ความสุขของใจ.. รับรู้ได้ภายในตน
Group Blog
 
All blogs
 
เจอผีครั้งที่สี่ ~ตัวเลขกับภวังค์~

“รางวัลที่หนึ่ง หมายเลขที่ออกได้แก่…..” เสียงเจ้าหน้าที่ประกาศดังก้องออกมาจากลำโพงวิทยุ
“เจ็ด... ห้า.... สี่....”
“ตึกๆ.. ” เสียงหัวใจที่รอลุ้นหมายเลขสามตัวด้านหลัง
“สาม... สอง....”
“อีกตัวเดียว” เสียงในใจลุ้นขึ้นไปอีก พร้อมหัวใจเต้นเป็นจังหวะแทงโก้
“ห.....” เสียงเจ้าหน้าที่ประกาศ หลุดลอดออกมาเพียงแค่ตัวหอหีบ ก็ถูกเสียงอื่นเข้ามาขัดจังหวะดัง “แก๊กๆ...” เหมือนมีคนมาบิดประตู ตามด้วยเสียงอุทาน “เอ๊ะ“ เมื่อรู้ว่าประตูล๊อคอยู่
“อ้าว มีคนอยู่ห้องน้ำเหรอคะ ขอโทษคะ” พร้อมกับคำขอโทษที่จากไป
“โธ่..” จ๋าลืมตาตื่นขึ้นจากภวังค์ ขณะนั่งหลับในห้องน้ำ และไม่วายบ่นอย่างเสียดายว่า “อีกตัวเดียวแท้ๆ..”

........................................................

“จ๋า” หรือ “พี่จ๋า” ตามที่น้องรินเรียก ทำงานที่บริษัทดี๊ดี มานานเป็นสิบปีแล้ว เธอไต่เต้ามาจากลูกจ้างรายวันที่ต้องนั่งแพ็กสินค้าจนกระทั่งได้มาเป็นเสมียนด้วยความภูมิใจ เพราะได้รับเงินเดือนที่มากขึ้น และเป็นที่นับถือของบรรดาเพื่อนร่วมงานที่เป็นลูกจ้าง

ถึงแม้วุฒิการศึกษาของพี่จ๋าจะน้อย แต่วุฒิประสบการณ์การทำงานไม่น้อย เถ้าแก่เห็นแววเธอ เพราะเธอมีความไหวพริบดี และลายมือเธอสวย จึงได้ให้มาทำหน้าที่เป็นเสมียน เพื่อเปิดบิลส่งของ รับโทรศัพท์ และโทรตามลูกค้าเพื่อหาออเดอร์

บริษัทดี๊ดี เป็นบริษัทเล็กๆ มีระบบการบริหารงานแบบเอสเอ็มอี ในห้องออฟฟิคจึงรวม เถ้าแก่ เสมียน พนักงานฝ่ายขาย และพนักงานบัญชี ทั้งหมดอยู่ในห้องเดียวกันอย่างสนิทชิดเชื้อ

ส่วนใหญ่โต๊ะพนักงานฝ่ายขายจะว่าง เพราะเจ้าของโต๊ะต้องวิ่งไปหาลูกค้าทั้งวัน

ผู้ที่นั่งติดโต๊ะจึงมีเถ้าแก่ที่นั่งทำงานและคุมงาน, โต๊ะเสมียนก็มีพี่จ๋า ผู้คอยช่วยงานเถ้าแก่ คล้ายๆ เป็นเลขาฯ ไปในตัว, และโต๊ะพนักงานบัญชี ก็คือ น้องริน ลูกสาวเถ้าแก่ ซึ่งพึ่งจบมาไม่นาน ก็ถูกเรียกมาใช้งาน

ที่หลังโต๊ะเถ้าแก่ มีกรอบรูปสี่เหลี่ยมล้อมกรอบด้วยสีทอง กรอบหนึ่ง แขวนอยู่, ในกรอบรูป มี ชายหญิงชราชาวจีนคู่หนึ่ง นั่งอยู่ภายในกรอบรูปนั้น ซึ่งก็คือ อาก๋งและอาม่าของน้องรินนั่นเอง

ทุกๆ วันจะมีการยกน้ำชามาไหว้บรรพบุรุษในตอนเช้าตามธรรมเนียมของสำนักงานนี้ และถ้าลูกน้องคนใดเดินเข้ามาในห้องออฟฟิค แต่ละคนต้องยกมือไหว้เถ้าแก่ และไหว้เลยขึ้นไปถึง “อดีตเจ้าของบริษัท” ด้วยความเคารพ

..........................................................................................

