All Blog
ครั้งหนึ่ง..ที่อัมพวา..
หวัดดีค่ะ

เมื่อศุกร์สิ้นเดือนพฤศจิฯค่ะ ไปเที่ยวอัมพวากะเพื่อน ๆ มา
ไปดูหิ่งห้อยค่ะ
เป็นโปรเจ็กต์ของกลุ่มอยู่แล้วค่ะว่าอยากไปเที่ยวอะไรประมาณนี้กัน..
วรรณโดดเรียนด้วย แหะแหะ


ก็นัดกันที่อนุสาวรรีย์กันตอน 9 โมง
แต่กว่าจะออกก็ประมาณครึ่งชั่วโมงให้หลัง..รอกันไปรอกันมา..
นั่งรถตู้ไปค่ะ แล้วก็นั่งรถสองแถวเข้าไปในโฮมสเตย์
ที่บ้านแม่อารมย์โฮมสเตย์ค่ะ บรรยากาศดี แล้วก็หาเจอง่าย เจ้าของก็ใจดีด้วย
ถึงที่นั่นก็ประมาณ 11 โมงกว่าได้

มาดูรูปกันเลยดีกว่า

































อันนี้ในอุทยาน ร.2 ค่ะ
มาถึงอัมพวา วางของ เดินตลาดนิดหน่อยก็เดินไปกันต่อเลยค่ะ
อุทยานงามมาก..
ที่นั่นมีดอกไม้ และต้นไม้ประหลาด (ในสายตาเรา ซึ่งรู้เรื่องน้อยเหลือเกิน หึหึ) เต็มไปหมดเลย..

































พอเริ่มเย็น ๆ ก็ออกหากิน (เป็นตัวอะไรวะเนี่ย??!)
























แล้วก็ตามด้วยโปรแกรมขึ้นชื่อของอัมพวา..นั่งเรือไปดูหิ่งห้อยค่ะ
อันนี้เสียดายเหมือนกันที่ไม่มีให้ดูนะ เนื่องจากมันมืดมาก ถ่ายบ่ได้..
นั่งเรือไปดูกันไกลทีเดียว
ลมพัด..หนาวมาก
ดีใจมากที่เอาเสื้อกันหนาวมาด้วย 55+



ภาพข้างล่างนี้ก็..สภาพเพิ่งตื่นมาได้ไม่กี่ชั่วโมง แหะแหะ..



























หลังจากที่หาอะไรใส่ท้องเป็นทีเรียบร้อยแล้ว..ก็ออกเที่ยวกันต่อค่ะ
อันนี้ปั่นจักรยานไปเที่ยวตามแหล่งต่าง ๆ รวม ๆ แล้วก็ 8 กิโล!!
เมื่อยมากมายอ่ะ
แต่ว่าพอกลับมาถึงบ้านก็ยังสบายดี..แสดงว่าเราถึกใช่มั้ย?? 55+

หลังจากที่ได้รูปที่ถ่าย ๆ มา รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองเหมือนใส่ชุดนอนมาปั่นจั๊กจริง ๆ (ก็ชุดนั้นจริง ๆ แหละ 55+) แล้วก็ปกปิดผิวหนังตัวเองดีจริง ๆ ถ้าเทียบกะเพื่อนนะ..ลมพัดมาก็หนาว..แต่แดดก็ร้อน อย่างน้อยก็ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี














และที่ขาดไม่ได้ค่ะ ..ของโปรด (เย้ยยย)
















ไปทริปนี้ก็หมดกันไปหลายก็จริง
2 วัน 1 คืนเท่านั้น
ปาไปพันสี่ได้เลยอ่ะ (รวมของฝากด้วยนะ)

มันไปหนักตรงค่าเดินทาง ค่าที่พัก การเที่ยว และของกินค่ะ
(แล้วเที่ยวที่ไหนมันไม่ได้เสียกะตรงนี้ฟระ??)

