|
14 ปี 7 เดือน : เตรียมหัวใจไว้ให้ดีเมื่อเด็กน้อยกลายเป็นหนุ่มแล้ววววว
เป็นหนุ่มแล้วนะฮะ เริ่มคุ้นเคยกับโลกแล้วและเริ่มเปล่งประกายในแบบของตัวเองได้แล้ว ตอนนี้น้ำหนัก 45 กิโลกรัม สูง 170 เซนติเมตร แล้วก็เริ่มจัดฟันแล้วฮะ
ช่วงปิดเทอมก่อนจะขึ้นมัธยมสามเป็นช่วงที่พ่อกับแม่ปล่อยอิสระเต็มที่ อยากทำอะไรทำ เล่นเกมวันละ 10 ชั่วโมงก็เชิญ ปล่อยให้เล่นจนเบื่อแล้วก็ต้องหาทางออกเองโดยการไปโหลดแอปสอนภาษามาเรียน ตอนนี้เริ่มรู้จักศัพท์ในภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลีบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนภาษาอิตาเลียนจะพัฒนาเร็วที่สุดเพราะสามารถแต่งรูปประโยคได้เองแล้วค่ะ กลายเป็นหนุ่มน้อยสี่ภาษาไปแล้ว (ไทย-อังกฤษ-ญี่ปุ่น-อิตาเลียน) แม่ต้องบอกว่าอย่าทิ้งญี่ปุ่นนะ เรียนมาตั้งสามปี ถ้าลืมจะเสียดายแย่เลย
ปิดเทอมก็ปล่อยผมยาวให้สะใจไปเลย New Normal กับครอบครัว ใส่ Mark กันครับ
ความสูงเทียบกับพ่อแม่
ภูเก็ตเจอโควิดเข้าไปนี่ดูจะหนักหนาสาหัสกว่าที่อื่น เพราะเราถูกปิดการเชื่อมต่อระหว่างเขตด้วย ไปเรียนดนตรีก็ไม่ได้เลยต้องซ้อมอยู่ที่บ้านเอง แต่ก็ทำให้เกาทัณฑ์กลับมาเล่นเครื่องดนตรีทุกอย่าง ตั้งแต่กลอง เปียโน ทรัมเป็ต กีต้าร์ แล้วเปิดเทอมก็เริ่มเล่นอูคูเลเล่จริงๆ จังๆ อีกครั้ง เพราะที่โรงเรียนสอนฮะ
แล้วเมื่อถึงเวลาเปิดเรียน เราก็ไปเรียนแบบใส่หน้ากากด้วย แล้วก็เริ่มจัดฟันตามที่คุณหมอฟันนัดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วฮะ
"บันทึกจากปี 2019...
เริ่มมาจากเมื่อประมาณสักขวบนิดๆ น้องทัณฑ์ได้เจอคุณหมอฟันที่รู้จักกันแล้วเขาก็ทักว่า ฟันน้ำนมเรียงกันชิดแบบนี้ โตขึ้นคงต้องจัดฟัน ตอนนั้นแม่ก็ถามไปว่าทำไมล่ะคะ คือเราคิดว่าฟันเรียงตัวสวยก็น่าจะดี คุณหมอบอกว่าเพราะฟันน้ำนมแต่ละซี่ควรจะเว้นระยะห่างจากกันเล็กน้อย เมื่อฟันแท้ขึ้นมันจะเรียงชิดกันพอดี ทั้งนี้เป็นเพราะว่าฟันแท้จะมีขนาดใหญ่กว่าฟันน้ำนมนั่นเอง ทีนี้ของน้องทัณฑ์พอฟันน้ำนมมันเรียงสวยก็แสดงว่าพื้นที่ที่จะให้ฟันแท้ขึ้นมันก็จะแคบค่ะ มันจะทำให้เกิดภาวะฟันซ้อน ฟันเกอย่างแน่นอน
พอตระหนักกันแล้วเราก็พยายามจะให้เขาใกล้ชิดกับหมอฟันตลอด เพื่อรักษาสภาพฟันไม่ให้ผุแล้วก็หวังผลทางด้านจิตวิทยาด้วยว่าเขาจะเป็นเด็กไม่กลัวหมอ อันนี้เป็นเทคนิคนิดหนึ่งที่ขอแนะนำคือ ไม่ควรเปลี่ยนหมอฟันของลูกบ่อยๆ เพราะเราต้องการความเชื่อใจและสายสัมพันธ์อันดีระหว่างคนไข้กับหมอค่ะ เอาเป็นว่าถ้าเจอถูกใจลูก ถูกใจแม่ก็ควรจะล็อกตัวคุณหมอไว้เลย ฟันน้ำมันของน้องทัณฑ์เริ่มหลุดค่อนข้างช้าค่ะ คือฟันแท้ขึ้นเร็วมาก หมอฟันก็ไม่ได้ใจร้อนที่จะต้องถอนออกทุกซี่ทันทีที่โยก ก็อยู่ในการดูแลของหมอทุก 6 เดือน ฟันแท้ก็เริ่มไล่ขึ้นมาทีละซี่ คราวนี้เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าซ้อน เกกันมั่วไปหมด เราก็รู้แล้วว่าต้องจัดฟันแน่ๆ ก็รอมาเรื่อยๆ จนเขาอายุ 13 ขวบ ตอนนี้เหลือฟันน้ำนมซี่เดียวที่ยังไม่ยอมหลุด ส่วนฟันแท้ขึ้นครบแล้ว ยกเว้นฟันครุดที่ยังนอนอยู่ในเหงือก
เริ่มขั้นตอนไปปรึกษาหมอจัดฟันกันเลย...
