๆจากอักษรศาสตร์ จุฬาฯน่ารักมั่กๆอ่ะ ทำให้เกิดความสนใจในการตั้งใจเรียนเปนอย่างดี อิอิ) แล้วก็สุดท้ายคือการซ้อมนาฏศิลป์ไทย นั่นคือโดยรวมนะ

แรกๆหรอครับ ก็ยังไม่ค่อยสนิทกะใครๆ วันสองชักเริ่มสนิทกันเยอะขึ้น แต่วันก่อนที่เราจะขึ้นเครื่องนะ พวกเราได้ไปเล่นบาสด้วยกันเกือบทั้งกลุ่มน่ะ ตากำนันตุ้ยซักผ้า ซักกางเกงใน(เอิ้กกก) ไม่ได้ไปเล่น เจ๊น้อยนี่สิ เจ๊แกบ้าพาวอ่ะค่ะ กระโดดกะดั๊งทั้งที่ตัวแกก็สุดสูงเลยแล้วแกกระโดด พอลงมาไม่ย่อเข่าอ่ะ เจ๊แกเลยหลังเดาะ อาหมวยโอ้ละหนอมายเลิฟเลยต้องพยุงแกไปหาพี่ๆเจ้าหน้าที่สท. ปรากฏไปโรงพยาบาลงับ (อยากบอกว่ากลางคืนเจ๊แกฟิตมากครับ มาซ้อมรำต่ออีก สปิริตแฟนกำนัน เอิ้กกก) กลับมาสู่ในสนามบาสฯ ใครจะคาดการณ์ว่า แพนด้าน้อยด้วยความที่ตัวเทอเตี้ยขนาดน่ารัก จะเล่นบาสได้เก่งมาก ถ้าสูงสงสัยดั๊งก์ได้แล้วมั้ง

ส่วนกระผมหรอครับ อิอิ พายเรือครับ พายเรือในคลองเก็บดอกโสนคนเดียวเลย พายเก่งมากง่ะ พายไปวนไป มันบรรพบุรุษเลย ไม่พอ ตอนขึ้น ขึ้นไม่ได้กลัวลื่นต้องให้น้องๆกลุ่มภาคใต้มาช่วยพยุง เฮ้อ เราหนอ แก่แล้วไม่วาย

คืนนั้นพวกเราก็เก็บของครับ เตรียมพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้นที่จะขึ้นเครื่องไปจีนกัน

ถึงแว้ววว ท่าอากาศยานดอนเมือง แฮ่ๆๆๆ
หลายคนเคยไปต่างประเทศมาแย้วววก้อจาเฉยๆ แต่เราครั้งแรกก็ต้องบ้าเห่อถ่ายรูปกัน อุ้ย ไม่ใช่เราคนเดียวนี่หว่า กลุ่มหนี่เจอเมอเรอะทั้งกลุ่มเลย อิอิ

งับๆ เครื่องบินงับ สวยดี ล้ำนี้เห็นเหมือนรุ่นเดียวกะเครื่องที่ท่านนายกรัฐมนตรีร่อนลงสุวรรณภูมิ เลยถ่ายมา

แล้วเราก็ขึ้นเครื่องมาแล้วครับ ตอนนี้อยู่เหนือน่านฟ้าไทย ครั้งแรกครับได้เห็นปุยเมฆเลยครับ อิอิความใฝ่ฝันงับ

อยากบอกว่าอยู่บนเครื่อ่งไม่ได้หลับเลย มัวตื่นเต้นอยู่ ที่สำคัญนั่งข้างๆท่านทูตง่ะ ก็เลยนั่งฟังเขาคุยกันกับเก่งเรื่องหนังเกาหลี สนุกๆดีครับ ต้องยอมรับเลยว่าการบินไทยนี่สุดยอดจริงๆ ตั้งแต่ก้าวแรกอ่ะ ยิ้มรับ อาหารบริการตลอด ขึ้นเครื่องจนลงเครื่องแล้วยังไม่เลิกเสิร์ฟเลย อย่างนี้ไม่ให้รักเท่าฟ้า ก็คงจะรักเท่าเดิมไม่ได้อ่ะ อิอิ

ถึงแว้ววววววว ท่าอากาศยานเมืองเฉิงตู อิอิ เด็กท้ายวังมานอกประเทศครั้งแรกง่า เย็นดีครับ อากาศแบบดีอ่ะ ไม่หนาวนะ แบบเย็นชุ่มชื้นอ่ะครับ

