ขอบคุณมากๆ ข้อมูลทางประวัติสาสตร์ที่เราควรรู้

ยังไม่ถึงตอนตอบคำถามของผมน่ะครับ รอต่อไป

แล้วเดี๋ยวตอบอย่างละเอียด รอต่อไป ลงลึกถึงที่มาจริงๆ ของเรื่องจะ(โดนแบนป่าวว่ะ)

สิ่งที่ท่านพลเอกเปรมทำ ทำให้เกิดขบวนการมากกว่าครับ มันมาโพล่สมัยทักษิน การปลูกฝังมันเริ่มจากสมัยเปรม

อยู่อยู่ เด็กและเยาวชนจะมีความคิดก่อการร้ายไม่ได้ จะต้องถูกปลูกฝังและอบรม จากโรงเรียน และการอบรมมีก่อนสมัยทักษิน ตอนทักษินมีอำนาจ ท่านโดนนักการเมืองท้องถิ่นชักจูงว่าการก่อการร้ายเป็นเรื่องที่ทหารสร้างขึ้นมาเพื่อเอางบประมาณ ตอนตำรวจโดนยิง ยังมีนักการศาสนาให้ข่าวว่าทหารยิง เพื่อสร้างสถาณการณ์นำทหารกลับมา ....แต่นั้นไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ปลูกฝังในโรงเรียน ฝนสมัยเปรมครับ การก่อการร้ายมีนานแล้ว แต่ไม่ใช่แบบนี้ และกำลังหมดไป เพียงแต่เปรมไม่สนับสนุนการสอนให้พวกก่อการร้าย

ทักษินหลงเชื่อว่าโจรก่อการร้ายหมดแล้ว จึงให้ทหารถอนตัวออกมา จึงเกิดเรื่องร้ายขึ้น แต่ที่จริงเรื่องร้ายตัวจริงคือการปลูกฝังในโรงเรียน ครับ .. สมัยนั้นในซีเอ็คก็มีหนังสือทำนองนี้ ในชั้นศาสนาด้วยซ้ำ ผมเคยอ่านในซีเอ็ค ปลูกฝังในชาตินิยมทางศาสนา เขายกอัลกูรอ่าน ซูเราะอะเไรก็จำไม่ได้ บอกว่าจงต่อสู้กับพวกคนต่าสงศาสนาอย่างไรความปราณี และจงช่วยเหลือแต่พวกเดียวกัน...ผมไม่เชื่อเลยไปหอสมุดแห่งชาติดู มีในอัลกุรอ่าน แต่แปลไม่ตรงกับที่ในหอสมุดแห่งชาติ ของหอสมุดแปลแล้วอ่านไม่ได้ใจความ ไม่เป็นประโยค ที่เข้าใจได้ง่านง่าย....แต่สรุปแล้วสมัยนั้น ชั้นหนังสือศาสนาในซีเอ็คมีแต่เรื่องสร้างคนให้เกลียดยิวครับ ..เคยได้ยินไหมร้องเพลงชาติผิดหลักศาสนา .. โชคดีที่โดนเก็บไปหมดแล้วหลัง ปล้นปืน (ตอน 9/11 ยังไม่โดนเก็บ)

ตอนนั้นยังไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายในสามจังหวัด แต่กลับคิดว่าในกรุงเทพอีกไม่นาน ถ้ายังมีหนังสือพวกนี้ล้างสมองคน ต้องเกิดเรืองแบบ 9/11 แน่แน่ ...กลับผิดคาด

ผมไม่ทราบว่าสิ่งที่ พล.อ.เปรมทำเรียกว่าขบวนการหรือไม่ แต่การทำงานที่นำเอามวลชนที่เป็นปรปักษ์ให้มามีบทบาทในการสร้างชาติร่วมกัน คือแนวคิดที่เยี่ยมและทำให้สถานการณ์สงบอย่างเป็นรูปธรรม หรือท่านสมพรคิดว่ามันไม่จริง ศอ.บต. ไม่ใช่ไอเดียแรกที่ พล.อ.เปรมทำ พล.อ.เปรมใช้ยุทธศาสตร์นี้มาตั้งแต่ดึงโจรจีมคอมมิวนิสต์มาเป็นพวกโดยใช้ยุทธศาสตร์แนวร่วมพัฒนาชาติไทย แต่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนแข็งกว่ามาก นอกจากจะมีรอยร้าวจากกรณีผูกเอ็นร้อยหวายไปขุดคลองแสนแสบแล้วกลุ่ม เจ้าเมืองต่างๆ ทั้งในปัตตานีและตะลุบันเองก็ต้องการกลับมาเป็นใหญ่ทั้งสิ้น กรณีนี้ การที่ทักษิณเร่งรีบที่จะยุบ ศอ.บต. และ พตท. 43 (ซึ่งน่าจะคาไว้ก่อน) นั้นไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นนอกจากความประสงค์ที่จะตรา พรก. ฉุกเฉิน โดยคิดว่าตัวเองเก่งไปทุกอย่าง จึงมีคำพูดว่า "โจรกระจอกขึ้น" นึกว่าตัวเองเขียนได้ก็ลบได้ เพราะหากสังเกตให้ดีทันทีที่มีการยุบ พตท. 43 ก็ตั้ง กอ.สสส.จชต. ขึ้นมาแทน เหตุผลเดียวคือต้องการคุมอำนาจทั้งหมดเพียงคนเดียว เพราะ ผอ.ศอ.บต. คือนายพลากร สุวรรณรัตน์นั้น ไม่เชื่อฟังทักษิณ หรือท่านสมพร คิดว่ามันไม่จริง

ส่วนสาเหตุที่ทักษิณต้องการตรา พรก.ฉุกเฉินนั้น สาเหตุที่แท้จริงคืออะไรนั้นคงอาจที่จะกล่าวในที่นี้ได้ แต่จะเกี่ยวข้องกับการที่ทักษิณปรารถนาที่จะเป็น The Legend หรือเปล่านั้นทุกๆ คนคงรู้อยู่แล้ว เพราะกฎหมายตัวนี้ น่ากลัวมากทีเดียว

การแก้ไขปัญหาในภาคใต้นั้น คนที่สามารถแก้ปัญหาได้ดี คือ คนในพื้นที่เพราะรู้รากเหง้าของปัญหาดี รู้ถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ซึ่งจะสามารถนำแนวทางแก้ปัญหามาบูรณาการให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ได้ ดังนั้นจึงควรแก้ด้วยการใช้แนวทางการเมืองนำการทหาร รวมถึงการใช้การบูรณาการความคิดของทุกฝ่ายเพื่อหาแนวทางแก้ไข และสิ่งที่สำคัญ คือ รัฐต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนในการแก้ปัญหาด้วย นอกจากนี้หากทุกคนน้อมนำพระราชดำรัสเรื่องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปปฏิบัติ เชื่อว่าเหตุการณ์ภาคใต้จะดีขึ้น