ข่าวการชุมนุมกู้ชาติในต่างแดน 4 ก.พ. 2549 เวลา 17:30 น. ณ ประเทศญี่ปุ่น สถานีโทรทัศน์ฟูจิเทเลบิ ของญี่ปุ่นนำเสนอข่าวการชุมนุมประท้วง "กู้ชาติ" ประชาชนราวหนึ่งแสนคนออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้นายกทักษิณลาออก ข่าวเสนอว่าทักษิณเป็นนักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัทชินคอร์ปได้ขายหุ้นของบริษัทชินให้กับบ.ในประเทศสิงคโปร์ โดยประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นการทำธุรกรรมแบบอินไซเดอร์เทรดดิ้ง และได้สัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมชุมนุมคนนึงดังนี้ "ต้องการให้นายกทักษิณยุบสภาลาออกคืนอำนาจให้ประชาชน และต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่" จบข่าว   Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2549 2 comments Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2549 22:10:59 น. Counter : 552 Pageviews. Share Tweet

มีคนส่งมาให้ดูเลยเอามาฝาก Sorry. I'm sorry. Really sorry. เดีEวนี้ผมเขียนหนังสือดึก ด้วยตอนหัวค่ำห้วง 18.00-21.00 น. ผมมักจะใชEเวลานี้เลี้ยงแขก ต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีทยอยเดินทางเข้ามาเยือนไม่ขาด ราตรีหนึ่งของสัปดาหEี่ผ่านมา ผมเลี้ยงข้าราชการญี่ปุ่นระดับสูง 3 นาย จากนครเซ็นได ซึ่งผมเพิ่งไปเป็นแขกของท่านเมื่อไม่นานมานีEในงานเลี้ยงมีญี่ปุ่น 2 คน คอยเป็นล่าม ล่ามญี่ปุ่นทั้งสองอยู่เมืองไทยมานานจนพูดภาษาไทยได้คล่องปรืE ล่ามผู้ชายคนที่มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่เมืองฟูกูโอกะ สนทนากับผมตอนหนึ่งว่า ไทยแลนดEเป็นดินแดนยอดเยี่ยมในเรื่องของการรักษาผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรีของคุณคนปัจจุบันท่านนีEถ้าเป็นนายกฯบ้านผม ก็คงถูกจับเข้าคุกไปหลายรอบแล้ว ล่ามผู้หญิงทำตาถมึงทึงมองล่ามคนแรก เหมือนกับจะเตือนว่า อ้า คุณกำลังสนทนาในหัวข้อ ที่ไม่ได้เรื่อง และก็พูดว่า นิติภูมิซังเค้าชอบรัฐบาลมากนะ ดิฉันเคยแปลข้อเขียนของนิติภูมิซัง เพื่อส่งไปที่ญี่ปุ่น เค้าเชียรEายกฯ ท่านที่เป็นตำรวจมากจังเลย การสนทนาของผมกับคนญี่ปุ่นที่พูดภาษาไทยได้และรู้เรื่องเมืองไทยดีคู่นีE ทำให้ผมนึกถึง เหตุการณEระมาณ พ.ศ. 2544 ในสมัยนั้น ผมทะเลาะกับแขกชาวออสเตรเลีย ผู้มาขออาศัยอยู่ที่บ้านเป็นการถาวรบ่อยมาก ท่านผู้นั้นคือ Mr Graham Gaston คุณแกสตันเคยเป็นครูใหญ่ในหลายโรงเรียนในรัฐวิกตอเรีย เมื่อเกษียณอายุราชการแล้วก็มาพำนักพักอาศัยอยู่กับผมตั้งแตEพ.