“นี่ริน พี่จ๋าล่ะเสียดาย” เสียงพี่จ๋าเดินบ่นเข้ามานั่งที่โต๊ะ ในห้องออฟฟิค

“เสียดายอะไรเหรอพี่” รินเหงยหน้าจากเอกสารที่ทำอยู่ ขึ้นไปมองหน้าพี่จ๋า และพี่จ๋าก็เล่าเหตุการณ์ที่เธอกำลังเข้าภวังค์ในห้องน้ำให้ฟัง

“โห... “ เสียงรินโห่

“น่าเสียดายใช่ไหม ริน”

“ไม่ใช่ พี่จ๋านี่สุดยอด” เสียงรินอุทาน ตามด้วยคำพึมพำเบาๆ ที่พี่จ๋าไม่ได้ยิน “เข้าภวังค์ด้วย..”

เสียงอุทานดังเป็นครั้งที่สอง เมื่อได้ยินพี่จ๋าเล่าว่า ขณะที่กำลังล้างมือ เธอได้ยินเสียงจิ้งจกทัก จึงได้ตีเป็นเลข “สุดยอดดิจิตอลเกริ์ลจริงๆ...” เสียงครั้งนี้ดังพอทำให้พี่จ๋าได้ยิน

พี่จ๋าทำหน้างง และเริ่มยิ้มเมื่อได้ยินคำเฉลยจากน้องริน “นักวิเคราะห์ตัวเลขหญิงไง พี่จ๋ามาทำงานแทนรินได้เลยนะ”

และทั้งสองต่างเริ่มนั่งทำงานต่อ


...........................................

“จั๊กๆๆๆ” เสียงจิ้งจกที่เคยทักตอนล้างมือ เป็นเหตุให้พี่จ๋ามุมานะพยายามเข้าไปอีกในการตีตัวเลข เพราะเธอได้ถูกหวยไปแล้วหลังเล่นเลขท้ายสองตัวตามที่ตีได้จากเสียงนี้

“น้องริน น้องริน” เสียงแม่บ้านอิ้ว เรียก เมื่อรินกำลังเดินเข้าไปในห้องครัว เพื่อชงเครื่องดื่มในระหว่างพัก
“อะไรคะ”
“น้องรินรู้ไหม เสมียนจ๋าน่ะ เข้าห้องน้ำที นานตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง” แม่บ้านอิ้วเริ่มนินทาให้รินนักบัญชีฟัง “พวกคนงานน่ะ จะเข้าห้องน้ำก็เข้าไม่ได้ พี่ก็ช่วยดูให้ว่าจะออกมาเมื่อไหร่ เพราะนึกว่าคนที่เข้าไปคงจะไปกินอะไรผิดสำแดงทำให้ท้องไส้ไม่ดี ทีแรกน่ะไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร แต่เสียงพึมพำๆ ที่ดังลอดออกมานี่สิ” แม่บ้านอิ้วเริ่มร่ายยาวด้วยความอัดอั้น “เป็นเสียงเสมียนจ๋าน่ะสิ พึมพำๆ อะไรก็ไม่รู้เป็นห้าๆ เจ็ดๆ ”

นี่เป็นเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้พี่จ๋ามีชื่อเสียงเป็นที่ร่ำลือในหมู่พนักงานด้วยกัน ส่วนใหญ่อยากรู้ว่า พี่จ๋าจะตีเป็นเลขอะไร เผื่อว่าจะมีโชคกับเขาบ้าง คนส่วนน้อยก็เซ็งจัดเพราะต้องรอเข้าห้องน้ำ (เนื่องจากคนส่วนใหญ่ห้ามไม่ให้เคาะเรียกเมื่อรู้ว่าพี่จ๋าเข้าห้องน้ำ)


…………………………………………………

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป..
เช้าตรู่ของวันจันทร์ ณ ห้องออฟฟิค...

