~* ถึงฟ้า จะไม่ใช่สีฟ้า คนก็ยังเรียก ว่า "ท้องฟ้า" *~
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 

รักเธอทุกลมหายใจ



เริ่มต้น .. วันเสาร์ สบายๆ กันด้วยเพลงนี้นะคะ สารภาพว่าเมื่อคืนนี้ หนีไปตามหาแรงบันดาลใจไกลถึงเกาหลี นั่งดูซีรี่ย์ให้จบ หลังจากปล่อยทิ้งไว้มานาน เชื่อมั้ย แอร์ดูละครไทย ไม่ค่อยจะอินถึงขนาดร้องไห้ แต่แอร์ร้องไห้ให้ซีรี่ย์เกาหลี เป็นประจำ

หลังจากดูจบ .. ก็มาเปิดเพลงนี้ฟัง ไม่ได้ชอบ รุจ เดอะสตาร์ มากขนาดที่ต้องเปิดฟังบ่อยขนาดนี้ แต่... เพลงนี้ ฟังกี่ครั้งก็รู้สึกว่า เพลงนี้ อบอุ่นจัง ชีวิตต้องดีมากๆ เลยนะ ที่ตามหาใครคนนึง แล้วอยากใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกัน





รอ บางสิ่งที่ยังขาดหายไป
รอ รอใครมาร่วมใช้เวลา
คอย สักคนมาแก้โจทย์ที่ค้างคา
ว่าฉันวันๆ อยู่ไปเพื่อใคร

รอ จนเจอเธอที่เดินเข้ามา
เธอ คือใครที่ฉันหามานาน
เธอ คนเดียวคือคำตอบทุกอย่าง
ที่ฉันไม่มีทางให้เสียไป

รอ รอคนนี้มานานเท่าไร
คนที่มาเติมเต็ม
คนนี้ที่ตรงกับใจ คือเธอแน่ใจ

ทุกลมหายใจของฉันต่อจากนี้
ได้รู้สักทีจะใช้มันกับใคร
ชีวิตมันมีจุดหมาย
อยากหายใจอยู่ต่อไป รู้ไหมว่าเพื่อเธอ

ทุกลมหายใจวันนี้มีความหมาย
เมื่อรู้ว่าฉันได้ใช้มันกับเธอ
ชีวิตนับต่อจากนี้ จะรักแค่เธอคนนี้
ตราบที่ฉันหายใจ

ก่อน แต่ก่อนก็ไม่เคยเข้าใจ
คน ทำไมยอมเพื่อรักมากมาย
เธอ คนเดียวคือคำตอบทุกอย่าง
วันนี้เจอเธอก็เลยเข้าใจ

รอ รอคนนี้มานานเท่าไร
คนที่มาเติมเต็ม
คนนี้ที่ตรงกับใจ คือเธอแน่ใจ

ทุกลมหายใจของฉันต่อจากนี้
ได้รู้สักทีจะใช้มันกับใคร
ชีวิตมันมีจุดหมาย
อยากหายใจอยู่ต่อไป รู้ไหมว่าเพื่อเธอ

ทุกลมหายใจวันนี้มีความหมาย
เมื่อรู้ว่าฉันได้ใช้มันกับเธอ
ชีวิตนับต่อจากนี้ จะรักแค่เธอคนนี้
ตราบที่ฉันหายใจ

ชีวิตนับต่อจากนี้ จะรักแค่เธอคนนี้
ตราบที่ฉันหายใจ




วันนี้วันเสาร์ .. หลายคนได้หยุดพักผ่อน พักผ่อนกันตามอัธยาศัย น๊าคะ และสำหรับคนที่ยังทำงานอยู่ สู้ๆ เดี๋ยวก็ได้พักแล้วเน๊อะ .. ช่วงนี้มีเวลา แอร์จะรีบอัพนิยาย มาลงให้อ่านนะคะ อาทิตย์หน้า งานยุ่งมากๆ คงไม่ได้อัพแน่นอน ...

ใครว่างๆ เข้าไปลองอ่านนิยาย มือใหม่หัดเขียน ได้ที่กรุ๊ปข้าง ๆ ที่เขียนว่า "จินตนาการเป็นนิยาย" นะคะ


ลาไปด้วยเพลงหวาน ๆ ของน้องรุจ ... แอร์หลงรักเพลงนี้จริง ๆ ให้ตายเถอะ





 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2554
103 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2554 7:21:36 น.
Counter : 1365 Pageviews.

 

ใครคือคนที่พี่แอร์รักทุกลมหายใจคะ
(แกล้งถามไปงั้นแหละเผื่อคุณเล็กมาอ่านได้ปลื้มไง)

 

โดย: littlepup 26 กุมภาพันธ์ 2554 8:45:13 น.  

 

เชื่อแล้ววววว ว่าชอบมากกกกกกกกกกกกกemo

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 8:55:14 น.  

 

ว้าววว น้องโบว์ ... อรุณสวัสดิ์จ้า

ฮี่ฮี่ emo

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 8:55:23 น.  

 

แหม่ ... มาไม่ทัน โบว์น้อย

มองไม่เห็น mv อีกตามเคย 555+ ไม่เปงไร รอกลับบ้านก็ด้ายย emo

 

โดย: witch@thedog 26 กุมภาพันธ์ 2554 8:56:22 น.  

 

มดทำงานเหรอคะ ทำทุกเสาร์เลย????

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 9:02:48 น.  

 

จ้า... แต่วันเสาร์ สบาย ๆ งานที่บ้านนอกเงี้ยแหล่ะ
ถึงบอกว่า จะไปเที่ยวที มีปัญหาอ่ะ

 

โดย: witch@thedog 26 กุมภาพันธ์ 2554 9:15:48 น.  

 

รุจหล่อนะ แต่จาว่าบุคคลิคไม่ได้เรื่อง มันจะหลังค่อมไปไหน ผมทรงปิดหน้าปิดตามันอีก เหอะ สรุป สิงโตน่ารักกว่า

วันนี้ไม่สอนค่ะคุณแอร์แต่ก็กลับต่างจังหวัด มีงานที่ร้านแม่ กับนั่งตรวจข้อสอบเด็กๆ พรุ่งนี้ไปนั่งฟัง ป.โท พรีเซนต์งาน อิจฉาคนได้ดูหนังเกาหลี

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 9:37:55 น.  

 

นินจา @ ช่ายยยย สิงโตน่ารัก ณเดชน่ารัก และโตโน่น่ารัก (เชียร์ขอนแก่นบอยล้วนๆ)

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 9:45:47 น.  

 

คุณเจ้ ... ก็ชอบจริงๆ แชร์ใน fb ไม่พอ .. เอาเนื้อเพลงลงในนี้ด้วยซะเลยยย

พี่มด .. แหม่ จะมาแซวร่วมกับน้องโบว์หรอคะ

คุณจา .. รุจตัวเป็นๆ หน้าตาดีมาก แอร์เจอตัวเป็นๆ บ่อยมาก แต่พอมีน้องกัน น้องรุจ ก็ตกอันดับไปโดยปริยาย ฮ่าๆ เพราะรายนั้นหล่อกว่า แม่ยกเยอะมว๊าก

คุณจา ตรวจข้อสอบนี่ได้ข่าวว่าต้องใช้สายตามาก ใช้สมองเยอะ แอบถามว่า ทาเล็บสีอะไรตรวจข้อสอบค๊ะ ?? มุขนี้ใช้กับเพื่อนอาจารย์เวลาจะตรวจข้อสอบเด็ก .. เพื่อนๆ บอกว่า คลายเครียด

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 9:47:57 น.  

 

ตอนนี้จาทาเล็บสีทอง แต่เพิ่งโดนคุณนายจับตัดเล็บไปเมื่อวันก่อน เพราะเผลอข่วนคุณฯยเลือดซิบเลย อิอิ เล็บเลยสั้นๆกุดๆแต่สีทอง

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 9:53:29 น.  

 

คุณเจ้ -ชอบแต่เด็ก ๆ นะเนี่ยยยย โตโน่ หน้าเหมือนพี่เจ อ่า

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 9:53:41 น.  

 

แต่ตอนเจ้ตรวจข้อสอบเด็ก ไม่ได้ทาเล็บแก้เครียดนะ (โดยอาชีพปัจจุบันก็ไว้เล็บยาวไม่ได้ ทำงานไม่ถนัด)

เจ้นุ่งยีนส์ไปมหาลัย แล้วปิดห้องนั่งตรวจ (กะจะนั่งยองๆ บ้าง ลงไปนอนกลางกองข้อสอบบ้าง คลายเครียดเวลาตรวจ)

ตอนนั้นเป็นวิชาของทั้งคณะต้องเรียน ตรวจไม่มากค่ะ 1400 คน (แบ่งตรวจกันสองอจ.)

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:00:51 น.  

 

คุณเจ้ - ขำอ่า .. ตรวจไม่เยอะเลยนะคะนั่น ออกแนวเยอะค่อดๆ มากกว่า แล้วคุณเจ้คลายเครียดยังไงค๊ะ เพื่อนแอร์มันบอกว่า อีกหน่อยมันจะทา สิบนิ้ว สิบสี emo

คุณจา - โหยยย มีข่วนกันเลือดซิบเลยหรอ แอร์นี่ก็ชอบตัดเล็บให้คุณเล็กเหมือนกัน ตัดที คุณเธอก็บ่นทีนึง ว่า ทาเล็บไม่สวย แต่ก็ยอมให้ตัดให้แต่โดยดี

แล้วตกลงคุณจา ตรวจข้อสอบทั้งหมดกี่คน เอามาสู้กับคุณเจ้ เร๊ววว

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:16:01 น.  

 

ถ้ารู้ว่าช้านตรวจวิชาอาราย พวกหล่อนๆ ต้องเอามาถล่มช้านอีกแหงๆ

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:23:29 น.  

 

คุณเจ้ ... วิชาอารายยยย บอกมาน๊า อย่ามาทำให้อยาก แล้วจากเค้าปายยย

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:30:48 น.  

 

ไม่บอก แบร่ แบร่

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:34:17 น.  

 

วู้วววววว รายกัน รายกัน มาทำให้ อยากรู้ เง้อะๆ

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:39:28 น.  

 

อิอิ ป.ตรี จาสอนสามคลาส สองคลาสแรกเป็น พื้นฐาน กม.ธุรกิจ วิชาพื้นฐานเรียนทุกคณะ อันนี้เยอะหน่อย แบ่งมาแล้วจาตรวจ 500 ส่วนวิชาหลัก กม.ล้มละลาย อันนี้ ป.ตรี 400 ตรวจคนเดียว ส่วนป.โท กม.ล้มละลาย อันนี้ ก็ไม่ถึงร้อย จาไม่เยอะเท่าคุณด้าหรอกจ้า

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:47:43 น.  

 

นึกถึงตอนช่วยพี่สาวตรวจข้อสอบ.....ปวดตับ....ตอนมีนตรวจ ตรวจง่ายมาก เล่นส่งกระดาษเปล่า..หรือไม่ก็มีแต่สูตร...พี่สาวมีนใจดีมาก....เขียนสูตรถูกก็ให้คะแนนแล้ว.....ห่วงอนาคตของชาติจริงๆ

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:48:27 น.  