ศ. 2537 ความที่คุณแกสตันสนใจการเมืองไทยทุกแง่มุม จึงทำให้แกติดตามอ่านหนังสือพิมพEาษา อังกฤษของไทยทุกฉบับ แถมยังตระเวนพูดจาประสาการเมืองกับผู้คนทั่วไป ตั้งแต่มีคดีซุกหุ้น คุณแกสตันก็เริ่มโจมตีนายกรัฐมนตรีของผมมาตลอด บอกว่าประเทศของยูเอาคนที่มีจริยธรรม คุณธรรมต๛GาขนาดนีEมาทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีได้ยังไง ใครไม่ทราบกล่าวว่า ความรักทำให้คนตาบอด ผมเป็นคนไทยที่มีความรักเคารพในตัวผู้นำ ผมก็ต่อสู้ด้วยคำพูดกับฝรั่งแกสตันแทบทุกวัน บางวันก็ต้านแกแรงE ว่าอย่ามายุ่งการเมืองเรื่อง ประเทศของไอ Mind your own business. ไอให้น้ำให้ข้าวให้ที่พักอาศัยยูอย่างดี แค่นี้ยูก็น่าจะแฮปปีE การเมืองเรื่องของคนไทย ยูอย่าเข้ามาเกี่ยวดองหนองยุ่งด้วยดีกว่า เมื่อเจอผมพูดจาแรงEคุณแกสตันก็แขยงแขงขน แต่ก็ไม่วายทำนายว่า อ้า ซักวันหนึ่ง You will be sorry. คุณแกสตันชวนเลขานุการสาวชาวไทยของผมคนหนึ่งเดินทางกลับไปออสเตรเลียเมื่อ พ.ศ. 2547 ไปแต่งงานกันที่นั้น และก็ใช้ชีวิตอยู่ใน เมืองเบ็นดิโกอย่างมีความสุข ทว่าอย่างหนึ่งซึ่งผมรู้ว่า คุณแกสตันไม่มีความสุขก็คือ เรื่องอนาคตของประเทศไทย ความหลังครั้งที่รัฐบาลไทยไปเซ็นเอฟทีเอ กับออสเตรเลียเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 คุณแกสตันเดือดเนื้อร้อนใจแทนคนไทยมาก ขนาดรีบดำเนินการให้ผมไปพูดให้ฝรั่งฟัง ที่สโมสรโรตารีเมืองเซนตEออนาดเมื่อ 5 กรกฎาคม และพูดที่สโมสรโรตารีอีเกิ้ลฮอวEนครเบ็นดิโก เมื่อ 6 กรกฎาคม ประสงคEองแกก็คือ อยากให้มีการซักถามเพื่อที่จะทำให้ผมทราบจากปาก คนออสเตรเลียมากมายหลากหลายอาชีพว่า ไอ้เอฟทีเอที่รัฐบาลของยูกำลังเซ็นกันในตอนนั้น มันอันตรายสำหรับยูขนาดไหน เกษตรกรคนชั้นล่างจะตาย มีแต่พวกโทรคมนาคม อะไหล่รถยนตE และรถปิกอัพเท่านั้นที่ได้ประโยชนE/FONT> ระยะหลัง คุณแกสตันได้ไปค้นคว้าประวัติของเฟอรEินานดE อี. มารEอส จากนั้นท่านก็ส่งอีเมลEละแฟกซEาให้ผมอ่านเสมอ นิติภูมิยูน่าจะอ่านไวE เพราะต่อไปในอนาคต ประเทศของยูจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับฟิลิปปินสEนยุคมารEอส คุณแกสตันไม่ได้เกิดในแผ่นดินไทย ไม่ใช่คนไทย ไม่เคยให้สัตยEฏิญาณ สาบานคำใดEว่าจะรักประเทศไทย และจะปกป้องผืนแผ่นดินไทย แต่การกระทำของคุณแกสตันแสดง ให้เห็นว่าแกรักประเทศไทยโดยไม่ต้องพูด โดยไม่มีผลประโยชนEเป็นความรักและ ห่วงใยของมนุษยE้วยกัน ซึ่งมีต่อมนุษยE่างพันธุEย่างลึกซึ้งและบริสุทธิE/B> แกรแฮม แกสตัน เป็นเดือดเป็นแค้นเมื่อทราบว่าบริษัทชินขายหุ้นให้สิงคโปรE แกโทรศัพทEาเล่นงานผมซะยับเยิน เรื่องที่เอาแต่เชียรEายกฯ ไม่ลืมหูลืมตา โทรศัพทEุยกันเย็นวันนีE ผมไม่เถียงคุณแกสตันเหมือนเมื่อก่อนเลยแม้แต่คำเดียว ผมทำเพียงแต่แคE กรอกเสียงลงไปในสายโทรศัพทE้วยความเหนื่อยล้า และด้วยความปวดรวดร้าวใจว่า Dad, I'm sorry. Really sorry. พ่อครับ ผมเสียใจ เสียใจจริงE/FONT> ความรู้สึกเสียใจของผมมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เสียใจโดยไม่มีธุลีของความอิจฉาริษยาใครเจือปนอยู่ด้วยแม้แต่น้อย ผมเสียใจถึง อนาคต ของประเทศไทยครับ. นิติภูมิ นวรัตนE/FONT>   โดย: peeko 4 กุมภาพันธ์ 2549 21:48:20 น.

