...ความสุขของนักเดินทาง..ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง..แต่อยู่ที่การได้เดินทาง...

บุกป่าดำ เที่ยวงานวัด ที่สตุ๊ตการ์ท

ครั้งหนึ่ง...ครั้งหนึ่งเธอจำได้ไหม...สองเราเคยเที่ยวงานวัดบ้านใต้ ทำบุญปิดทององค์พระมาลัย ก่อพระเจดีย์ทรายร่วมกัน.....เพลิดเพลินเคยเดินด้วยกันแทะไหมฝันดูรถไต่ถัง หยอกเย้าบนชิงช้าสวรรค์ ถ่ายรูปคู่กันกินขนมจีนข้างทาง....



เพลงของวงดนตรี “เพื่อน” สมัยยังเด็กๆ แวบขึ้นมาในโสตประสาท ระหว่างที่ฉันก้าวเข้าไปในบริเวณงาน ในเมืองสตุ๊ตการ์ท (Stuttgart) เมืองหลวงของรัฐบาเดน-เวือร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมัน เทศกาลคาร์นิวัลเพิ่งผ่านพ้น แต่สวนสนุกเคลื่อนที่ยังคงปักหลักอยู่ต่ออีกสามสี่วัน เราเลยได้โอกาสมาเดินเล่น ดูบรรยากาศแบบงานวัดของฝรั่งดูบ้าง

ฉันอยู่ที่เมืองสตุ๊ตการ์ทนี้กับชายหนุ่มได้สองวันแล้ว เมืองนี้อยู่ในลิสต์การเดินทางมาเยอรมันของเขา ด้วยเหตุผลที่เมืองนี้เป็น “บ้านเกิด” ของรถสายพันธุ์เยอรมันที่มีสาวกทั่วโลกอย่าง เมอร์เซเดส เบนซ์ และ ปอร์เช่ สปอร์ตพันธุ์แรง และเมืองนี้ยังอยู่ใกล้กับเขตป่าดำ (Black Forest) ที่เราไปเดินลุยมาแล้วก่อนจะกลับมาเที่ยวงานนี้



ทุ่มกว่าแล้ว แต่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ แสงสีและผู้คนยิ่งทำให้ย้อนระลึกถึงตอนเยาว์วัยสมัยยังอยู่ต่างจังหวัด ฉันชอบชิงช้าสวรรค์มาก มีงานที่วัดทีไรต้องให้แม่พาไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ สำหรับโลกใบเล็กของเด็กหญิงตัวน้อย เจ้าวงล้อที่ประดับไปด้วยไฟนีออนหลากสีนั้นดูยิ่งใหญ่ ยิ่งเมื่อกงล้อหมุนลอยสูงพาขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดก็ยิ่งตื่นเต้น แต่เมื่อเจริญวัยได้ออกมาเห็นโลกกว้างขึ้น ชิงช้าสวรรค์ตามงานวัดที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ชื่นชอบ ดูจะกลายเป็นของเด็กๆ ไปเลย เมื่อเทียบกับลอนดอนอาย กงล้อยักษ์ในลอนดอน



ผู้คนเดินขวักไขว่ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีเครื่องเล่นต่างๆ มากมายให้เลือกเล่น ทั้งรถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์วงใหญ่ ซุ้มยิงปืนเลเซอร์แลกตุ๊กตา วงล้อหมุน รวมไปถึงเครื่องเล่นหวาดเสียว ทั้งไวกิ้ง Rollercoaster หมุนจนเวียนหัว หรือประเภททิ้งดิ่ง แน่นอน ฉันเลือกเล่นเครื่องเล่นที่เหมาะกับวัยรุ่นตอนปลายสายอาชีพอย่างเรา คือรถไฟเหาะ จานหมุนที่ลอยสูงรวมถึงเครื่องเล่นแบบหมุนเหวี่ยงกลับหัว แล้วหาไอสกรีมอร่อยๆ กิน เดินเล่นดูผู้คนก่อนกลับไปหลับสบายจากกิจกรรมหลากหลายตลอดทั้งวัน…..



