|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
โครงการหลวงแม่หลอด อ.แม่แตง เชียงใหม่ กับเมนูแนะนำ
ได้ไปเที่ยวแล้ว หลังจากไม่ได้โผล่หัวไปไหนเลย เนื่องจากเป็นโรคทรัพย์จางอย่างรุนแรงและเรื้อรัง
แม้จะเป็นที่ใกล้ๆ เชียงใหม่ แค่แม่แตงและเป็นทริปแบบไปเช้าเย็นกลับเพื่อฉลองปีใหม่กันตามประสาอาจารย์พ่อ-อาจารย์แม่และลูกศิษย์รุ่น....เอาว่าหอบลูกๆ ไปกันด้วยล่ะ เป็นทริปที่เน้นเรื่องการกินเป็นหลัก แต่ก้อมีอะไรให้ประทับใจพอควรเลย
สถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอด ไม่เหมือนสถานีวิจัยอื่นของโครงการหลวงที่มีการตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับจนสวยงามเหมือนรีสอร์ต เนื่องจากว่าที่นี่กำลังอยู่ระหว่างพัฒนา และอาจารย์ทั้งสองก้อเป็นส่วนหนึ่งที่เค้าไปให้คำแนะนำ เราในฐานะผู้ติดตามเลยได้ไปด้วย
ที่นี่มีบ้านพักแบบ A-Frame และสโมสรที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นโรงอาหาร ลักษณะเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ มีอาหารเช้าและเย็นบริการ พืชที่ปลูกหลักของที่นี่คือ กาแฟ ทั้งพันธุ์อาราบิก้าและโรบัสต้า
ช่วงนี้อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวผลผลิต ผลกาแฟที่เก็บแล้วจะนำมาหมักในบ่อ จนเปลือกนุ่ม หลังจากนั้นจะนำมาสี และไปผึ่งให้แห้ง เนื้อของผลกาแฟหลังจากถูกสีแยกออกจาเมล็ดกาแฟแล้ว ไม่รู้ว่านอกจากทำปุ๋ยแล้วไปทำอย่างอื่นได้อีกมั้ยเน้อ
หลังจากผึ่งจนแห้ง เค้าจะมาคัดด้วยมือต่อ เพื่อเลือกเอาตำหนิ เมล็ดเสีย เมล็ดแตกออก และคงจะส่งไปที่โรงคั่วของโครงการหลวงในเมืองเชียงใหม่ต่อ เมล็ดกาแฟดิบ หรือที่เรียกว่า peaberry ยังไม่ผ่านการคั่ว แต่ข้าน้อยยังมิสามารถขนาดบอกได้ว่า เมล็ดที่เห็นนี่เป็นอาราบิก้าหรือ โรบัสต้าหรอกนะ
นอกจากกาแฟซึ่งเป็นพืชหลักแล้ว ยังมีเครื่องเทศและสมุนไพรฝรั่งสดอยู่บ้าง และตรงหน้าบ้านพัก มีกรงไก่ฟ้าสวยๆ อยู่หลายกรง สีสันสดใส สำหรับดึงดูดความสนใจเด็กน้อยทั้งหลาย
และที่ทำให้ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นคือ เป็นสถานีวิจัยที่เพาะเลี้ยงกระต่ายเนื้อ เพื่อเอาไว้ส่งเสริมให้ชาวเขาเลี้ยงกระต่าย เพราะเป็นสัคว์ที่เลี้ยงไม่ยาก โตไว ขยายพันธุ์ง่าย จะได้เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญอีกแหล่งนึงสำหรับชาวเขาไง
มีทั้งพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์กระต่าย และกระต่ายในกรงที่เลี้ยงไว้สำหรับจำหน่ายเนื้อกระต่าย ซึ่งคนที่มาพักที่นี่ หรือคนที่สนใจจะลองชิมเนื้อกระต่าย เจ้าหน้าที่จะจัดการทำกระต่ายให้พร้อมสำหรับปรุงเลย โรงเรือนเค้าดูสะอาดสะอ้านมาก กระต่ายน้อยตาแป๋วน่ารัก จะกินลงมั้ยเนี่ย
ที่เราไม่รู้คือ อาจารย์ท่านสั่งไว้ให้พวกเราแล้วสองตัว หมักกระเทียม เกลือพริกไทยและนมสดไว้ พร้อมที่จะย่างทานเป็นอาหารกลางวันทันที
แล้วกระต่ายน้อยสองตัวที่หมักเรียบร้อย แปดขา เนื้อส่วนท้องอีกสี่ชิ้น ก้อถูกเกี่ยวด้วยตะขอและนำไปย่างในถังเหล็กที่เจาะก้นวางบนเตาถ่าน เหมือนเตาอบง่ายๆ ไอความร้อนที่ขึ้นมาจะทำให้กระต่ายสุ ส่วมันหยดลงไปด้านล่าง พอมันลงไปโดนถ่าน จะเกิดควันหอมๆ รมเนื้อกระต่ายไปในตัว และเนื้อจะไม่อมน้ำมันด้วย
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ จะได้เนื้อกระต่ายย่างสีทอง แต่ยังไม่สุกดี เจ้าหน้าที่เค้าว่า ถ่านยังอ่อนไป เลยไม่ค่อยร้อน ส่วนที่สุกเร็วที่สุดคือ ตับ ซึ่งแยกออกมาอีกตะขอนึง