ที่เราไปพักที่บ้านแม่อารมย์ก็ห้องแอร์ล่ะ 1200 ถ้าพัดลมก็ถูกกว่านี้..แต่พอดีจองมะทัน แง่วว

แนะนําค่ะ ที่นี่..บรรยากาศดีจริง ๆ ค่ะ ห้องหับอะไรก็ใช้ได้เลย

นั่งเรือดูหิ่งห้อย + ปั่นจั๊กก็ไป 200 แล้วค่ะ

และที่เหลือ..ของกินล้วน ๆ
ของกินที่นั่นถูกมากมายอ่ะ อันนี้ไม่ได้หมายความถึงของฝากนะ..
ราคาประมาณ 10-20 บาท อาหารคาวนะคะ เช่นว่า ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ขนมจีน หอยทอด ผัดไท เครื่องดื่มอะไรงี้

เพราะมันแค่ 10 20 ตังค์เลยหมดเร็วรึเปล่า 55+

แต่ก็น่ะ นาน ๆ ที
แถมมีความทรงจําดี ๆ อีกเรื่อง..
เนาะ ๆ



Create Date : 11 ธันวาคม 2551
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 17:19:17 น.
Counter : 743 Pageviews.

5 comment
มากกว่าแค่กลิ่น..


ตอนนี้ก็กําลังจะเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว (เดือนเกิดของข้าพเจ้า)
และกําลังจะเข้าสู่หน้าหนาว (ตามปฏิทิน)
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฝนจะยังคงตกกันอย่างไม่หยุดหย่อน..

แต่ต้นไม้ก็ยังคงเติบโต และผลิบานโดยไม่สนว่าสภาพอากาศแท้จริงที่เป็นอยู่จะเป็นเช่นไร
แค่ถึงเวลา ก็ทําตามหน้าที่..

เมื่อไม่กี่วันก่อน กําลังจะเดินไปเรียนที่ตึกทันตะฯ
สูดลมหายใจเข้าไป และสะดุดกับกลิ่นอันคุ้นเคยในช่วงเวลาหนึ่ง
กลิ่นดอกตีนเป็ด หรือที่มีชื่ออันสวนหรูว่า "สัตตบรรณ"
ถึงกลิ่นจะไม่แรงติดจมูกเหมือนช่วงเวลานั้น
แต่ก็ทําให้เรานึกถึงช่วงเวลาอันแสนสุขที่ผ่านมา..

ตอนปี 1 เราเรียนที่องครักษ์
ที่มอปลูกต้นตีนเป็ดไว้ทั่วมอเลยก็ว่าได้ ความเป็นจริงข้อนี้เราไม่เคยสังเกต ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
จนกระทั่งถึงช่วงหน้าหนาว
และกลิ่นดอกตีนเป็ดขจรขจายไปทั่วมอ โฮ่..

จริง ๆ กลิ่นเจ้าดอกตีนเป็ดเนี่ย ดมผ่าน ๆ มันก็หอมดีอยู่หรอก
(แม้จะทําให้เราสับสนว่ากลิ่นมันคล้ายกลิ่นเครื่องพะโล้ (ฮ่าฮ่า))
แต่ดมนาน ๆ มันก็เหม็น

แล้วกลิ่นเจ้าดอกนี่ก็ทั่วมอ ทุกแห่งหนในมอ (จริง ๆ )
ไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงไหน กลิ่นดอกตีนเป็ดก็จะมาทักทายระบบประสาททางกลิ่นของเรา โฮ่..
เหม็นตลอดเวลานั่นเอง

แล้วเจ้าต้นที่ว่านี่
อยู่หน้าหอข้าพเจ้า สูงเด่นเป็นสง่า
ดอกบานเต็มต้น
แม้จะอยู่ในห้อง กลิ่นที่ว่าก็ยังหลอกหลอน..

ตอนหัวค่ำ..กลิ่นดอกตีนเป็ดจะยิ่งแรงเป็นพิเศษ..
(เพราะตอนหัวค่ำ คนอยู่หอกัน เลยไม่มีคนช่วยสูดกลิ่นด้วยรึเปล่า กลิ่นเลยแรง 55+)

เป็นความทรงจําตลก ๆ อีกเรื่องนึงของชีวิต

ตอนนี้ กลิ่นของเจ้าตีนเป็ดก็ไม่ได้มาหลอกหลอนเรารุนแรงเหมือนตอนนั้น
แต่มันทําให้เรานึกถึงช่วงชีวิตที่องครักษ์
ทําอะไร ๆ ด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตเป็นเด็กหอครั้งแรก
ห่างพ่อห่างแม่ แต่หนูก็แฮปปี้ดี 55+
คิดถึงวันปั่นจั๊กช่วงหน้าหนาว
อากาศหนาวเย็นก็จริง
แต่เราไม่ค่อยรู้สึกว่าหนาวเท่าไหร่
เพราะอะไรน้า..
^^

..คิดถึงเธอจัง..องครักษ์..



Create Date : 31 ตุลาคม 2551
Last Update : 31 ตุลาคม 2551 16:36:16 น.
Counter : 1290 Pageviews.

