![](../template/theme/8/images/01diary_05.gif)
![](../template/theme/8/images/01diary_07.gif) |
|
![](../images/spacer.gif) |
![](../template/theme/8/images/01diary_blankb.gif) |
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
![](../template/theme/8/images/01diary_18.gif) |
![](../images/spacer.gif) |
|
|
ไปเที่ยวสวนสัตว์กันต่อนะ - ดูเค้าเลี้ยงปลาในสวนสัตว์เชียงใหม่อควาเรียม
หลังจากยืนชื่นชมความน่ารัก และตากแอร์พอสมควร เรามุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป "สวนสัตว์เชียงใหม่อคาเรียม" เดินจากโซนแพนด้าขึ้นไปด้านหลัง จะถึงบริเวณอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของอควาเรียม เค้าจัดสร้างได้อลังการเหมือนกันนะ ![](//www.bloggang.com/emo/emo36.gif)
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237519433.jpg)
ตัวอาคารดูจากด้านหน้าเหมือนไม่ใหญ่มาก แต่เดินข้างในได้เป็นชั่วโมงๆ เลยนะ ช่วงนี้เสียค่าบัตรแค่ 190 บาทเอง (ไม่ได้จ่ายเองอีกแล้วแหละ อิอิ)แต่ถือว่าถูกมากนะสำหรับอควาเรียมใหญ่ขนาดนี้ จำได้ว่า ถ้าไปดูทีต่างประเทศต้องจ่ายมากกว่านี้อีกเยอะเลยล่ะ
ที่นี่เค้าจัดแบ่งออกเป็นโซนๆ ตามระบบนิเวศน์ ป่า น้ำจืด ชายทะเล น้ำลึก ทำนองนี้ ด่านแรกคือสัตว์น้ำบนดอย ซึ่งตั้งแต่เรียนมา ยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ เลย แถมเจ้าตัวนี้ยิ่งหายากขึ้นไปอีกเพราะว่าเป็นสัตว์เผือก เค้าคือ ตัวซาลาแมนเดอร์เผือก หรือ ตัวออดข้างแก้ม เคยเห็นแต่ในตำรากับวีดีโอ คราวนี้ได้เห็นของจริงแล้ว![](//www.bloggang.com/emo/emo26.gif)
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237519550.jpg)
ส่วนตัวนี้ เพ่งแล้วเพ่งอีกว่าเค้าอยู่ตรงไหน พอดีเค้าไม่ลืมตาน่ะ ถ้าลืมตา จะเห็นตาสีแดงตัดกับตัวสีเขียว จำชื่อไม่ได้แล้วล่ะ ตัวเค้ากลืนไปกับใบไมเลยนะ ![](//www.bloggang.com/emo/emo36.gif)
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237519614.jpg)
ไฮไลต์ของอควาเรียมจริงๆ ไม่ได้อยู่ตรงตู้กระจกทั้งหลายด้านหน้า แต่ว่าคืออุโมงค์น้ำขนาดยาวมาก เค้าว่ายาวที่สุดในเอเซีย (ตอนนี้) เดินตามเข้าอุโมงค์มาเลย
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237519679.jpg)
คาดหวังว่าจะเห็นปลาตัวโตๆ มาต้อนรับ แต่เจอเจ้านี่เลย น้องตะพาบนอนอย่างสบายอารมณ์อยู่บนหัวเราเลยน่ะ
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237519729.jpg)
อุโมงค์น้ำส่วนแรกเป็นส่วนของปลาน้ำจืด มีแต่ปลาตัวโตๆ ที่คุ้นๆ ลิ้นทั้งนั้นเลย ไม่รู้บาปมั้ยนะ แต่เวลาเดินผ่าน จะนึกถึงแต่เมนูต่างๆ เช่น ปลาแรดสามรส เชิงปลาลากรายทอดกรอบ เอ...หรือตุ๋นตะพาบ ตอนนี้สภาพน้ำใสขึ้นมากเลยล่ะ ปลาน้ำจืดตัวโตๆ เต็มไปหมดเลย