แล้วตามที่คิดไว้ก็มีครับ คณะเยาวชนที่มาต้อนรับจากจีน ดูดีครับ ป้ายเบ้อเริ่มเลยครับ ก้อตามเคยครับ กลุ่มอุลตร้าแมนของเราเมื่อสนิทกันแล้วก็เริ่มบ้ากล้องครับ อิอิ ก้าวแรกของการโดนดุ จนถึงกลับเมืองไทยก็นับครั้งได้

สภาพเมืองเฉินตู ที่อยู่ในเสฉวนโดยรวมแล้วเป็นเมืองที่เจริญมากๆครับตึกสูงๆก็เยอะทีเดียวที่ชอบส่วนใหญ่คือตึกที่มีรูปแบบที่น่าสนใจครับ เป็นเอกเทศแต่คงความเป็นจีนน่ะครับ ตอนนี้เราต้องเข้าที่พักแห่งแรกของเราครับ โรงแรม XI YUAN ครับ เป็นเหมือนออฟฟิศเลยอ่ะ


ณ สถานที่นี้คือแห่งแรกที่ทางการเสฉวนได้จัดทำพิธีเลี้ยงต้อนรับพวกเราคณะเยาวชนไทยครับ


ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีครับผม


อาหารก็ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีครับ ประมาณว่าตอนแรกก็มีมาทีละจานนะครับ ไอ้ความที่ทีละจานสิครับ จานมันซ้อนกันสองชั้นน่ะครับ ประมาณว่าทุกคนทั้งโต๊ะกินกันหมดนะครับ รับรองจะเป็นช้างได้ภายในหนึ่งวัน เยอะมากๆ แล้วก็ก้าวแรกครับ กับการได้คุยกับคนจีน(ใช้อังกฤษคุยนะ) สนุกสนานครับ คุยกัน...โอ้ยยยย มันครับ เพราะเราคุยไปเขาก็ตอบมาอีกอย่างหนึ่ง สรุปมานไม่เข้าจายยยย อิอิ

อ่าครับ เรามาคุยเรื่องเมนูอาหารมื้อแรกดีฝ่างับ
ทุกคน กินไปลุ้นไปครับเพราะทราบกันดีว่า จีนน่ะมีอาหารในตำนานเย้ออออะ ก็กินๆกันปายยย แต่มีบางจานครับที่รูปร่างแปลกๆเราก็ไม่กิน แต่ส่งให้เก่งเขาใช้ถามพนักงานส่งพูดจีนน่ะว่ามานคืออะไร พนักงานบอกว่า อ้อ มันเป็นสัตว์ในตำนานน่ะครับ ตระกูลจิงโจ้ อิอิ ตาตุ้ย โอ๊ตก็กินกันมันเล้ยยย เราก็นึก เอ้ ตระกูลจิงโจ้ไม่เอาดีกว่า เด๋วมันกระโดดในท้อง อิอิ พอเลิกงานไปถามปรากฏว่ามันเป็นสัตว์ในตำนานจริงๆครับ กบครับ จบ...

มาถึงการแสดงของคืนแรกครับ มากมายหลายชุด แต่ชุดแรกๆประทับใจครับ แต่หลายท่านในกลุ่มกะส่วนมากอาจจาไม่สนุกด้วยครับ เพราะเป็นบทเพลงโอเปร่าจากคนจีนครับ เสียงเขานี่สะเทิ้นน้ำ ทะลุฟ้าเลยครับ หูแทบแตก แต่ผมชอบ อิอิ แล้วก็การแสดงชุดสำคัญมาถึงครับ มนุษย์พันหน้า การแสดงอันเรื่องชื่อของเมืองนี้ ทุกคนรู้จักกันดีครับ


ด้วยความที่เด็กไทยนั้นอยากรู้อยากเห็นครับ มางไปนั่งกันเต็มหน้าเวทีเรย เพื่ออารายเรารู้ดี ....จับผิดงับ อิอิ แล้วก็มีคนจับผิดได้ว่าเขาเอาหน้ากากไว้ตรงหลัง แต่เร็วครับ เร็วจริงๆ มีชุดสุดท้ายอ่ะ พ้นไฟเป็นมังกรเลย หนุกหนานกันไปครับ ก้อคืนแรกก้อผ่านพ้นไปครับ คืนแรกนี้มีกลุ่มหนึ่งครับ มีผมกะตาตุ้ยแถมไปด้วย เราไปกินลูกชิ้นปิ้งกันที่หน้าโรงแรมครับ เจ๋งมากครับ เป็นร้านขายลูกชิ้นเฉพาะเลย ก้อนั่งกินครับ ลูกชิ้นมีหลากชนิดมาก แต่ก็มีแปลกเยอะนะ ผักเผิกปิ้งก็มี

