ยามจนก็เที่ยวเมืองไทย ... ถ้าอยากหากำไร (ชีวิต) ก็ต้องโกอินเตอร์

จะว่าไป ก็เที่ยวมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แต่ก็ไปกะพ่อแม่ซะเป็นส่วนใหญ่
เพิ่งจะได้โชว์พาวตัวเองก็ตอนทำงานมีตังค์เองแล้วนี่แหละ


ที่ใจรักที่สุด ก็เห็นจะเป็นทะเล ไปได้ ไปดี ไม่มีเบื่อ

บางคนบอกว่า คนเที่ยวทะเล มีสองแบบคือ ไปเที่ยว ๆ ๆ ตามสถานที่ที่เค้ามีให้เที่ยว กะอีกพวกคือ นอน กิน อยู่กะทะเลมันได้ทั้งวัน พวกหลังเนี่ย เค้าว่า มันบ้าทะเล !!! .... เราก็ว่า เราเองก็น่าจะเป็นพวกหลังนะเนี่ย

เข้าเรื่องเลยละกันนะ ... สมัยก่อน เมื่อเกือบสิบปีมาแล้ว สถานที่ที่สุดคลาสสิคเลย ที่นึกถึง ก็คือ "กระบี่" แต่ไอ้เราเป็นโรคอะไรไม่รู้ จะเที่ยวไหนก็ได้ แต่ก่อนกลับมาทำงาน ต้องแวะ "สมุย" ทุกทีสิน่า

ก่อนนั้น อินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้มีดาดดื่นให้เล่นง่าย ๆ เหมือนเดี๋ยวนี้ เพราะฉะนั้น จะหาข้อมูลอะไรที ก็ต้องเข้าร้านหนังสือ ที่พึ่งสุดท้ายของเรา "แพร่พิทยา ณ เซนทรัลลาดพร้าว"

"สมุย" นี่ วิธีเดินทางไม่เคยซ้ำกันเลย
ตั้งแต่ นั่งรถไฟสายกันตัง ไปลงพุนพิน แล้วนั่งรถเมล์ไปลงในเมือง เพื่อไปขึ้นรถขนส่ง สุราษฎร์ - สมุย วิธีนี้ลุยสุด ๆ

ต่อมา ลองนั่งรถทัวร์ 999 กรุงเทพ - สมุย ของบริษัทขนส่ง ... เอ้อ สบายดีแฮะ แต่ตอนก่อนขึ้นเรือเฟอร์รี่ ต้องลงไปซื้อตั๋วเรือเอง รถทัวร์ไปสุดสายที่หน้าทอนเลย

อ่ะ ... ลองอีกวิธี นั่งรถทัวร์กรุงเทพ - สุราษฎร์ ไปลงที่ขนส่ง แล้วซื้อตั๋วรถ สุราษฎร์ - สมุย ที่ขนส่งน่ะแหละ เสียเวลานั่งรอรถซักสองชั่วโมง ... อื้มมม วิธีนี้วุ่นวายไปนิดนึง

อีกวิธี เป็น option เสริม พอดีกลับจากไป "กระบี่" มา เลยนั่งรถของบริษัทส่งเสริม โน่นเลย พาไปขึ้นที่ท่าเรือขนอมโน่นแน่ะ

สะดวกสบายที่สุด เห็นจะเป็น ขับรถไปเองนี่แหละ ไปท่าเรือดอนสักเลย เมื่อก่อนมีเรืออยู่บริษัทเดียว ต้องต่อคิวยาวมากกกกก แต่เดี๋ยวนี้ ตั้งแต่มีสองบริษัทแข่งกัน ก็ดีขึ้นเยอะ

การเดินทางใน "สมุย" น่ะเหรอ "เดอะมอ" ค่ะ .. อ๊ะ ๆ ไม่ใช่ชื่อห้างในกอทอมอ แต่เป็นมอเตอร์ไซค์เช่าค่ะ มีอยู่ทั่ว ๆ ไป ราคาก็แสนถูก น้ำมันต่างหาก เติมคืนเค้าให้เต็มถังเหมือนตอนที่ไปเอาของเค้ามา ถ้าไปหลายคนก็เช่าเป็นคาริบเบียนก็ได้