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237519903.jpg)
บรรดาปลาตัวโตๆ ว่ายน้ำกันอย่างสบายใจ เค้าจัดสภาพแวดล้อมภายในให้เหมือนกับอยู่ในป่า ใต้หนองน้ำเลย น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520096.jpg)
การจัดไฟในอุโมงค์ทำได้สวยมากเลยล่ะ แสงไฟเวลาส่องผ่านน้ำ มันดูระยิบระยับสวยมากๆ นี่มันในอควาเรียมจริงๆ เหรอเนี่ย ให้บรรยากาศเหมือนกับตอนไปดำน้ำเลย ![](//www.bloggang.com/emo/emo14.gif)
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520199.jpg)
เราไปถึงช่วงที่เค้าให้อาหารปลาน้ำจืดพอดี คือประมาณ 10.30น. เลยได้ดูนักดำน้ำลงไปให้อาหารปลาน้ำจืด ส่วนปลาน้ำเค็มจะประมาณ 11.00น. คือยืนดูเค้าให้อาหารปลาที่อุโมงค์ปลาน้ำจืดเสร็จ เดินต่อไปเรื่อยๆ ก้อจะทันดูการให้อาหารปลาทะเลต่อในอุโมงค์ปลาทะเลพอดี![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520342.jpg)
พอหมดโซนปลาน้ำจืด ออกมาจะมาเจอบริเวณบ่อปลาทะเลขนาดใหญ่ มีฉลามเสือดาวตั้งหลายตัว (ลูกฉลามน่ะ) ว่ายวนไปวนมา บางตัวขึ้นมาอ้อนคนดูถึงผิวน้ำเลยล่ะ คนดูแลบอกว่า "ลูบหัวได้นะครับ"
เอ่อ...ให้ลูบหัวฉลามเสือดาวนี่นะ ไม่ได้กลัวเค้ากัดหรอกนะ แต่ว่าไม่อยากให้เชื้อโรคที่มือไปสัมผัสเค้ามากกว่า เดี๋ยวติดเชื้อตายไป บาปเปล่าๆ
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520396.jpg)
มีตู้แสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลายชนิดที่เคยเห็นตอนไปดำน้ำสิมิลันปีก่อน ได้แต่หวังว่าคงเป็นพันธุ์ที่เค้าเพาะเลี้ยงได้นะ อย่าง halequin shrimp หรือกุ้งตัวตลก
เวลาดูเดินอควาเรียมต้องทำใจเหมือนกัน พยายามไม่คิดว่า เค้าได้สัตว์พวกนี้มาจากทะเลได้อย่างไร หรือว่า สัตว์พวกนี้จะมีอายุอยู่ได้นานขนาดไหน
เดินต่อๆๆๆ เรากำลังจะเข้าสู่อุโมงค์น้ำช่วงที่สอง ปลาทะเลเค้าให้อาหารตอน 11 โมงจ้ะ แต่ละตัวแย่งกันดุเดือดมาก เรียกว่า ลูกฉลามครีบดำ ไม่กล้าว่ายเข้ามาใกล้เลยล่ะ มีแต่พวกปลาฉลามเสือดาว ว่ายมาออดอ้วนนักดำน้ำ
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520451.jpg)
เอาใจหรือเปล่า ดูนี่ละกัน เลี้ยงดูกันดีสุดๆ เลยนะ ป้อนอาหารถึงปากเชียวแหล่ะ
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520676.jpg)
พวกปลาที่ปากอยู่ด้านล่างนี่คงเสียเปรียบปลาที่ปากอยู่ด้านหน้ามั้ง เลยต้องป้อนกัน อย่างเจ้ากระเบนตัวใหญ่นี่ ปากเค้าอยู่ด้านล่าง ก้อเลยต้องป้อนกันถึงปากเลยล่ะ
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520740.jpg)
อาหารปลามีทั้งกุ้ง ปลาตัวน้อยๆ ปลาหมึก ได้เห็นอย่างนึงว่า ปลากระเบนไม่กินหางกุ้ง แน่ะ เลือกกินด้วยแฮะ พอกุ้งเข้าปาก เคี้ยวๆๆ แล้วก้อคายหางกุ้งออกมาโชว์ด้วยล่ะ
