|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การแยกขยะ
การแยกขยะ
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2548 เป็นต้นไป โยโกฮาม่าที่ที่เราอยู่จะเริ่มจัดระบบการแยกขยะแบบใหม่แบบ G30 G คือ ごみ (gomi) หรือ Garbage ขยะ และ 減量 (genryo) การลด ส่วน 30 คือตัวเลขเป้าหมายที่จะลดขยะเพื่อนำไปรีไซเคิลได้ 30 % หรือ 9 แสนตันจากตัวเลขเมื่อปีเฮเซที่ 13 (4 ปีที่แล้ว) และเป้าหมายคือปีเฮเซที่ 22 (อีก 5 ปีข้างหน้า) โดยปัจจุบันนี้ จะแยกเป็นขยะในครัวเรือน , กระป๋อง ขวดแก้ว ขวดพลาสติก ซึ่งเรื่องน้อยกว่าตอนที่เราอยู่ที่โตเกียว เช่น ถ้าซื้อโยเกิร์ตแบบแพ๊ค 3 ถ้วย ตอนนี้เราก็สามารถทิ้งทุกอย่างไปในขยะในครัวเรือนได้เลย แต่ต่อไปนี้.. 1. ต้องแยกแกะพลาสติกที่คลุมทั้งแพ๊คออกไปทิ้งกับขยะจำพวกภาชนะหีบห่อ 2. ทิ้งถาดกระดาษกับพวกกระดาษ 3. ทิ้งฝาอลูมิเนียมกับขยะในครัวเรือน และถ้ามีช้อนกับกระดาษห่อก็ไปทิ้งกับขยะในครัวเรือน 4. กินเสร็จ ถ้าถ้วยเป็นกระดาษ ก็ไปทิ้งกับขยะจำพวกกระดาษ ถ้าเป็นพลาสติกก็ไปทิ้งกับขยะจำพวกภาชนะหีบห่อพลาสติก เรื่องเยอะ..จนไม่อยากซื้อกินเลย (ล้อเล่นอ่ะ) ตั้งแต่เดือนเมษายนจะเปลี่ยนใหม่เพื่อลดขยะ และนำขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ไปรีไซเคิลได้ ดังนั้น..เราในฐานะที่อาศัยอยู่ในเขตโยโกฮาม่าก็ต้องเรียนและรู้ที่จะจัดการกับขยะในบ้านเราใหม่ อ่านไปสองสามรอบแล้ว..ยังไม่ค่อยเข้าสมองก็เลยลองมาเขียนเปลี่ยนโหมดเป็นภาษาไทยดู อาจพอซึบซับได้บ้าง ต่อไปก็ถึงเวลาปฏิบัติจริงเท่านั้น
+ ขยะทุกชนิดต้องทิ้งก่อนแปดโมงเช้าของวันที่กำหนดไว้ ถ้าเผลอนอนเป็นคุณนายตื่นสายหรือแก่แล้วขี้หลงขี้ลืมก็ลองออกไปสำรวจ หากยังมีขยะกองก็สมทบได้เลย แต่ถ้าไม่มี ต้องเก็บเอาไปสะสมที่บ้านต่อรองวดต่อไป (ถ้าเป็นขยะสดตอนหน้าร้อน จะเดือดร้อนเป็นพิเศษ เพราะมันทั้งชื้นทั้งเหม็น สะสมไปอีกสองวัน..อาจนึกว่ามีช้างตายคาบ้านมาสองชาติ) +ห้ามทิ้งผิดวัน..เพราะรถที่นำมาขนก็จะนำไปทิ้งตามประเภทที่แยกไว้..ถ้าทิ้งผิดก็จะถูกวางไว้ ประจานความผิดต่อไป.. ใครไม่รู้แต่เรานี่แหละรู้ตัวเองดี (ถ้าจำไม่ผิด ที่บ้านแม่ของเจ้านาย ต้องเขียนชื่อที่ถุงขยะทุกครั้ง ถ้าทิ้งขยะผิดประเภท... อาจมาต่อว่าถูกบ้านได้) + แยกขยะแต่ละประเภทใส่ถุงกึ่งโปร่งแสง(หรือถุงใส่ของจากซุปเปอร์นั่นแหละ) ยกเว้นตามที่เขาจะระบุ โดยการแยกจะเริ่มแยกเป็น 1.