 

คุณจา ... สอนหลายวิชาเหมือนกันนะเนี่ย นึกว่า เป็นอ.พิเศษ แค่วิชาเดียว อะไรแบบนี้ พูดถึง พื้นฐานกม.ธุรกิจ อ.ที่สอนแอร์ตอนนั้น น่ารักมากกกก ใจดีด้วยยย

แล้วคุณจาเอาเวลาที่ไหนมาตรวจข้อสอบล่ะเนี่ย งานประจำ ก็มากมาย ช่วยงานที่ร้านอีก ไหวป่าว วัยรุ่น

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:52:46 น.  

 

ตรวจไม่ยากหรอกค่ะ ข้อสอบกฎหมาย มันยากตรงเกะลายมือ ตาตรวจไปจะครึ่งแล้ว เหลืออีกครึ่ง

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:55:58 น.  

 

จาสอนหลายวิชา ลำบากกว่าวิชาเดียวนะเนี่ย แถมตรวจเป็นร้อยๆ อีก นับถือๆ

ของเจ้วิชาเดียวคะ 1400 คน หารสองก็คือ คนละ 700 แค่นี้ก็จะอ้วกเหมือนกัน

แอร์ ... มันคือวิชา Fluid Mechanics ซึ่งบอกชื่อไปไม่หนำใจ ต้องแปลให้รู้ว่า มันคือวิชา กลศาสตร์ของไหล

ฮือๆๆๆๆ โดนล้อแน่ตู

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:57:54 น.  

 

อ่อ มหาลัยที่จาสอน ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาลัยปิดที่มีจำนวนนักศึกษามากที่สุดในประเทศค่ะ

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:57:58 น.  

 

จา จริงด้วย เดี๋ยวนี้ ลายมือนศ. ยังกะลายแทง ประมาณว่า อจ.แน่จริง หาให้เจอดิว่าคำตอบที่ถูกต้องของผมอยู่ที่หนายยยย กรรมของอจ. สายตาพินาศไปสามมิลลิเมตร

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:59:11 น.  

 

มิน่า...ถ่ายเทพลังงานเก่งเชียว.......

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:00:13 น.  

 

@คุณเจ้ จาว่ามันต้องเป็นพวกฟิสิกส์แบบเข้มข้นแน่ๆ จาเกลียดมากกกกกกก ตอนเรียนมัธยมเกรดฟิสิกส์ไม่เคยหนีจาก 1กับ2 เลย

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:01:00 น.  

 

ฮ่าๆ แกะลายมือ แค่คิดก็สงสารคนตรวจแล้วอ่า ยิ่งข้อสอบสมัยนี้ โจทย์นิดเดียว อิสระทางความคิด แล้วยิ่งเจอพวกเขียนกระดาษคำตอบ 2 เล่ม สงสาร คนตรวจมากกกก

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:05:10 น.  

 

นักศึกษามหาลัยจาเยอะ แต่คุณภาพอันนี้อย่าให้พูด เทอมนี้จาว่าคงกิน Dogหลายคนอ่ะ ดร็อบไปแล้วก็หลายคน(เฉพาะ กม.ล้มละลายนะ) จาไม่ปล่อยเกรดอ่ะ ที่เคยบอกว่าเคยมีปัญหาตอนสอนก็เรื่องนี้แหละ ใครบางคนที่หญ่ายมากในคณะมาตำหนิจาเรื่องให้คะแนนเด็กช่วงซัมเมอร์ บอกให้จาปล่อยๆคะแนนมากกว่านี้ และมาขอเกรดให้เด็กเส้นบางคน จาเลยเซ็ง แต่ที่แน่ๆจาไม่ปล่อยเกรดแน่ๆอ่ะ จะไม่ให้จาสอนต่อก็ไม่แคร์ ไม่ได้ง้อสอนอยู่แล้ว ตอนนี้มียูในกรุงเทพฯติดต่อจาอยู่ที่นึง ถ้าหยุดสอนที่นี่จาอาจจะโดดไปสอนยูในกรุงเทพอ่ะ

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:06:16 น.  

 

เอ๊ย ไม่ใช่ซัมเมอร์ มิดเทอม

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:08:35 น.  

 

นินจา @ มันง่ายมากๆ นะ สำหรับเจ้ ง่ายกว่าการมานั่งตีความระหว่างบรรทัด แล้วก็ท่องจำเยอะแยะมากมาย ขอยอมแพ้

อันนี้มันตรงๆ ค่ะ ของไหล ไหลจากความดันสูงไปหาความดันต่ำเสมอ จบ ... ร้อยปีพันปี ไม่มีเปลี่ยนแปลง เป็นกฏธรรมชาติ ...

ดังนั้น ตัวจริงของเจ้ เป็นคนตรงไปตรงมา ความคิดตรงๆ ง่ายๆ เพราะวิชาที่เรียนมามันหล่อหลอมมีหลักของมันอย่างง้าน

ดังนั้น ไม่ใช่ปลาไหลน๊ะเฟ้ย ไม่จริ๊งงงง

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:08:42 น.  

 

โหคุณเจ้ คุณเจ้เปรียบเทียบสองวิชา แล้วบอกว่าตัวเองตรง งั้นจาก็ไม่ตรงดิ อิอิ

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:11:23 น.  

 

นินจา ถามคุณนายดูดีม๊ายยยยยย คริคริ

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:12:36 น.  

 

คุณจาคะ..เค้าบอกว่าคนเรียนกฎหมาย..ไม่ใช่ว่าโกหก...แค่พูดไม่หมดจริงป่าวคะ.....

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:14:27 น.  

 

@คุณพระจันทร์กลางแดด เค้าเรียกว่าพูด/บอกแต่สิ่งที่จำเป็นต้องพูด/บอกค่ะ

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:16:40 น.  

 

คุณเจ้ - เยี่ยมไปเลยอ่า วิชาที่สอน นำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริง ฮ่าๆๆ

คุณจา - สอนในเมืองกรุงฯ ก็ดีเหมือนกันนะคะ แต่สอนต่างจังหวัดก็ดีไปอีกแบบ ประมาณว่าถ้าเป็นแอร์ออกต่างจังหวัดบ้างก็ดี แต่ถ้าต้องออกทุกอาทิตย์ บางทีก็ไม่ไหวเหมือนกัน

สรุปแล้ว คุณเจ้ กับคุณจา ชอบอันไหนมากกว่ากัน ระหว่างเป็นอาจารย์สอนหนังสือกับ ทำงานสายอาชีพที่เรียนจบมา ??

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:19:18 น.  

 

กร๊ากก ขำคุณเจ้ กับคุณจา อย่าตีกานน๊า

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:20:38 น.  

 

เดี๋ยวต้องศึกษาแนวทางในการพูด..แบบคุณจาซ๊ะแล้วววว

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:23:31 น.  

 

แอร์ ตอบก่อนออกไปหาอะไรกินกะน้องสาวคนเล็ก

พี่เลิกเป็นอจ.มาทำงานที่ทำอยู่ตอนนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากให้งานวิจัยที่อยู่ในภาคการศึกษาได้เชื่อมกับภาคอุตสาหกรรมได้จริง

และด้วยเหตุผลที่ว่า เจ้จะกลับไปสอนเมื่อไรก็ได้ค่ะ ยิ่งอยู่ภาคอุตฯ ยิ่งมีอะไรจะให้นศ.ได้มากขึ้นอีก ... แต่จะได้ออกมาทำอะไรอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ มันมีโอกาสเดียว ก็เลยออกมาค่ะ

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 11:49:37 น.  

 

คุณเจ้ ... คิดดี ทำดี จังเลยนะคะ เห็นด้วยอีกแล้วที่ว่า คุณเจ้จะกลับไปสอนเมื่อไหร่ก็ได้ ได้ทำงานตรงกับสายวิชาที่เรียนจบมา ถือว่า เจ๋งไปเลย

ชอบๆ ชอบผู้หญิงเก่ง ๆ

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 12:18:32 น.  

 

ส่วนจาชอบงานที่ทำอยู่มากกว่างานสอนค่ะ งานสอนอย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าโดนป๋าบังคับ ป๋าอยากให้ลูกเป็นอาจารย์ ผิดหวังจากพี่สาว ก็มาหวังต่อที่จา เหอๆๆ จาก็ทำได้เท่านี้แหละ แต่อย่าเอาอย่างจาเลยนะ จิตวิญญาณในการสอนไม่ค่อยมีหรอก แต่ก็ทำให้ดีที่สุด

ส่วนมหาลัยในกรุงเทพฯที่จาสนใจเพราะ เค้าไม่ใด้ให้ภาระงานจาเยอะเหมือนที่ ม. ที่สอนในตอนนี้ค่ะ ม. ที่กรุงเทพฯ ถ้าจาสอนก็สอนภาคอินเตอร์ค่ะ สอนครึ่งนึงของคอร์ส แต่ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องเกรด ซึ่งจาว่าน่าจะดีกว่า ไม่ปวดหัวดี

งานทนายสนุกกว่าเยอะเลยนะ คุณแอร์ลืมภาพทนาย ศาล และนักโทษ ออกไปได้เลย ศาลที่จาไปส่วนใหญ่ก็ เป็นศาลทรัพย์สินฯและการค้าระหว่างประเทศ คดีส่วนมากว่าความเป็นภาษาอังกฤษค่ะ สนุกดีนะ บางวันก็ศาลล้มละลายอ่ะ บางวันก็ไปตบตีกับ กลต บางวันก็นั่งไกล่เกลี่ยบ้าง อนุญาโตฯบ้าง บางวันก็แต่ตัวสวยๆไปนั่นประชุมหรูๆในที่ประชุมบอร์ดบริษัทใหญ่ๆ งานจามันประมาณนี้อ่ะ คนละเรื่องกับงานสอนเลย หนุกกว่าเยอะ อิอิ แต่นั่นคือข้อดีนะ ข้อที่ไม่ดีก็เยอะ ไว้มาแฉวันหลัง

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 12:41:16 น.  

 

แว๊บมาเปิดอ่าน เจอคุณจามาตอบพอดีเลย

แอร์ก็ว่า บุคลิกอย่างคุณจา ไม่น่าจะเหมาะกับการเป็นอาจารย์เท่าไหร่ ท่าทางคุณจาจะเก่งภาษาเอามากๆ เลยนะเนี่ย แทนที่จะให้คุณจาแนะนำเกี่ยวกับกฎหมาย ให้แนะนำเกี่ยวกับหนังสือภาษาอังกฤษ เอาแบบรื้อฟื้นความทรงจำ เพื่อเตรียมตัวสอบ TOEIC ดีกว่า แฮะ แอร์มีหนังสือหลายเล่มเลย แต่ว่า อ่านแล้วไม่ซึมเข้ากบาล ซักกะนิด (ขออนุญาตหยาบคาย) เหมือนพื้นฐานไม่ดี

ควรจะทำยังไงกับตัวเองดีคะคุณจา ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปต้นไปต้องนั่งอ่าน paper ที่คุณเล็กเซฟมาด้วย Thesis เรื่องง่าย ๆ ไม่ทำ ดันทำเรื่องที่เมืองไทย ไม่ค่อยมีคนคิดจะทำ .. ลำบากจริงๆ

เอ๊ะ สรุปว่าแอร์ถามคุณจาไปกี่เรื่อง เรียบเรียงให้ดีกว่า
อันแรกเกี่ยวกับ การเตรียมตัวไปสอบ TOEIC แล้วก็ เวลาอ่าน paperภาษาอังกฤษเค้าแปลกัน ยังไงค๊ะ สรุปเป็น paragraph แบบว่า ไม่ต้องแปลทุกตัวอักษร ใช่ป่ะคะ แอร์เคยช่วยยัยคุณเล็กแปลไว้แบบนี้ ยัยนั่นโอดโอย ว่า เอาไป ref.ไม่ได้

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 13:04:35 น.  