รถสองแถวมีค่ะ แต่นักท่องเที่ยวโดนโขกราคา สับแหลก โดนมากับตัวเลย .... คราวนั้น เอารถไปจอดทิ้งไว้ที่ดอนสัก (นายแน่มาก) เนื่องจาก ขี้เกียจต่อคิวยาว ขืนรอคิว ทุ่มนึงคงยังไม่ได้ขึ้นเรือ ที่ฝากรถก็ไม่ใช่ว่าจะมีหรอกนะคะ ก็จอดมันตรงลานตรงนั้นน่ะแหละ เห็นชาวบ้านเค้าก็จอดกันเยอะแยะ คนแถวนั้นบอกว่า ไม่หายหรอก มีตำรวจเดินเป็นระยะ ๆ .... เออ เราก็น่ะนะ อารมณ์นั้น ไม่ได้ห่วงรถเล้ยยย พับผ่าเหอะ ... นั่งเรือมาลงที่ท่าเรือสมุย ก็นั่งสองแถวบอกสถานที่ให้ไปส่ง คนขับบอกคนละ 30 เราบอก เฮ้ย เคยนั่งนะ ไม่ใช่ราคานี้แน่นอน คนขับบอกว่า เดี๋ยวเข้าไปส่งให้ที่โรงแรมเลย ไอ้เราก็ขี้เกียจเถียง .... ปกติ รถสองแถว จะต้องวิ่งประจำทาง ตามถนนที่วิ่งรอบเกาะน่ะแหละ แต่คันนี้ ตั้งแต่รับเราจากท่าเรือมา พี่ไม่วิ่งเส้นทางหลักเลย พี่เล่นเข้าตามสวนชาวบ้าน แล้วก็รับชาวบ้านมาเรื่อย ๆ ที่แสบกว่านั้น เราไม่เห็นใครจ่ายตังค์ค่าโดยสารเลยซักคนเดียว ..... เอ้า อ่านมากเดี๋ยวจะพาลไม่อยากไปเที่ยวซะละ
ถ้าไม่อยากนั่งสองแถว เดี๋ยวนี้เค้าพัดตะนาแล้ว มีแท๊กซี่มิเตอร์ แต่ไม่กดมิเตอร์ ราคาต่อรองกันเอง ให้บริการอยู่ตามท่าเรือแล้วด้วย

ที่พัก ทุกครั้งที่เราไป เรามักจะเลือกหาดละไมเป็นที่พึ่งพิง ไม่เลือกเฉวง เพราะมันพลุกพล่านเกินไป แล้วถนนก็สร้างไม่เสร็จซักกะที น่าเบื่อ

ที่หาดละไมนี่เอง ที่ทำให้เราได้ นั่ง ๆ นอน ๆ ริมทะเลได้ท้างงงวัน ด้วยการใช้บริการของ Weekender Resort นั่ง ๆ นอน อยู่เก้าอี้ริมทะเลนั่นแหละ เบื่อก็บิด "เดอะมอ" ออกตะเวนท่องตามหาด หาของกิน


อาหารการกินน่ะเหรอ บอกได้เลย แพงแทบทุกร้าน ทำใจไว้ได้เลย ถ้าอยากหากินถูก ๆ ต้องเข้าไปในตลาดน่ะ ข้าวเหนียวไก่ทอด ตลาดหน้าทอน รสเด็ดขาดเลย ... มื้อไหนอยากตามใจปากหน่อย ก็มักไปใช้บริการที่ร้านอาหารที่อยู่ตรง "Big Rock" วิวมันสวยดี ถึงแม้ร้านนี้จะเปลี่ยนเจ้าของไปหลายทีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังชอบบรรยากาศของร้านนี้อยู่

