Welcome to my life [part IV] - บ้านแสนสุข part II
สวัสดีค่ะ
วันนี้มาต่อจากเมื่อวานตามสัญญา คนเราพูดอะไรไว้ ถ้าไม่ทำตามคำพูด คำพูดก็จะไร้ความหมาย แอบสอนภาษาอังกฤษหนึ่งประโยค ดิชั้นก็เป็น a woman of her word ก็ต้องรักษาสัญญา
เรื่องที่ 2 "ตึกแถวหลังบ้าน" อย่างที่บอกว่าหลังบ้านครึ่งนึงติดกับตึกแถว ซึ่งเกือบทั้งโครงการดูเหมือนจะไม่มีคนอาศัย มีอยู่ครอบครัวเดียวที่เห็นๆว่าอาศัยอยู่ก็ดั๊นมาติดกับบ้านดิชั้น
ขึ้นชื่อว่าตึกแถว คือเป็นตึก ไม่มีกำแพง ส่วนที่อยู่อาศัยก็คือเต็มพื้นที่ และห่างจากส่วนของบ้านดิชั้นแค่ไม่กี่คืบ ซึ่งห่างจากห้องนอนพี่ชายดิชั้นเพียงไม่กี่ศอก ซึ่งห่างจากห้องนอนดิชั้นเพียงไม่กี่วา
ไม่ว่าพวกเขาจะคุยกัน เล่นกัน ด่ากัน ทำอาหารกัน ทำกิจกรรมกัน บ้านเราจะรับรู้ความเป็นไปแทบทั้งหมด
ดิชั้นไม่ทราบจริงๆว่าบ้านเค้ามีผู้อยู่อาศัยทั้งหมดกี่ชีวิต แต่ทุกวันเราจะได้ยินเสียง หญิงสูงวัย หญิงยังไม่สูงวัย เด็กหญิง เบบี๋ ชายหนุ่ม ชายสูงวัย ปะปนกัน สมมติฐานก็คือ เค้าน่าจะอยู่กันหลายคน
เวลา family fun time บนโต๊ะอาหารของเราก็มักจะมีเสียงแจมมาจากบ้านข้างๆ ถ้าเป็นเพลงก็คงจะคล้ายๆเราร้องเพลง Mariah Carey แล้วมี Eminem มา featuring ด้วย ยกตัวอย่างเช่น
พ่อ: กับข้าววันนี้ใช้ได้นะแม่ ใครเป็นคนทำ แม่: ในหลวง ลูก: หนูว่าแม่ทำเองอร่อยกว่า ข้างบ้าน: ไอ้แก่ เมิงอยากตายใช่มั้ย กูพูดด้วยดีๆ มึงต้องตวาดกูใช่มั้ย มึงพูดดีๆไม่ได้เมิงออกไปเลย ไสหัวไปจากบ้านกูเลย
เป็นต้น
คนทำงานอย่างเรา เวลานอนมันต้องเป็นเวลา ไม่งั้นเราจะตื่นขึ้นด้วยอาการอิดโรยโหยหาหมอนอ่อนเปลี้ยเพลียพาลอยากจะโทรลางาน บ่อยๆเข้าใต้ตาก็จะพาลละม้ายคล้ายกับหลินปิง
ดิชั้นเซ็ทเวลานอนไว้ที่ไม่เกินเที่ยงคืน เพื่อที่จะตื่นไม่เกินหกโมงเช้าเพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และพร้อมจะออกไปต่อสู้กับจราจรยามเช้าและงานหนักยามสาย งานหนักยามบ่ายและการจราจรยามเย็น
เวลาจะนอน ดิชั้นต้องมีองค์ประกอบที่เกื้อหนุนกันหลายอย่าง เช่น แสงสลัวๆ เสียงเพลงเบาๆ เตียงนุ่มๆ หมอนข้างน่ากอด หมอนฟูๆ
และตั้งแต่เพื่อนหลังบ้านมีเบบี๋ ค่ำคืนเหล่านั้นก็เปลี่ยนไป
บางคืนขณะกำลังฟังเพลงกึ่มๆ หนังตากำลังหนักๆ เบบี๋ไม่พอใจ กรีดร้องแว๊กๆๆๆๆ
บางคืน ขณะที่ทุกคนกำลังหลับไหล ทุกสิ่งรอบข้างเงียบสงัด เบบี๋ตื่นมากลางดึก มองไม่เห็นใครในความมืด เบบี๋ไม่พอใจ กรีดร้องแว๊กๆๆๆๆ
บางคืน คุณแม่บ้านบ้านนั้น ตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาเตรียมของไปขาย เช้าตรู่หมายถึงเช้ามากจริงๆ ประมาณตีสาม จ๊ะเอ๋กับชายแก่ที่เพิ่งกลับมา ก็เปิดศึกกันตามสไตล์ เบบี๋ไม่พอใจ กรีดร้องแว๊กๆๆๆๆ featuring เสียงด่า
การที่เบบี๋ร้องบ่อยๆ คนเราน่าจะสามารถพัฒนาความสามารถในการเมินเฉยและหลับต่อได้ เหมือนเวลาที่รถบรรทุกวิ่งผ่านบ่อยๆ แต่เบบี๋บ้านนี้ร้องครั้งนึงไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง สถิติที่เคยตื่นมานอนฟังคือชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่ตีสามถึงตีสี่ครึ่ง เราอาจตื่นมาด้วยความรำคาญ แต่ซักพักมันกลายเป็นกังวล กลัวเบบี๋ตายไม่มีใครดูดำดูดี สุดท้าย immune system เราไม่ทำงานเพราะกังวลนี่แหละ
ห้องนอนพี่ชายเป็นห้องที่ตั้งได้ฉากกับห้องนอนเบบี๋มาก เวลาเด็กร้องพี่ชายดิชั้นจะตื่นก่อน มีครั้งนึงดิชั้นตื่น แต่ไม่ใช่เพราะเสียงเด็ก แต่เป็นเสียงพี่ชายออกไปยืนตรงระเบียง ตะโกนบอกข้างบ้านว่า "ช่วยดูเด็กด้วยคร้าบบบบ เด็กร้อง คนจะหลับจะนอน พ่อแม่ทำไมไม่ดูแลลูก" น่าแปลก เสียงเด็กซักพักก็เงียบไป ไม่รู้เพราะพ่อแม่มากล่อมหรือเพราะเด็กมีสามัญสำนึกว่าไม่ควรก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
แต่กระนั้นทุกวันนี้เราก็ยังนอนขวัญผวากลัวเด็กร้องอยู่
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ oongbink@yahoo.com twitter.com/TheOong
Create Date : 25 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 25 มีนาคม 2553 11:03:32 น. |
Counter : 463 Pageviews. |
| |
|
|
|