ความสุขของใจ.. รับรู้ได้ภายในตน
Group Blog
 
All blogs
 
เจอผี ครั้งแรก.. ~มันมากับเสียง~

สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ที่คนเราไม่อยากจะเจอ.. ก็คือ “กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น”
ใครเล่าจะกล้าปฏิเสธอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ผีไม่มีจริง!!

ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะปฏิเสธสิ่งเหล่านั้น แต่ทว่า....

.........................
....................
................

“ไปวัดไหม ?”
“ไป”
คำถามง่ายๆ พร้อมคำตอบที่ไม่คิดอะไรมาก
..ไม่ต้องคิดว่า เป็นวัดที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

หลังได้ยินคำตอบของน้องสาวที่ขึ้นชื่อว่า ผีไม่กลัว แต่กลัวคน (เกี่ยวกันไหมนี่ - -“)
พี่ก็หันหน้ามา.. เพื่อบอกว่า .. “ไปค้างนะ”
ค้างเหรอ (คิดในใจ) พร้อมตอบว่า “อืม... ไป”

....................................................................................................

ฤกษ์ดียามดี ยามที่เราว่างพร้อมกัน เตรียมตัวสแตนบาย พร้อมกระเป๋าเป้ใบเท่ สิ่งของและเสื้อผ้าไม่ต้องเอาไปเยอะ เพราะไปค้างแค่คืนเดียว ว่าแล้วทั้งพี่ทั้งน้องก็ลุยโลดไปยังวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกรุงเทพ
เมื่อไปถึงวัด สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก.. คือเข้าโบสถ์เพื่อไหว้พระ ขณะที่กำลังก้าวเข้าโบสถ์หรือที่นั่นเรียกว่า “วิหารร้อยเมตร” ซึ่งตั้งชื่อตามเนื้อที่ที่ตั้งอยู่ อาการแรกที่มีต่อวิหารนี้คือ ยืนอึ้ง.. และอึ้ง เพราะความแวววาวระยิบระยับพร่างพราวเต็มสองจักษุ
“โอ้..อะไรกันนี่” เผลอหลุดปากอุทาน หลังจากยืนอึ้งได้นาทีกว่า
จากนั้นถึงได้ยินเสียงใจดีๆ แว่วมาว่า “จะมาไหว้พระหรือจ๊ะ”
“ค่ะ” ตามองไปตามเสียง พร้อมตอบกลับไป
“เอ้านี่จ๊ะ เลือกได้ตามใจเลยนะ” คุณป้าในชุดขาวท่าทางใจดี บอกต้อนรับเด็กสาวที่ท่าทางเหมือนพึ่งมาวัดครั้งแรก และสิ่งที่คุณป้าให้เลือกก็คือ ชุดไหว้พระ ที่มีทั้งสีทอง และสีเงิน
ฉันเลือกชุดไหว้พระสีทอง พร้อมทั้งหยอดเงินทำบุญไปสิบบาท มองหาพี่ พี่ก็เดินลิ่วๆ นำหน้าไปแล้ว
หลังจากไหว้พระเป็นที่ชื่นใจ และอิ่มตาเพราะแสงพร่างพราวนั้นแล้ว พี่ก็พาไปกราบนมัสการหลวงพี่ ที่พี่ชายเคยมาคุยกับท่านครั้งหนึ่ง ท่านก็ชวนคุยทักทาย พร้อมทั้งถามว่า ได้ไปติดต่อห้องพักแล้วหรือยัง เลยลาท่านเพื่อไปสำนักงานจัดการเรื่องนี้
ก่อนลาท่านพูดว่า.. “คืนนี้ ถ้ากลัวให้สวดมนต์นะ“ เสียงท่านพูดลอยๆ ไม่เจาะจงว่าจะพูดกับใคร แต่ในใจ ทำไม๊ ถึงรู้สึกว่าเป็นเรานะ

คืนนั้น ท้องฟ้ายังคงเป็นท้องฟ้า ความสว่างหนีหาย มีแต่ความมืด ก่อนนอนยังจำถึงคำพูดของหลวงพี่ที่บอกลอยๆ มาได้ ถึงแม้ว่า ผีเผลออะไร ไม่เคยเห็น ไม่เคยสน แต่ความปลอดภัยของตนเอง ต้องมาเป็นอันดับแรก จึงเริ่มกอดหมอน เฮ้ย.. วางหมอนไว้ข้างหน้า และนึกถึงพระเป็นสรณะที่พึ่ง ก่อนจะสวดมนต์ หลังสวดมนต์ เพิ่มความมั่นใจอีกนิดว่า “ถ้าผีมาหลอกจริง ก็ขอให้อย่าได้กลัว..”
ยิ้มกริ่มว่า อย่างไรๆ ต้องไม่โดนแน่ จึงล้มตัวลงนอน
“อืม หือ หืม.. แกะตัวที่...พัน” เสียงในใจที่นับแกะ หลายตัว จนเป็นฝูงแล้ว ฉันยังคงนอนพลิกตัวกระสับกระส่ายเพราะความไม่ชินกับสถานที่
“นี่มันกี่โมงแล้วนี่” เปิดดูเวลาที่มือถือ แล้วหันไปมองพี่ ความอิจฉาเริ่มมี เพราะพี่หลับปุ๋ยและฝันไปไหนถึงไหนแล้ว แต่เรามัวแต่มานอนนับแกะ
“ชิ...” หลังจากส่งค้อนไปที่พี่ตัวเอง ก็มาปลงใจใหม่ “เอ้า.. นอนๆ คนจะนอน ใครจะขวาง ฮึ”
หลับตาทำสมาธิ.. เริ่มนับแกะต่อ.. ตัวที่พันหนึ่ง.. พันสอง... .. .. สอง...งพัน...น เคลิ้มๆ จะหลับ และหลับไปในที่สุด

