วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม – ซึ่งสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าปราสาททอง สมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง เดิมวัดไชยวัฒนาราม มีชื่อว่า “วัดชัยวัฒนาราม” ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่า วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือกรุงละแวก (พนมเปญ) จึงเปลี่ยนชื่อเป็น วัดไชยวัฒนาราม เพราะ “ไชย” มาจากคำว่า “ไชยโย” เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปราสาททอง และชัยชนะทั้งหมดที่ได้มา วัดไชยวัฒนาราม เคยเป็นที่อยู่ของพระราชมารดาของพระเจ้าปราสาททอง ที่ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระองค์จะเสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ พระองค์จึงได้สร้างวัดไชยฯ ขึ้นเพื่ออุทิศพระราชกุศลถวาย ให้พระราชมารดา และยังเคยใช้จัดพิธีถวายพระเพลิงศพในพระมหากษัตริย์เกือบทุกพระองค์ของอยุธยา รวมไปถึงเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ (เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย กับเจ้าฟ้าสังวาลย์ โดยมีลักษณะสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่ต่างจากวัดอื่นๆ ในอยุธยา โดยบางส่วนยังได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะขอมด้วย อาทิการจำลองมาจากปราสาทนครวัด คือ มีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน บริเวณตรงกลางของพื้นที่ และรายล้อมด้วยปรางค์บริวารอีก 4 องค์ ภายในวัด มีสิ่งที่น่าสนใจอาทิเช่น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานของวัด ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีลักษณะเป็นปรางค์ทรงจตุรมุข คือมีมุขยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน ซึ่งมีทางไดทางขึ้นสู่มุขทุกด้าน ยอดขององค์ปรางค์ ทำเป็นรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้น บนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม รูปแบบคล้ายกับปรางค์ในสมัย อยุธยาตอนต้น - ระเบียงคต คือส่วนที่เชื่อมเมรุทั้ง 4 ทิศ เข้าด้วยกัน (อาคารทรงยอดแหลมที่อยู่รายรอบพระปรางค์ประธานทั้ง 8 หลัง) ภายในระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่เคยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ เหมือนเป็นกำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันโดนตัดพระเศียรไปเกือบหมด เหลือเพียง 2 องค์ ที่ยังมีพระเศียรอยู่ วัดไชยวัฒนาราม เป็นหนึ่งในโบราณสถานของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 และกรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะตลอดมา จนวันที่ 13 ธันวาคม 2535 ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
Create Date : 06 ตุลาคม 2563 |
|
1 comments |
Last Update : 9 มีนาคม 2564 14:53:42 น. |
Counter : 504 Pageviews. |
|
|
|
A giver is always be love. _/|\_