~* Kia Ora !! New Zealand *~
Episode II ตะลุยเกาะใต้ - Day 15 : Oct. 14, 2008
"Whale Watch @ Kaikoura"

เส้นทางการเดินทาง
Kaikoura - Christchurch (183 km./ 2.30 hrs.)

เส้นทางการขับรถ
เส้นทาง Highway 1 ลงสู่ทางใต้
.
.
.

เช้านี้ เปิดประตูห้องพัก แบบลุ้นๆ
เพราะไม่แน่ใจเรื่องสภาพอากาศ หลังจากเมื่อวานหมอกลงจัด
จนทำให้พลาดทริป ล่องเรือตามหาวาฬ
T.T

ทันที ที่บานประตูแง้มออก
..... แอ๊ดดดด ....
(ขอใส่ soundtrack เพิ่มอรรถรส สักเล็กน้อย อิ อิ)


โอ๊วววว !!!! กรี๊ดดดดด !!!

เห็นภูเขาค่ะ
ภูเขา แบบมีหิมะปกคลุมอยู่ที่ยอดเขาด้านบน
สวยเชียว

จะบอกว่า เมื่อวานตอนมาถึงที่นี่ ไม่รู้ว่ามีภูเขาล่ะค่ะ
เพราะหมอกลงหนา จนมองไม่เห็นเลย

และแน่นอนว่า ... ถ้าสามารถมองเห็นภูเขาได้แบบนี้แล้ว
หมอกค่ะ หมอกจางหายไปแย้ววว
เย้ !! เย้ !!


ลั้ลล้า ... รีบเก็บข้าวของ แพ็คกระเป๋า
ออกเดินทางต่อทันที
เพราะ Whale Watch รอบเช้าสุด คือ 0715 น.

ใช้เวลาเดินทางแป๊ปเดียว ... ถึงแระ
เพราะที่พักใกล้มากกก
ที่ริมหาด พระอาทิตย์ส่องแสงแรงจ้ามากๆ



++ Yahooo !! วันนี้ ฟ้าเป็นใจแล้ว ++

โอ๊ย ๆๆๆ ... ดีใจ
วันนี้ ทริปที่รอคอย คงไม่พลาดแน่นอนแล้ว
รีบไปเช็คอิน แล้วนั่งรอเวลา

Status วันนี้ – Confirm !
Light Sea Sickness Warning
(แอบเห็น status รอบบ่าย pending อีกแล้ว)

Note : หลังจากได้ boarding pass แล้ว
เขาจะมี receipt ให้อีก 1 ใบ เก็บเอาไว้ เพื่อขอ refund
กรณี ออกเรือไปแล้วไม่สามารถพบวาฬ


++ "ไงจ๊ะ เจ้าวาฬ ... จะได้เจอกันแล้วน๊า" ++

ก่อนออกเดินทาง เจ้าหน้าที่เขาจะมาทำการ brief ค่ะ
ถึงสภาพอากาศ และสภาพคลื่นลมวันนี้
รวมถึงสิ่งมีชีวิต ที่อาจจะได้พบ

นั่นก็คือ Sperm Whale (วาฬสเปิร์ม)
โลมา และนก Albatross

รีบพุ่งขึ้นรถ เดินทางต่อไปยังท่าเรือ
บนรถเขามีวีดีโอสาธิต เพื่อความปลอดภัยบนเรือ
(ไฮโซกว่าบนเครื่องตรูอีก)


เรือที่จะพาเราไปชมวาฬวันนี้ คือ “Tohora”
เป็นเรือ Catamaran แบบที่ชอบเลยค่ะ
แบบเดียวกับที่เคยนั่งไปเกาะนางยวน เราว่านั่งสบายดี

นั่งเรือออกไป คลื่นแรงพอควร
(ไหนว่า light sea ไง)
><

ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 20 นาที
กัปตัน ก็เอาอุปกรณ์แท่งจุ่มลงไปในน้ำ

ก่อนหน้านี้ เคยไปอ่านเจอรีวิวที่ไหนสักแห่ง
เขาบอกว่า เป็นแท่งส่งสัญญาณเรียกวาฬ

แต่ที่เราเข้าใจ ... มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ

((ภาษาอังกฤษ ไม่ได้เก่งมากนะคะ
... เราอาจจะเข้าใจผิดก็ได้))

แต่เราเข้าใจว่า
แท่งนี้ จะเป็นท่อและมีหูฟัง เพื่อฟังเสียงวาฬ ที่อยู่ใต้น้ำ
จากนั้น ก็จะหาทิศทาง ว่าวาฬอยู่ตรงจุดไหน

เขาจะไม่มีการส่งสัญญาณ หรือคลื่นเด็ดขาด
เพราะเป็นการรบกวน

... และแล้ว ...
เราก็ได้เจอวาฬตัวแรก ในเวลาไม่นานนัก


วินาทีแรกที่เห็น ... มันคือท่อนอะไรหว่า
!?!?


