วันหงอยๆ
วันหงอยๆ ยูตะไปเรียนคาราเต้ ริสาหลับกลางคืนอยู่(คล้ายๆ กับนอนกลางวัน แต่เป็นตอนพลบค่ำเยี่ยงนี้) เจ้านายยังไม่กลับ งานที่ต้องทำยังไม่เสร็จ งานบ้านยังค้างคา ใจไม่ค่อยนิ่ง กับสมองล้าๆ ไม่ได้อัพบล๊อคนานๆๆๆ รวมทั้งไม่ได้แตะคอมฯ นานด้วย ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้..ปีที่แล้วยังติดคอมฯ เป็นตังเม ปีนี้ล้ามากๆๆ หันหลังให้กับคอมฯ ได้เป็นอาทิตย์ๆ เปิดมามีเมลที่ไม่ได้เปิดพันสองกว่าๆ...โอว แน่นอน..ส่วนใหญ่มันคือเมลที่ไม่ต้องเปิด อัพเดทชีวิตเล็กน้อย ปีนี้เริ่มเขียนไดอารี่แบบสองบันทัดง่ายๆ ทุกวันกะจะเอาไว้เป็นไดอารี่ ๕ ปี ตอนแรกจะทำแบบสิบปี ดูแบบที่เขาขาย..โอว..หนามาก คงไม่มีแรงหยิบมาเขียนบ่อยๆ แค่หยิบยังขี้เกียจ..คงไม่ต้องพูดถึงตอนเขียน เลยไปรื้อห้องเก็บของ เจอสมุดบันทึกงานรายปีแบบที่บริษัทเขาแจกกัน เป็นของปี ๒๐๐๖ แต่ไม่ได้แตะสักหน้า คงเป็นเจ้านายเอามาจากที่ไหนสักแห่ง เลยโมเมเอามาเป็นของตัวเอง..จัดการนับหน้าให้ใช้ได้ประมาณ ๕ ปี และเริ่มตั้งเป้าหมายประจำปีของตัวเอง..ปีนี้มี ๑๖ ข้อ เป็นแบบทั้งนามธรรมและรูปธรรม และสรุปไว้แต่ละเดือนว่าทำได้ขนาดไหน แน่นอนส่วนใหญ่ทำไม่ค่อยได้..เอ๊ย..ทำไม่ได้ จะมีก็แต่ไม่เล่นเน็ตนี่แหละ...ได้วงกลมสองวงเลย...เย้ๆๆๆ แต่จริงๆ เน็ตไม่ได้แย่อะไรมากสำหรับเรา ถึงขนาดต้องพยายามออกห่าง เพราะนอกจากเน็ตแล้ว..เราไม่ค่อยได้รู้เรื่องข่าวคาวและข่าวคราวของเมืองไทยเท่าไหร่ เลยต้องมาตามอ่านข่าวจากเน็ตบ้างเป็นครั้งคราว..เอาไว้มีคนถามจะได้ตอบได้ แต่เวลาจับแล้วจะไม่เลิกไม่ค่อยได้..เลยคิดว่าไม่จับดีกว่า..นอกจากว่างจริงๆ หรืออยากรู้เรื่องอะไรขึ้นมากะทันหัน และอยากพูดคุยกับลูกมากกว่า อยากหันไปดูวัตถุรูปทรงต่างๆ รอบข้างมากกว่าสี่เหลี่ยม แต่แน่นอน..หันไปเจอจอสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า..โทรทัศน์..อันนี้ยังติดไม่สร่าง และไปติดดู hana yori dango ที่เอามาฉายซ้ำรอบที่เท่าไรไม่รู้แต่ริสาบอกว่า ม้ามะดูครั้งที่ ๕ แล้วนะ..ก๊าก ดูจนจะจำบทมันได้อยู่แล้ว.. วันก่อนเปิดดูนิตยสารเก่าๆ(ที่ยืมจากห้องสมุด)เจอโฆษณา hana yori dango แต่เป็นเวอร์ชั่นเกาหลี เอ๊ะ หรือว่าไต้หวัน ทั้งๆ ที่หน้าตาตัวละครไม่เหมือนกัน และชื่อเรื่องเป็นคันจิที่ริสายังอ่านไม่ออก ริสาเห็นปุ๊บ..พูดชื่อเรื่องปั๊บ...โอว..มันเหมือนกันขนาดนี้เชียว เขียนๆ ไปเริ่มยาวแล้ว..