Group Blog
 
All Blogs
 

17 ปีเต็มกับรางวัลชนะเลิศ เหรียญทอง Impromptu Speech ของภาคใต้

กลับมาจากสตูลแล้วค่า และกลับมาพร้อมรางวัลชนะเลิศ เหรียญทอง ด้วยคะแนน 96.60 ของการแข่งขัน Impromptu Speech ระดับภาคใต้

 

ถือเป็นรายการใหญ่ของเกาทัณฑ์สำหรับภาษาที่สองของเขา ความจริงเด็กเคยแข่ง Impromptu ของรายการนี้แล้วเมื่อตอนอยู่ประถม 3 ค่ะ แต่ตอนนั้นได้เหรียญเงินเลยไม่ได้เป็นตัวแทนของจังหวัด พออยู่ประถม 5 แข่ง Story Telling ก็ได้เหรียญเงินอีก คราวนี้เลยเหมือนเป็นการเอาชนะตัวเอง เด็กก็ทำได้ตั้งแต่เป็นตัวแทนโรงเรียน ตัวแทนจังหวัดจนชนะการแข่งขันระดับภาค ดีใจกับลูกด้วยครับ ทำสำเร็จแล้ว!!! หลังจากที่ต้องซ้อมกับ Teacher Enow กับ Teacher Roderick มาตลอด 3 เดือน ทั้งตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียน และตอนเย็นหลังจากเรียนเสร็จ
 

ทีนี้แม่ขอเล่าบรรยากาศการเดินทางไปแข่งขันดีกว่า เริ่มจากออกเดินทางกันเลย เนื่องจากน้องทัณฑ์มีโปรแกรมแข่งขันวันที่ 19 เราก็เลยออกเดินทางกันในวันที่ 18 จากภูเก็ตตรงไปสตูลค่ะ
 

ออกจากบ้านตอนเก้าโมง ป๊าบอกขับสบายๆ น่าจะไปถึงสักสี่โมงเย็น
 

ความจริงทางโรงเรียนก็ได้จัดรถตู้ไว้ให้สำหรับครูและเด็กๆ เพื่อเดินทางไปแข่งขันนะคะ แต่คุณเกาทัณฑ์ให้พ่อแม่ไปด้วย เราเลยขับรถไปเองสามคนพ่อแม่ลูก
 

เดินทางแบบ Road Trip ปวดฉี่และแวะกินตลอดทาง ร้านแรกเป็นอาหารกลางวันที่กระบี่ เราแวะที่ร้านเรือนไม้ค่ะ อาหารอร่อย บรรยากาศดี
 

เจอฝนที่ตรังปรอยๆ แต่ถนนเลี่ยงเมืองสวย ป่ายางและต้นปาล์มทำให้นึกถึงภูเก็ตเมื่อสักยี่สิบปีก่อน เราเลือกที่พักในสตูล อยู่บนถนนไฮเวย์ก่อนถึงโรงเรียนที่จัดการแข่งขันราว 70 กิโลเมตร ทางเลือกไม่มากนักเนื่องจากสตูลเป็นจังหวัดเล็ก และทุกโรงเรียนในภาคใต้มุ่งหน้าสู่สนามแข่งขันเดียวกัน

แต่เราก็โชคดีจองที่พักได้สะอาด น่ารัก และเจ้าของใจดีสุภาพมากค่ะ ด้านหน้าเป็นร้านอาหาร กาแฟ และเบเกอรี่ ส่วนด้านหลังเป็นที่พักชื่อ Tori's Bakery House ค่ะ
 

เราใช้บริการเต็มที่เลย กินทุกอย่าง ฮา เนื่องจากบริเวณนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ เลยกลายเป็นจบทุกอย่างในที่พักเลย สะดวกสบายดี นอนในป่ายางกันเลย สวยยยยย
 

น้องทัณฑ์กินข้าวซาบะย่างซีอิ๊ว อร่อยแล้วก็ชิ้นใหญ่มาก กาแฟสดที่นี่ก็หอมกลมกล่อมค่ะ พ่อกับแม่ได้กาแฟคนละแก้วในเช้าวันแข่งขันของลูกทำให้มีแรงสู้ชีวิตได้ทั้งวัน