ขยะในครัวเรือน จัดเก็บสัปดาห์ละ 3 วัน (จันทร์ พุธ ศุกร์ หรือ อังคาร พฤหัส เสาร์) ซึ่งจะมีการกำหนดไว้ในตารางโดยดูจากพื้นที่ที่ตัวเองอยู่ วิธีทิ้ง.... ใส่ในถุงกึ่งโปร่งแสง (หรือถุงที่ใส่ของจากซุปเปอร์มาร์เกตก็ได้) ขยะดังต่อไปนี้ ใส่ได้ลงไปในถุงใบเดียวกัน + ขยะในครัว โดยต้องสะเด็ดน้ำออก + พวกพลาสติกที่มีขนาดไม่เกิน 50 เซนติเมตร เช่น ของเล่น วีดิโอเทป เตารีด ไดร์เป่าผม แต่ถ้าหากเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมาย พลาสติก ให้แยกไปทิ้งกับขยะจำพวกหีบห่อพลาสติก ต่างหาก + น้ำมันจากการทอดอาหาร จะต้องใช้กระดาษหรือผ้าชุบให้ชุ่มทั้งหมด จึงนำไปทิ้ง (ถ้าทิ้งลงท่อระบายน้ำตรงอ่างล้างจาน อาจทำให้ท่อตัน..โดยเฉพาะหน้าหนาวแล้วจะจับเป็นก้อนได้ง่าย) + ผ้าอ้อม..สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กอย่างบ้านเรา.. ต้องนำของเสียทิ้งลงโถก่อน แล้วจึงห่อม้วนให้เล็กที่สุดจึงนำไปทิ้งได้ + กิ่งไม้ ตัดให้ไม่เกิน 50 เซนติเมตร จากนั้นมัดรวมกัน ใส่ถุงนำไปทิ้ง (แต่ถ้ามีจำนวนมาก ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาเก็บและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทิ้งด้วย)
สำหรับผู้ที่จะซื้อเครื่องกำจัดขยะไฟฟ้าหรือเครื่องทำปุ๋ย หากแจ้งกับทางเขตก่อน ทางเขตจะช่วยเหลือเงินเล็กน้อย คือ + เครื่องกำจัดขยะไฟฟ้า ออกให้ครึ่งหนึ่งของค่าเครื่องแต่ไม่เกิน 20,000 เยน (เคยดูราคา มันประมาณ 50,000 เยน ได้มั๊ง) โดยให้ครัวเรือนละ 1 เครื่อง + เครื่องทำปุ๋ย ช่วยเหลือเครื่องละ 3,000 เยน ครัวเรือนละ 2 เครื่อง (สงสัยต้องมีนามีไร่เป็นของตัวเองละมั๊ง)
2.ถ่าย(ไฟฉาย) ใช้หมดแล้ว (ใช้ไม่หมด ใครจะไปทิ้งหว่า) โดยทิ้งวันเดียวกับขยะในครัวเรือน แต่ต้องแยกถุงต่างหาก ส่วนถ่านกลมแบบกระดุมและถ่านที่ชาร์จไฟได้ห้ามทิ้งรวมกัน ต้องนำไทิ้งที่ร้านที่กำหนด ถ้าไม่ทราบก็สอบถามกับร้านที่ขายหรือเจ้าหน้าที่)
3.กระป๋องสเปรย์ ที่บรรจุแก๊ส เช่น สเปรย์เป่าผม สเปรย์ยาฆ่าแมลง ทิ้งวันเดียวกับขยะในครัวเรือนเช่นกัน และต้องแยกถุงต่างหาก โดยห้ามเจาะกระป๋อง (เดี๋ยวระเบิดตูมตาม ไม่รู้ด้วย) ทิ้งในที่ที่ปลอดภัยจากไฟ และแยกจุกสเปรย์ต่างหากไปทิ้งกับขยะจำพวกหีบห่อพลาสติก
4.ขยะเผาไม่ได้ เช่น จำพวกแก้ว หลอดไฟ หลอดไฟนีออน ภาชนะดินเผา ทิ้งวันเดียวกับขยะในครัวเรือน โดยต้องห่อกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกล่องที่ใส่มาตอนซื้อ และเขียนไว้ด้วยว่าเป็น แก้ว หลอดไฟ (เจ้าหน้าที่เก็บจะได้ระวัง อาจบาดมือได้)