เวลาหั่นต้องระวังให้ดี เพราะว่าตรงด้านในของตับจะมีถุงน้ำดีอยู่ ขมโคตรเลย ขนาดเอามือไปโดนนะ ยังขมติดมือเลย แต่ถ้าเอาไปทำลาบดีขม คงถูกใจคอเหล้าทั้งหลายหรอก ตับกระต่ายย่าง นุ่มมากๆ ไม่มันเลี่ยนด้วย เนื้อเหมือนตับไก่ย่าง แต่นุ่มกว่า อาจเป็นเพราะว่าย่างกำลังดี
เสร็จละ ขาสุกกำลังกิน เนื้ออกกับหลังยังต้องรออีกนิดนึง ยังไม่สุกได้ที่ เนื้อกระต่ายเวลาสุกบริเวณน่องจะมีสีออกชมพูอ่อนๆ ส่วนอกสีขาวอมชมพู ตอนแรกกะว่าจะสับเหมือนไก่ แต่กระดูกเค้าแข็ง เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ฉีกตามข้อต่อเลย ง่ายกว่ากันเยอะ
ใครไม่เคยกินเนื้อกระต่าย ลองนึกภาพเนื้อไก่บ้าน มีความเหนียวนิดหน่อย พอเคี้ยวหนุบๆ ไมถึงขนาดต้องทึ้งจนฟ้นปลอมหลุด แต่ถ้าได้หมักนานกว่านี้สักหน่อย จะอร่อยมากๆ เลย แต่แหม กินไปๆ ก้อให้รู้สึกฝืดคอ ถ้าได้แอลกอฮอล์ล้างปากสักหน่อยนะ จะเด็ดขาดไปเล้ยล่ะ
คำเตือน สำหรับผู้ที่อยากกินเนื้อกระต่าย กรุณากินให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปเดินชมกรงเลี้ยงกระต่าย มิฉะนั้น อาจไม่อยากกิน เพราะว่ากระต่ายมันน่ารักเหลือเกินนนนน
โดยรวมแล้ว สถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอดเป็นจุดนึงที่น่าแวะพักระหว่างทางไปปาย แต่ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ถ้าเค้าทำร้านกาแฟ หรือจัดแต่งสถานที่ให้สวยขึ้น คงจะมีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมเยือนอีกเยอะล่ะ อย่างน้อยทริปนี้ ก้อมีแต่ความประทับใจล่ะ
Create Date : 30 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 30 ธันวาคม 2551 16:21:37 น. |
|
12 comments
|
Counter : 9748 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: AjN_O วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:17:49:53 น. |
|
โดย: Lovely_Phim วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:20:54:14 น. |
|
โดย: AjN_O วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:22:34:04 น. |
|
โดย: เฉลิมชัย IP: 202.143.130.162 วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:12:43:24 น. |
|
โดย: วาทการ IP: 180.183.2.197 วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:20:23:36 น. |
|
โดย: กินกระต่ายโรคจิต IP: 182.53.241.140 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:55:42 น. |
|
โดย: faii IP: 125.24.79.147 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:16:37 น. |
|
โดย: อิอิ IP: 180.180.172.151 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:38:46 น. |
|
โดย: ชุติเด IP: 125.24.93.168 วันที่: 15 กันยายน 2554 เวลา:18:53:25 น. |
|
โดย: Qa วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:13:21:56 น. |
|
โดย: รัมคลับ IP: 192.168.0.21, 110.171.169.228 วันที่: 14 ธันวาคม 2554 เวลา:4:46:52 น. |
|
| |
|
AjN_O |
|
|
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ยินดีต้อนรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ ถ้าคุณเข้ามาที่นี้ แปลว่าคุณชอบกินและเที่ยวเหมือนกับเรา ข้อความต่างๆ ที่อยู่บน blog เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทในเชิงการค้า ส่วนภาพถ่ายก็มาจากฝีมือของเราเอง สวยมั่งไม่สวยมั่ง ชื่นชมกันได้ตามสะดวกนะคะ
|
|
|
|
เห็นมีเมนูกระต่ายอย่างงี้ ม่ายหว่ายยจ้า. ฉงสารกระต่ายจัง น่าจะทำการขยายพันธุ์ แล้วให้มันออกลูกมาเยอะ ๆ แล้วปล่อยให้มันอยู่ตามธรรมชาติ จะดีอยู่นะ