อาหารเช้าเราขอเสิร์ฟเช้ามาก เพราะต้องออกเดินทางต่ออีก 1 ชั่วโมงจึงจะถึงสถานที่แข่งขัน เจ้าของที่พักใจดีจัดข้าวต้ม ขนมปัง ไข่ดาว แล้วยังแถมกาแฟสดฟรีด้วย น้องทัณฑ์ได้โกโก้เย็นแก้วโตก่อนไปแข่งขัน บอกว่าอร่อยมาก ประทับใจทุกอย่างเลย
 

เราไปถึงโรงเรียนสตูลวิทยาประมาณ 7 โมงเช้า ได้ไปเจอคุณครูและเพื่อนๆ เสร็จแล้วก็รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ดูแลการแข่งขัน แล้วช่วงเวลาการรอคอยของพ่อแม่ก็เริ่มขึ้น เมื่อในรายการนี้มีคนเข้าแข่งขันเกือบ 30 คน และน้องทัณฑ์ได้แข่งเป็นคนรองสุดท้าย เราก็นั่งรอตั้งแต่ 8.30 น. พอถึงเที่ยงลูกก็ลงมาหาแล้วบอกว่ากรรมการให้ไปกินข้างกลางวันก่อนแล้วค่อยกลับมารอแข่งอีกครั้ง

ซึ่งกว่าจะได้แข่งจริงๆ ก็เกือบ 15.30 น. จากที่เคยสดชื่นกลายเป็นเบื่อไปซะแล้ว โชคดีเด็กมี AirPods ไปฟังเพลงในระหว่างที่รอ ไม่งั้นต้องเบื่อแน่ๆ มีขอลงมาจากตึกเพื่อเข้าห้องน้ำและดื่มน้ำเป็นระยะ พ่อแม่ก็นั่งรอที่ชั้นล่างของอาคารเรียนไปแบบไม่มีกำหนด จนกระทั่งเกือบสี่โมงเย็นทุกอย่างก็เรียบร้อย เด็กลงมาหาด้วยรอยยิ้ม แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้ผลการแข่งขันนะคะ

หลังจากถ่ายรูปกับครูและเพื่อนๆ ที่ไปแข่งขันเสร็จก็ขอกลับเลย โดยคืนนี้เราจะไปนอนที่ตรังค่ะ ยังไม่กลับบ้าน พาเด็กเที่ยวก่อน ซึ่งในระหว่างที่ขับรถจากสตูลมาตรังเราก็ได้ทราบผลการแข่งขันราว 18.00 น. กรี๊ดกันลั่นรถเมื่อน้องทัณฑ์ชนะเลิศศศศศ...

หลังจากนั้นแบตมือถือของคุณเกาทัณฑ์ก็เกือบหมดเพราะทั้งครูและเพื่อนต่างแสดงความยินดีกันใหญ่ โล่งไปนะ เพราะถ้าไม่ชนะครูในห้องภาษาประกาศไว้แล้วว่าวันจันทร์จะไม่มีใครรู้จักเกาทัณฑ์ ฮา

แล้วเช้าวันศุกร์เราก็เดินทางออกจากตรังไปที่กระบี่ค่ะ ป่าป๊าพาไปเที่ยวก่อน โดยแวะพักที่อ่าวนางอีก 1 คืนก่อนกลับภูเก็ต กิน-นอน-กิน-นอน ทั้งวันนนนนน
 

หลังจากนี้คงไม่มีเรื่องตื่นเต้นอะไรแล้วมั้ง เพราะแม่ห้ามรับงานมาเพิ่มอีก ต้องเตรียมตัวไปฝรั่งเศสแล้ว และตั้งแต่สัปดาห์นี้ไปก็ต้องเตรียมใจถอนฟันคุดก่อนเอาเหล็กดัดฟันออกแล้วค่ะ ให้กำลังใจผมด้วยนะครับ
 




 

Create Date : 23 มกราคม 2566    
Last Update : 23 มกราคม 2566 11:18:10 น.
Counter : 1509 Pageviews.  