ย้อนเวลากลับไปตั้งแต่ตอนเช้า เนื่องจากที่พักเราอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟซึ่งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินเล่นชมเมืองได้อย่างสะดวก วันแรกในเมืองนี้เราจึงทำตัวแบบง่ายๆ ไปเดินตลาดสตุ๊ตการ์ท หรือ สตุ๊ตการ์ทมาร์เก็ต (Verkaufszeiten der markthalle) ดูชีวิตของคนเยอรมันตั้งแต่เช้าตรู่ ตลาดในร่มสองชั้นแห่งนี้สะอาดสะอ้าน ชั้นล่างวางขายสินค้าประเภทอาหาร ทั้งไส้กรอก ขาหมู ชีส ผลไม้ ไวน์ ผักต่างๆ และอีกสารพัด ส่วนชั้นบนเป็นร่านอาหารและห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมที่ขายเครื่องครัว เครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ เราซื้อผลไม้และไส้กรอก ซึ่งมีสารพัดชนิดให้เลือกไว้เป็นเสบียงสำหรับมื้ออื่นๆ แล้วออกไปเดินเล่นแถว City Hall ผ่านโบสถ์เล็กๆ ที่มีตลาดนัดแบบชาวบ้านวางของขายเต็มไปหมด ทั้งผัก ผลไม้ ดอกไม้สวยๆ และแยมแบบโฮมเมด



สัญญลักษณ์ของเมืองสตุ๊ตการ์ท เป็นรูปม้า ซึ่งมีให้เห็นในหลายๆ จุดของเมือง และยังถูกนำไปใช้เป็นตราสัญญลักษณ์ทั้งในทีมฟุตบอล Stuttgart Football Club ทีมในบุนเดสลีก และใช้เป็นโลโก้ของรถสปอร์ตสายพันธ์แรง ที่เรากำลังจะแวะไปเยือน เราเอาอาหารที่ซื้อมาจากตลาดไปเก็บไว้ในที่พัก เดินกลับออกมาที่สถานีรถไฟ นั่งรถไฟสายชานเมือง S6 (S- Barn Number 6) ใช้เวลาครู่หนึ่งเราก็ลงมายืนบนชานชาลาสถานีเล็ก ๆ หน้าตาเหมือนป้ายรถเมล์แต่มีโลโก้ Porsche ติดอยู่ เบื้องหลังสถานีเล็กๆ นี้คือศูนย์กลางของสายการผลิตรถสปอร์ตสายพันธ์เยอรมันที่ยิ่งใหญ่ “ปอร์เช่” (Porsche) ที่ชายหนุ่มของฉันหลงใหล แต่รับรองว่าไม่มีปัญญาเป็นเจ้าของแน่นอน



ที่นี่เป็นทั้งโรงงานผลิต โชว์รูมขนาดใหญ่ และพิพิธภัณฑ์ (Porsche Museum) ซึ่งเรื่องและประวัติต่างๆ ของรถยี่ห้อนี้ เอาไว้ให้ชายหนุ่มว่างแล้วฉันจะจับเขามาถ่ายทอดบรรยากาศและเรื่องราวในช่วงที่เราเข้าไปเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์นี้ สรุปโดยคร่าวๆ ก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดเมื่อเดือนมกราคม 2552 ค่าเข้าชม 8 ยูโร ภายในจัดแสดงรถรุ่นต่างๆ ของปอร์เช่กว่า 80 คัน นับตั้งแต่ 60 ปีแห่งสายการผลิต รูปแบบอาคารภายนอกออกแบบได้ล้ำสมัย ดูหวือหวาสมกับคาแรคเตอร์รถสปอร์ตหรูสายพันธ์เยอรมัน