5.ภาชนะหีบห่อพลาสติก คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย พลาสติก ทุกชนิด เช่น ขวดบรรจุแชมพู ขวดมายองเนส ตาข่ายทั้งหลายแหล่ โฟมบรรจุอาหาร ถ้วยหรือถาด ฝาพลาสติก ถุงพลาสติก พลาสติกใสสำหรับห่ออาหาร วัสดุกันกระแทก เป็นต้น ทิ้งได้อาทิตย์ละ 1ครั้ง (ตามที่กำหนดแต่ละเขต) ใส่ในถุงกึ่งโปรงแสง (หรือถุงใส่ของจากซุปเปอร์นั่นแหละ) โดยต้องไม่บรรจุอะไรด้านใน ถ้าเป็นมีก็ควรเททิ้งให้หมดก่อน ส่วนที่ไม่ใช่พลาสติกเช่น เหล็ก หรือกระดาษ ต้องแกะแยกต่างหาก บีบหรือซ้อนก่อนท้อง พวกโฟมบรรจุอาหาร(สดจากซุปเปอร์) ถ้าเป็นไปได้ ให้นำไปทิ้งที่ร้านเพื่อนำไปรีไซเคิล (ของเรา ก็รวมทีละเยอะๆ แล้วก็ไปหย่อนลงตู้ที่หน้าซุปเปอร์)
6.กระป๋อง ขวดแก้ว ขวดพลาสติก คือ ขวดหรือกระป๋องที่บรรจุของกินของดื่ม และ ขวดพลาสติกที่มีเครื่องหมาย พลาสติก เช่นขวดใส่เครื่องดื่มทั้งหลาย ขวดใส่เหล้า ขวดใส่โชยุ ขวดใส่มิริน โดยกำหนดให้ทิ้งสัปดาห์ละครั้ง ทิ้งในถุงกึ่งโปร่งแสง ใส่รวมในถุงเดียวกันได้ แต่กระป๋องสี แยกไปทิ้งขยะจำพวกโลหะขนาดเล็ก ขวดยา(ยกเว้นยากิน)และเครื่องสำอางค์ แยกไปทิ้งในขยะแบบเผาไม่ได้ โดย 1.แกะฝาและสติกเกอร์ที่ติดออกก่อน 2.ล้างน้ำ 3.ถ้าเป็นขวดพลาสติก ต้องบีบหรือเหยียบ แต่ถ้าเป็นกระป๋องไม่ต้อง 4.นำใส่ถุงรวมกัน
7.โลหะขนาดเล็ก คือ โลหะที่มีขนาดไม่เกิน 30 เซนติเมตร เช่น หม้อ กระทะ กาต้มน้ำ เครื่องปิ้งขนมปัง ไม้แขวนเสื้อโลหะ ร่ม เป็นต้น โดยกำหนดให้ทิ้งสัปดาห์ละ 1 ครั้ง วันเดียวกับทิ้งกระป๋อง ขวด ขวดพลาสติก แต่ควรใส่ถุงแยกต่างหาก หากเป็นร่ม ต้องแยกส่วนที่เป็นผ้าออกจากส่วนที่เป็นโลหะ และนำไปทิ้งกับขยะในครัวเรือน ของมีคมทุกชนิด ให้ห่อกระดาษแบบหนาๆ และเขียนระบุไว้ด้วยว่าเป็นของมีคม
8.จำพวกกระดาษ ถ้าเป็นไปได้ควรนำไปบริจาคให้กับสถานที่ที่รับบริจาคก่อน ในการทิ้งขยะจำพวกกระดาษ ถึงแม้วันที่ฝนตกก็สามารถทิ้งได้ + หนังสือพิมพ์ พับเป็นสี่ส่วน รวมๆไว้และมัดเป็นตัวกากบาทด้วยเชือก (แผ่นพับก็ทิ้งด้วยกันได้) + กล่องกระดาษลูกฟูก พับและมัดไขว้เป็นตัวกากบาทรวมกันด้วยเชือกเล่นกัน แต่ถ้ามีเทปกาวติดอยู่ต้องดึงเอาออกไปทิ้งกับขยะในครัวเรือน (ยุ่งยากชะมัด) + กล่องนม ต้องล้างและตัดแผ่ ผึ่งให้แห้ง มัดรวมกันด้วยเชือก แต่ถ้าด้านในเป็นอลูมิเนียม เช่นกล่องนมถั่วเหลือง(ที่เรากินประจำ) ต้องเอาไปทิ้งกับขยะในครัวเรือน + นิตยสาร เช่น นิตยสารรายสัปดาห์ หนังสือการ์ตูน วารสาร หนังสือเรียน แคทตาล๊อก