เกือบ 17 ปีกับความสำเร็จของเด็ก 4 ภาษา

ทั้งที่แม่บอกว่าไม่ค่อยว่าง แต่ช่วงนี้กลับมีเรื่องเขียน blog ถึงสองครั้ง ><" กลัวลืมน่ะค่ะ ปลายปีแบบนี้เด็กกวาดรางวัลมาเยอะเหลือเกิน ต้องขอบันทึกไว้สักหน่อย blog นี้ขออุทิศให้แด่การเรียนภาษาต่างประเทศ จนทำให้เด็กกลายเป็นหนุ่มน้อย 4 ภาษากันนะคะ

เริ่มจากภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาที่ 2 ของเกาทัณฑ์ เด็กโดนแม่กับพ่อหาครูฝรั่งให้เรียนตั้งแต่ 5 ขวบ จนตอนนี้สามารถฟัง-พูด-อ่าน-เขียนภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ

โดยในปีนี้คุณครูประจำภาควิชาภาษาต่างประเทศของโรงเรียนได้คัดเลือกให้น้องทัณฑ์เข้าร่วมการแข่งขันศิลปหัตถกรรมครั้งที่ 70 ในกิจกรรม Impromptu Speech ระดับมัธยมปลาย โดยน้องทัณฑ์ต้องผ่านด่านตัวแทนโรงเรียนก่อน จากนั้นจึงไปแข่งระดับจังหวัด ซึ่งผลก็ออกมาแล้วค่ะว่าชนะเลิศ ได้เหรียญทองด้วยคะแนน 96 เต็ม 100 และจะเป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งขันในระดับภาคที่จังหวัดสตูลต่อไปค่ะ

เครดิตภาพจากเพจโรงเรียนสตรีภูเก็ต ในวันแข่งขัน Impromptu Speech

ต่อมาภาษาเยอรมัน ซึ่งเป็นภาษาที่ 3 ของเกาทัณฑ์ เมื่อเดือนก่อนคุณชายเข้าสอบวัดระดับด้านภาษากับ CEFR ซึ่งเป็นตามมาตรฐานยุโรป โดยครั้งนี้น้องทัณฑ์สอบระดับ A2 ผลปรากฏว่าผ่านเรียบร้อยยยยยย ด้วยคะแนน 70 เต็ม 100 เธอบอกว่าพาร์ทฟังยากมาก แต่พาร์ทพูดง่ายสุด เมื่อวานได้ใบประกาศนียบัตรมาแล้วค่ะ ^^

สุดท้ายคือภาษาฝรั่งเศส ภาษาที่ 4 ของเกาทัณฑ์ ใหม่สุด ยากสุด แต่ตอนนี้เรียนระดับ A1 กับทิชเชอร์จูเลียน จากสมาคมฝรั่งเศสเกือบครบชั่วโมงแล้วครับ ดีใจมากเพราะใช้เวลานานประมาณ 4 เดือน ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ครึ่งวันเช้า เก็บชั่วโมงได้เกิน 60 ชั่วโมงตามที่ AFS ของไว้แล้ว เย้ๆๆๆ

ซึ่งการเรียนครั้งนี้ทาง AFS ไม่ได้บังคับให้ต้องสอบวัดระดับนะคะ แต่ครูที่สอนน้องทัณฑ์ก็บอกว่าถ้าน้องทัณฑ์ไปสอบ รับรองว่าผ่านแน่นอน ตอนนี้โต้ตอบประโยคยาวๆ ได้แล้วค่ะ ไปใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศสได้แล้วววว

เป็นเด็กไฮเปอร์มาก อยากทำไปซะทุกอย่าง แล้วยังทำได้ดีอีกด้วย แม่กับพ่อก็เลยต้องตามใจ เดือนหน้าจะไปแข่งขัน Impromptu อีกครั้ง อย่าลืมให้กำลังใจผมด้วยนะครับ ^^

อ้อ...ลืมพูดถึงภาษาแรกไปเลย ภาษาไทยยังพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนเดิม 555 บางทีมีเรื่องจะโม้ จะฟ้อง สมองแปลงภาษาไม่ทัน พูดไปลิ้นพันกันไป อึกๆ อักๆ แม่ต้องบอกว่าพูดภาษาอังกฤษมาเลยลูก มันคล่องปากกว่าเยอะเลย ทีนี้โม้ได้ ฟ้องได้คล่องปร๋อออออออออ...555




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2565    
Last Update : 8 ธันวาคม 2565 16:42:17 น.
Counter : 1159 Pageviews.  

16 ปี 11 เดือน : เรียนภาษาที่ 4 เพื่อเตรียมตัวไปแลกเปลี่ยน

สวัสดีครับทุกคน...