กิจกรรมต่าง ๆ บนเกาะสมุย ก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ หมดไปกับการบิด "เดอะมอ" และกิน ๆ นอน ๆ ... บอกแล้วว่าเป็นที่พักผ่อนจริง ๆ

เคยมั๊ย ที่ไปทะเล แล้วแทบจะไม่ได้ลงน้ำทะเลเลย ไม่ได้ว่ากลัวดำ แต่แบบว่า ขอให้รอบข้างข้า เป็นทะเล แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งไป "กระบี่"
เรื่องที่ท่องเที่ยวของ "กระบี่" คงไม่ต้องสาธยายกันมาก เพราะตั้งแต่ทำเป็นโปรเจ็ค Unseen ก็มีคนรู้จัก "กระบี่" ขึ้นเยอะ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น ครั้งแรกที่สัมผัส "กระบี่" คิดว่า นี่มันเมืองฝรั่ง หรือเมืองไทยกันแน่ นักท่องเที่ยวคนไทย แทบจะหาไม่ได้เลย ทะเลแหวก ที่ฮือฮา เราไปทีไร ไม่เคยเห็นมันแหวกชัด ๆ ซักกะที เคยมีครั้งนึง แค่ตอนที่คนเรือบอกว่า ขับเรือผ่านตรงนั้นไม่ได้ เพราะน้ำมันตื้น แต่ไอ้ที่ว่าตื้น ยังไงก็เอวเราทุกที
แต่ที่แน่ ๆ โรตี ร้านริมถนนแถว ๆ อ่าวนาง อร่อยมาก ก่อนซื้อ แนะนำให้ ดมกลิ่นของคนที่ซื้อก่อนหน้าเราก่อนนะ ว่าเนยน่ะ มันมีกลิ่นหืน ๆ รึเปล่า เพราะเราเคยเจอตอนไปซื้อกินที่เกาะลันตา โหยยย ไม่คุ้มราคาเลย เนยเหม็นมาก

"เกาะรอก" เป็นที่ที่เหมาะแก่การนอนมองทะเลจริง ๆ ด้วยการใช้เวลาในการนั่งเรือ speed boat 45 นาที ก็จะเห็นน้ำใส สีเขียว ๆ อมฟ้า หาดทรายขาวจนแสบตา ปูเสฉวน ตัวเบ้อเริ่ม และตะกวดยักษ์ตัวเกือบสองเมตร ฉะนั้น อย่ามองทะลจนเพลินล่ะ เดี๋ยวจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมามองเป็นเพื่อน

ถ้าที่สุดแห่งการนอนมองทะเล สำหรับเราล่ะก็ "เห็นชั้นวิ่ง" .... "สิมิลัน" ยังไงล่ะ อาจจะพลุกพล่านไปนิด เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มเยอะขึ้น แต่ก็ยังไม่มากเมื่อเทียบกับหมู่เกาะสุรินทร์ แนะนำให้ไปช่วงเดือนกุมภา งามที่สุด และต้องเป็นวันธรรมดา ที่ไม่ใช่วันหยุด ทั้งเกาะ จะเหมือนเป็นเกาะส่วนตัวเลย ปูเสื่อนอนอาบแดดแรง ๆ บนทรายละเอียด ๆ ที่เกาะสี่ อยากดำน้ำลึก ก็มีเจ้าหน้าที่พาไปดำ แต่ละจุด ขึ้นชื่ออยู่แล้ว .... เฮ้อออ ยิ่งนึกภาพ ยิ่งอยากไปกลิ้งเกลือกบนทรายซะจริงจริ๊งงงง
ยังเอารูปมาประกอบไม่ได้ เพราะมันอยู่อีกเครื่องนึงน่ะ

เอาล่ะ เที่ยวแบบยามจน จนตัวดำแล้ว ทีนี้ก็จะโกอินเตอร์มั่งล่ะนะ
เรื่องนี้ ไม่ได้โกกันได้บ่อย ๆ เพราะปัจจัยวิตามินเอ็ม มันต้องเอื้ออำนวยด้วย

"นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่ง Long White Cloud"
มีเพื่อนหลายคน เขียนเรื่องนี้กันเยอะแล้ว รูปแต่ละคน ก็สวย ๆ ทั้งน้านนนน จนเราอายที่จะเอามาลงเลย มันคนละชั้นกันเลยน่ะ บางคนก็เขียนจนได้ดิบได้ดี มีหนังสือเป็นของตัวเอง


เวลาจะโกอินเตอร์ซะที บางคนจะงงกับตัวเองว่า จะเริ่มต้นยังไงดี จะหาข้อมูลยังไง อะไรมั่ง หาจากไหน โอ้ยยย ปวดหัว ยิ่งคนที่โกอินเตอร์เอง เป็นครั้งแรก ยิ่งแล้วใหญ่ (เพื่อนเรามันก็เป็นกันแบบนี้)

- สรุปจำนวนวันที่จะโกอินเตอร์ให้ลงตัวซะก่อน
- ตั้งเป้าหมายว่าจะไปประเทศไหนบ้าง
- ลอง Search หาตั๋วเครื่องบิน ดูก่อนว่า ช่วงนั้นพอจะมีว่างมั๊ย
- ดูแผนที่ ของประเทศนั้น ๆ ดูว่าเมืองที่สำคัญ ๆ อยู่ตรงไหนบ้าง
- กำหนดสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจ โดยหาจากหนังสือแนะนำท่องเที่ยว หรือตั้งป้อมที่ //www.google.co.th รึไม่ก็หาเพื่อนใหม่จากเวบท่องเที่ยวต่าง ๆ มีเพื่อน ๆ ที่เคยไปเที่ยวมาแล้ว เราก็สามารถสอบถามกันได้ ทุกคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อข้อมูลให้อยู่แล้ว
- เมื่อได้สถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ก็ดูการเดินทางจากจุดต่อจุด ว่าจะนั่งรถไฟ รถเมล์ รึว่าจะเช่ารถขับเอง รึว่าจะนั่งเครื่องเลย
- ถ้าจะต้องเช่ารถ ก็อย่าลืมไปทำใบขับขี่สากลมาซะก่อน ไปทำได้ที่ขนส่ง 500+5 บาท รอรับได้เลย ประมาณ 1 ชั่วโมง .... เราสนใจบริษัทเช่ารถแบบไหน แบบอินเตอร์ (เช่น Avis, Budget, Hertz) ราคาแพงหน่อย แต่ไว้ใจได้เรื่องรถ เรื่องสถานที่บริการ ที่มีอยู่หลายเมือง ถ้าเอาถูกหน่อย เผื่อเก็บตังค์ไว้ช้อปปิ้ง ก็บริษัทท้องถิ่นเลย
- ถ้าต้องนั่งรถไฟ ก็พิมพ์ตารางเวลารถไฟมาท่องให้ขึ้นใจ จะได้ไม่ตกรถไฟ
- ถ้าจะนั่งรถเมล์ ของ Search หา Transportation ในเมืองนั้น ๆ
- สถานที่ต่าง ๆ ที่จะใช้บริการ หรือจะเข้าชม ก็หาเวบเข้าไปเช็คราคาซะก่อนเลย รับเงินสด หรือบัตรเครดิต รึเปล่า จะได้เตรียมเงินสดให้พร้อม
- ที่พัก ก็อยู่ที่สไตล์ใครสไตล์มันหละ Search หา Accommodation เดี๋ยวก็ออกมาเป็นชุด บางที่ก็จองผ่านเน็ตได้เลย เค้าอาจจะขอเลขที่บัตรเครดิตไว้ แต่ยังไม่ชาร์ช ถ้าจะยกเลิกก็ขอให้บอกเค้าล่วงหน้าตามเงื่อนไขที่เค้ากำหนดไว้ละกัน ที่พักมีหลายประเภท ทั้งหรูหราราคาแพง หรือปานกลาง บริการสมราคา หรือแบบมีห้องครัวด้วย หรือแบบนอนรวม ๆ กัน ห้องน้ำรวม หรือแบบ Bed&Breakfast
- อาหารการกิน ถ้าเป็นพวกขาดอาหารไทยไม่ได้เลย ก็ลองสอบถามดูว่า ประเทศนั้น ๆ สามารถพกอาหาร เครื่องปรุงไทย ๆ เข้าประเทศได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ จะมีร้านอาหารไทย หรือซุปเปอร์ขายเครื่องปรุงไทย ๆ รึเปล่า ส่วนร้านอาหารทั่ว ๆ ไป ก็หาจากเน็ตเอาไว้ดูเป็นไกด์ก็ได้
- เช็คสภาพอากาศช่วงที่จะเดินทางด้วยว่า เป็นอย่างไร จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม ... เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสถานที่ที่จะไปด้วย ไม่ใช่ว่า ไปเดินตามทุ่ง ตามป่า แต่พี่เล่นเอาเสื้อคลุมตัวพริ้ว สีชมพู มีขนปุย แบบบริทนีย์ เพลงลัคกี้ นั่นก็ไม่ค่อยจะเข้ากันซักเท่าไหร่เล้ย
- จัดกระเป๋าขาไป ให้เผื่อเนื้อที่ไว้ด้วย อย่าจัดซะเต็มกระเป๋า เดี๋ยวขากลับ มันจะไม่พอใส่ของฝาก ... เว้นเสียแต่ว่า จะไม่เสียดายเสื้อผ้า ทิ้งมันไว้ที่นั่นแหละ เพื่อเพิ่มเนื้อที่เก็บของฝาก
- เอกสารทุกอย่าง ที่จำเป็น และสำคัญ ให้ถ่ายเอกสารเก็บไว้ด้วย เผื่อใช้ยามฉุกเฉิน
- ร่ม และยาสามัญ คือสิ่งที่เราไม่เคยลืมที่จะพกไปเลย ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ตาม
- อ้อ อย่าลืมตรวจสอบพาสปอร์ตตัวเองด้วย มีหลายคน เกือบต้องตายตอนจบ เพราะเตรียมทุกอย่างแล้ว แต่พาสปอร์ตหมดอายุ หรือเหลือไม่ถึงหกเดือน