 

เอ๊ย มายด์ชักไม่แน่ใจซะแล้ว ว่าที่มายด์ต้องไปฝึกงานมันใช้ TOEFL หรือ TOEIC นะ เหอะๆ

พี่จา @ ลายมือมายด์สวยนะ คริคริ
มายด์อยากฟังพี่จาสอนเป็นภาษาอังกฤษบ้างอ่ะ ว่าแต่สำเนียงอังกฤษพี่จาเป็นแบบไหน British รึเปล่า มันฟังยากมากเลยนะ


พี่แอร์ @ ขอให้ช่วยคุณเล็กให้ได้เน้อ Reading เนี่ยมันเหมือน reading ทั่วไปป่ะอ่ะพี่แอร์ มายด์ไม่รู้อ่ะ
แต่ถ้าปกติเวลาอ่าน reading เราไม่จำเป็นต้องแปลทุกคำนะ ถ้าอยากเก่ง Reading เราต้องหัดอ่านโดยที่ไม่คำนึงถึงความหมายเป็นภาษาไทยอ่ะ ต้องอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ แล้วมันจะเข้าใจความหมายเอง เราจะได้ sense ตรงนี้มาโดยอัตโนมัติ เพราะบางทีแปลเป็นไทย ความหมายมันก็ไม่ใช่จะได้ 100 % ถ้าได้ตรงนี้จะดีมากเลยนะ มันจะได้แกรมม่าแถมด้วย อ่านแล้วสรุปตามความเข้าใจ พารากราฟนึงมันจะมี Main Idea อยู่แล้ว หาให้เจอ บางทีเราก็สามารถเดาศัพท์ได้จากบริบทรอบๆมัน ถ้าอยากเก่ง Reading แนะนำว่า อ่านให้เยอะ อ่านจนเราเข้าใจเหมือนเจ้าของภาษา ไม่ต้องมานั่งแปลอีกที ถ้าเราเข้าใจมันก็สามารถตอบได้นะ ทำข้อสอบพวกนี้เราเหมือนนักสืบอ่ะ บางทีถ้าความเข้าใจไม่ได้ช่วยก็ต้องหา clue ให้เจอ มันอาจจะมีบอกใบ้ๆไว้แล้ว เทคนิคของมายด์ก็มีเท่านี้แหล่ะค่ะ มายด์ไม่รู้ว่ามันจะใช้กับ TOEIC ได้รึเปล่านะ แต่มันก็น่าจะใช้ได้กับทุกอันอยู่นะ สู้ต่อไปโรบิ้น

 

โดย: windsylph 26 กุมภาพันธ์ 2554 14:07:40 น.  

 

ตอบเหมือนมายด์ ... เพราะเจ้ก็ทำแบบนั้นแหละ

อ่านไปประมาณเปเปอร์ที่ 20 พี่ว่าจะอ่านได้เร็วแล้วค่ะ เพราะรู้ว่าต้องอ่านจุดไหน ไม่จำเป็นต้องอ่านหน้าแรกยันหน้าสุดท้าย เอ๊ะ หรือมันจะเพราะเป็นของสายวิชาพี่ เลยอ่านคนละแบบ

คือของพี่ อ่าน results and discussion ละเอียดเลย แต่ก่อนหน้านั้น อ่านแบบแว่บๆ เพราะถ้ามาทางเดียวกัน เรื่องใกล้กัน มันไม่ต้องลงรายละเอียดน่ะค่ะ

ไงก็ตาม ต้องอ่านเยอะๆ เลยจะได้อ่านลื่นๆ ไงก็ฝังเป็นทักษะชองเราในอนาคตไม่หายสูญค่า

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 15:07:11 น.  

 

พี่แอร์หวานจัง บล็อกคราวก่อน ทำคลิปส่วนตัวหวานมากกกกก

 

โดย: moccoffee 26 กุมภาพันธ์ 2554 16:25:49 น.  

 

ขอบคุณน้องมายด์ กับคุณเจ้ เรื่องแนะนำการอ่าน reading นะคะ

น้องใหม่ ... พี่ก็เลี่ยนๆ ได้อีกอะจ้า

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 17:33:57 น.  

 

แอร์ ดูหลังไมค์ด้วยยย

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 17:48:47 น.  

 

ได้เลย ๆ เพิ่งหม่ำข้าวเสร็จหมาด ๆ

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 18:15:55 น.  

 

ขอบคุณฮาล์ฟฟฟฟ

เจ้ออกกะลังแร้น แอร์ล่ะ วันนี้เข่าเป็นไงมั่ง

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 18:42:19 น.  

 

วันนี้กินยา ตรงเวลาเป๊งๆ ไม่ปวดแล้ว แต่ไม่กล้าออกกำลังกาย รอพรุ่งนี้ไปว่ายน้ำที่คอนโด ทีเดียว ค่า

ว่าแล้ว ลืมกินยาบำรุง

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 18:49:24 น.  

 

เจ้เสริมเพิ่ม collagen เข้าไปแร้น (นอกจากกลูโคซามีน)

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 18:54:35 น.  

 

เค้าไม่ชอบกินวิตามิน เยอะ รู้สึกว่า มันไม่ธรรมชาติอ่ะคุณเจ้ แต่ตอนนี้แอร์ไม่ได้กิน กลูโคซามีนนะ แอร์กิน biogrow join up มันมีแคลเซียมในตัว จะได้ไม่ต้องไปเสริมแคลเซียมอีกรอบ

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 19:02:17 น.  

 

@คุณแอร์ จาไม่เคนสอบโทอิกอ่ะ ข้อสอบเป็นไงเหรอ รู้แต่ว่ามันง่ายกว่าโทเฟลมาก โทอิกสอบเพื่อใช้สมัครงาน โทเฟลสอบเพื่อใช้เรียนต่อ มีไรถามมาได้ค่ะ แต่คนที่เทพกว่าจาก็คงเป็นคุณเจ้กับคุณนายอ่ะค่ะ
ส่วนเรื่องธีสิส จาว่าถามคุณเจ้กะคุณนายจะดีกว่านะคะ ตอนจาเรียนโทคอร์สที่จาเรียนเป็น taught course ไม่ได้ทำดิสเซอร์(ธีสิส) แต่ทำเป็น IS แค่20000 words กับฝึกงานสามเดือน นิติฯอ่ะ สาขาที่จาเรียน(กม.พานิชย์)เค้าไม่นิยมเรียนเป็น research program ถ้า research program เค้าจะเรียนพวกหลักสูตร กม.มหาชน ออกกฎหมาย ร่างกฎหมาย กม.อาญา พวกปรัชญากฎหมาย พวกนั้นอ่ะ
อย่างจาสอน ป.โท ตอนนี้จาสอนแค่วิชาพื้นฐานเค้านะ จาไม่ได้ไปเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาในการทำธีสิส
ฉะนั้นแล้ว ถามคุณเจ้กับคุณนายดีกว่า สองคนนี้เรียน research program เต็มๆ เชี่ยวกว่าจาแน่ๆ

@มายด์ พี่พูดสำเนียงมั่วๆค่ะ เน้นสื่อสารรู้เรื่องเป็นพอ เวลาพี่เขียนพี่สามารถ เขียนได้ทั้งแบบอังกฤษและอเมริกัน แยกแยะออก แต่พี่ชอบสำเนียงอังกฤษนะ น่ารักดี แต่คุณนายเค้าแบบว่าจบมาจากประเทศที่ธงชาติเค้าผืนใหญ่มากกกกก เค้าก็จะบังคับให้พี่พูดสำเนียงเดียวกับเค้า

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 19:39:03 น.  

 

@คุณเจ้ พอเหรอแค่นั้นอ่ะ Q10 ด้วยเลย เครื่องสำอางค์เน้นบำรุงลึกถึงระดับ cell อิอิ จาอายุแค่นี้ ก็อัดทุกขนาน อิอิ งานมันเครียด ต้องมีตัวช่วยบ้าง ไม่งั้นหน้าเน่ากันพอดี มันต้องแบบทำงานเหนื่อยๆแล้วเวลาส่องกระจกเห็นหน้าตัวเองดูดี มันช่วยให้หายเหนื่อยจากงาน อิอิ

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 19:43:38 น.  

 

นินจา @ คืองี้ค่า ตื่นมาเป็น protien สกัดของ Amway
ต่อด้วยกาแฟ non fat (เข้าระบบ ไม่วิปแล้ว) ต่อด้วยวิตะมินซี บีรวม กลูโคซามีน และ E primose oil

ตกเย็นก่อนนอนเป็นคอลลาเจนที่ว่าค่า Q10 ยังอ่ะ แต่ไม่แน่นะ 5555

เรื่องสำเนียงอังกฤษ เห็นด้วยค่ะว่าพูดไปเหอะ ไม่ต้องห่วงสำเนียงมากไปกว่าเนื้อหาที่จะสื่อความหรอก

สำเนียงไม่สำคัญเท่าการออกเสียงให้ถูกนะคะ เช่น sh, ch, R, L, th และ pural ที่ต้องมีเสียง S เนี่ย เจ้โดนเพื่อน aussie แก้ให้ทุกวัน

TOEFL เหมือนคุณจิ้งจะบอกมายด์ไว้ที่ blog มายด์แล้วนะคะ เจ้สอบ paper base ค่ะ ง่ายกว่า(มั๊ง) ไม่มี speaking อ่ะตอนนั้น TOEIC นั้น ถ้าที่ทำงานไหนไม่ require ก็ไม่ต้องสอบหรอกค่ะ แต่ถ้าสำนักฯ ของเจ้ล่ะแน่นอน ต้องเอาผลสอบมาแนบสมัครค่ะ

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 20:39:13 น.  

 

คุณเจ้ คุณจา - TOEIC ไว้ใช้สมัครงาน ค่า .. จะไป Bank และ น้ำมัน ยังไง ๆ ก็ต้องสอบ TOEIC งะ กลางปีนี้ มีแพลนว่าจะเปลี่ยนงานแน่ ๆ ตอนนี้เลยว่าจะเตรียมตัว ก่อนสอบจะได้ไม่พลาด บรรดาเพื่อนฝูงก็จิก ๆ ให้ไปสอบซะที

ตอนนี้เรื่องราวรอบตัว มีแต่ สอบกับสอบ .. ไม่รู้จะเอาดีทางไหนซะอย่างนั้น

คุณจา.. แอร์อยากได้แนวทางการอ่าน paper มากกว่า เดี๋ยวไปหลังไมค์ ถามคุณจิ้ง กับคุณเจ้ ดีกว่าาาาา

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 20:47:51 น.  

 

ลองถามคุณจิ้งดูค่ะ paper อาจจะใกล้เคียงกว่าพี่หรือเปล่า คือของพี่อ่ะ เปเปอร์ เป็นกราฟ เป็นรูป เป็นตาราง เป็นสมการ ซะเยอะ อ่านปรื้ดดด พุ่งไปที่จุดที่อยากรู้ได้เลยอ่ะค่ะ

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:01:14 น.  