ช่วงนี้แม่ยุ่งกับการทำหนังสือเล่มใหม่อีกแล้ว ไม่มีเวลา up blog เลยตั้งแต่น้องทัณฑ์ได้ทุน AFS งั้นเริ่มเล่ากันเลยดีกว่า


หลังจากได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่ฝรั่งเศสแน่นอนแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมเอกสารและการเรียนภาษาฝรั่งเศสอีก 60 ชั่วโมงค่ะ เราก็ทำสองอย่างนี้ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการเตรียมเอกสารเป็นเรื่องที่หนักหนามาก แต่ในที่สุดเราก็ผ่านมาได้นะคะ ต้องชมป่าป๊าที่พยายามทำความเข้าใจและเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดีให้เราแม่ลูกสามารถทำงานต่อได้ โดยน้องทัณฑ์เป็นคนแปลเอกสารเองทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งตอนนี้เอกสารก็ผ่านเรียบร้อยทุกฉบับแล้วค่ะ เย้ๆๆ

ขอบคุณป่าป๊าครับ

ให้รางวัลโดยการกินหัวหนึ่งที

ต่อไปคือการเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติม ซึ่งต้องมาจากสถาบันที่เชื่อถือได้และทาง AFS ยอมรับด้วย เราเลยเลือกเรียนกับสมาคมฝรั่งเศสที่กรุงเทพฯ แต่ใช้วิธีเรียนออนไลน์แทนค่ะ โดยลงทะเบียน A1.1-A1.2 ไปก่อน เมื่อเรียนจบ 40 ชั่วโมงแล้วก็ต่อ A1.3-1.4 เลย ซึ่งตอนนี้ก็ยังเรียนใน Part นี้อยู่ค่ะ Techer ชมว่า ปา-พน-ธี สำเนียงดีและเรียนรู้เร็วมาก เรียนสามครั้งก็โต้ตอบบทสนทนาประจำวันได้แล้ว

เริ่มวันแรกของการเรียน...

สัปดาห์ต่อๆ มาคร่ำเคร่งและจริงจัง

สัปดาห์ล่าสุด...บ้าไปแล้วววววว ><"
ออกไปยิงปืนนอกบ้านไม่ได้ ฝนตกทุกวัน

ป่าป๊า หม่าม๊า ดูแลอย่างดี คอยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าจะหนักไป ทั้งที่เพิ่งสอบ CEFR ภาษาเยอรมันระดับ A2 ผ่าน ยังต้องทุ่มเทกับการเรียนภาษาที่ 4 ไปด้วย กลัวเด็กจะงง แต่เด็กบอกงงบ้างแต่ก็เข้าใจได้ เพราะรากภาษาไม่ทิ้งกันมาก เรียนแบบเปรียบเทียบกันทั้งสามภาษา อังกฤษ-เยอรมัน-ฝรั่งเศส ซึ่งศัพท์บางตัวก็ใช้เหมือนกัน แค่ออกเสียงต่างกัน เด็กบอกฝรั่งเศสแกรมม่าง่ายกว่าเยอรมัน แต่ออกเสียงยากกว่า ท่าทางยังสนุกกับการเรียนภาษาอยู่ค่ะ เราก็สบายใจ

แล้วช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา (ก่อนขึ้น ม.5 เทอม 2) เด็กก็ต้องไปเรียน ร.ด. ค่ะ เพิ่งเริ่มเรียนปีแรก เดี๋ยวปีหน้าก็ไปฝรั่งเศสอีก ค่อยกลับมาเรียนต่ออีกสองปี ซึ่งคงไปจบตอนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว ตอนแรกพ่อแม่กลัวว่าจะไม่ชอบเรียน แต่ปรากฏว่าเธอสนุกสนานมาก ชอบมาก ได้เรียนปืน เรียนศิลปะป้องกันตัวก็เข้าทางเขาเลย แถมเจอเพื่อนเยอะด้วย สนุกสนานใหญ่