ทีนี้ก็เที่ยวให้สนุกนะคะ


Create Date : 24 มิถุนายน 2549
Last Update : 26 มิถุนายน 2549 13:30:51 น. 5 comments
Counter : 384 Pageviews.

 
ชอบทะเลเหมือนกันคะ เอารูปมาลงซิคะจะตามมาดูนะ


โดย: NIRISSA (NIRISSA ) วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:6:43:11 น.  

 
แหะๆ ชอบหัวข้อไดอารี่วันนี้จัง คอนเซ็ปต์เดียวกันเลย


โดย: ริมยมนา วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:8:39:22 น.  

 
นอน กิน อยู่กะทะเลมันได้ทั้งวัน
...
มีที่ไหนแนะนำบ้างครับ


โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:13:51:14 น.  

 

เราก็อยากกินนอนที่ทะเลนะ ชอบง่ะ ธรรมชาติดี เราไม่กลัวตัวดำ ยิ่งดำยิ่งดี อิอิ




โดย: Malee30 วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:14:45:30 น.  

 
เราก็เป็นคนนึงแหล่ะ ที่รักทะเลไทยที่ซู้ด


โดย: miss Florence in Venice วันที่: 25 มิถุนายน 2549 เวลา:2:41:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Travellor
Location :
ระยอง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทั้งชีวิต สนใจอยู่ไม่กี่อย่าง งาน เงิน ครอบครัว แต่สิ่งที่ต้องคอยเติมให้ครอบครัว คือประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้จากการเดินทาง ไม่ว่างานจะเป็นยังไง เศรษฐกิจจะเป็นยังไง ก็ยังหาเรื่องเที่ยวได้ทุกทีสิน่า
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Travellor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.