“ขอ...... ขอ..........อ ขอ................อ” เสียงยานๆ ฟังขนลุก ค่อยๆ ดังขึ้น เหมือนไล่ระดับเสียงเดซิเบล
“โอ๊ย.. เสียงใครเนี่ย หนวกหูจริงเชียว รู้ไหมว่า กว่าจะหลับได้นับแกะไปตั้งกี่พันตัว”

“ขอ................ ขอ...........................อ ขอ........................................อ” เสียงนั่นก็ไม่ยอมแพ้ ร้องขออย่างโหยหวน
“ขอ? จะขออะไรกันหนวกหู เอ้า อยากได้เอาไป”
“........................”

........................................................................................................

จิ๊บๆ.. เสียงสัญญาณบ่งบอกว่าเช้าแล้ว ตื่นนะตื่น งัวเงียๆ ตื่น เหมือนเมื่อคืนหลับไม่พอ จัดเก็บที่นอน เตรียมตัวไปทำบุญตอนเช้า พร้อมกับพี่
“ฮี่ๆ .. การทำบุญมันดีอย่างนี้เอง หัวเราะได้เหมือนมีสารแอนโดฟินฉีดอยู่ตลอดเวลา”
เสียงเจือยแจ้วของน้องสาว คุยให้พี่ชายฟังถึงผลของการทำบุญ ซึ่งได้ผลทันตา หลังจากสะลึมสะลือเหมือนโดนผีอำ
“อ่ะ ผีอำ?” เหมือนคิดอะไรได้
“แต่... ไม่หน่า... ไม่น่าใช่” สติเริ่มตริตรองกับสิ่งที่คิด พร้อมทั้งเหลือบๆ มองผู้เป็นพี่ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
“ทำไม พี่เราทำเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ... อืม... คงไม่มีอะไรมั้ง” คิดได้ดังนี้ เริ่มสบายใจ



“อ้าว.. เป็นไง เมื่อคืนหลับสบายไหม” คำทักทายจากหลวงพี่ หลังจากรับการกราบของสองพี่น้องแล้ว
“สบายดีครับ/คะ” สองศรีพร้อมใจกันตอบ แต่ไม่วายมีเสียงคนน้องบ่นออกมาว่า “กว่าจะหลับ ล่อไปตีสอง ตีสาม เลยคะ” เป็นเสียงเสริม
หลวงพี่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี “งั้นเหรอ ดีแล้วที่เมื่อคืนให้เขาไป ไม่งั้นคงนอนไม่หลับยันเช้าแน่”

“ห๊ะ ว่าไงนะคะ” เหมือนได้ยินไม่ชัด จึงผลั้งปากถามออกไป
“ก็เมื่อคืนให้เขาไปแล้วนี่ เขาถึงได้ไป ไม่งั้น....”

“ไม่งั้น... อะไรอ่ะหลวงพี่” T_T
ท่านเหมือนยิ้มให้กำลังใจ พร้อมกับพูดว่า “ไม่งั้น.. เขาจะมาหาใหม่”

“.........!!........” ตัวชาเลยอ่ะคะ เจอทักแบบนี้เข้าไป

นี่หนูเจอของจริง ผีหลอกจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย T_T

หลวงพี่เห็นหน้าแล้วยิ้มขำ พร้อมกับพูดปลอบใจ "ให้ส่วนบุญเขาไปแล้ว เขาไม่มาแล้วล่ะ"

"โฮ่" ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมกับพูดว่า "โธ่ หลวงพี่ เล่นหนูใจแป้วเลย"

หลวงพี่หัวเราะอย่างขำ พร้อมให้พร ขอให้ปลอดภัยจากการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
..........................................................................................................



Create Date : 23 พฤษภาคม 2551
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 10:54:22 น. 0 comments
Counter : 296 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สัมผัสรักในใจเรา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ลายปากกา
Friends' blogs
[Add สัมผัสรักในใจเรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.