แม้ตารางชีวิตคุณเกาทัณฑ์จะยุ่งมากแค่ไหน คุณเธอก็ยังไปรับงานมาอี๊ก ซึ่งนั่นก็คือการแข่งขัน Impromptu Speech ใครเป็นแฟน blog คงยังจำกันได้ว่าน้องทัณฑ์เคยแข่งรายการนี้ตอนอยู่ประถมมาแล้ว ร้างลาไปตอนม.ต้น เพราะหนีไปเป็นเด็ก International Program ซึ่งตอนนั้นรายการนี้เขาไม่ให้เด็กที่เรียน IP เข้าแข่งขันค่ะ รู้สึกปีนี้เปลี่ยนกติกาใหม่แล้ว ให้แข่งรวมกันหมด ตอนนี้เกาทัณฑ์เลยได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนในระดับมัธยมปลายเพื่อชิงเป็นตัวแทนจังหวัดอยู่ค่ะ ยังไม่ทราบผล อยู่ในช่วงซ้อมกับ Teacher ทุกเช้า-เย็น มีความเพียรเป็นเลิศจริงๆ เด็กคนนี้ เห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่เธอท่าทางจะไม่เหนื่อย คึกมาก แถมยังบอกว่าแข่งสนุกๆ นะแม่ แพ้ไม่เป็นไร อย่างน้อยน้องทัณฑ์ได้โม้ เอ้า...จนแม่ต้องบอกว่าอย่าเพิ่งไปรับรายการแข่งขันอะไรมา เดี๋ยวชนกับตารางเรียนภาษาฝรั่งเศสอีก เพราะตอนฝึก ร.ด. ก็ชนเต็มๆ จนต้องงดเรียนไป 4 ครั้ง (12 ชั่วโมง) เลย แต่เธอก็ตามเพื่อนทันจนได้นะคะ ^^"

เล่าเรื่องเรียนไปมาก เดี๋ยวทุกคนจะคิดว่าพ่อแม่คู้นี้มันบังคับลูกมากไปรึเปล่า เปล่าเลยยยยยยย...เวลาว่างนี่ปล่อยเล่นเต็มที่ เอาไปเล่นเกม 5 จอเลยค่ะ ="=

หวังว่าหลังจากนี้คงไม่มีอะไรวุ่นวายแล้ว...รึเปล่า เหลืออะไรบ้างนะ>>>ขึ้นไปกรุงเทพฯ สำหรับ AFS เพื่อประชุมผู้ปกครอง, เด็กเข้าค่าย 3 วัน 2 คืนเพื่อเตรียมความพร้อม, ต้องไปเยี่ยมคุณตา คุณยายที่โคราช, ถ้าชนะ Impromptu Speech รอบนี้ต้องไปแข่งที่สตูลต่อ, เรียนภาษาฝรั่งเศสให้จบชั่วโมงในเดือนธันวาแล้วยื่นเอกสารให้ AFS, ขึ้นไปทำวีซ่าที่สถานฑูตฝรั่งเศสให้คุณเกาทัณฑ์

โอ้ยยยยยย คุณเกาทัณฑ์ ไม่วุ่นเลยค้าาาาา ห้ามรับกิจกรรมอะไรมาอีกนะ หยุดก่อนนนนนน แม่เวียนหัวกับการจัดตารางแล้ววววว รักแบบอยากกินหัวอ่า ><"




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2565    
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2565 12:00:33 น.
Counter : 935 Pageviews.  

16 ปี 6 เดือน : นักเรียนตัวจริงโครงการ AFS รุ่นที่ 62 ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปเหนือ

ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จ เมื่อน้องทัณฑ์สามารถสอบผ่านเป็นนักเรียนตัวจริง ประเภททุนทั่วไปในโครงการเยาวชนเอเอฟเอสเพื่อการศึกษาและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ระยะ 1 ปี รุ่นที่ 62 (พ.ศ.2566-2567) ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปเหนือค่ะ เย้...มาดูกันว่าเราเตรียมตัวยังไงบ้าง



ความจริงต้องบอกว่าเราเตรียมตัวกันมาตั้งแต่น้องทัณฑ์เล็กๆ แล้วค่ะ เริ่มมาจากการเตรียมความพร้อมเรื่องภาษาอังกฤษ ซึ่งเราลงทุนให้ลูกเรียนกับสถาบันสอนภาษาที่มีครูฝรั่งเจ้าของภาษาสอนเอง ตอนนั้นน้องทัณฑ์อายุประมาณ 5 ขวบ เขาเรียนหลักสูตรของ Oxford ตั้งแต่อนุบาลสามจนถึงประถมห้า หลังจากนั้นแม่ต้องให้หยุดเรียนเพื่อมาติวสอบเข้า IP ของโรงเรียนสตรีภูเก็ต 1 ปี เมื่อเข้าได้แล้วความรู้ด้านภาษาก็พัฒนาไปเร็วมาก