วันที่ 18 ต.ค.48
ไปดูแพนด้าที่ Research Base of Giant Panda ครับ ตื่นเต้นมากๆครับ เพราะว่าอยากเห็นแพนด้านั่งโพสท่าถ่ายรูป (เมืองไทยหาไม่ได้เลยเง้ออ)แหม่ ผิดหวังนิดสนึงครับ แพนด้าจีนก้นดำทุกตัวครับ แล้วขี้อายด้วยไม่ค่อยออกมา หลับกันทั้งนั้นเลย เราก็เลยต้องเป็นพวกปาปาราซซี่แอบถ่ายกันไป แต่นี่เจ๋งนะ แพนด้าแดงอ่ะครับ มันบ้ากล้องมากๆ มีการนั่งทำมุมแอกท่าให้ถ่ายด้วย ชอบครับ มีเรื่องเล่า แหม่ ไอ้เราก็เห็นคุณป้าคนจีนท่านนึงแลดูใจดี เรียกเราไป ก็เดินกันไปกับน้องอีกคน ก้อประมาณว่าเจ๊แกอุ้มหมีแพนด้าแดงมาจาให้พวกเราถ่ายรูป เราก็เอ๊ะใจว่าแหม่ใจดีจัง สักพักเราก็ถอยๆ ป้าแกเลยเผยมาว่า 50 หยวนอ่า 250บาทอ่าแหม่ ยังดีนะ ไม่ได้ถ่าย

สำหรับมื้อเที่ยงของอาหารวันนี้เราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีครับ ตะพาบน้ำราดซอส หงิ หงิ ไม่ได้กินง่ะ มาเป็นกระดองเลยเพ่ เกล้ากระผมทานไม่ลงครับ


สถานที่ต่อมาที่เราได้ไปคือ Chengdu Youth Activity Center ถ้าจะกล่าวก็เหมือนกับพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครของเรา เพียงแต่ว่าของเรานั้นไม่ได้มีการปลูกฝังเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิตไว้ พิพิธภัณฑ์เด็กของเราจึงต้องได้เกิดจากการที่ผู้ปกครอง หรือหน่วยงานของรัฐจัดโครงการเชิญชวนให้คนเข้านั่นเอง ของจีนเขาได้บรรยายไว้ตลอดว่า เด็กเขาจะใช้เวลาว่างในการมาเรียนรู้ด้วยตัวเองและมีการเปลี่ยนแปลง Exhibition โดยตลอด

มาเยี่ยมโรงเรียนของเพื่อนๆเยาวชนจีนที่เมื่อวานเขามาต้อนรับเราด้วยล่ะครับ อยากบอก..การแสดงต้อนรับของคณะเยาวชนจีน นี่สุดยอดอ่ะ มีประมาณว่าวง Symphony Orchestra เป็นวงจีนน่ะครับต้อนรับเรา ได้ดูการเล่นกู่เจิ้งครั้งที่ 2 แล้วครับ แล้วก็มีการละเล่นของพวกเราด้วย คณะเยาวชนไทยนำเอาการละเล่นของเด็กไทยไปโชว์ คือ รีรีข้าวสาร และมอญซ่อนผ้าน่ะครับ

หมวยจีนน่ารักมากครับ หลายๆคนเลยล่ะ อ้อ อีกอย่างนะครับ แปลกใจอย่าง บ๋อยจีนผู้ชายน่ะจะมีการคัดเลือกด้วยแหงๆ ตลกดีครับ หน้าตาดีๆทั้งนั้น

วันนี้เหนื่อยๆครับ กิจกรรมดูแน่นๆ จริงๆไม่แน่นหรอก การเดินทางมันนานด้วยล่ะครับ ค่ำคืนนี้คณะเยาวชนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งครับที่จะได้กินสุกี้ยากี้ หรือที่เขาเรียกว่า Hot Pot แหม่ก็กินจืดกันมาหลายอ่ะครับ ก็อยากกินไรเผ็ดๆเป็นธรรมดาน่ะครับ ทุกคนจินตนาการว่าสุกี้ก็คงเหมือนบ้านเราอ่ะนะครับ แต่ปรากฏว่า....