มัดรวมกันด้วยเชือกเล่นกัน + กระดาษอื่นๆ คือกระดาษที่ไม่ใช่หนังสือพิมพ์ กล่องกระดาษลูกฟูก นิตยสาร และกล่องนม เช่น กระดาษห่อ ถุงกระดาษ กล่องกระดาษ แผ่นกระดาษ ใบปลิว ให้ใส่ถุงกระดาษหรือถุงกึ่งโปรงแสง และมัดไม่ให้หล่นออกมา สำหรับส่วนที่ไม่ใช่กระดาษ เช่น ซีดีที่ติดมากับนิตยสาร ถุงพลาสติก ผ้าหรือหนัง ต้องแยกไปทิ้งกับขยะในครัวเรือน สิ่งต่อไปนี้..ห้ามทิ้งกับขยะกระดาษ แต่ให้ไปทิ้งกับขยะในครัวเรือน เช่น กระดาษสกปรก กระดาษเงิน กระดาษที่ด้านในมีอลูมิเนียมติดอยู่ กระดาษ(ที่ด้านหลังมี)คาร์บอน เป็นต้น
9.จำพวกผ้าเก่า เช่น ผ้าม่าน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้าอย่างเสื้อเชิ้ต กางเกง ซักและตากให้แห้ง โดยกำหนดให้ทิ้งเดือนละ 1 ครั้ง และรวมกันในถุงลักษณะโปร่งแสง ผ้าชิ้นใหญ่ เช่น ที่นอน ฟูก พรม ต้องทิ้งกับขยะขนาดใหญ่ และเสียค่าใช้จ่าย (เพราะฉะนั้น ก่อนซื้อต้องคิด ซื้อแล้วใช้ให้คุ้ม เก็บไว้เฉยๆ ไม่ทิ้งก็อาจขึ้นรา เน่าได้เช่นกัน) ผ้าที่ชำรุดหรือสกปรกให้ไปทิ้งกับขยะในครัวเรือน เนื่องจากขยะจำพวกนี้ จะนำไปเพื่อบริจาค ดังนั้นวันที่ฝนตกก็ทิ้งไม่ได้ เพราะมันจะเปียกเลอะเทอะ ให้เก็บไว้ไปทิ้งในเดือนถัดไป หรือกล่องรับบริจาคที่มีตั้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ
ทำไมต้องแยกขยะมากมายหลายจำพวกขนาดนี้.. ประเทศญี่ปุ่นทั้งแคบทั้งเล็กเกือบครึ่งของประเทศไทย แถมเป็นป่าเป็นต้นไม้สัก 70 เปอร์เซนต์ (ถ้าจำตัวเลขผิดก็โทษความจำของคนเขียนนั่นแหละ) แถมมีประชากรเกือบสองเท่าของประเทศไทย แทบจะขี่คอกันอยู่แล้ว จริงๆ คงอยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของของ ของสินค้า แต่มันก็ควบคุมลำบาก ขยะก็เลยมีจำนวนมาก..จนเอาไปถมเป็นสนามบิน เป็นโอไดบะสถานที่ของคู่รักและที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ฟูจิ มันก็ยังมีอยู่เยอะแยะเกลื่อนเมืองอยู่ ขนาดบ้านเราเล็กๆ อยู่กันสามคน ยังมีขยะให้ทิ้งได้ทุกวี่ทุกวัน..หลายๆบ้านรวมกัน...ก็เลยถมที่สร้างเกาะได้ ดังนั้น..ขยะบางประเภทที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้.. ก็ควรจะหาทางที่จะนำมาใช้ บางประเภทเป็นขยะที่เผาไม่ได้..เพราะอาจทำลายสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศ ของบางอย่างที่เราเห็นว่าเป็นขยะ แต่อาจจะเป็นของที่ยังไม่สามารถใช้ได้สำหรับอีกคนหนึ่ง สำหรับการรีไซเคิล(ขอเรียกเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษนี่แหละ ใครจะว่าแดะก็ยอม) ตามประเภทขยะที่ให้เราแยก ทางเขตหรือผู้เกี่ยวข้องก็จะนำไปทำให้เกิดประโยชน์ แยกประเภทได้ดังนี้ + พวกกระดาษ จะนำไปที่โรงงานกระดาษ ใช้นำละลายสีทั้งหมด และมาผลิตเป็นกระดาษอีกรอบ สินค้าจากกระดาษที่รีไซเคิลแล้ว เช่น กล่องกระดาษ กล่องผงซักฟอก ใบปลิว กระดาษชำระ หนังสือการ์ตูน เป็นต้น + ภาชนะหีบห่อพลาสติก นำไปแปรรูปเป็นของเล่น เครื่องเขียน เป็นต้น หรืออาจนำไปเป็นเชื้อเพลิง เช่น น้ำมัน แก๊ส + ขวดพลาสติก นำกลับมาใช้เป็นขวดพลาสติกอีกรอบ หรือ วัสดุต่างๆ เช่น เต้นท์ ม่าน หรือเป็นสินค้าที่เป็นเส้นใย เช่น พรม เสื้อเชิ้ต เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการแปรรูป + กระป๋อง ทางโรงงานจะนำไปหลอม และผลิตเป็นโลหะกลับขึ้นมาใช้อีกครั้ง + พวกผ้าต่างๆ นำมาแยกประเภท และส่งออกหรือนำไปบริจาคตามประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก + ขวด ขวดเบียร์ ขนาด 1.8 ลิตร นำไปล้างและกลับมาใช้ใหม่ ขวดเครื่องดื่ม นำมาเป็นวัตถุดิบสำหรับทำขวดใหม่
ต่อไปเป็นขยะใหญ่ จริงๆ เรายังไม่เคยทิ้ง..ไม่คิดจะทิ้ง..แต่ก็เรียนรู้เอาไว้เล่นๆ ขยะใหญ่ คือ ขยะจำพวกโลหะที่ยาวเกิน 30 เซนติเมตร หรือขยะจำพวกไม้หรือพลาสติกที่ใหญ่เกิน 50 เซนติเมตร ในการทิ้งจะต้องเสียค่าใช้จ่าย มีขั้นตอนดังนี้ 1.สมัคร ทางโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต (อะไรๆ ก็อินเทอร์เน็ตไปหมดแล้ว) โดยต้องแจ้งความจำนงล่วงหน้าก่อน 1~2 อาทิตย์ ระบุชนิดและขนาดของสิ่งที่ที่จะทิ้ง ยืนยันเรื่องค่าใช้จ่าย 2.เสียค่าใช้จ่าย ผ่านทางธนาคาร ไปรษณีย์หรือร้านสะดวกซื้อ รับสติกเกอร์สำหรับทิ้งเพื่อนำไปติดกับสิ่งที่ต้องการทิ้ง ถ้าหากไม่อยากระบุชื่อ(เดี๋ยวเพื่อนบ้านรู้หมดว่า บ้านนี้มีเตียงหัก)ก็ระบุหมายเลขหรือตัวย่อก็ได้ ค่าใช้จ่ายจะมีระบุไว้น่าจะตามขนาดของสิ่งของ เช่น เครื่องโทรสาร 200 เยน ฟูกสปริง 2200 เยน 3.นำสติกเกอร์ติดกับสิ่งที่ต้องการทิ้ง และทิ้งในที่ที่กำหนด ในวันที่กำหนดก่อนแปดโมงเช้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น แอร์ โทรทัศน์ ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า คอมพิวเตอร์ที่ใช้ตามบ้าน ไม่สามารถทิ้งกับขยะใหญ่ได้ ให้ถามร้านหรือผู้แทนจำหน่าย
Create Date : 23 มีนาคม 2548 |
Last Update : 23 มีนาคม 2548 17:41:49 น. |
|
22 comments
|
Counter : 1747 Pageviews. |
|
|
|
โดย: วดี วันที่: 23 มีนาคม 2548 เวลา:22:49:55 น. |