ม.1 สอบผ่าน CEFR ระดับ A1, ม.2 สอบผ่าน A2 และปีสุดท้ายที่เรียน IP ก็สอบผ่าน B1-B2 ค่ะ จากนั้นมาเรียนมัธยมปลาย เขาก็ออกจากโปรแกรม IP เพื่อมาเรียนศิลป์ภาษาอังกฤษ-เยอรมัน โดยตรง ม.4 ก็สอบวัดระดับภาษาเยอรมันผ่าน A1 ระดับ good เรียบร้อย พอช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นม.5 ก็ได้เข้าร่วมโอลิมปิกวิชาการภาษาเยอรมันระดับ A2 จนได้เหรียญทองแดง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้สอบ CEFR ภาษาอังกฤษอีกนะคะ คิดว่าจะกลับไปสอบก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเลย

ทีนี้กลับมาเรื่อง AFS ต้องบอกอย่างภาคภูมิใจก่อนว่าน้องทัณฑ์มั่นใจภาษาอังกฤษของตัวเองมาก เขาก็เลยจะชิลด์ๆ แต่พ่อก็บอกไม่ควรประมาทนะ พ่อเลยซื้อข้อสอบ AFS ย้อนหลังมาให้ทำ 5 ปี ปรากฏว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 73% (ต่ำสุด 68 สูงสุด 80 ค่ะ) เขายิ่งมั่นใจว่าสอบข้อเขียนผ่านแน่



ปีนี้ด้วยภาวะโควิด ทาง AFS จึงมีการสอบข้อเขียนผ่านทางระบบออนไลน์ค่ะ โดยมีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อเท่านั้น หลังจากสอบเสร็จน้องทัณฑ์ออกมาบอกว่าน่าจะได้เกิน 40 ข้อ เธอมั่นใจจริงๆ

หลังจากประกาศผลสอบข้อเขียนก็ผ่านจริงค่ะ จากนั้นต้องกรอกข้อมูลเพื่อสัมภาษณ์ในรอบต่อไป แล้วยังมีการเลือกประเทศด้วย ขั้นตอนนี้แหละที่ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ อย่างแรกคือ มีการแบ่งโควต้าตามจังหวัดค่ะ และจังหวัดภูเก็ตไม่มีประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมันให้เลือกเลย ฮืออออออ กติกาคือ คุณมีสิทธิ์เลือกสามประเทศ ถ้าไม่ได้ประเทศแรกคุณก็มีสิทธิ์เลือกประเทศที่สองและสามตามมา

ทีนี้เอาความต้องการของเราก่อนนะ เมื่อไม่มีประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน เราก็เริ่มแพนิค พอมาดูประเทศอื่นส่วนใหญ่ก็ใช้ภาษาอังกฤษ แต่น้องทัณฑ์เขามั่นใจภาษาอังกฤษของตัวเองแล้ว เขาก็ไม่อยากไปประเทศที่ใช้ภาษาที่สอง ที่สำคัญเขาขอเป็นประเทศในทวีปยุโรป เพราะเขาชอบศิลปะ วัฒนธรรม กับประวัติศาสตร์ทางนั้นมาก ในที่สุดก็เหลือแค่ประเทศเดียวคือ ฝรั่งเศสค่ะ

เกาทัณฑ์ตัดสินใจเลือกลำดับเดียวค่ะ โดยไม่เลือกประเทศอื่นเลย...

แต่ AFS ก็ยังใจดีมีทิ้งท้ายในใบสอบสัมภาษณ์ว่า หากในจังหวัดคุณไม่มีโควต้าประเทศที่ต้องการให้เลือก คุณอยากไปประเทศไหน ตรงนี้แหละที่เกาทัณฑ์ใส่ว่า ประเทศเยอรมันค่ะ

ตรงนี้มันก็ยังมีเงื่อนไขอยู่นะคะว่า ถ้าคุณพลาดฝรั่งเศสที่เลือกไว้ โดยไม่ได้เป็นตัวจริง แต่อยู่ในสถานะตัวสำรอง รายชื่อของคุณจะถูกโยนเข้าไปแข่งขันในระดับภาคและระดับประเทศต่อ นั่นหมายความว่าคุณก็ยังเป็นตัวสำรองของคนที่เลือกประเทศเยอรมันไว้ ถ้ามีตัวจริงของคนที่เลือกเยอรมันเขาสละสิทธิ์ไป คุณจึงจะมีสิทธิ์เป็นลำดับถัดไป แต่นั่นก็คือการต่อคิวแบบไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงไหนเลยค่ะ