“ไง พี่จ๋า หายท้องเสียแล้วหรือยังคะ” รินส่งเสียงทักทายแซวพี่จ๋า หลังได้ยินเสียงร่ำลือมาถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม และยกมือไหว้ “อาก๋ง อาม่า” ของตน ที่แขวนอยู่หลังโต๊ะเถ้าแก่

“.........(พึมพำๆ)...........”

รินมองหน้าพี่จ๋า เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับอย่างเคย และเห็นพี่จ๋าพึมพำๆ อะไรไม่รู้ พร้อมมือที่มีอาการสั่นน้อยๆ กำลังถูกบีบเข้าหากันของเจ้าของ

ปฏิกิริยาของพี่จ๋า ทำให้รินเกิดความสงสัยในใจ “พี่จ๋าเป็นอะไร ? ปกติต้องทักทายเรา พร้อมเล่าเรื่องตัวเลขที่ถนัด เอ...น่าแปลก เสียงที่พึมพำก็ไม่ใช่เสียงตัวเลขเสียด้วยสิ“

“กริ้ง...ง” สัญญาณโทรศัพท์ดังเข้ามา ทำให้ความสงสัยถูกละไว้ และเริ่มต้นวันใหม่ของการทำงาน

...............................................

ช่วงพักเบรก สิบโมงเช้า ที่ห้องครัว..
“น้องริน น้องริน” แม่บ้านอิ้วทัก และทำหน้าอยากเล่าหรือระบายอะไรเต็มแก่ ขณะที่รินกำลังเทน้ำเย็นลงแก้ว
“รู้ไหมว่า เดี๋ยวนี้เสมียนจ๋าเข้าห้องน้ำ แล้วไม่ยอมปิดประตู ! “ แม่บ้านอิ้วฟ้องทันที “เสมียนจ๋าน่ะ ให้น้าคอยยืนข้างๆ ประตู เพื่อกั้นคนไม่ให้เข้าห้องน้ำ เวลานั่งส้วมอยู่ เฮ้อ.. โชคดีหน่อยที่เสมียนจ๋ารีบเข้ารีบออก” แม่บ้านอิ้วทำน้ำเสียงถอนหายใจ
“พี่จ๋าเป็นอะไรเนี่ย” เสียงรินพูดปนสงสัย และตอนนี้กำลังคิดถึงอาการที่เกิดขึ้นของพี่จ๋าในช่วงเช้า
“น้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เฮ้อ.. เสมียนจ๋านะ เสมียนจ๋า...” แม่บ้านอิ้วบ่นไม่เลิก


...........................................................

“พี่จ๋า พี่จ๋า.. ทำไมพี่จ๋าเข้าห้องน้ำไม่ล๊อคประตูล่ะ ?” รินยิงคำถามใส่คนที่อายุมากกว่าตนเองทันที ที่เข้าห้องออฟฟิค
เป็นคำถามที่เข้าเป้ามาก ทำให้พี่จ๋าเลิกเหม่อลอยแล้วหันหน้ามาหาริน พร้อมตอบว่า “พี่กลัวน่ะ”
“กลัวอะไรคะ ? ” รินถามด้วยความไม่เข้าใจมากขึ้น
“กลัวอาม่าของรินน่ะสิ !!”


O _ o “ (เป็นใบหน้าของฉันที่มองพี่จ๋า)


พี่จ๋าเริ่มอธิบายด้วยตาแดงๆ “อาทิตย์ที่แล้ว วันเสาร์ ตอนบ่าย ขณะที่พี่นั่งอยู่ในห้องน้ำ และกำลังทำตาเคลิ้มๆ เพื่อให้ตัวพี่เองเห็นตัวเลข ศูนย์ถึงสิบ อยู่”

เสียงกล้ำกลืนดัง “อึก” เหมือนพยายามกลืนน้ำลายที่ติดอยู่ลงคอ

“อยู่ๆ นะ” พี่จ๋า เริ่มเอามือปิดหน้าตัวเอง

แล้วพูดอู้อี้ต่อไปว่า “พี่ก็ตกใจ เพราะรู้สึกว่ามีคนจ้องหน้าพี่อยู่ พี่จึงเงยหน้าขึ้นมอง พี่เห็น.. พี่เห็น...“ พี่จ๋าเริ่มพูดจาติดอ่าง