มัน Hot Pot จริงๆครับ ฮอตมากอ่ะครับ กระทะทองแดงเลยมีสองชั้น ชั้นนอกเป็นน้ำซุปแบบเผ็ดๆ ข้างล่างนี่เต็มไปด้วยเหล่าเครื่องเทศประมาณว่าถ้ากรองออกมา ชั่งได้เป็นกิโลอ่ะ จมอยู่เต็มน้ำเลย แบบว่าเผ็ดมากๆอ่ะครับ ส่วนชั้นในแบบไม่เผ็ดครับ สีเหมือนซุปข้าวโพดบ้านเราอ่ะครับ แต่ทีเด็ดอยู่ที่อาหารที่เราจะนำไปใส่ในฮอต พอตนี่ล่ะครับ มีดังนี้เลยนะครับ
- สมองหมู 4 ก้อน - ปลาไหลเมือกๆมีสีเลือดปน
- ผ้าขี้ริ้วเนื้อวัวอ่ะ - ไส้เป็ด
- แล้วก็อีกมากมายที่ไม่แปลกเท่าสองอันบน
ปรากฏว่ากลุ่มข้าพเจ้า นั่งยิ้มเลยครับ แดร้กสไม่ลง มีตาตุ้ยอ่ะที่กินลงแถมไปเรียกแฮมสเตอร์โบ๊ทมากินอีกนะ

--โต๊ะอื่นน่าสงสารกว่าง่ะครับ เพราะว่าโต๊ะอื่นมีคนจีนอยู่ด้วยไง คนจีนเขากินได้ใช่ป่ะ เขาก็เทมันสมองหมูลงไป เทปลาไหลลงไปเลย ปรากฏว่าเจ๊น้อยอ้วกครับ อิอิ











 

Create Date : 29 ตุลาคม 2548
10 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2548 18:00:52 น.
Counter : 1400 Pageviews.

 

อ่า สวยดีจะ ที่ไหนอะนี่

 

โดย: อินทรีทองคำ 29 ตุลาคม 2548 22:55:28 น.  

 

เขียนตลกดีอ่ะ อยากอ่านอีก จาติดตามตอนต่อปาย

 

โดย: Your China Girl IP: 58.9.39.10 30 ตุลาคม 2548 22:37:19 น.  

 

 

โดย: เน€เธเน‰เธฒ IP: 58.10.87.58 4 กรกฎาคม 2550 16:52:03 น.  

 

 

โดย: อิอิ IP: 61.7.164.146 6 กรกฎาคม 2550 11:29:27 น.  

 

00120

 

โดย: อุทัย IP: 61.19.153.35 8 สิงหาคม 2550 13:58:21 น.  

 

นินทาผมหรือ เดี๋ยวเจอกัน 555+
แต่เรื่องสนุกดีนะ ชอบๆๆๆ

 

โดย: ท่านฑูตเก่ง IP: 58.10.9.67 29 ตุลาคม 2550 20:58:19 น.  

 

อยากรู้ว่าคนที่บันทึก Diary นี้ คือใครอ่าคร้า ??
อยากรู้ๆๆ เพราะโครงการนี้ฝ้ายก็ไปด้วย

เผื่อจะจำได้นะคร้า ^^

 

โดย: ปอฝ้าย IP: 119.46.166.65 18 สิงหาคม 2553 13:25:43 น.  

 

คิดถึงเพื่อนๆโครงการนี้จังครับ เป็นยังไงกันบ้างก็ไม่รู้นะครับ

 

โดย: ท่านฑูตเก่ง IP: 61.90.103.16 24 มิถุนายน 2554 11:55:10 น.  

 

หนิงก็เป็นผู้ร่วมโครงการเยาวชนจากยะลาจ่ะ

คิดถึงเพื่อนๆทุกคน

ยังไงก็ส่งข่าวคราวกันมาบ้างน่ะจ่ะ

ning_angkana@hotmail.com

 

โดย: หนิง IP: 203.156.183.145 11 ตุลาคม 2554 18:06:11 น.  

 

คิดถึงช่วงเวลานั้นและเพื่อนๆทุกคนจัง

 

โดย: อ้อม IP: 58.136.0.14 21 มีนาคม 2559 10:20:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เด็กท้ายวัง2021
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เด็กท้ายวัง2021's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.