 

@คุณเจ้ เหมือนกันเลย จาก็โปรตีนทุกเช้า เหมือนกัน แต่คุณนายเนี่ยจาต้องบังคับให้กิน ต้องนั่งเฝ้ากันเลย คุณนายไม่ชอบกิน วิตตามิน(มันเขียนยังไง)จากิน ผักผลไม้รวม ดับเบิ้ลเอ็กซ์กินเฉพาะวันที่รีบๆไม่ว่างมาชั่งชงโปรตีน อ่อที่ลืมไม่ได้ก็ บี คอมเพล๊กซ์ แคลเซี่ยม สปิแนช ส่วนไฟเบอร์ กระเทียม วิตซี อันนี้กินเป็นบางวันแล้วแต่สภาพร่างกาย เมื่อก่อนกินจิงโก๊ะด้วย แต่จาว่าไม่รู้มันช่วยได้แค่ไหน กินไม่กินไม่เห็นผลจาเลยงด เลซิตินอีก็มีเอาไว้ติดโต๊ะทำงาน ไว้เคี้ยวเล่นมันอร่อยดี ส่วนพริมโรส จากินสองกระปุก ตอนนี้เลิกเลย มันบวมอ่ะ เอาไว้แก่ก่อนแล้วกันค่อยกิน

speaking ตอนที่จาให้คุณนายติวให้ จาก็มีปัญหาเรื่อง plural/singular เหมือนกัน รู้นะว่าที่ถูกคืออะไร แต่เวลาพูดชอบพูดผิด อย่าง she don't , he don't ประจำเลย คุณนายต้องแก้ให้อยู่เรื่อย

จากประสบการณ์จาสอบ Toefl iBT นะ Speaking ยากมาก ต้องแบบเข้าวัดทำสมาธิซักเจ็ดวันก่อนไปสอบอ่ะ มันจะแบบมีหัวข้อมาให้ แล้วให้เวลาประมาณห้านาที(จำไม่ได้แล้วสอบหลายปีแล้ว)ให้เตรียมเรื่อง แล้วพูดๆๆๆๆ แล้วก็มีpart ที่ให้เราฟัง แล้วให้แสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยยังไง แล้วก็พูดตอบไป ซึ่งยากนะ ไม่เหมือน writing ที่ลักษณะโจทย์คล้ายๆกันแล้วเราก็แค่เขียนตอบ ซึ่งเขียนผิดเราก็แก้ได้ แต่speaking พูดแล้วคือพูดเลย ผิดก็ไม่รู้ตัว จะแก้ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง ต้องมีสมาธิมากๆอ่ะ iBT จายังไม่เคยเห็นใครทำได้เต็มอ่ะ อย่างมากก็แค่ 115 ส่วนจาได้ 100 นิดๆ (คะแนนเต็ม 120) เรียนต่อยูดีๆเมืองนอกจะรีควายที่ 100 อัพ

สำหรับมายด์พี่ว่าไม่ต้องเสียเวลาไปสอบโทอิกหรอก เรียนโทเฟลไปเลยใช้เรียนต่อได้ด้วย

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:04:25 น.  

 

แนวทางการอ่าน paper จากตอนที่จาทำ IS จาว่าหลักการมันก็คล้ายๆกับที่มายด์ว่านะ อยากให้คุณแอร์แม่นแกรมม่าหน่อยอ่ะ จาคิดว่ายpaper พวกนี้มันใช้ tense ลดรูปเยอะอ่ะ พวก participle มันจะทำให้คุณแอร์งงๆได้ ส่วนเรื่องศัพท์ จาว่าไม่ยากหรอก ฝรั่งมันดีอย่าง เป็นพวกที่พูดอะไรเขียนอะไรอธิบายระเอียดละออ มักจะมีคำหรือ ประโยคมาขยายคำที่อยู่ข้างหน้าให้คนอ่านเข้าใจได้ไม่ยาก เอาเข้าจริงจาว่า writing สไตล์ฝรั่งเขาใจง่ายกว่างานเขียนของคนไทยนะ ของคนไทยยิ่งพวกเรียนสูงๆ ชอบโชว์พาวใช้ศัพท์แสงยากๆ ให้คนอ่านงงเล่น

ก็ลองดูค่ะ ถ้าประโยคไหนตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามมาได้ค่ะ ช่วยๆกัน นี่จาก็เพิ่งช่วยทำธิสิส ป.โท ของธรรมศาสตร์ ซึ่งมันทำกฎหมายเปรียบเทียบกับกฎหมายของออสเตรเลีย ซึ่งเพื่อนจาโง่ภาษาอังกฤษมาก จาก็ช่วยมันทำจนเสร็จ แต่มันก็ยังไม่จบ เพราะไม่ม่ผ่านวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานของหลักสูตร ป.โท เหอๆๆ อาจารย์มันคงงงนะ ธีสิส paper มากกว่าครึ่งเป็นภาษาอังกฤษ มันทำผ่าน แต่วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานมันดันไม่ผ่าน

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:16:00 น.  

 

ท้องอืดมากๆ กินมะม่วงน้ำปลาหวานเข้าไปเยอะมาก เหอๆๆ เรอจนเรอไม่ออกแล้ว ไปเดินย่อยก่อนนะคุณแอร์

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:17:50 น.  

 

นินจา @ ดีค่ะ กินประมาณนั้นแหละ เจ้กินมาตั้งแต่เรียนอยู่ซิดนีย์เลย (ก็เมืองต้นกำเนิด blackmore อย่าลืม อิอิ) ผลตรวจร่างกาย ตรวจตับ ฯลฯ ก็ปกติเรื่อยมาค่ะ ให้คุณจิ้งทานด้วยยิ่งดีค่ะ บอกไปเลยว่าเพื่อความงาม

กลูโคซามีนเนี่ย เพิ่งต้องมากิน

speaking เนี่ย ... พูดบ่อยๆ มันจะเข้าปากค่ะ แล้วจะชินไปเองว่า she he it แล้วไปคำไหน we you they I ไปคำไหน

จริงๆ ฟังจากหนังแล้ว copy pattern ของประโยคได้เลยนะคะ ใช้ได้เลยเหมือนกัน

มายด์สอบ TOEFL ไปเลย เห็นด้วยๆ

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:22:46 น.  

 

นินจา @ ทีหลังท้องอืด ให้ทานขมิ้นชันแคปซูล 4 เม็ดนะค้า ช่วยได้มากถึงมากที่สุด ตอนนี้กินกันทั้งออฟฟิศเลยค่ะ (โดยเจ้ชักนำ)

แอร์ @ เหมือนกันค่ะ ประโยคไหนอ่านแล้วติดแล้วงง พี่อาจจะพอช่วยได้ แต่ศัพท์แสงทางการเงินบัญชี พี่อาจจะเจ๊งกะบ๊งนะคะ ไม่ชำนาญ

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:27:18 น.  

 

อ๊าก ศัพท์ทางบัญชี ก็ส่งหลังไมค์ไปถามคุณจิ้งงง ฮ่าๆๆๆ

คุณเจ้ .. อย่าพูดถึง ขมิ้นชัน .. มันน่าน้อยใจนัก ซื้อให้คุณเล็กไปกระปุกนึง คุณเล็กลืมไว้ที่บ้าน ที่ต่างจังหวัดซะงั้น แต่ยังไม่ได้ลองกินเลยคะ พักนี้สุขภาพท้อง สมบูรณ์มาก ไม่เจ็บไม่ป่วยเลยยย

คุณจา คุณเจ้ .. แบบนี้แอร์จะเตรียมตัว จากหนังสือเล่มไหนดี หาจากในเวบมาหลายเล่ม อ่านไป ไม่เข้าหัวเลยยยยย

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:38:50 น.  

 

คุณจา .. อีกรอบ อยากแม่นแกรมม่า ต้องทำไงอ่ะคะ พวก v. adv. adj. n. พวกนี้ เนี่ยเรามีหลักเกณฑ์ จะจำ หรือเข้าใจมันยังไงดีอ่ะคะ

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:49:12 น.  

 

แอร์ พี่แนะว่า สำหรับพี่แล้ว พี่ได้ gramma จากการอ่าน โดยต้องอ่านแบบแยกแยะรูปประโยคที่เขาใช้ด้วยค่ะ แล้วจะรู้ว่า นี่คือ v, adv, adj อ่านได้ทั้งจากนสพ. หรือ จากพวก fiction และ paper (ที่เขียนโดยฝรั่งตัวจริง) ก็ช่วยได้ค่ะ

การเขียน ทางพวกพี่ ใช้ passive voice เยอะกว่า active voice ค่ะ (traditionally) อันนี้อ่านไป สังเกตรูปประโยคที่เขาใช้ไป ช่วยได้เยอะค่ะ

หนังสือพี่ใช้ของ oxford เล่มเล็กๆ (จำชื่อหนังสือไม่ได้แน่นอนนะคะ แต่เป็นเรื่อง gramma หรือ structure นี่แหละค่ะ โดนเพื่อนแฮ๊ฟไปตั้งแต่มันจะสอบ IELTS แน่ะ)

 

โดย: ดวงลดา 26 กุมภาพันธ์ 2554 21:54:34 น.  

 

@ คุณแอร์ เอาที่เข้าใจง่ายสุดๆของจา เล่มแรกที่เรียนก็ สำราญ คำยิ่ง คุณเจ้เคยอ่านบ้างไหม
ต่อจากนั้นจาก็มีพี่สาวเป็นคนสอนอ่ะ พี่สาวจาจบ HU ENG เกียรตินิยมเหรียญทอง ต้องบอกว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษดีเพราะพี่สาว แล้วก็เรียนเรื่อยมาธรรมดา ตอนเรียนป.ตรี ไม่ได้จับภาษาอังกฤษเลย แล้วก็มาเทคคอร์สแกรมม่ากับโทเฟลที่ fast enlisg แล้วก็ให้คุณนายช่วยติวเรื่อง speaking เพราะช่วงนั้นพี่สาวจาไปอังกฤษแล้ว ไม่ได้อยู่สอนจาแล้ว

คุณแอร์ลองเข้าร้านหนังสือนะ แล้วเลือกซักเล่มที่คุณแอร์ลองอ่านแล้วเข้าดีอ่านง่าย เพราะสไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เล้มที่จาชอบอ่านคุณแอร์อาจจะไม่ชอบก็ได้

ส่วนหนังสือโทเฟลกับซีดี จาใช้ของแคมบริดจ์

และก็วิธีอย่างที่คุณเจ้บอกนั่นแหละ ทำตามเลยค่ะ

เพลงปพกิดก็ช่วยได้เยอะนะ
จาเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้จักเพลงไทย ไม่ใช่กระแดะฟังแต่เพลงฝรั่งนะ
แต่จาแค่คิดว่าการที่เราเสียเวลาจะทำอะไรซักอย่าง ผลตอบแทนที่ได้มันควรจะกลับมาหาเรามากเท่าที่จะมากได้
เช่นเรื่องการฟังเพลง เราฟังเพลงเพื่อความบันเทิง
ถ้าฟังเพลงไทย มันก็ได้แค่ความบันเทิง แต่ถ้าฟังเพลงปะกิด มันได้ทั้งบันเทิงและฝึกภาษาไปพร้อมๆกัน
ดูหนัง ตอนเด็กอยู่กับพี่สาว พี่สาวจาอายุห่างจากจาเป็นสิบปีเลย
ช่วงปะถมตอนปลาย-ม.ต้น เป็นช่วงพี่สาวจาเรียน ป.ตรี จาโดนพี่สาวจับฟังเพลงภาษาอังกฤษ ดูหนังก็ซาวนด์แทรกตลอดเลย เจอสภาพนี้มาตั้งแต่เด็ก
แล้วป๋ากับแม่จาก็ช่วยด้วย ที่บ้านจารับนักเรียนแลกเปลี่ยนที่คนญี่ปุ่น คนอเมริกัน ฝั่งยุโรปบ้าง ภาษาอังกฤษจาเลยได้ใช้มาตั้งแต่เด็ก แล้วเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นิวซีแลนด์อีก ถึงจาไม่ได้ขนขวยขยันมากมายเรื่องภาษาอังกฟษ มันก็ซึมเข้าเส้นเลือดจาเองอ่ะ

เหอๆๆ ยาวมากเลยนะ คุยกันวันนี้ คุยเรื่องเรียนจาชอบคุย อิอิ

@ คุณเจ้ ขมิ้นช่วยได้จริงๆเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปหาซื้อ จังหวัดจามันมีขายรึเปล่า ร้านขายยาทั่วไปมีไหมเนี่ย อาการท้องอืดท้องปั่นป่วนเนี่ยจาเป็นบ่อยมาก โรคกระเพาะล่ะมั๊ง กินข้าวไม่เป็นเวลา ขอบคุณที่แนะนำนะคะ

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 22:44:42 น.  