หลังจากเตรียมจิตใจของเด็กมาโดยตลอดตั้งแต่เล็กแล้วว่า คงต้องจัดฟันนะ ไม่ต้องกลัวแม่ก็เคยจัด เจ็บหน่อยแต่เสร็จแล้วจะหล่อเลย ก็พูดแบบนี้ให้มันเป็นเรื่องขำๆ ไป แต่พอเอาเข้าจริงเด็กก็กลัวอยู่ดี ฮา ก็เข้าใจนะ แม่เลยต้องเข้าไปในห้องด้วย
คำถามแรกที่คุณหมอถามคือ ทำไมถึงอยากจัดฟันคะ แล้วอายุเท่าไร แม่ก็เป็นคนตอบว่าเพราะรู้สึกว่าฟันหน้าเขาเริ่มยื่นและฟันล่างเกมากค่ะ ส่วนอายุลูกชายตอบว่า 13 ปี คุณหมอบอกว่าจริงๆ อายุยังน้อยสำหรับการจัดนะ แม่ฟังแล้วก็แปลกใจเพราะเพื่อนผู้หญิงรุ่นเดียวกับน้องทัณฑ์นี่จัดกันเยอะแยะเลย แต่ก็ยังไม่กล้าเถียงค่ะ จากนั้นคุณหมอก็ให้เด็กนอนลงบนเตียงแล้วขอดูฟัน
พอดูคร่าวๆ แล้วคุณหมอบอกว่า น้องมีขากรรไกรบนที่ยาวกว่าขาไกรล่าง วิธีแก้ก็มีสองวิธีคือ ผ่าตัดกับจัดฟันนี่แหละ แม่ก็ตกใจขั้นสุด หา! ถึงกับต้องผ่าตัดเลยเหรอ ไม่เอาาาาาา (แต่กรี๊ดในใจนะ) คุณหมอคงรู้ว่าเราต้องตกใจแน่เลยรีบบอกว่า หมอบอกทางเลือกที่มีเท่านั้นค่ะ แต่โดยธรรมชาติขากรรไกรของเด็กผู้ชายยังมีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา บางคนถึง 18 ปีจึงจะหยุดก็มี โดยปกติขากรรไกรบนจะหยุดการเจริญเติบโตก่อน แล้วขากรรไกรล่างจึงจะหยุดตามมาทีหลัง ทีนี้การจัดฟันก็จะช่วยปรับฟันบนยุบเข้ามา และดึงฟันล่างให้ขยายออกไปสบกันพอดี แต่ในเด็กผู้หญิงเมื่อเริ่มมีประจำเดือนแล้วการเจริญเติบโตของขากรรไกรจะหยุด ซึ่งอยู่ในดุลยพินิจของหมอและความยินยอมของคนไข้ว่าจะเริ่มจัดฟันเลยก็ได้ แต่ในของผู้ชายยังรอได้อยู่ (ถึงบางอ้อตอนนี้เองว่าทำไมเด็กผู้หญิงจัดฟันเร็วกว่าเด็กผู้ชาย)
ทีนี้ในเคสของของทัณฑ์ ตอนนี้ก็คือให้รอไปก่อน แต่จะพิมพ์แบบฟันและเอ็กซเรย์ไว้ โดยจะเก็บเป็นบันทึกไว้ทุกปี คุณหมอนัดปีละครั้งเพื่อมาดูการเจริญเติบโตของขากรรไกร ซึ่งตอนนี้เรารับรู้แล้วล่ะว่ามันไม่สัมพันธ์กัน เราก็ภาวนาให้ด้านบนโตช้าหน่อยเพื่อรอด้านล่างให้ขยับไปสบกันได้ทัน แต่แม่ก็บอกคุณหมอไปว่า แม่ไม่เลือกวิธีการผ่าตัดนะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นความเจ็บปวดที่เกินความจำเป็น ถ้าถามแม่ว่าตอนนี้รูปกะโหลกหรือรูปหน้าภายนอกเขาน่าเกลียดไหม แม่ก็ตอบว่าไม่ ลูกชายชั้นหล่อมาก 5555 เพราะฉะนั้นไม่ผ่าตัดแน่นอน แต่จะยอมรับการจัดฟันในอนาคตค่ะ อันนี้คืออยากให้เห็นว่ามันเป็นศัลยกรรมตกแต่งที่เราเลือกได้นะคะ มันเกี่ยวข้องกับความงามซึ่งเราเลือกได้ แต่ถ้ามันเกี่ยวกับด้านกายภาพหรือจิตใจเราก็อาจจะต้องคิดมากหน่อย
คุณหมอก็บอกว่าเข้าใจ แต่ในคนไข้บางรายเนี่ยจะมีผลด้าน Mental มาเกี่ยวข้องด้วย คือถูกล้อจากเพื่อนที่โรงเรียนมาก หรือไม่กล้ายิ้ม จนรู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป เราก็อ๋อออออย่างนี้นี่เอง ซึ่งในช่วงของการเป็นวัยรุ่นหรือการค้นหาตัวเองอยู่ถ้าจิตใจถูกกระทบกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพจิตและบุคลิกภาพโดยรวมของเด็กได้นะคะ อันนี้ก็ต้องระวัง แต่แม่หันไปถามน้องทัณฑ์แล้วลูกบอกไม่มีคน Bully นะ เรากับหมอก็สบายใจ งั้นผลการปรึกษาของวันนี้ก็คือ รอค่ะ เจอหมอจัดฟันปีละครั้งแล้วเก็บบันทึกไว้ทุกปี