จริงแล้วอุโมงค์ปลาทะเลไม่ได้ยาวมากหรอก แต่ว่า อยู่นานมาก เพราะว่าเค้าให้อาหารปลา ยืนดูปลาเพลินไปเลยแหล่ะ นี่เป็นสัตว์ทะเลอีกคู่หนึ่งที่เราฝันว่าจะได้เห็นของจริงเวลาไปดำน้ำ แต่ไม่เคยมีบุญ คือ หอยงวงช้าง ได้เห็นตัวเป็นๆ คราวนี้ รู้สึกทึ่งมากๆ กับการลอยตัวของเค้า ทำได้ไงเนี่ย
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237521171.jpg)
พอสุดทางเดิน เราจะถูกบังคับให้เดินผ่านบริเวณขายของที่ระลึก เพราะว่ามันเป็นทางผ่านไปยังทางออกเวลาเดินต้องใจแข็งไว้ เพราะว่าตุ๊กตาแต่ละตัว ออกแบบมาได้น่ารักมากๆ โดยเฉพาะเจ้าตัวที่เป็นสัญญลักษณ์ของอควาเรียม ปลาการ์ตูนในเสื้อสีน้ำเงินน่ะ ที่จริงมีของที่ระลึกเยอะมาก ทั้งพวงกุญแจ แก้วน้ำ ปากกา หมวก ฯลฯ แต่ไม่รู้จะซื้อไปฝากใคร เลยได้แต่หมวกมาใบนึงแทน
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237520995.jpg)
พอออกจากอควาเรียม เรากับแขกของเราคุยกันว่าจะไปกรงหมีโคอาล่าไหม ต้องเดินจากอควาเรียมขึ้นไปอีกหน่อยนึง เนื่องจากว่าแก่แล้ว หมดแรง เดินมาครึ่งวันแล้ว อยากนั่งดูโน่นนี่ให้สบายๆ มั่งเลยตกลงว่าจะไปขึ้นโมโนเรล แทน สถานีที่ใกล้ที่สุดคือตรงก่อนจะถึงกรงแพนด้า
ค่าขึ้นโมโนเรลราคา 70 บาท จอดสี่สถานี แต่เรากะว่าไม่ลงจนกว่าจะวนรอบนึงแล้วไปลงตรงสถานีที่ 1 ซึ่งใกล้กับทางออกมากที่สุด สามารถซื้อตั๋วได้ตรงด้านล่างของสถานีแล้วเดินบันไดขึ้นไป บันไดที่ขึ้นไปโมโนเรลนี่สูงใช้ได้เลยนะ เล่นเอาเหนื่อย เชียวแหละ ภายในรถโมโนเรลสะอาดสะอ้านเย็นสบายดี
แต่เป็นครั้งแรกนะ ที่เห็นรถติดแอร์แบบแอร์บ้านน่ะ อย่างนึงที่รู้สึกว่าสิ้นเปลืองมากคือ เวลาเค้าจอดสถานี จะต้องเปิดประตูทุกบาน ทำให้อากาศที่เย็นสบายในรถ ออกไปข้างนอกหมดเลย แล้วแอร์ต้องทำงานใหม่ เสียดายพลังงานจัง
รถไฟจะวิ่งผานไปยังลานกิจกรรมที่มีแสดงโชว์ของสัตว์ กรงนกขนาด 6 ไร่ (ขอไม่เดินละกัน) ส่วนจัดแสดงแมวน้ำ และส่วนแสดงนกเพนกวินซึ่งปิดปรับปรุงอยู่ และจุดที่ลึกที่สุดคือส่วนจัดแสดงกวางชนิดต่างๆ ที่อยู่ตามสันเขาชันๆ ด้านใน ไม่ค่อยเห็นคนเดินสักเท่าไรเลย ถึงเดินมา จะเห็นกวางหรือเปล่าก้อไม่รู้ เขามันชันมากๆ เลย
ตอนนั่งรถไฟนี่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะแบตกล้องหมดพอดี แต่ได้ภาพเมืองเชียงใหม่ที่มองจากมุมสูงบริเวณส่วนจัดแสดงกวางที่อยู่ด้านในสุดมาให้ดู ว่าเมืองเชียงใหม่ใต smog มันเป็นแบบนี้ ถ้าอากาศดีๆ วิวคงสวยมากเลย
![](//www.bloggang.com/data/ajn-o/picture/1237522303.jpg)
รถไฟโมโนเรลวนครบรอบนึงประมาณ 15 นาทีได้มั้ง นั่งตากแอร์สบายๆ แป๊บเดียวเกือบรอบสวนสัตว์แล้ว แถมยังได้เห็นวิวมุมสูงอีก
