และแล้ว ... โปรแกรม”เกาะเสม็ด” ที่คุยกันไว้
ตั้งแต่ปีก่อนโน้น ก็เป็นรูป-เป็นร่างสักที


... เดือนก่อน ...
โทรมาจอง ปรากฏว่าห้องพักเต็ม
แต่ก็ยังมี”ความโชคดี” อยู่ในความผิดหวัง

เพราะตอนที่ ติดต่อมาครั้งก่อน
เป็นโปรโมชั่นจากงานท่องเที่ยวไทย เมื่อต้นเดือนมีนา
ราคาอยู่ที่ 3,800 บาท ต่อคืน

หลังจาก อดไปตามแผน
เพียงแค่ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้น
KTC ส่งเอกสารมาให้ ราคาเหลือแค่ 2,700 บาท

รีบจัดแจง โทรสอบถามเพิ่มเติม
รายละเอียดเหมือนกันทุกประการ ... เด๊ะ !!!!


โหย !!! ราคาถูกลงกว่าเดิมอีกเป็นพัน
อย่างนี้ ยังไงก็ต้องรีบเคลียร์คิว มาให้ได้สักที
(เพราะต้องจอง ก่อนสิ้นเดือนนี้)

ยอมลุยงานหนัก ช่วงสงกรานต์
ก่อนจะปลีกตัวเอง ออกไปพักผ่อน รับลมร้อน ริมหาด
ให้สมกับความตั้งใจ ... ที่รอคอยมานานเหลือเกิน

!! เสม็ดต๋า .... ฉันมาแว้วววว !!

ออกเดินทาง กันตั้งแต่ 0800 น.
สวนทางกับคนอื่นๆ ที่กลับจากพักผ่อนช่วงสงกรานต์

แต่วันพักผ่อนของเรา เพิ่งจะเริ่มต้นเองค่ะ
(ดีจัง ... รถไม่ติด  คิก คิก)

ขับรถมุ่งหน้า ออก Motor Way
สู่ถนนสุขุมวิท 3  ... ผ่านทางเข้าตัวเมืองระยอง
เลียบออกทางไป”บ้านเพ”

... และแล้ว ...
เราก็มาถึง”ท่าเรือโชคกฤษดา” ในเวลา 1100 น.

กำหนดเวลาลงเรือ 1230 น.
ทำให้เรามีเวลาเหลือเฟือ ที่จะไปเดินเล่นรอบๆ


++ เห็นเรือ Lima Speed Boat มั๊ยคะ?? ++
สะท้อนอยู่บนแว่นพ่อหมีอ้วนไง

แต่ด้วยแสงแดดร้อนแรง  ของเดือนเมษา
สุดท้าย เราก็มานั่งจุมปุ๊กหลบแดด
... อยู่แถวท่าเรือนั่นแหละ ...

กิจกรรมฆ่าเวลา ระหว่างรอเรือออก
ก็นั่งโปะครีมกันแดด เตรียมความพร้อม

ถึงจะชอบเที่ยวทะเล แต่ก็ยังแอบกลัว จะตัวดำ
หุ หุ 

เรือ speed boat ออกตรงเวลาดีทีเดียว
เราใช้เวลาเดินทาง ข้ามทะเล เพียงแค่ 12 นาที
ก็มาถึงยัง “ท่าเรือหน้าด่าน”

** เกาะแก้วพิสดาร **
ตามวรรณคดี ของกวีเอกสุนทรภู่

ไม่ได้มาเกาะเสม็ดแห่งนี้ ... น่าจะเกิน 15 ปีแล้ว
จำได้แค่เพียงหาดทรายสีขาวละเอียด
ทอดแนวยาว เคียงคู่น้ำทะเลสีเทอควอยซ์

เราต่อรถปิกอัพสีเขียว
เดินทางต่ออีก 5 นาที ... เข้าสู่ที่พัก

ปิกอัพเปิดประทุนหลัง ใต้แดดแรงๆ
เล่นเอาเหงื่อไหลไคลย้อย ... ได้พอดู

พนักงานบอกว่า วันนี้ แดดค่อนข้างร้อนมาก
เพราะฝนตกติดต่อกันมา 3 วันแล้ว

ฟังแล้ว แอบอมยิ้มดีใจ
ถึงร้อนไปหน่อย ... ก็คงดีกว่าฝนตกล่ะ

ยังไม่ทันจะทำการ check-in
นังลูกหมีก็รัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง ทันที่ ที่ก้าวเข้าสู่รั้วของ
 ~* Lima Bella *~


++ Lima Bella Pool ++

//www.limabella.com
รีสอร์ทแห่งนี้ เพิ่งเปิดได้เพียง 3 เดือนครึ่งเท่านั้น
ตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมา

มีห้องพักเพียง 15 ห้อง
จึงทำให้พนักงานดูแล เอาใจใส่ได้ทั่วถึง เป็นอย่างดี

ถึงจะไม่ได้ติดหาด แต่ก็ได้ความเงียบสงบ
... เข้ามาแทนที่ ...
(ห่างจากหาดทรายแก้ว ประมาณ 400 เมตร)


++ อีกมุมหนึ่ง ของ Lima Bella Pool ++

และที่สำคัญ ห้องพักที่ตกแต่งสวยงาม
ดูจะเป็นตัวเสริม และทดแทน ในเรื่องของทำเลที่ตั้งได้ดี

อีกอย่าง ถนนหนทางบนเกาะเสม็ด ไม่ค่อยจะดีนัก
แต่ที่นี่ อยู่ติดถนนสายหลัก
จึงทำให้ไปไหน-มาไหน ได้สะดวกมากกว่า

ซึ่งอาจจะเป็นข้อดี อีกอย่างก็ได้
(อย่างน้อย ก็ไม่ต้องทานข้าวที่รีสอร์ททุกมื้อ)


++ ห้องพักของเรา P2 - Waree Pool Side ++

เราเลือกพัก ห้อง “Waree Pool Side”
ซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

ห้องพัก โดดเด่นด้วยกระจกแบบ see-through
ระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน
มีเพียงผ้าม่านบางๆ ปิดบัง(ไม่ให้อุจาด)เท่านั้น


++ See Through จากห้องน้ำ สู่ห้องนอน ++

ภายในห้องน้ำ มีกระจกรอบด้าน
ไม่ว่าจะเป็นบริเวณฝักบัว ... หรือโถส้วม
เพื่อรื่นรมย์ชมวิว ด้านนอก ยามทำธุระส่วนตัว
 

++ มีกระจกใส อยู่ทุกมุมในห้องน้ำ ++

 

- เก๋ไก๋ ไม่เลว  -

เดินเล่น เก็บภาพรอบๆรีสอร์ท ยามบ่าย
แดดจ้ายังไง ก็ไม่หวั่น

ภาพที่ได้มา ... สีสัน สดใส สวยงาม
สมกับเป็นทะเลหน้าร้อนจริงๆ


++ จากห้องนอน มองออกไป เห็นสระว่ายน้ำอยู่ตรงหน้า++

พ่อหมีติดต่อ ขอเช่ามอเตอร์ไซค์ผ่านทางรีสอร์ท
จริงๆแล้ว ด้านนอก คิดค่าเช่าวันละ 300 บาท

แต่เราเลือกที่จะจ่ายแพงอีกนิด (350 บาท)
เพื่อความสะดวกสบาย ... มารับ-ส่งรถให้ ถึงที่

ได้รถคู่ใจแล้ว ... เราก็เริ่มตระเวณรอบๆ
ตามเป้าหมาย ในวันพักผ่อนของเรา

เราขับย้อนไปทาง”ท่าเรือหน้าด่าน”
แล้วเลยไปตามถนนหลัก
เลียบเลาะไปทาง”อ่าวกลาง และอ่าวน้อยหน่า”

ไล่ไปตามถนนเส้นนี้
จะมี’ร้านอาหารกลางทะเล’ เรียงรายอยู่ 3 ร้านด้วยกัน
คือ มุกเสม็ด / Unseen Samed / บ้านพลอยเสม็ด

สุดท้าย เราก็เลือกแวะทานมื้อกลางวัน กันที่
”บ้านพลอยเสม็ด”
//www.banploysamed.com


++  บ้านพลอยเสม็ด ... ร้านอาหาร และรีสอร์ทกลางทะเล ++

เดินเข้าไป ไม่มีพนักงานสักคน
เจอเพียงป้าย เขียนไว้ว่า “ให้สั่นกระดิ่ง”

พอส่งสัญญาณเรียบร้อย
เรือไร้คนขับ ก็ถูกรอกลากจูงออกมา
จากเรือนกลางทะเล ... มารับเราที่ ชายหาด

โห ... ไฮเทคซะเหลือเกิน


++  จากฝั่งชายหาด สู่ร้านอาหารกลางทะเล ++

เข้าไปภายในร้านอาหารแล้ว ก็ต้องตื่นตา-ตื่นใจ
กับโต๊ะอาหาร แบบกระจกใส
ที่มองเห็นฝูงปลาแหวกว่าย อยู่ด้านล่าง