ผมมีนิทานและคำถามเล่น ๆ .....อาจยาวหน่อยแต่ช่วยอ่านจนจบนะครับ 1. สมมุติว่ามีกำนันคนหนึ่งที่เบื้องหน้าชอบทำบุญ แต่เบื้องหลังใจโฉดชอบอมเงินทำบุญจากชาวบ้านที่บริจาคให้วัด โดยรวมหัวกับมักทายก 4 คน ทำให้ร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็วใน 5 ปี และได้ทำการสั่งสมอิทธิพลจากเงินที่เยอะขึ้นตลอดเวลา สั่งเก็บทุกคนที่ขัดขวางผลประโยชน์ตัวเอง 2. วันหนึ่งกำนันคนนี้ย่ามใจหนักขโมยเอาพระประธานของวัดไปขายได้เงิน 73,300 บาท มีพยานแอบเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก พอญาติโยมไปแจ้งความตำรวจแต่ด้วยความเส้นใหญ่ทำให้ตำรวจไม่กล้าทำอะไร ดองคดีไว้ มีแกนนำชาวบ้านใจกล้า 5 คน ได้รวมตัวชาวบ้านไปประท้วงป่าวประกาศให้ชาวบ้านในตำบลรู้ 3. กำนันทนแรงกดดันไม่ไหว จึงประกาศว่าจะขอเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าเพื่อหาเงินมาสร้างพระประธานองค์ใหม่แทนองค์เดิม ขอแรงชาวบ้านทุกคนในตำบลมาทำบุญใหญ่ด้วยกัน หากชาวบ้านคนไหนไม่มาร่วมด้วยแสดงว่าไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา 4. มีผู้ใหญ่บ้าน 3 หมู่ไม่เห็นด้วยเนื่องจากเห็นว่าที่ถูกต้องกำนันต้องนำพระที่ขโมยไปมาคืนจึงจะถูก มิใช่การทอดผ้าป่าหาพระองค์ใหม่ จึงไม่ยอมลงขันร่วมทำบุญใหญ่ทอดผ้าป่าในครั้งนี้ และไปแจ้งให้ชาวบ้านในหมู่ของตนทราบถึงพฤติกรรมของกำนัน 5. แกนนำชาวบ้านใจกล้า 5 คนได้ทำการป่าวประกาศปลุกใจชาวบ้านให้เห็นความผิดของกำนัน และท้าทายกำนันให้ชี้แจงความจริงกับประชาคมตำบล แต่กำนันไม่กล้า ได้แต่ส่งลูกน้องให้ไปพูดจาโจมตีแกนนำชาวบ้านว่ากู้เงินแล้วไม่ใช้บ้าง , เลี้ยงหมาไม่รอดบ้าง ชาวบ้านหลายคนเริ่มลังเล และมีหลายคนลืมเรื่องการขโมยเอาพระประธานของวัดไปเสียสนิท และมองว่าเป็นการทะเลาะกันของกำนันกับลูกบ้าน 6. แกนนำชาวบ้านใจกล้า 5 คนกดดันอย่างไร กำนันก็ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ดื้อด้านเพราะรู้ว่าวันใดลาออกจากตำแหน่ง วันนั้นเขาโดนข้อหาหนักแน่ อำนาจก็หมด ลูกเมียคงเดือดร้อน และต้องติดคุกแน่นอน จึงวิ่งไปหาชาวบ้านหลังโน้นหลังนี้โดยสัญญาว่าจะให้วัวบ้าง เงินกู้บ้าง จนชาวบ้านหลายคนเริ่มใจอ่อนและสงสาร จนกระแสกำนันขโมยพระวัดไปขายค่อย ๆ จางไปในที่สุด คนส่วนใหญ่ในตำบลกลับไปเตรียมตัวทอดผ้าป่ากันเป็นที่ครื้นเครง 7. ในวันทอดผ้าป่าปรากฎว่าชาวบ้านทั้งตำบลมี 4,500 คน มีชาวบ้านมาทอดผ้าป่าแต่ไม่บริจาคเงินจำนวน 1,000 คน บริจาคแบ๊งค์กงเต้ก 200 คน และไม่ยอมร่วมงานผ้าป่าอีก 1,700 คน รวมเป็นผู้ไม่บริจาคเงินให้ผ้าป่าของกำนันจำนวน 2,900 คน ( หรือ 65 % ) แต่กำนันกลับป่าวประกาศไปทั่วว่ามีคนให้เงินทอดผ้าป่ากำนัน 1,600 คน ซึ่งเกินครึ่งของผู้ร่วมงานที่แกจัด.....