++ ท่อนไม้ลอยน้ำ เอิ๊ก เอิ๊ก ++

เห็นเป็นแท่งๆ สีเทา ลอยอยู่เหนือน้ำ
แต่ที่มั่นใจว่าเป็นวาฬ
ก็เพราะว่า มันพ่นน้ำปรู๊ดดดด ... ออกมา เป็นระยะๆ

ซึ่งการที่วาฬโผล่มาเหนือผิวน้ำ
ก็เพื่อรับออกซิเจนเข้าไป สะสมในปอดค่ะ
(วาฬมีปอดนะคะ ไม่ได้หายใจทางเหงือก เขาเลยไม่เรียกว่าปลา)

จนเมื่อสะสมออกซิเจนได้จนเต็มที่แล้ว
เขาก็พร้อมจะดำดิ่ง ลงสู่ใต้ทะเลอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่ง”ไฮไลท์ของการชมวาฬ” ก็อยู่ตรงนี้นี่แหละ


++ Whale Tail ++

จังหวะ ที่เขาดำดิ่งลงใต้น้ำ
เขาจะชูส่วนหางพ้นขึ้นเหนือน้ำ ก่อนจะม้วนลงไป

จังหวะนี้ ต้องตั้งกล้องให้ดี
ห้ามพลาดเด็ดขาด
!!

เพราะพลาดแล้ว พลาดเลย
ไม่มีโอกาสแก้ตัวใหม่


แล้วก็พลาดจนได้ค่ะ
ไม่ใช่อะไร ... เพราะเรือมันโคลงเคลงอยู่ตลอด
บางภาพ ก็เลยหลุดเฟรม โดยไม่ได้ตั้งใจ


กลับเขาไปใน cabin
เขาก็จะอธิบายเรื่องของวาฬ ให้ฟังเพิ่มเติม
อย่างตัวแรกที่เจอเนี่ย เขาตั้งชื่อให้ด้วยว่า “Tiaki”


++ Catamaran ที่ออกไล่ๆกัน - Aoraki ++

นั่งเรืออยู่อีกนานมากกก
จอดเรือ ก็แล้ว ... ไปยืนเกาะขอบเรือ ก็แล้ว
ก็ยังไม่เจอ

กัปตันเรียกกับเข้าไปใน cabin แล้วออกเรือต่อ
นั่งอยู่พักใหญ่ ก็ยังไม่เจอ จนนึกว่า คงจะได้เห็นแค่ตัวเดียว


++ ยังไม่เจอวาฬ ก็เลยถ่ายรูปผิวน้ำมาเล่นๆ ... แสงสะท้อนสวยดี ++

... จนสุดท้าย ...
เรือจอดอีกครั้ง เราก็กำลังยืนเกาะขอบเรืออยู่
มีเสียงประกาศว่า “Hold the hand rail !!”

แล้วกัปตันก็เร่งเครื่องเต็มสปีด โต้คลื่นไปเลย
5555++ อิฉันยืนอยู่หน้าลำเลยล่ะ
โต้คลื่น โต้ลม ... มันส์ดี
หุ หุ


++ นั่นแน่ !! เจอแล้ววว ++

และแล้ว ก็ได้พบเจ้าตัวที่ 2 ค่ะ
เขาให้ชื่อว่า “Rua” ซึ่งแปลว่า ที่ 2

ตัวนี้ ... มีหลอกด้วย
นึกว่าจะดำแล้ว แต่ยังไม่ดำ เลยถือกล้องค้างเลย
(ถือนานๆ กล้องมันหนักง่ะ)


++ ไฮไลท์ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ ของ Kaikoura ++

ไม่นานนัก ... เราก็ได้พบกับ วาฬตัวที่ 3
”Little Nick”

ได้ออกเรือครั้งนี้ พบวาฬถึง 3 ตัว
เราว่าคุ้มทีเดียว เพราะเยอะกว่าที่คาดไว้
กะว่า แค่ 1 – 2 ตัว ก็พอแล้ว


++ น้ำสะท้อนแสง กลายเป็นรุ้ง ++


++ เอ้า ... ม้วน ++


++ บุ๋งๆๆๆๆๆ ++

ขากลับเข้าฝั่ง เขาแวะพาไปดู Marine Life อื่นๆต่อ
กัปตันจอดเรือ แล้วบอกว่า เจอ”โลมา”

ได้ยินแค่นี้
โหย ... รีบพุ่งตัวออกไปทันทีเลยค่ะ


สายตามัวแต่มองออกไป ยังเวิ้งน้ำด้านหน้า
แต่แล้วก็ต้อง surprise สุดๆ
เพราะเขาว่ายน้ำอยู่ใต้น้ำด้านล่าง ตรงจุดที่เรายืนเลย

คว้ากล้องขึ้นมาถ่ายแทบไม่ทัน
เพราะไม่คิดว่าจะเจอระยะประชิดขนาดนี้



... โชคดีจริงๆ ...
ไม่เคยเห็นโลมาในธรรมชาติ แบบใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน

เลยเห็นได้ชัดแจ๋ว
ว่าเป็นโลมาสายพันธุ์ดัสกี้ (Dusky Dolphin)



อ่า ... น่าจะเป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นโลมาสายพันธุ์นี้
เพราะที่ผ่านมา มักจะเป็นโลมาปากขวด

และนั่น ... ก็เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย
ที่ได้เห็นชัดเจนขนาดนี้

เพียงเสี้ยวนาที
เขาก็ว่ายห่างออกจากลำเรือไปเรื่อยๆ
เห็นเพียงแต่ครีบ ที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำ ... ไกลๆ


++ Dusky Dolphin ++

แล้วเวลาล่องเรือ ก็จบลงค่ะ
กัปตันพากลับมาส่งที่ฝั่ง

รู้สึกว่า “ไม่เสียเที่ยวแล้ว”
หลังจากพลาดการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปชมธารน้ำแข็ง fox
เมื่อวันก่อน

มองดูนาฬิกา ... เรายังมีเวลาเหลือพอ
เลยตัดสินใจ กลับไปที่ Seal Colony อีกรอบ
ไปถ่ายรูปแมวน้ำอีกครั้ง



ก่อนจะอำลา เมือง Kaikoura
มุ่งหน้ากลับ Christchurch

แวะเช็คอิน ที่โรงแรม All Seasons
แอบเสียดาย ... ที่ดันจองแบบ pre-paid มา


ไม่งั้น เราคงยกเลิก
แล้วกลับไปนอนที่ Holiday Park เหมือนเดิม

วันนี้ เราต้องเอารถเช่าไปส่งคืน
เลยต้องเอากระเป๋าทุกใบ รวมทั้งใบใหญ่ ลงจากรถ

แล้วความลำบาก ก็มาเยือน
นอนสบายๆ แบบเอารถจอดหน้าห้องพักแทบทุกคืน

คืนนี้ ดันต้องไปพักบนตึก
ต้องเดินขึ้นบันได และไม่มีลิฟต์

โห ... คิดถึง Holiday Park ใจจะขาดจริงๆ
(วันนี้ มื้อเย็นก็ต้องซื้อกินเอา ไม่มีครัวให้ทำกับข้าว)


เพราะที่ NZ อย่าหวังว่าจะมี bell boy
มาช่วยยกกระเป๋าเหมือนบ้านเรา
ต้องขนเองฮ่ะ

จะขอเขาเปลี่ยนห้อง มาอยู่ชั้นล่าง ก็พูดไม่ออก
เพราะเขาบอกก่อนหน้านั้นแล้วว่า
เขา upgrade ห้องให้เรา

แต่ห้องก็ใหญ่จริงๆ
มี 1 living room + 1 bedroom

เลยมีพื้นที่เหลือเฟือ
สำหรับการรื้อของ และจัดแพ็คกระเป๋าใหม่
(วางซะกระจายทั่วห้องเลย)


++ @ Kaikoura ++

ส่งท้าย ด้วยการไปตุนเสบียงมื้อเย็นที่ Countdown อีกรอบ
ก่อนจะเอารถไปส่งคืน (ไม่งั้นจะโดนชาร์จเพิ่มอีก 1 วัน)

Ace Car Rental ที่นี่ เขามี contract กับรถ taxi
เรียกมารับ และส่งที่โรงแรมฟรี
เลยสะดวก + สบายไป


แต่พอไม่มีรถเนี่ย ... ไปไหนไม่ได้เลยค่ะ
ค่า taxi ก็แพงโหดอยู่


เลยได้แต่เดินเล่น ชมเมืองแถวๆนั้น
แวะหม่ำ Burger King อีก ... ร้านโปรดของพ่อหมีเขาล่ะ

... ไม่ใช่ไร ...
เพราะที่ NZ น้ำอัดลมเขาเป็นแบบ refill เติมเอง
เลยเดินวนได้หลายๆรอบ
อิ อิ


++ เก็บตกระหว่างทาง ++
จนจะกลับแล้ว ก็ยังไม่วายจอดรถ แวะถ่ายรูปแกะอีกแล้วว

กลับโรงแรม
มาแพ็คกระเป๋า เตรียมตัวกลับบ้าน วันพรุ่งนี้

... ไม่น่าเชื่อ ...
เผลอแป๊ปเดียว มาได้ 15 วันแล้ว

ทริปนี้ ... นับว่าเป็นทริปการเดินทาง ที่นานที่สุดแล้ว
ที่เราได้ไปด้วยกัน

ส่งท้าย การเดินทางอีกครั้ง ... กับไดอารี่ ตอนสุดท้าย
จาก Christchurch สู่ Auckland
ก่อนมุ่งหน้ากลับสุวรรณภูมิ

จะรีบมาเขียนต่อ จะจบทริปแล้วน๊า

:+: RELATED LINKS :+:

Whale Watch @ Kaikora
//www.whalewatch.co.nz/

Now Playing :: สายลมกับฟ้าคราม // Venus Flytrap

- Since August 12, 2005 -