|
|
|
โดย: นู๋โนริ วันที่: 25 มีนาคม 2548 เวลา:21:36:02 น. |
|
|
|
โดย: toonarmy IP: 202.5.87.6 วันที่: 7 มีนาคม 2549 เวลา:22:56:47 น. |
|
|
|
โดย: อนัญญา IP: 203.151.141.194 วันที่: 10 มีนาคม 2549 เวลา:14:58:23 น. |
|
|
|
โดย: นนีรนะรนยีรนย IP: 125.25.23.233 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:06:18 น. |
|
|
|
โดย: เนกครับ IP: 125.24.0.202 วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:15:30:18 น. |
|
|
|
โดย: จากใครก็ได้ IP: 58.147.42.237 วันที่: 7 สิงหาคม 2549 เวลา:17:12:17 น. |
|
|
|
โดย: นน IP: 210.86.147.225 วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:15:03:38 น. |
|
|
|
โดย: 3333333333 IP: 58.9.108.33 วันที่: 22 สิงหาคม 2549 เวลา:5:55:32 น. |
|
|
|
โดย: vacat1on IP: 61.47.100.187 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:56:41 น. |
|
|
|
โดย: น้องแพทค่ะ IP: 203.113.62.6 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:33:09 น. |
|
|
|
โดย: คน IP: 202.143.134.178 วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:14:26:39 น. |
|
|
|
โดย: ตะวัน IP: 202.5.87.5 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:57:17 น. |
|
|
|
โดย: เรารักในหลวง IP: 203.146.82.16 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:03:53 น. |
|
|
|
โดย: กิ่ง IP: 61.7.233.200 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:41:30 น. |
|
|
|
โดย: รักในหลวงสุดหัวใจ IP: 210.203.179.91 วันที่: 9 ธันวาคม 2550 เวลา:1:59:29 น. |
|
|
|
โดย: เนเธญเธ IP: 221.248.20.125 วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:10:40:01 น. |
|
|
|
โดย: ปิ่นรัตน์ ไพสิฐเบญจพล IP: 203.131.217.9 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:25:17 น. |
|
|
|
โดย: เจน IP: 222.123.220.234 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:47:28 น. |
|
|
|
โดย: นก (Kukas ) วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:12:41:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เดี๋ยวหมกขยะไว้ด้วยความขี้เกียจแยก
ทึ่งเรื่องรีไซเคิลของญี่ปุ่น วันก่อนซื้อแผ่นกันน้ำมันกระเด็นมาใช้ อันนั้นก็ทำจากกระป๋องเก่าๆ ที่เมืองไืทยของเราก็เจ๋งแหละเขามีโครงการทำขาเทียมจากกระป๋องอลูมิเนียมด้วย