นั่งหย่อนขาลงไปได้เลย
แต่ก็ยังแอบกลัว ข้าวของจะร่วงหล่นลงน้ำจริงๆ


++  อิ่มอร่อยกับอาหาร พร้อมๆกับชมวิวใต้โต๊ะ ++

ราคาอาหารร้านนี้ ค่อนข้างจะแพงอยู่บ้าง
แต่บรรยากาศดีจริงๆ

... เอาน่ะ ...
จ่ายแพงหน่อย  ถือว่าซื้อบรรยากาศด้วยล่ะ

สุดท้าย เลยสั่งมาแค่ 2 อย่างเอง
ไม่กล้าสั่งมาเยอะมาก เกรงว่ากระเป๋าจะฉีก
เดี๋ยวเงินสดที่พกติดตัวมา ... จะไม่พอใช้

มื้อนี้ ... แค่”ปลาหมึกผัดไข่เค็ม”
กับ ”หอยเชลล์อบเนย” และเครื่องดื่ม
โดยค่าเสียหายไป 550 บาท


++  วิวใต้โต๊ะอาหาร ฝูงปลาเสือเต็มเลยค่ะ ++

แต่มาทั้งที เสียตังค์ก็แล้ว ต้องเอาให้คุ้มค่ะ
5555++

ขอแวะไปดูห้องพัก ของเขามาด้วย
คืนละ 4000 บาทอ่ะ ... เราว่า แพงไปหน่อย

เดินเล่น ถ่ายรูปบนโป๊ะเทียบเรือเขาอีก

คิดถูกแล้ว  ที่เลือกมาตอนกลางวัน
เลยเก็บภาพสวยๆมาได้เพียบ

กลับขึ้นฝั่งมาแล้ว ... ก็ยังไม่เลิกค่ะ อิ อิ
ไปนั่งไขวเปลเขาเล่นต่ออีก

จนพ่อหมีต้องไล่ ... เราก็ขับมอ’ไซค์ชมวิวไปเรื่อยๆ
จนสุดทาง ที่หมู่บ้านทะเล

จากนั้น เราจึงขับรถย้อนกลับไปอีกทาง
สู่ “หาดทรายแก้ว”


++ หาดทรายแก้ว ++

แต่โดยส่วนตัว เราว่ามันพลุกพล่านมากเลย
เราชอบที่จะพัก แบบสงบๆ
กระหนุงกระหนิงกันเงียบๆ สองต่อสองดีก่า
คริ คริ

กางแผนที่เกาะเสม็ด เดินทางกันต่อค่ะ
แอบแปลกใจ ... ทำไมทางมันเริ่มวิบากขึ้นเรื่อยๆหว่า

แต่ก็ลุยไปเรื่อยๆ จนมาโผล่ที่
”อ่าวไผ่”


++ อ่าวไผ่ ++

ที่อ่าวนี้ มีโขดหินบ้าง แต่น้ำทะเลใสมากๆ
ใช้เวลาอยู่ที่นี่พอสมควร

เพราะพ่อหมีกำลังเพลิดเพลิน กับอาหารตา
ที่มีแหม่มฝรั่งสาวสวย นอนอล่างฉ่าง อาบแดดอยู่

โห !! ตู-พี๊ดดดไม่พอ
ยังนู๊ดครึ่งบนด้วยอ่ะ  ... โอ๊ว !! เห็นโหมะเลย
(นังลูกหมีเนี่ยแหละตัวดี ยิ่งกว่าพ่อหมีซะอีก หุ หุ)

แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ หนทางเป็นหลุม-เป็นบ่อ
เล่นเอาคนซ้อนท้าย ตูดระบม

แต่เราก็มาโผล่ ที่ ”อ่าวพร้าว”
ตามความตั้งใจจนได้ค่ะ

ที่อ่าวนี้ เป็นที่ตั้งของรีสอร์ท 3 แห่งด้วยกัน
 คือ Le Vimarn Cottage & Spa, Lima Coco,
และ Ao Prao Resort


++ อ่าวพร้าว ++

... ติดหาดจริง ...
แต่เราว่า ออกไปข้างนอกไม่สะดวกเลย

ต่อให้เช่ารถ แต่ถนนหนทางก็แย่มากๆ
ยิ่งตอนกลางคืน คงไม่ต้องพูดถึง  ... อันตรายทีเดียว

เดินเล่น สำรวจอยู่พัก ก็ออกเดินทางกันต่อ
กะจะไป ”อ่าววงเดือน” กันต่อ

แต่สุดท้าย ... ทนเด้งไป-เด้งมา
จนตูดระบมไม่ไหวแล้ว


++ ออกมาจากหาดทรายแก้ว ถนนเป็นแบบนี้ตลอดทาง ++
... ยอมแพ้เลยค่ะ ...

ไปได้แค่”อ่าวทับทิม” ... ก็เลยตัดสินใจวกกลับ
ถนนหนทาง ทรมานตูดอิฉันเหลือเกินค่ะ
(ถึงว่า  ทำไมมีรถ ATV ให้เช่าขับบนเกาะด้วย)