“ใบหน้าผู้หญิงคนจีนอายุมาก ที่หน้าตาเหมือน... เหมือน....” เสียงพูดยังไม่ทันจบประโยค พี่จ๋าก็ยกมือชี้ไปที่กรอบรูปที่แขวนอยู่ด้านหลังโต๊ะของเถ้าแก่

“เหมือนภาพในกรอบรูปที่แขวนอยู่ด้านหลังโต๊ะของเถ้าแก่เลยนะสิ !!” พี่จ๋าซุกใบหน้าลงบนมืออีกครั้งอย่างผวา

รินหันหน้ามองตามมือที่ชี้ไปยังภาพนั้น เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย กำลังส่ง “ยิ้ม” ให้รินอยู่ !!



…………….……………………………
:: เบื้องหลัง (ภาพ) ::

หนึ่งสัปดาห์ก่อน...
“อาม่า.. “ เสียงในใจของริน ขณะยกมือไหว้บรรพบุรุษของตนเอง พร้อมฟ้องอะไรบางเรื่องให้อาม่าฟัง, บางเรื่องที่ว่า ก็คือ เรื่องที่พี่จ๋าแอบไปนั่งอู้ในห้องน้ำตั้งนานสองนาน !!

และหลังรู้ว่า.. การขอของตนสัมฤทธิ์ผล
“เซี๊ยะๆ .. “ หนูรินรีบไปขอบคุณอาม่า และซาบซึ้งเมื่อรู้ว่าอาม่าตน ยังคงคอยดูแลปกป้อง ตนและปะป๋าอยู่ ว่าแล้วรินก็หันไปยิ้มยิงฟันให้อาม่า และ.. ถ้าตาของรินไม่ฝาดนะ.. รินเห็นอาม่า.. “ยิ้ม” ใจดีตอบกลับมาอีกครั้งด้วย.. !!

^________^

.........................................................

:: เบื้องหลัง (งานเขียน) ::

“เอ..คุณแม่ เสียงจิ้งจกทักเป็นเสียงยังไงคะ ใช่จกๆ หรือเปล่า” หนูรินร้องถามคุณแม่ ขณะที่มือกำลังพิมพ์ไปพร้อมหัวเราะไปกับสิ่งที่ตนเขียน (บ้าไปแล้วฉัน - -‘)

คุณแม่ทำท่าคิด และตอบกลับ “จ๊กมั่งลูก”
พี่ชายที่นั่งข้างๆ ก็ผสมโรง “จั๊กๆ”
คุณพ่อมองหน้า คงอยากรู้ว่าถามไปทำไม

ได้คำตอบที่หลากหลาย หนูรินก็ยังคงไม่แน่ใจ และในคืนนั้นเอง คำตอบก็มา...หา

ช่วงเวลาสองทุ่ม ระหว่างที่หนูรินยังคงทุ่มเทกับพล๊อตเรื่องนี้ ในใจยังคงคิดถึงเสียงจิ้งจกทัก “ตกลงมันเป็น จ๊ก หรือ จัก หรือ....อะไรหว่า“
เหมือนฟ้าประทาน จิ้งจกบนผนังเริ่มส่งเสียงร้องทักทายมาให้ได้ยิน
“เอ่อ.. ขอบคุณนะที่ช่วยกันทำมาหากิน” หนูรินร้องบอก
“จั๊กๆๆๆ” เหมือนเจ้าจิ้งจกมันฟังหนูรินพูดรู้เรื่อง ดีใจร้องใหญ่ และดูเหมือนจะเป็นจิ้งจกที่ใจดีมาก โดยกลัวว่าหนูรินจะลืมเลือนเสียงอันไพเราะของมัน ยังคงส่งเสียงร้องทักไปเรื่อยๆ.. เรื่อยๆ... เรื่อยตั้งแต่สองทุ่มยันสามทุ่ม (โอ้..พระแม่เจ้า) หนูรินรู้แล้วจ้า พอได้แล้ว
T_T

......................................................................



Create Date : 07 มิถุนายน 2551
Last Update : 7 มิถุนายน 2551 11:07:22 น. 0 comments
Counter : 316 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สัมผัสรักในใจเรา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ลายปากกา
Friends' blogs
[Add สัมผัสรักในใจเรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.