 

หลักเกณท์ของจาก็ ใช้บ่อยๆ แต่ดีที่สุดก็ท่องจำไปเลยค่ะคุณแอร์ เหนื่อยท่องครั้งเดียวแล้วจะจำไปได้ชั่วชีวิต(รึเปล่า ได้ข่าวคนข้างๆจนเริ่มลืมๆ อิอิ) ท่องจำค่ะคุณแอร์ ท่องง่ายๆ ไม่ยากหรอก มันก็จะมี trick ในการจำด้วยอ่ะ

ถ้าคุณแอร์ไม่รีบเดี๋ยวจาส่งชีสสรุปไปให้ จายังหาไม่เจอเลยว่าเก็บไฟล์ชีสสรุปที่เคยทำไว้ให้เพื่อนไว้ในโน๊ตบุ๊คเครื่องไหน รึหายไปแล้วก็ไม่แน่ใจ แต่จาคงต้องทำใหม่อีกรอบ เพราะจากับน้าชายคนนึงกำลังช่วยการเซ็ตโรงเรียนกวดวิชาค่ะ น้าจาสอนฟิสิกซ์ มีนักเรียนเกือบร้อยคนแล้วค่ะ กำลังจะเปิดวิชาภาษาอังกฤษเพิ่ม เป็นน้องอีกคนสอน แต่น้าจาให้จาช่วยทำชีสแกรมม่าให้ อิอิ รอเสร็จเรื่องสอนที่ มหาลัยก่อน คงได้เริ่มทำชีสเดือนหน้า ไม่แน่ว่างๆจาอาจแว๊บไปสอนภาษาก็ได้ จาชอบสอนภาษาอังกฤษ มันสนุกดี

 

โดย: is_ninja 26 กุมภาพันธ์ 2554 22:59:13 น.  

 

พี่จา & เจ้ @ กินพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกับบำรุงสมองเยอะนะเนี่ย มายด์เพิ่งเรียนมาแหล่ะ เพิ่งสอบไป อิอิ


ปล.หนังสือที่อ่านอันแรกก็ของสำราญ คำยิ่งเหมือนกัน แม่มี เลยเอามาอ่านเล่น

 

โดย: windsylph 26 กุมภาพันธ์ 2554 23:11:02 น.  

 

พี่จา @ ขมิ้นช่วยได้จริงๆ เวลาท้องอืดท้องเฟ้อ อาอี๊จับยัดปากมายด์บ่อยๆ พี่จาๆๆๆๆ ส่งให้เค้าบ้างจิ่ >'<

 

โดย: windsylph 26 กุมภาพันธ์ 2554 23:17:06 น.  

 

คุณจาคะ จะรบกวนมากไปป่าวคะ มีนอยากได้ชีสสรุปด้วยอ่ะคะ..ตอนนี้กำลังรื้อขี้เลื่อยออกจากหัว..กำลังฟื้นวิชาต่างๆ ศัพย์เทคนิคที่เคยเรียนมา และภาษาอังกฤษที่เก็บเข้าไหฝังดินไปนานแล้ว..ตอนนี้ยังหาที่ฝังไม่เจอเลย...

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 27 กุมภาพันธ์ 2554 4:35:37 น.  

 

อรุณสวัสดิ์คะน้องแอร์...ไปใส่บาตรกัน

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 27 กุมภาพันธ์ 2554 4:36:45 น.  

 

ว้าว คุณจามาตอบไว้ให้ ยาวเลยได้ความรู้จริงๆ เรื่องหนังสือ เดี๋ยวไปลองดูที่ร้านอีกรอบดีกว่า ของ เคมบริดจ์ คุ้นๆ เหมือนจะมีแฮะ ต้องไปรื้อ ๆ ก่อน นิสัยเสียมาก อยากฝึกที ก็ซื้อที

คุ้นๆ หนังสือของ สำราญ ด้วยแฮะ สรุปว่าเหมือนจะมีหมดทุกอย่าง แต่ขาดการเอาจริงเอาจัง ถ้าไม่เริ่มวันนี้ก็ไม่มีวันได้เริ่มหรอกเนอะ

คุณจา ดีจังเลย ที่คุณจาเก็บชีทไว้ ถ้าไม่รบกวนอยากได้ด้วยแหล่ะคะ มันน่าจะช่วยให้ การอ่านง่ายขึ้นนะคะ

ส่วนเรื่องเพลง เนี่ย .. แย่แล้วเลยล่ะ หูไม่กระดิกจากเพลงฝั่งโน้นเลยจริงๆ จะกระดิกเฉพาะเพลงที่เราสนใจ (นิสัยไม่ดีเนอะ) ปี ๆ นึงจะสนใจเพลงฝั่งโน้นอยู่ไม่กี่เพลงเอง เพราะรู้สึกว่า ต้องปริ้นท์เนื้อ มาแปล แล้วก็กางเนื้อเพลงร้องตามอีก แปลว่า ต้องหัดใหม่อีกเช่นกัน

คุณเจ้ ... หนังสือ oxford เล่มเล็ก ๆ ขนาดที่พกในกระเป๋าถือได้ใช่ป่ะคะ เหมือนจะเคยเห็นแต่ไม่รู้ว่ามันดีรึเปล่า แต่จะว่าไปมีหนังสือประเภทพวกนี้เยอะเลยคะ อ่านแล้ว .. เข้าใจนะคะ แต่พอเอาไปใช้ในชีวิตจริง ทำไมไม่มั่นใจไม่รู้ อ่า


ถามทุกคน เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤาเลยดีกว่า ...

เราต้องใช้ความมั่นใจไปกับมันเยอะมั้ยคะ .. ฟังอิตาคริส บอกว่า อยากให้เรากล้าที่จะพูดก่อน ผิดหรือถูก ฝรั่งจะแก้ให้เอง แล้วอิตาคริสก็บอกว่า แต่คนไทย ชอบหมั่นไส้กัน ซึ่งที่เมืองนอกไม่มี คนไทยคนไหน ใช้ภาษาอังกฤษแทนภาษาไทย คนอื่นที่ได้ยิน ก็จะหมั่นไส้ แต่เมืองนอกไม่มี

จริงๆ เมื่อก่อนแอร์กับคุณเล็ก เคยคุยกันด้วยภาษาอังกฤษนะคะ จนบางทีต้องบอกว่า เอ๊ย .. งงแล้ว กลับมาภาษาไทยก่อน


 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 27 กุมภาพันธ์ 2554 7:18:56 น.  

 

5555 แอร์ @ หลักพูดภาษาอังกฤษของพี่มีนิดเดียวค่ะคือ พี่ไม่ได้คิดเป็นภาษาไทยเลย พี่คิดเป็นภาษาอังกฤษเลย แล้วก็เลือกใช้คำได้เลย ไม่ได้คิดไทยแล้วแปลแล้วพูดค่ะ

จะมีคำในหัวให้เลือกใช้พูดได้เยอะๆ เกิดจากการฟังมากที่สุด ฟังแล้วก็อปประโยคไว้เลย (ดูหนังโดยอาจจะดู sub ENG ช่วยค่ะ ฟังลื่นๆ แล้วปิด sub ไปได้เลย อันนี้จะช่วยให้หูแกะสำเนียงได้เร็ว) แล้วจากการอ่านก็รองลงมาหน่อย เพราะอ่านนิยายก็มีภาษาพูดค่ะ

ถ้าเรารู้ว่าเค้าพูดเรื่องอะไร และรู้ว่าประโยคที่ควรพูดในสถานการณ์นี้เป็นอย่างไร เราจะฟังคำพูดของเค้าออกโดยไม่ต้องแกะสำเนียงทุกคำค่ะ

หนังสือ oxford พี่ใช้แล้วเวิร์คค่ะ แต่อย่างจาบอก ให้เลือกเอาตามจริตคนอ่านค่ะ แนะได้ แต่คนอ่านเป็นคน make decision สุดท้ายว่าเหมาะกับตัวเองไหม

ของพี่ไม่มีโอกาสแบบจา (ไม่ได้มีคนเก่งภาษาอย่างพี่สาวจา ไม่ได้มีเด็ก AFS มาแปะไว้ที่บ้าน) แต่เริ่มจากเป็นคนมีทักษะด้านภาษาอย่างน่าประหลาดใจ ในแง่พูดอีสานและพูดเหนือได้ (555 เกี่ยวป่ะ เหมือนเจ้จะมุกแต่จริงนะ) เพราะจะ copy ประโยคและสำเนียงมาได้อย่างง่ายดาย (แม่คนเหนือ และพวกเราโตที่อีสานกันค่ะ)

พอจบใหม่ๆ ได้ทำงานบริษัทฮ่องกง พูด eng ก็ครึ่งๆ กลางๆ เช่น do you like it มั้ย? (ใส่คำว่ามั้ยทำไมไม่รู้ แต่ก็คุยกันเข้าใจ)

พอมาเรียนโทจุฬา คู่กับการเป็นอจ. ก็ยังไม่ค่อยดีหรอกค่ะ แต่ตอนนั้นได้ไปเรียน oral โดยการใช้เวลาเย็นให้เป็นประโยชน์ (ตอนนั้นต้องเฝ้า lab ที่ภาควิชา 4 ชม.เก็บตย. ที ไม่ได้กลับบ้าน นอนที่ lab) ได้การออกเสียงมาก่อนเลย (อย่างอื่นไม่ได้)

พอจบโท เจ้านาย(คืออธิการฯ) ไล่ให้ไปเตรียมตัวไปเรียนต่อ ก็เลยต้องไปเรียน TOEFL คือ เรียนที่สงวนค่ะ เรียนเพื่อสอบจริงๆ แต่ว่าได้อะไรมากมายเกินกว่าแค่เอาไปสอบ