เราใช้เวลานานพอควรทีเดียว ฉันเองแม้ไม่ค่อยสนใจเรื่องรถราแต่ก็ยังอดตื่นตาตื่นใจไปด้วยไม่ได้ ภายในพิพิธภัณฑ์ตกแต่งแบบเรียบง่าย ใช้สีขาวเป็นหลัก เน้นจุดสนใจที่รถแต่ละรุ่น ไล่เรียงประวัติตั้งแต่สมัยที่ร่วมกับโฟล์คสวาเก้น ออกแบบรถโฟล์คเต่า ซึ่งกลายเป็นรถอมตะนิรันดร์กาลมีใช้งานจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งสร้างแบรนด์ของตนเองขึ้นมา และด้วยจุดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง กลายเป็นรถสปอร์ตพันธุ์แรง



มีหลายๆ มุมที่ฉันชื่นชอบ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะรถจอดให้ดูเฉยๆ เช่น จอขนาดใหญ่บนผนัง ที่แสดงเส้นร่างด้านข้างของรถแต่ละ Model แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งที่ผลิตรุ่นใหม่ๆ ออกมา โดยมีรุ่น classic คือ Porsche 911 อีกจุดเป็นพื้นที่ให้เราเดินเข้าไปยืน ด้านบนเหนือศีรษะเป็นครอบวงกลม พอเราเดินเข้าไปก็มีเสียงสตาร์ทรถ และเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ดังขึ้น โดยมีไฟ LED บอกว่ากำลังฟังเสียงของรถรุ่นไหนอยู่



เราออกออกมาจากพิพิธภัณฑ์ โดยมีเพื่อนผู้อารีชาวเยอรมันมารับตามเวลานัด สองสามีภรรยาลางานเพื่อพาเราไปเดินป่า บ่ายกว่าแล้วขณะที่เรากำลังมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่ เมืองไฟรบวร์ก เพื่อไปยังป่าดำ หรือ Black Forest หรือที่เรียกในภาษาเยอรมันเรียกว่า "ชวาสวาลด์" (Schwarzwald) ที่เรียกว่าป่าดำเป็นเพราะผืนป่านี้หนาทึบไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์โดยเฉพาะมีต้นสนสีเขียวเข้มขึ้นอยู่หนาแน่น และมืดครึ้มตลอดปี




จุดที่เราจะไปกันเป็นชายขอบส่วนหนึ่งของป่าดำ ริมทางมีจุดจอดรถหลายจุดเป็นระยะๆ หาที่จอดได้เราก็เริ่มต้นเดิน อากาศเย็นสบาย ต้นไม้เขียวขจี มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกหลายเส้นทาง แต่ละเส้นทางจะมีป้ายบอกว่าจะไปสิ้นสุดที่ไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ เราเดินไปตามทางที่มีลำธารเล็กๆ คู่ขนานไปกับทางเดิน ผ่านจุดสำหรับแคมปิ้ง ก่อไฟโดยเฉพาะ เราเดินแซงพ่อแม่ที่พาเด็กๆ มาเดินป่ากันหลายต่อหลายครอบครัว เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาคนที่นี่ ที่ใช้ชีวิตในเมืองโดยมีธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่ไม่ห่างเลย เราใช้เวลาเดินป่าเกือบสามชั่วโมง แล้วย้อนกลับทางเดิมมายังรถที่จอดอยู่




....เรากลับเข้าเมืองสตุ๊ตการ์ทด้วยความอิ่มเอม ปนเมื่อยขานิดหน่อย เดี๋ยวหลังอาหารเย็น พักขาแล้วเราจะไปเดินเล่นในงานวัด เป็นการปิดท้ายของวัน...




Create Date : 22 กรกฎาคม 2553
Last Update : 22 กรกฎาคม 2553 14:33:56 น. 1 comments
Counter : 884 Pageviews.  

 
สวัสดีค่ะ
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: apple.007 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:24:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

world not wide
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บันทึกการเดินทางของเขาและเธอ
ที่ใช้ชีวิตคู่กับการเดินทาง
155 เมือง 34 ประเทศ ใน 5 ทวีป...




*รูปภาพทั้งหมดที่ปรากฏบน Blog นี้ ถ่ายด้วยตนเองทั้งสิ้น และไม่หวงห้ามแต่ประการใด หากมีผู้ต้องการนำไปใช้
[Add world not wide's blog to your web]