สุดท้ายแม่ถามคุณหมอว่าแล้วจากเคสของน้องทัณฑ์ คุณหมอคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะจัดฟันเมื่อไร (อันนี้ลองถามเฉยๆ เพื่อคาดการณ์ให้ลูกรู้ด้วย ไม่ได้หวังว่ามันจะเป๊ะนะคะ) คุณหมอบอกว่าอย่างช้าที่สุดน่าจะเป็น ม.4 เพราะต้องคิดถึงเรื่องการเรียนต่อของน้องทัณฑ์ การรักษาต้องต่อเนื่องราว 2 ปี เพราะฉะนั้นถ้าช้าไปกว่านี้กลัวว่าน้องต้องไปเรียนต่อไกลบ้านแล้วจะมาหาหมอเพื่อตรวจเช็คลวดทุกเดือนไม่สะดวก เราก็โอเคพอจะเห็นภาพคร่าวๆ แล้วตอนจัดน่าจะต้องถอนฟันแท้ด้านบน 2 ซี่ค่ะ ด้านล่างไม่ต้องถอนเลย ส่วนฟันครุดไว้ถอนตอนมันแทงเหงือกขึ้นมาแล้วก็ได้ ไม่มีซี่ไหนล้ม โชคดีมากๆ)
ซึ่งสรุปแล้ว น้องทัณฑ์ก็ได้เริ่มจัดในปี 2020 นี้เลยค่ะ เพราะขากรรไกรขยับได้ดี เป้าหมายคือดึงฟันบนเข้าและดึงฟันล่างให้ยื่นออกเพื่อมาสบกัน ก็ต้องถอนฟันบนไปสองซี่เท่านั้นค่ะ ฟันล่างอยู่ครบเหมือนเดิม พอแผลถอนฟันหายก็ใส่เครื่องมือจัดฟันแบบ Damon เลย โชคดีไม่มีฟันผุให้ต้องแก้ก่อนด้วย คุณหมอบอกว่าน่าจะใช้เวลาประมาณสองปีขึ้นอยู่กับการขยับของฟันว่าเปลี่ยนไปได้เร็วแค่ไหน คิดว่าขึ้น ม.5 ก็น่าจะถอดเหล็กได้แล้วค่ะ
ปีนี้คุยเก่งขึ้น เหมือนเริ่มจะเข้าใจอารมณ์ตัวเองมากขึ้นแล้ว ไม่เหวี่ยงแล้วก็คุยกับแม่เยอะขึ้น แต่กับคนอื่นนี่ยังเลือกคุยเป็นบางเรื่องอยู่ จนทุกคนในบ้านบ่นว่าเอาแต่แม่ ไม่เอาคนอื่นเลย 5555 แม่ชอบนะ
เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง บอกแม่เองว่าปีหน้าจะเลือกเรียนสายศิลป์ภาษาโดยตรงแล้วนะ จะไม่เรียน IP แล้ว เธอบอกว่าเบื่อแล้ว และภาษาอังกฤษก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเธอแล้ว แม่ก็โอเคแหละ ตอนนี้คือถ้าเลือกเรียนโรงเรียนเดิมเธอก็จะได้โควต้าแน่นอน โรงเรียนจะให้เลือกอันดับเผื่อไว้ ซึ่งน้องทัณฑ์กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเอาห้องอังกฤษ-ฝรั่งเศส หรือห้องอังกฤษ-เยอรมัน แต่เหมือนจะเอียงไปทางฝรั่งเศสมากกว่า ณ ตอนนี้
ผ่านมา 14 ปีที่เขียน blog เล่าเรื่องลูกแล้วรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ เพราะเมื่อกลับไปอ่าน blog เก่าๆ แล้วเราภูมิใจที่ทำทุกอย่างให้เขา ตอนนี้ความคิดเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผล เข้าใจโลก และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ควรมี แม่ก็เหนื่อยน้อยลง คอยแค่สนับสนุนทุกอย่างที่เขาเลือกก็พอ
Create Date : 07 สิงหาคม 2563 |
Last Update : 7 สิงหาคม 2563 15:24:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2094 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|
Location :
ภูเก็ต Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]

|
blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ
ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
|
|
|
|
|
|
|
|
|