เรื่องสอบไม่ต้องเล่านะคะ แต่เรื่องที่เรียนนี่สิคือเรียน vocab สงวนจับเป็นกรุ๊ปของสิ่งที่มีความหมายเหมือนกัน ความหมายตรงข้าม แล้วแตกหน่อออกไปตาม prefix, subfix ทำให้จำได้ง่าย แล้วคำนามก็แตกออกไปเป็น adv, adj ให้เราดู เช่น interest (เป็นทั้ง v และ n), interesting (adj), interestingly (adv) ยันไปถึง interestingness เป็นต้นค่ะ

แล้วแกก็สอน synonyme ให้อีกเช่น คำเหมือน interesting ได้แก่ absorbing, amusing, appealing, attractive, compelling, curious, engaging, engrossing, entertaining, gripping, intriguing, pleasing, provocative, stimulating, suspicious, thought-provoking, unusual

เงี้ยะ ไม่จำได้ได้ไง มีคำเยอะ เวลาพูดหรือเขียน จะมีให้เลือกใช้เยอะค่ะ

ส่วนเรื่อง writing กับเรื่อง gramma เป็นเรื่องเดียวกัน (เวลาสอบ) เพราะถ้ารู้ gramma จะรู้ว่าเขียนถูกต้องคืออะไรค่ะ ก็พวก tense, พวก pural, singular, แล้วก็พวกคำบุรพบท (คำเชื่อม) เรื่อง if cause สามแบบ, เรื่อง passive voice active voice, ตอนนี้นึกออกแค่นี้ (อย่าลืมว่ามันมากกว่า 10 ปีน่ะ ตอนเรียน TOEFL)

พูดยังไม่เก่งหรอก แม้จะสอบได้ TOEFL 570 (paper base) สายพี่เอา 550 ก็ไปได้แล้วค่ะ ทางสายจาโหดว่าเยอะ เอาสูงกว่า (ก็น่านะ เพราะเขาใช้ภาษากันระเบิดระเบ้อ ทางพี่ใช้ภาษาคณิตศาสตร์)

ไปอยู่ 4 เดือนแหละค่ะ ถึงจะเถียงเพื่อนจนเพื่อนอยากเอาหมอนอุดปาก แถมยายนี่ก็เน้นเรียนแต่ aussie slang จนเพื่อนส่ายหัว ก็ copy สำเนียงและประโยคนี่แหละค่ะ (บอกแล้วว่า ภาษาเหนือกะอีสานมันให้ทักษะเราตรงนี้)

เล่ายืดยาว คงมีประโยชน์นะคะ ไงก็ฟังเพลงภาษาอังกฤษและข่าวภาษาอังกฤษนะคะ news คลื่น 95.5 ทุกเช้าเลยค่ะ ที่จาบอกน่ะ เจ้ก็ทำมา(เตรียมสอบ listenning ไง)

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 8:37:09 น.  

 

แวะมาอ่านบล็อกคุณแอร์

เห็นคุณจา คุณดวงลดา และคุณแอร์ คุยเรื่องภาษาอังกฤษ รู้สึกสนใจมากคะ
โดยส่วนตัวก็อ่อนภาษามากมาย พยายามฟังเพลง ดูหนังฝรั่ง แต่ภาษาก็ยังไม่ดีขึ้น เป็นเพราะว่าไม่ได้ใช้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่ส่วนตัวก็ทำงานในโรงงานที่เจ้าของเป็นบริษัทของมาเลเซีย
ได้เขียนทุกวัน แต่รู้ตัวมาตลอดว่าไม่เคยเขียนแกรมม่าถูกเลย

เวลาเขียนรายงานต้องพิมพ์ไทยในกูเกิลแล้วดูคำแปลเป็นอังกฤษ จากนั้นก็ก๊อปปี้เลย เหอๆ ง่ายไปเนอะ (มีให้พี่ที่ทำงานปรับแก้นิดหน่อย)

ส่วนพูดไม่ได้พูด เพราะที่ทำงานเป็นคนไทยหมด หัวหน้ามาเลเซียก็พูดไทยได้ ยกเว้นประชุมแบบ Video conference ถึงจะได้ฟังทางฟังมาเลย์พูดภาษาอังกฤษบ้าง แต่ไม่เคยพูดเอง เพราะตำแหน่งอันน้อยนิด ไม่ต้องพูด ที่พูดก็เป็นระดับหัวหน้าไปเลย

สรุปแล้ว ภาษาตัวเองก็ห่วยอยู่ดี 555

อ่อคุณแอร์ จุ๋มเคยสอบโทอิกด้วย ตอนจบ ป.ตรี ใหม่ๆ (นานหลายปีแล้ว)
ได้คะแนนไม่ถึงสามร้อย 555+ น้อยสุดในกลุ่ม (เพื่อนๆ ได้ 600+)

ถ้าเป็นไปได้อยากขอชีทสรุปของคุณจาด้วยคนนะคะ

แล้วจะแวะมาทักทายคะ

ป.ล. คุณแอร์ สู้ๆ สำหรับการสอบโทอิกนะคะ ^ ^

 

โดย: เด็กน้อย IP: 223.206.154.182 27 กุมภาพันธ์ 2554 9:20:49 น.  

 

พี่ๆ เป็นแรงกระตุ้นจริงๆ อยากจริงจังบ้าง เพราะโบว์จะมีปมด้อยเรื่องภาษาอะ หัวทางนี้ไม่มีจริงๆ ตั้งแต่จำความได้ ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ได้เกรดน้อยสุดในทุกวิชาของโบว์ตั้งแต่เรียนมาเลย

 

โดย: littlepup 27 กุมภาพันธ์ 2554 10:21:11 น.  

 

คุณเจ้ - เจ๋งไปเลยอ่ะ แอร์ จะนั่งรื้อภาษาแบบจริงจังล่ะ ไหนๆ ก้อต้องอ่าน paper 1 กอง อยู่แล้ว ถือโอกาสศึกษาอย่างจริงจังดีกว่า

ขอบคุณนะคะที่เอามาแชร์ กันอย่างหมดเปลือก ชอบคุยกับคนเก่งๆ ที่ไม่หวงวิชา หรือเคล็ดลับจริงๆเลยคะ เราจะได้เอาไปเลียนแบบดูบ้าง

ดูๆไปแล้วคุณเจ้ จะเป็นวิศวกรที่ แตกต่างจากคนอื่นมากๆ เลยนะคะ ชอบๆ

คุณจุ๋ม (เด็กน้อย) - ขอบคุณคะ ต้องจริงจังเพื่ออนาคตแล้วอะคะ ทางเดียวที่อัพเงินเดือนได้ ก็คือ english communication จำเป็นเว่อร์ๆ

น้องโบว์ - มาม๊ะ มาร่วมขบวนการกัน

ตอนนี้ไม่อยู่บ้านแล้วนะคะ ออกมาตามหาหัวใจ :)

 

โดย: แอร์-ฟ้าสีหม่น IP: 10.218.228.141, 202.149.25.19 27 กุมภาพันธ์ 2554 10:38:00 น.  

 

คุณแอร์
เรื่องใช้ภาษาอังกฤษ ต้องใช้บ่อยๆนะคะ จิ้งกับนินจาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษแบบไม่แคร์สื่อเลยนะคะ ทุกวันนี้เวลาอยู่กันสองคน มากกว่า 80% จะคุยเป็นภาษาอังกฤษค่ะ คนอื่นเห็นก็คงงงค่ะว่าสองคนนี้เป็นคนไทยแต่ทำไมพูดภาษาอังกฤษ เราไม่แคร์ค่ะ เราคุยแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มคบกันจนชินแล้วค่ะ แรกๆก็เขิลๆ(นินจาเขิลค่ะ) ลองชวนคุณเล็กคุยเป็นภาษาอังกฤษซิคะ

ถึงแม้จะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษแทบจะตลอดเวลาแบบนี้ นินจาเค้ายังออกเสียงบางคำได้ไม่ดีเลยค่ะ น่าเสียดายที่นินจาได้ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกแค่ปีกว่าๆ ควรจะอยู่ซัก 5 ปีค่ะ จะได้มีภาษาอังกฤษที่เค้าเรียกว่า beautiful english

จิ้งไม่แน่ใจว่าที่บริษัทของคุณแอร์เป็นยังไงนะคะ ได้พบเจอต่างชาติบ่อยรึเปล่า สิ่งแวดล้อมพวกนี้ช่วยเราได้มากค่ะ ที่บริษัทของเราสองคนพนักงานเป็นต่างชาติมากกว่ายี่สิบคนค่ะ ลูกค้ามากกว่าครึ่งก็เป็นต่างชาติค่ะ ดังนั้นภาษาอังกฤษสำหรับเราสองคนในแต่ละวันได้ใช้มากกว่าภาษาไทยอีกค่ะ


คุณด้า
อ่านเรื่องของคุณด้าแล้ว และเท่าที่จิ้งรู้จักนินจา จิ้งว่าคุณด้ากับนินจาเป็นคนคุณภาพมากๆนะคะ
ส่วนจิ้ง อย่าให้เล่าเลยค่ะ ชีวิตไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ เอาเป็นว่า ช่วงอายุเท่าๆคุณด้าและนินจาที่ขยันเรื่องเรียน จิ้งยังเล่นๆ สนุกไปวันๆอยู่เลยค่ะ จะมีดีก็แค่ไม่ได้ขอเงินคุณแม่ใช้ก็เท่านั้นเองค่ะ เพิ่งจะมาอยากได้อยากดีตอนเรียนจบปริญญาตรีแล้วกลับมาทำงานที่ไทยค่ะ ตอนอยู่เมกาจิ้งปาร์ตี้แทบทุกคืนค่ะ เรื่องเรียนไม่ทิ้ง หาเงินใช้เองได้ แต่เวลาว่างที่เหลือไม่เคยใช้ไปในการพัฒนาตัวเองเลยค่ะ เที่ยวอย่างเดียวค่ะ

แล้วก็คุณด้าคะ เรื่องภาษาอีสานนี่จิ้งนึกถึงนินจาค่ะ บางครั้งจิ้งรัวภาษาอังกฤษใส่นินจา แล้วนินจาพูดไม่ทัน นินจาก็รัวภาษาอีสานใส่จิ้งค่ะ

คุณเด็กน้อย
ภาษาอังกฤษไม่ยากหรอกค่ะ ตั้งใจจริง ใช้บ่อยๆ คิดว่าคุณคงได้ยินคำแนะนำแบบนี้มามากแล้ว ซึ่งนั่นคือความจริงค่ะ มันแค่นี้จริงๆไงคะ ใครๆถึงได้แนะนำแต่แนวทางนี้ ตั้งใจแล้วเดินหน้าเลยค่ะ


เมื่อวานมีนินจาเป็นร่างทรงตอบเมนต์ ที่ตอบๆไปก็ความเห็นของสองคนผสมๆกันค่ะ วันนี้นินจาไม่อยู่จิ้งตอบเอง
พิมพ์ไทยช้ามากถึงมากที่สุดค่ะ เรื่องการพิมพ์ภาษาไทยของจิ้งดีขึ้นมากตั้งแต่ทำบล็อกค่ะ หลายครั้งที่ชวนนินจาอัพบล็อกเป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมาคิดว่าคนอ่านเป็นคนไทย แล้วจะอัพเป็นภาษาอังกฤษเพื่อ?
ปกตินินจาเค้าไม่ค่อยชอบตอบเมนต์หรอกค่ะ จิ้งชอบตอบมากกว่าค่ะ ส่วนใหญ่นินจาจะตอบเพราะจิ้งสั่งให้ตอบค่ะ หรือให้พิมพ์แทนค่ะ

 

โดย: is_ninja 27 กุมภาพันธ์ 2554 10:45:22 น.  