จะบ้าตาย 8. และกลับปรากฏว่าชาวบ้านใน 3 หมู่บ้านทางท้ายล่างของตำบลร่วมทอดผ้าป่าด้วยน้อยมาก จนทำให้กองผ้าป่ามีปัญหา ได้เงินไม่พอจะหาพระประทานองค์ใหม่ ชาวบ้านเริ่มเครียดและกดดันกำนันอีกครั้ง 9. หลังจากกลับจากการหารือกับเจ้าอาวาสวัดแล้ว กำนันถูกร้องขอบางอย่างได้เรียกประชุมคนทั้งตำบลทันที กำนันประกาศว่า.....จะขอถอยบวชสักระยะ และจะให้ลูกน้องสนิทขึ้นมาเป็นกำนันแทน.....สิ้นคำประกาศทันใดชาวบ้านค่อนตำบลส่งเสียงอนุโมทนาสาธุ ยกย่อง กำนันเป็นวีระบุรุษ ผู้เฒ่าผู้แก่น้ำตานองไหลทั่วทั้งตำบล 10. วันนี้ชาวบ้านไม่มีใครพูดเรื่องกำนันขโมยพระอีกแล้ว.....มักทายก 4 คน กำลังจะบอกชาวบ้านให้ทอดกฐินอีกครั้งก็ได้เงินครบแล้ว เอามาแทนพระประธานองค์ใหม่แทนองค์เก่าก็ได้ไม่เห็นจะเสียหาย .....กำนันกำลังจะเป็นพระให้ชาวบ้านกราบไหว้......ลูกน้องกำนันกำลังจะขึ้นมาเป็นกำนันแทน และอันธพาลกำลังคุกคามแกนนำชาวบ้าน 11. แกนนำชาวบ้านใจกล้า 5 คน และผู้ใหญ่บ้าน 3 หมู่ ออกมาบอกว่าต้องลงโทษกำนันและนำพระประธานคืนมาก่อน เพราะความผิดที่ขโมยพระยังไม่ได้ชำระ แต่ชาวบ้านหลายคนบอกว่ากำนันถอยแล้วทำไมฝ่ายอื่นไม่ถอยบ้าง......แกนนำชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านกำลังถูกโดดเดี่ยว.......อนิจจา 12. นิทานเรื่องนี้ถามว่า......การบวชทำให้พ้นความผิดข้อหาขโมยพระประธานได้อย่างนั้นหรือ หรือว่าต้องการแค่เพียงให้คนเขาลืมอดีตของกำนันเท่านั้น ???? หลังจากสึกหนนี้ ไอ้ทิดจะกลับมาเป็นกำนันอีกแสนนานใช่ไหม...???....ต้องถามชาวบ้านตำบลนี้แล้ว ??? 13. จะมีการทอดกฎินอีกครั้ง.......ชาวบ้านหมู่ท้ายหมู่บ้านจะยอมบริจาคเงินหรือไม่ วันที่ 23 เม.ย.49 รู้กัน ??? ......ขอเป็นกำนันคนกลางโดยคำแนะนำของท่านเจ้าอาวาสไม่ดีหรือ ???จะได้มาสะสางความผิดกำนันก่อน คนผิดไม่ควรลอยนวลไม่ใช่หรือ ??? ชาวบ้านจะยอมให้ลูกน้องกำนันมาเป็นตัวแทนข่มเหงชาวบ้านอีกหรือ ?? ลืมเรื่องกำนันขโมยพระประธานไปแล้วหรือไร ??? อย่าต้องปล่อยให้แกนนำชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านโดดเดี่ยวเลยครับ.....เป็นกำลังใจให้เขาต่อสู้เรียกหาความยุติธรรมเถอะ   โดย: zzz IP: 61.19.54.238 7 เมษายน 2549 1:31:57 น.