ไปสวนสัตว์เชียงใหม่คราวนี้ จำของเดิมไม่ได้เลย เปลี่ยนไปมากเหลือเกินระบบจัดการเค้าดีขึ้นเยอะ สะอาดสะอ้าน จัดแต่งภูมิทัศน์สวยงาม ต้นไม้ร่มรื่น ดอกไม้สวยๆ เต็มเลย เทียบกับค่าตั๋วที่ต้องจ่าย ไม่แพงเลยค่ะ
ว่างๆ คงต้องหาข้ออ้างต้องไปอีก ยังไม่ได้ดูแสดงแมวน้ำ กับเพนกวินแล้วก้อโคอาล่าเลย แต่ว่าต้องรอตอนลูกแพนด้าเกิดก่อนนะ สู้ๆ นะจ้ะหลินฮุ่ย
Create Date : 20 มีนาคม 2552 |
Last Update : 20 มีนาคม 2552 11:12:21 น. |
|
22 comments
|
Counter : 10623 Pageviews. |
|
![](../images/bg-follower.png) |
|
|
โดย: chalawanman วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:12:50:38 น. |
|
โดย: Yoawarat วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:0:05:25 น. |
|
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:0:28:18 น. |
|
โดย: veerar วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:0:38:55 น. |
|
โดย: FeeL100% วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:5:18:20 น. |
|
โดย: mafelda วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:8:57:26 น. |
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:8:57:57 น. |
|
โดย: yoja วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:9:49:51 น. |
|
โดย: Takaw วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:12:37:39 น. |
|
โดย: plely วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:12:40:08 น. |
|
โดย: joblovenuk วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:12:42:15 น. |
|
โดย: soponkub วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:14:42:10 น. |
|
โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:17:09:18 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:20:05:28 น. |
|
โดย: chyanan IP: 58.9.73.118 วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:20:28:19 น. |
|
โดย: attractions (loveyoupantip ) วันที่: 7 สิงหาคม 2554 เวลา:9:54:42 น. |
|
โดย: Lewishic IP: 51.210.176.129 วันที่: 17 เมษายน 2567 เวลา:2:59:15 น. |
|
| |
|
AjN_O |
![](../template/theme/8/images/dashline.gif) |
|
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
![](../images/butt-follow.png)
|
ยินดีต้อนรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ ถ้าคุณเข้ามาที่นี้ แปลว่าคุณชอบกินและเที่ยวเหมือนกับเรา ข้อความต่างๆ ที่อยู่บน blog เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทในเชิงการค้า ส่วนภาพถ่ายก็มาจากฝีมือของเราเอง สวยมั่งไม่สวยมั่ง ชื่นชมกันได้ตามสะดวกนะคะ
|
|
![](../images/spacer.gif) |
|