 

แอร์ @ เจ้คิดว่า สมองสองซีกคือซีกสายตรรกะ กะสายจินตนาการเจ้มันบวมเท่าๆ กันค่ะ ภาษาคงอยู่ในสายจินตนาการ เพิ่งมีพี่ที่ทำงาน(พี่ผช.ด้วยนะ)บอกว่า นี่เธอมันเป็นคนสองบุคลิกนี่หว่า ... เป็นศิลปินอ่อนไหวและเป็นวิศวกรที่มาแบบตรงๆ ผ่าซาก ... (คิดว่าเป็นคำชมนะ)

ทั้งหมดทั้งมวลคือความพยายามเป็นตัวชูโรงสำคัญค่ะ และใส่ใจรักลงไปในสิ่งที่พยายาม (เพื่อจะได้พยายามอย่างสนุกสนาน) มันเป็นสิ่งที่พัฒนาแล้วอยู่คู่กับเราตลอดไป คุ้มค่าแก่การลงทุนมากๆ ค่ะแอร์ เอาเลย (บอกคุณจุ๋มและน้องโบว์ไปพร้อมกัน)

คุณจิ้ง @ อ้าว ร่างทรงไม่อยู่นี่เองเลยพิมพ์เอง

นี่ไปอยู่มาสี่ปี พอกลับมาอยู่กับเจ้านายที่ไปอยู่เบิร์คเลย์มา 16 ปี (นายเป็นนร.ทุนเล่าเรียนหลวงค่ะ) เห็นภาษาเขียนเจ้านายแล้วกราบดิ๊กๆ ... นายเขียนได้งามมาก (ยายนี่เลย adsorb แล้วก็ copy รูปแบบไว้ใช้ซะเลย) ภาษาพูดนายนั้น accent ยังไม่งามละไมประดุจเกิดเมืองนอกโตเมืองนอก แต่ vocab (slang) นี่ฮากลิ้ง ถึงกึ๋น ดังนั้นเรื่องเรียนภาษาถึงวันนี้ก็ยังต้อง keep developing เหมือนกันค่ะ เพราะภาษาเป็นสิ่งไม่ตาย มีของใหม่ตลอดดดด ถ้ามีคนพูดด้วยตลอดก็ยิ่งดีค่ะ (แอร์ทำตามที่คุณจิ้งแนะเลย) อันนี้เวลาไปถึงเมืองนอกแล้วต้องพูด จะติดขัดนิดๆ ตอน 10 นาทีแรก จากนั้น ก็เริ่มเข้าปากแล้วก็ไปได้เลยค่ะ (ถูกผิดจะไม่คิดมาก คิดแต่ว่าขอให้สื่อสารสำเร็จก่อนละกัน)

รู้สึกเหมือนกันค่ะคุณจิ้งว่า มีอะไรคล้ายๆ นินจา (แต่เรื่องความล่ำซำ ห่างกันประมาณข้ามเขาไปห้าลูก) แต่นินจาเก่งกว่าเยอะค่ะ ยอมรับนับถือจริงๆ

ที่ต้องขยันเรื่องเรียนนั้น ล้วนแต่ฟ้าประทาน คือ โอกาสมีเข้ามาก็พยายามซะหน่อย (เพราะโอกาสได้มาไม่เท่ากัน ต้องใช้ให้เต็มที่) และมีแต่กัลยาณมิตรคือครูบาอาจารย์เจ้านายและเพื่อน ที่ชักนำให้ทำแต่เรื่องดีๆ (มีแต่เพื่อนขยัน เก่ง จีเนียสค่ะ เลยให้เพื่อนสอนซะ)

ปาร์ตี้ตอนอยู่ซิดนีย์ก็มีค่า ไม่ได้ขยันเป็นเด็กเนิร์ดหรือแสนดีซะหน่อย (หน้าตาแสบซะขนาดนั้น) ลองทุกอย่างแหละค่ะ (ยกเว้นยาเสพติด เพราะป๋าคงเตะติดฝาบ้านตายคาที่) แต่มักจะมีเพื่อนดีค่ะ พาไปลองแล้วก็ลากกลับมาโดยสวัสดิภาพเสมอ

เรื่องพิมพ์ดีดชนะคุณจิ้ง โฮ่ะๆๆๆ ก็นั่งจิ้ม thesis เองทั้งเล่ม ทั้งสองปริญญา จริงๆ สามคือป.ตรีด้วย แล้วก็งานตอนอยู่ซิดนีย์ก็ทำ computer simulation ไงคะ แป้นคีย์บอร์ดนี่คืออวัยวะที่ 33 ของร่างกายค่า

อยากฟังเรื่องคุณจิ้งจริงๆ นะคะ อย่าบอกเลยว่าไม่ใช่คนคุณภาพ ไม่เชื่อเด็ดขาดค่า

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 11:38:23 น.  

 

คุณด้า
เรื่องของจิ้งก็ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ จะทำอะไรส่วนใหญ่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้งค่ะ คุณพ่อเสีย ทำใจไม่ได้ ก็หนีจากจุฬาฯ ไปเรียนภาษาที่เมกา อยู่นั่นก็ชักชอบค่ะ ดื้อขอเรียนปริญญาตรีซะเลย คุณแม่ตามใจซะด้วย เรียนก็จบในสี่ปีค่ะ ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงค่ะ เอาสเปรย์ไปแอบพ่นใส่รถชาวบ้านที่จอดอยู่ตอนกลางคืนก็เคยค่ะ เมาแล้วบ้าค่ะ ต่อหน้าคุณแม่กับคุณพี่ชาย จิ้งก็เรียบร้อยดีค่ะ ลับหลังก็คนละเรื่องเลยค่ะ วีรกรรมเด็ดๆยังมีอีกเยอะค่ะ ทุกวันนี้ก็รู้สึกผิดกับบางเรื่องค่ะ

เรียนจบอุตส่าห์ได้งานในแบงค์ที่ฟิลาเดเฟีย เกิดเหงาค่ะ เรียนจบแล้วเพื่อนๆก็แยกย้ายกันคนละทิศละทางเลยค่ะ เมกาใหญ่มาก เพื่อนๆอยู่คนละรัฐเลยค่ะ เหงามากก็กลับไทยค่ะ ทำงานได้ซักพักก็ติสแตกอีกล่ะ มีปัญหากับแฟนที่เมกาค่ะ ดิ้นรนหาทางกลับไปต่อโทจนได้ ตอนไปเรียนโทนี่แหละ ได้สัจธรรมชีวิตว่า ไม่ควรเอาชีวิตตัวเองไปผูกติดกับใคร แต่กลายเป็นคนที่มีนิสัย go for it แทนค่ะ คือถ้าอยากได้อะไรก็จะทำมันจนได้ คิดว่าอะไรดีก็จะทำค่ะ ไม่ฟังใคร
หลายๆคนมองว่าจิ้งไม่แคร์คุณแม่และครอบครัวของจิ้ง ถึงได้ทำอะไรตามใจ ไม่สนใจคนที่รักตัวเอง แต่จิ้งคิดและเชื่อว่า ครอบครัวก็คือครอบครัวค่ะ ไม่ว่าจิ้งตะพลาดหรือล้มเหลวยังไง ณ.วันที่จิ้งหันหน้ากลับไปหาครอบครัว คุณแม่และพี่ชายจิ้งก็ต้อนรับจิ้งเสมอค่ะ

บางครั้งจิ้งก็เคยคิดนะคะว่า คุณแม่เลี้ยงจิ้งแบบอิสระมากไปรึเปล่า เทียบกับพี่ชายของจิ้งแล้ว พี่ชายจิ้งโดนคุณพ่อคุณแม่เข้มงวดมากค่ะ ส่วนจิ้งขอแค่เอ่ย คุณพ่อคุณแม่ตามใจทุกเรื่องค่ะ
ถ้าคุณแม่เข้มงวดกับจิ้งหน่อย ป่านนี้จิ้งอาจจะจบด๊อกเตอร์ไปตั้งแต่อายุยังไมสามสิบแล้วมั๊งคะ

คุณย่าจิ้งไม่ชอบจิ้งเอาซะเลยค่ะ หาว่าเป็นจุดเสื่อมของวงศ์ตระกูลค่ะ 5555 ตอนนี้เป้าหมายในชีวิตจิ้งคือลบคำสบประมาทของคุณย่าค่ะ จิ้งฝันอยากเป็นผู้ว่าแบงค์ชาติค่ะ(ขอฝันสูงซักนิดนะคะ) มันเคยเป็นฝันของคุณพ่อค่ะ แต่คุณพ่อมาเสียซะก่อน นี่ก็คาดว่าจบด๊อกเตอร์แล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงหันหน้าไปหาแบงค์ชาติค่ะ

น้องๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน อย่าเอาตัวอย่างพี่นะคะ ยึดคุณเจ้กับนินจาไว้จะดีกว่าค่ะ

 

โดย: is_ninja 27 กุมภาพันธ์ 2554 11:58:01 น.  

 

คุณจิ้ง @ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ทั้งเรื่อง PhD และเรื่องผู้ว่าแบงค์ชาติ (ทางนี้ขอแค่ MD บริษัทลูก ไม่หรอกค่ะ เป็นคน people oriented มากกว่าที่จะ result oriented ก็เลยใจอ่อน รักผู้คน ใจดีกับผู้คนมากไปค่ะ ให้ promote ขึ้นไปอีก level ยังลังเลยอยู่เลยอย่าว่าแต่ MD เลย) คุณจิ้งทำได้แน่นอน เพราะบนเส้นทางที่ก้าวเดิน มีโอกาสรออยู่อีกเยอะสำหรับคุณจิ้งค่ะ ชาติต้องการคนคุณภาพค่ะ

อ่านชีวิตวัยรุ่นคุณจิ้ง มันส์ดีจังค่ะ ถึงมันจะเกเรเกตุงไปบ้าง มันเป็นอดีตที่ควรค่าแก่การระลึกถึงนะคะ (ถ้าไม่แสบซะเองในวันนั้น วันนี้จะรับมือกับความแสบของคนอื่นได้ยังไง) เพราะว่ามันคือองค์ประกอบที่ทำให้เราเป็นเราในวันนี้ แล้วเราก็ชอบตัวเราในวันนี้ไม่ใช่เหรอคะ (รู้สึกพฤติกรรมสุดห่ามอย่างนี้ก็เคยทำค่า ... ถึงวันนี้อะไรพิเรนทร์ๆ เลยไม่ทำแล้วไงคะ ทำมาหมดแล้ว เบื่อแล้ว)

โชคดีที่คุณจิ้งรู้คุณค่าของครอบครัวดี แล้วยังได้โอกาสอันดีคือการให้อิสระ (เหมือนกันเลย ... พ่อแม่ให้อิสระมาตั้งแต่ม.ปลาย แต่ถึงวันนี้อยากจะงดอิสระของยายนี่เหลือเกินก็สายซะแร้น) อิสระนี่คือ พ่อแม่ให้เกียรติชีวิตเรามากนะคะ แล้วนี่ไง ผลผลิตอิสระของคุณจิ้ง ได้คุณภาพอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ

สามารถเอาอย่างคุณจิ้งได้สิคะ สามารถเลือกเอาอย่างนินจาหรือจากเจ้ด้านี่ก็ได้ แต่เลือกเอาสิ่งดีๆ เพราะคนทุกคนมีข้อดีข้อเสียเป็นเรื่องธรรมดาออกค่ะ คนดีเพอร์เฟ็คไร้ข้อตำหนิมีที่ไหนในโลกนี้ ใครคิดว่าตัวเองเพอร์เฟ็คตะหากล่ะที่น่ากลัว

คุณจิ้งดูหลังไมค์ด้วยนะคะ

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 12:23:53 น.  