ทีนี้พ่อกับแม่ก็เลยต้องมาคุยกับเขาว่า ถ้าเราไม่มีคู่แข่งในสนามภูเก็ตเลย นั่นหมายความว่าเรามีสิทธิ์เป็นตัวจริงสูงมาก แล้วถ้าเป็นตัวจริงของฝรั่งเศสแล้ว การไม่เอาคือการสละสิทธิ์ทั้งหมด ไม่สามารถเป็นตัวสำรองได้ด้วย แล้วอย่างนี้ถ้าได้จริงๆ ลูกจะเอาไหม เขาตอบว่าเอา

ซึ่งถ้าได้จริงมันก็มีเงื่อนไขพ่วงท้ายอีกค่ะว่า คุณต้องเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมจำนวน 60 ชั่วโมง แล้วต้องมีใบรับรองจากสถาบันที่ทาง AFS ยอมรับด้วยค่ะ เมื่อเข้าใจตรงกันทุกอย่างแล้ว เด็กก็ยอมรับว่าเลือกฝรั่งเศสไปเลย ได้ก็เอาเลย ไม่รอลุ้นด่านต่อไปให้เครียด

แล้วก็ถึงวันสัมภาษณ์ ทาง AFS ขอให้นักเรียนแต่งกายสุภาพ โดยไม่มีเครื่องแบบหรือเครื่องหมายแสดงชื่อสถาบันการศึกษาเพื่อป้องกันการมีอคติ คุณเกาทัณฑ์ก็จัดชุดนี้ไปเลยค่ะ



ในวันนั้นเราเลยรู้มาว่าไม่มีคนเลือกฝรั่งเศสเลย นอกจากเรา งั้นเบาใจแล้วว่าไม่มีคู่แข่ง ก็แข่งกับตัวเองนี่แหละ

เกาทัณฑ์สัมภาษณ์เป็นคนสุดท้าย ใช้เวลานานมากกกกก พอออกมาจากห้องก็เล่าให้ฟังว่า...มีคนสัมภาษณ์ 3 คน ส่วนใหญ่พูดภาษาไทย ส่วนภาษาอังกฤษใช้วิธีให้เด็กแนะนำตัวเอง น้องทัณฑ์พูดมากจนเขาต้องเบรค เขาถามทำไมพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก เธอบอกว่าพ่อแม่ส่งเรียนกับครูฝรั่งตั้งแต่ 5 ขวบ เรียนเปียโนตอน 3 ขวบก็เลยเล่นดนตรีเป็นหลายอย่าง ตอนนี้พูดได้ 3 ภาษา เพิ่งได้เหรียญทองแดงโอลิมปิกระดับประเทศมา ถ้าได้ไปฝรั่งเศสอย่างที่ขอไว้ก็จะกลายเป็นภาษาที่ 4

เสียดายที่ไม่ได้โชว์ทักษะภาษาเยอรมันกับฝรั่งเศสให้คณะกรรมการฟัง ทั้งที่อุตส่าห์เตรียมตัวไป เห็นเขียนบทพูดไว้เป็นหน้าๆ ในไอแพดเลย

คำถามมีรายละเอียดและเฉพาะเจาะจงลงไปในประเทศที่เราเลือกไว้มาก เช่น ถ้าโดนบูลลี่คุณจะทำยังไง ถ้าพาสปอร์ตหายจะติดต่อใคร สุดพีคอยู่ตรงที่ถ้าคุณโดนสาวๆ ฝรั่งเศส French Kiss คุณจะทำยังไง เพราะมันคือวัฒนธรรมของเขา 😁😁😁 ไม่บอกว่าเด็กตอบว่ายังไง

จากนั้นเราก็รอผลสัมภาษณ์ค่ะ...แล้วก็ได้ลำดับแรก ลำดับเดียวนั่นแหละ ฝรั่งเศสสสสสสส แล้วไม่ใช่การใช้ภาษาที่สามด้วย แต่ต้องเรียกว่าเป็นการไปใช้ชีวิตเพื่อใช้ภาษาที่สี่ของตัวเองค่ะ...

แล้วก็ถึงเวลาเดินทางขึ้นไปประชุมผู้ปกครองและนักเรียนตัวจริงที่ผ่านการคัดเลือกรุ่นที่ 62 ตื่นเต้นๆ



ในงานมีบูธของประเทศต่างๆ ครบครัน เราแวะที่บูธฝรั่งเศสเพื่อคุยกับรุ่นพี่ที่เคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน พี่ให้ความรู้ดีมาก ประทับใจเลยขอถ่ายรูปมาด้วยค่ะ



หลังจากนี้คือการเตรียมความพร้อมเรื่องเอกสารเป็นหลัก งานหนักมากค่ะ แล้วจะมาเล่าเป็นระยะๆ นะคะ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2565    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2565 10:58:40 น.
Counter : 2228 Pageviews.  