ว่าจะเขียนแป๊บเดียวนะเนี่ยะ ในที่สุดเมื่อปลายเดือนกุมภาฯ ฟันของยูตะที่เริ่มโยกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็ถูกฟันแท้ดันจนหลุดออกมา..เย้ๆ และอีก ๔ วันต่อมาซี่ข้างๆ ก็ถูกดันออกมา..รวดเร็วทันใจ ฟันแท้ที่ขึ้นมาใหม่ ขึ้นมาทันใจมาก เพราะเบียดกันขึ้นมา ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่า ยูตะฟันหลอ แต่ท่าทางจะเบี้ยวนิดหน่อย..ก๊ากกกก เมื่อวันสุดท้ายของชีวิตอนุบาล ๑ ของเจ๊ริสา ตอนไปรับ..เจ๊นั่งร้องไห้อยู่ วุ๊ย...อะไรมันจะเศร้าขนาดนั้น...และเศร้าตลอดทั้งวัน อารมณ์วันนั้นของเจ๊บลูมากๆๆ เจ๊บอกว่า..จะไม่ได้เรียนกับคุณครูแล้ว... เจอยูตะปลอบใจเสียงกระแทกว่า..คุณครูก็ยังสอนอยู่..ริสาก็ยังเรียนอยู่..ยังไงก็ได้เจอครู จะร้องไห้ไปทำไม....เก็บไว้ร้องตอนขึ้นประถมโน่น...โอว เด็กสองคนได้ใบขยัน..เย้ๆ..แม่ขยันมั๊ยคะ เจ๊ริสาได้คนเดียวของห้องด้วยนะเนี่ยะ ...วุ๊ย..แม่น่าจะได้ด้วยนะเนี่ยะ ริสาคะยั้นคะยอให้เราถอดล้อเล็กของจักรยานตัวเองให้ เราเลยถอดให้เมื่อต้นเดือนที่แล้ว พอปลายเดือน..เจ๊ขี่จักรยานได้เอง..โดยที่แม่ไม่ค่อยได้สอน มีจับให้ขี่สองวันแรก...แม่จะหน้ามืดเอา ส่วนพ่อไม่ได้สอนเลย... ลูกได้ก้าวไปอีกขึ้นแล้ว...ตอนนี้เริ่มขี่ได้เยอะขึ้น เจ๊บอกอยากขึ่ไปนู่นไปนี่ขึ้นมาเชียว..ยังหรอกเจ๊..ยังต้องฝึกอีกนาน
เมื่อวันอังคารไปห้องสมุด ผ่านสวนสาธารณะ พอดีเอากล้องหยิบติดมือไปด้วย เลยแวะถ่าย ริสาบ่นอุบเลย..แม่จ้องดอกไม้นานไปหน่อย
วันหยุดเมื่อเดือนที่แล้ว เอาบัตรฟรีที่ใกล้หมดอายุไปเดินให้ลมทะเลพัดที่ Kamogawa Seaworld ยูตะตื่นเต้นใหญ่..ได้เห็นทะเล..ไม่ได้เห็นนานแล้ว... โธ่..ถ้าอยู่เมืองไทย..ได้ไปทะเลเดือนเว้นเดือนนะเนี่ยะ
ยูตะสอบคาราเต้ผ่านไปอีกขั้น..ยูตะบอกว่า คุณครูและคนอื่นชมยูตะเยอะ เราไม่เคยได้ยินตรงๆ..แหงล่ะ..ไม่เคยไปดูลูกเรียนเลย..เป็นแม่ที่แย่มากกก แต่ก็มีคนชมให้เราฟัง.. นี่..ริสาก็มาขอว่า..อยากเรียนคาราเต้..อะจึ่ย..นี่ก็ร้องไห้อยากไปเีรียนจนหลับไปนี่แหละ โอว......ตะก่อนบอกว่าจะไม่เรียนคาราเต้เด็ดขาด..เพราะกลัวเจ็บ จู่ๆ ก็เกิดอยากเรียนมากๆ ขึ้นมา..แม่แอบหวั่นไหวนะเนี่ยะ..ะะะะ .....................................ต้องคุยกับเจ้านายอีกที.. อาจจะให้เรียน เพราะเจ้าตัวอยากเรียนเองด้วย..คงต้องลองสักตั้ง...
Create Date : 08 เมษายน 2553 |
Last Update : 8 เมษายน 2553 20:56:51 น. |
|
2 comments
|
Counter : 700 Pageviews. |
|
|