 

ตอบหลังไมค์ไปแล้วค่ะคุณด้า ขอโทษที่ตอบช้านะคะ จิ้งนั่งอ่านpaper ค่ะ ช่วงมีอาการ Thesis Syndrome วิธีการรักษาโรคนี้ที่ดีที่สุดคือคงต้องรีบทำมันให้เสร็จค่ะ

 

โดย: is_ninja 27 กุมภาพันธ์ 2554 12:47:40 น.  

 

//aryanun.multiply.com/journal/item/1/Thesis_Syndrome

เมื่อวานนินจาให้จิ้งอ่านลิงค์นี้ค่ะ ขำก็ขำ อยากด่าก็อยาก มาหาว่าจิ้งเป็น Thesis Syndrome

 

โดย: is_ninja 27 กุมภาพันธ์ 2554 12:49:49 น.  

 

มีไรให้ช่วยบอกนะคะคุณจิ้ง ...

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 13:06:37 น.  

 

ก๊ากกกกกกกกก คุณจิ้ง อ่าน link แล้วอ่ะ จริงค่อดๆ

ผู้อยู่ข้างเคียงต้องให้ความเข้าใจสูงปรี๊ดดดดด

พวกงานหนัก syndrome ก็เหมือนกันค่ะ ต้องให้ความเข้าใจสูงสุด รอบตัวมีแต่พวกนี้

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 13:29:54 น.  

 

emo ตอนนี้การนี้ค่ะ

 

โดย: is_ninja 27 กุมภาพันธ์ 2554 14:02:14 น.  

 

take a break สักนิดก็ดีค่ะ คุยกันอยู่บ้านมดค่ะตอนนี้ witch@thedog น่ะค่ะ

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 14:34:10 น.  

 


สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ จ้า



* มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า *

หวานจิงๆๆ หวานจัง น้องสาวเรา ..

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 27 กุมภาพันธ์ 2554 15:17:28 น.  

 

แฮ่ๆ เพลินเลยแอร์ ได้อ่านชีวประวัติของ idol ในบล็อคตัวเอง สุดยอดเลย

คุณจิ้ง/คุณเจ้ ... แอร์ไม่ได้มีโอกาสขนาดนั้นอะคะ ทุกวันนี้ แทบจะไม่ได้ใช้ภาษาเลย เจ้านายมาก้ออยู่อีกชั้นนึง ที่ออฟฟิศจะแยกบัญชีขึ้นไปอยู่ตะหาก ไม่ต้องยุ่งกับใคร เพราะมีปัญหากับคนอื่นเค้าไปทั่ว และเวลาดิวงานกับเมืองนอก ก้อต้องห้ามข้ามขั้น

สรุปว่า ไม่มีวี่แววที่จะพัฒนาได้ ก็เลยพยายามจะหาโอกาสให้ตัวเองใหม่ คิดว่าชาตินี้ คงไม่ไปเรียนต่อที่เมืองนอกแน่ๆ แต่คาดหวังว่าจะ backpack ไปเที่ยวได้ในซักวัน

อาการแอร์ตอนนี้ใกล้เคียงคุณจิ้งแล้วคะ ธีสิสซินโดรม แต่ยังเป็นภาคภาษาไทยอยู่ เพราะต้องอ่านใหม่หมด อยากจะให้เปลี่ยนหัวข้อจริงๆ แอร์ไม่ชอบเลย เกี่ยวกับ การเปิดเผยข้อมูล การตรวจสอบภายใน อะไรพวกนี้

เป็นกำลังใจให้คุณจิ้ง/คุณเจ้ได้เป็นในสิ่งที่หวัง นะคะ ชอบผู้หญิงเก่งค่ะ ขอมองอย่างชื่นชมและอยู่ไกลๆ นะคะไม่กล้าเข้าใกล้5555

คุณจิ้งค่ะ ถึงคุณจิ้งจะเคยเกเร แต่มาได้ดีขนาดนี้ แอร์ว่าคุณจิ้งเก่งมากนะคะ

ป.ล. คุณจิ้งเลยแบไต๋หมดเลย ว่าได้ร่างทรงนินจาพิมพ์ให้

บล็อคนี้ เดี๋ยวค่ำๆ มาเก็บลงกรุ นะคะ

 

โดย: แอร์-ฟ้าสีหม่น IP: 10.218.228.143, 202.149.25.19 27 กุมภาพันธ์ 2554 16:07:02 น.  

 

สู้ๆ เหมือนกันพี่แอร์ โบว์ก็จะพยายามด้วยนะemo

 

โดย: littlepup 27 กุมภาพันธ์ 2554 17:35:04 น.  

 

มาม๊ะ น้องแอร์ น้องโบว์(น้องโบว์เหมือนพี่เลย..อังกฤษตัวฉุดคะแนนเลย..) เรามาฮึดสู้กับมันกันชีวิตนี้ต้องเอาชนะมันให้ได้...ฮึบ ฮึบ ฮึบบบบบ

ได้คำชีแนะดีๆ เยอะเลย...

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 27 กุมภาพันธ์ 2554 18:22:36 น.  

 

โอ้โห่ โปรไฟล์เทพกันทั้งนั้นเลย

ว่าจะตามน้องหมูไปต่อเอก แต่ว่า คิดถึงสภาพ ธีสีสซินโดรม ที่เคยผ่านมาแล้ว สยอง ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจะเอาไงดีค่ะ

คุณแอร์ ฟังมันเข้าไปค่ะ ภาษาอังกฤษ ฟังแล้วพูดตามก็ได้นะคะ เราเคยฟังเพลงแล้วแกะเนื้อเองอะช่วยได้เหมือนกันค่ะ

เอาใจช่วยกะธีสีสค่ะ สู้ๆค่ะ

ปีที่แล้วไปสอบไอเอ๊วมา ผลออกมาละเหี่ยใจมากค่ะ

 

โดย: -..- (tictin ) 27 กุมภาพันธ์ 2554 20:12:16 น.  

 

ดีใจค่ะ ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับใครก็ตามที่ผ่านมาอ่านนะคะ

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 20:41:00 น.  

 

พี่มีน เหมือนโบว์อีกและ เราต้องเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันที่พลัดหพรากกันมาตอนเกิดแน่เลย แบบละครน้ำเน่าอะ พี่จ๋า ในที่สุดเราก็เจอกันแล้ว

 

โดย: littlepup 27 กุมภาพันธ์ 2554 20:47:03 น.  

 

เหมือนพี่กะมดอ่ะเหรอ โบว์ อิอิ

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 20:49:30 น.  

 

เจ้ด้า ป่วนไปทั่วทุกบ้านเลยนะ ว่างมากไหมตอนเนี้ย

 

โดย: littlepup 27 กุมภาพันธ์ 2554 20:56:15 น.  

 

อ่านเอกสารขอยื่นขยายกำลังการผลิต ... มี 3 ไฟล์ ไฟล์แรก 39 หน้า ... ปั๊บน้อยคิดว่าเจ้จะป่วนป่ะล่ะ

 

โดย: ดวงลดา 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:08:27 น.  

 

เจ้ โบว์ก็อ่านเอกสารกรมปศุสัตว์อยู่ แต่แค่สองหน้า อิอิ

 

โดย: littlepup 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:37:24 น.  

 

น้องโบว์ @น้องรัก..ในที่สุดเราก็หากันจนเจอ ว่าแต่คนกรมฯ ขี้เมาทั้งนั้นไม่ใช่หรอ..เพื่อนพี่มันบอก น้องรักด้วยป่าวหว่า..

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:44:32 น.  

 

@ พี่มีน โบว์ป่าวอยู่กรมนะ แต่แค่อ่านเอกสารที่เค้าส่งมาเฉยๆ ไม่อยากก้าวเข้าไปอะ รู้สึกเหมือนหลงยุคเข้าไป 50 ปีที่แล้ว(จารย์บอกมา)

 

โดย: littlepup 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:56:27 น.  

 

แล้วไป...โล่งอก...พี่เห็นสภาพหน่วยงานราชการ..แล้วเครียดดดแทนคนที่อยู่...

 

โดย: พระจันทร์กลางแดด 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:59:51 น.  

 

เพิ่งกลับจากข้างนอก

ขอบคุณคุณจิ้งและคุณดวงลดา เรื่องภาษา นะคะ

ุจุ๋มก็จะพยายามฝึกภาษาต่อไป (พยายามไปพร้อมกับคุณแอร์ และคนอื่นๆ อิ อิ)

หลับฝันดีทุกคนในบล็อกนี้เลยนะคะ

 

โดย: เด็กน้อย IP: 223.206.152.14 27 กุมภาพันธ์ 2554 22:07:40 น.  

 

อ่อ คุณแอร์คะ ถ้าเป็นไปได้ อยากเห็นยูทูปของคุณแอร์คะ

เพราะเข้ามาดูไม่ทัน (เผื่อ เลียนแบบ ทำให้คนของตัวเองบ้าง อิ อิ)

 

โดย: เด็กน้อย IP: 223.206.152.14 27 กุมภาพันธ์ 2554 22:09:51 น.  

 

ได้อ่านชีวประวัติของพี่จิ้ง (เหมือนคนเก่าคนแก่ยังไงก็ไม่รู้) 5555
มายด์ว่าพี่จิ้งมีชีวิตครบรสดีออก ได้ลองทั้งสองทาง มายด์อยากทำแบบนั้นบ้างนะ

 

โดย: windsylph 27 กุมภาพันธ์ 2554 22:36:59 น.  

 

ฟังแล้วเพราะมาก



 

โดย: LoveOnly 28 เมษายน 2554 1:43:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




login ที่ไม่เข้ากับตัวซักนิด
แต่ถ้าเทียบกับความรู้สึก
โค ตะ ระ เหมือน ตัวจริง เลย

เป็นนักบัญชี ที่ไม่เหมือนนักบัญชีเท่าไหร่
ที่มีงานอดิเรก เป็นการอ่านนิยาย ฟังเพลง
ดูซีรี่ย์เกาหลี เล่นอินเตอร์เน็ต ถ่ายรูป
รวมถึง แต่งนิยาย ...


Color Codes ป้ามด



=========================
ข้อความและภาพถ่ายในสื่อคอมพิวเตอร์
แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด
ได้รับการสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ
ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539

ผู้ฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์
อักษรจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
==========================

นิยายเรื่องใหม่ ที่แอบเขียนไว้ ที่ Dek-d ค่ะ

Puppy in Love - Yuri
Friends' blogs
[Add ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.