16 ปี 5 เดือน : รับเหรียญทองแดงโอลิมปิกวิชาการภาษาเยอรมันระดับประเทศ

รับรางวัลมาได้หนึ่งเดือนแล้วแต่แม่ไม่มีเวลา up blog เลยค่ะ เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องสมัครเรียน ร.ด. / เตรียมตัวสอบเปียโนระดับ 5 กับสถาบัน ABRSM / สอบชิงทุน AFS อีก (เดี๋ยวเล่าให้ฟัง blog หน้านะคะ) ก็ด้วยเรื่องของคุณชายทั้งสิ้น แต่ทำไมแม่เหนื่อยมาก ><"

เมื่อปลายเดือนมิถุนายนทางสมาคมครูสอนภาษาเยอรมันในประเทศไทย กับสถานบันเกอเธ่ ประเทศไทย ได้จัดงานมอบรางวัลการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการภาษาเยอรมันระดับประเทศให้กับเด็กๆ ที่ได้รับรางวัลค่ะ ซึ่งงานนี้ต้องไปรับที่สถาบันเกอเธ่ในกรุงเทพฯ งานนี้ได้คุณครูที่สอนภาษาเยอรมันในโรงเรียนของน้องทัณฑ์ช่วยประสานงาน และพาเด็กไปรับรางวัลด้วยตัวเอง ต้องขอขอบคุณคุณครูมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ได้ถ่ายรูปกับท่านอุปทูตเยอรมันประจำประเทศไทยด้วยค่ะ




รับรางวัลเป็นเหรียญทองแดงและประกาศนียบัตร





ถ่ายกับครูอ้อมผู้สอน คุณครูเก่งมากจริงๆ ค่ะ สอน 8-9 เดือนเด็กก็สามารถเข้าแข่งขันกับรุ่นพี่ๆ ได้แล้ว ครูบอกปีหน้าอยากปั้นให้ถึงเหรียญทอง แต่เกาทัณฑ์จะหนีไปฝรั่งเศสแล้วค่ะ 555





เหรียญรางวัลกับประกาศนียบัตรสองภาษา







งานนี้แม่กับพ่อฝากให้อายอดไปดูแลหลานให้หน่อย แต่ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้เข้าไปในงานด้วย โชคดีที่ได้เข้าแทนคุณครูซึ่งติดธุระ ไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ อายอดก็ได้ทำหน้าที่ตากล้องในงานด้วยเลย หลังจากเสร็จงานแล้วก็มีการส่งมอบภาพหมู่กันเพื่อลงในเพจของสมาคม และทางสมาคมได้เลี้ยงอาหารกลางวันด้วยค่ะ





ปลื้มมาก ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องจดจำไว้เลย ขอแสดงความยินดีกับเด็กๆ ทุกคนด้วยนะคะ เก่งมากจริงๆ นี่คือภาษาที่สามของเด็กทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันเลยค่ะ น้องสองคนที่ได้รับเหรียญทองในครั้งนี้จะเป็นตัวแทนไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการภาษาเยอรมันที่เมืองฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี นะคะ ตอนที่แม่นั่งเขียน blog อยู่นี้ เด็กๆ ก็ได้เดินทางไปแล้วค่ะ ส่งกำลังใจให้น้องทั้งสองเอารางวัลกลับมาฝากพวกเราด้วยนะคะ



นอกจากมีความสุขกับงานแล้ว คุณเกาทัณฑ์ก็ปลื้มท่านอุปทูตทั้งสองมาก บอกแม่ว่าท่านเท่สุดๆ ไปเลย สูทที่ใส่ก็สวยมาก น้องทัณฑ์ชอบสูทแบบนั้นแหละ ^^



Enjoy Life Khun Gaotun...




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2565    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2565 11:16:22 น.
Counter : 959 Pageviews.  

1  2  3  4  

tiara
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]




blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ

ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
ผลงานของ tiara

...เรื่องยาว...

...เรื่องสั้น...

"จอมยุทธ์ผู้ตามหาหงส์ขาว"
"Don't read my mind!"
"ลิลลี่สีขาวกับสาวน้อยของผม"
"หนุ่มรับเหมากับสาวแบรนด์เนม"
New Comments
Friends' blogs
[Add tiara's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.