29 comment
นอทติงสเปเชียล..จิง ๆ
หวัดดีค่ะ ไม่ได้มาอัพนานมากมายยยย

ตอนนี้ก็ขึ้นมาเป็นเด็กปี 3 มาได้ เอ่อ 3 เดือนกว่าแล้ว สอบกลางภาคไปเป็นที่เรียบร้อย

เวลานี่ผ่านไปเร็วจริง ๆ นะ
เหมือนว่าแต่ก่อนชั้นยังลันล้าที่องครักษ์เป็นเด็กปี 1 เมื่อไม่นานนี้เอง..
อีกไม่นานก็จะจบแล้ว เหมือนยังไม่มีวางแผนอะไรในชีวิตซักเท่าไหร่
เรื่อย ๆ เอื่อย ชิวกันไปเรื่อย ๆ
แค่ปีกว่า ชั้นต้องไปออกไปเผชิญโลก ทํางาน หาตังค์อะไรจริง ๆ แล้วใช่มั้ยเนี่ยยยย
ยังไม่รู้ว่าจะเอาไงกะชีวิตเรย
ต่อไปกรูจะทํางานอะไร
ก็พอรู้นะว่าตัวเองชอบอะไร แต่ไม่รู้จะไปถึงตรงนั้นยังไง
ดูโง่ ๆ มะ?
ง่ะ ฝึกงานตอนซัมเมอร์ก็ยังไม่รู้จะไปไหน
อยากทํางานกับพวกสํานักพิมพ์นะ แต่ที่อยากรับมานไม่รับนิสิตฝึกงานอ่า
เห็นทีคงต้องเบนเป้าไปที่อื่นแหละ

บางทีก็รู้สึกว่าอยากจะจบเร็ว ๆ อยากออกไปทํางาน ไม่ต้องพึ่ง หรือเป็นภาระใคร
แต่หลาย ๆ ครั้งก็รู้สึกขี้เกียจ
ยังไงวะเนี่ยกรู

หลายวันก่อน สํานักพิมพ์เพิร์ลที่เราเคยไปทํางานโทรมาตามให้ไปทํางานตอนงานหนังสือเดือนตุลาแหละ
ดีใจนะ ว่าอย่างน้อยการทํางานของเราก็ยังเข้าตาใคร อิอิ
แต่ปัญหาหญ่ายยยย คือว่ายังหาที่พักมิได้เรย
คราวก่อนค้างที่ออฟฟิศตั่วเจ้
แต่ตอนนี้ตั่วเจ้ออกแล้วอ่ะ
เลยไม่รู้จะไปอยู่กับผู้ใด
อยู่บ้านตัวเองมันก็ไกล ไกลมากนะ แล้วเราก็มั่นใจมากว่าคงไม่มีใครไปรับเรากลับแน่ ๆ
เห็นทีรอบนี้อาจจะได้แค่นั่งเซ็งอยู่ที่บ้านช่วงปิดเทอม เศร้า ๆ
นางสาวกุ้งชวนให้พาไปสมัครงานที่นี่แหละ
ก็ไม่รู้ว่ามันจะติดรึเปล่า จะได้ค้างที่บ้านมันเลย 55+
แต่เราต้องให้คําตอบกับสํานักพิมพ์ก่อนที่จะรู้ว่ากุ้งติดรึเปล่าด้วยซํา ง่า
ทํางาน ได้ตังค์ ดีกว่านั่งอยู่เฉย ๆ นะ


เดือนใหม่ที่กําลังจะเข้ามานี่
มีงานให้ต้องทําต้องส่งเยอะใช้ได้เรยย
จริง ๆ อ.ให้งานมาตั้งนานแล้ว
แต่ถ้าไฟไม่ลนก้นก็ไม่ทํา

เมื่อไหร่จะถ่ายหนังกันล่ะเพื่อน ๆ

ช่วงนี้แอบรู้สึกว่าตัวเองติดไฮ่ห้านะนี่
ไม่ได้ตามไปเม้นท์ให้ชาวบ้านร้อก
แค่อยากดูว่ามีใครเม้นท์ให้รึเปล่า 55+

วันนี้กลับบ้านคนเดียวอีกวันนึง
เนื่องจากมีหมาน้อยบางตัวไปกินเหล้าฉลองชํ้า (ไม่ใช่แชมป์นะ! )
เออ แต่ก็พอเข้าใจฟีลนะ อารมณ์แบบที่ 1 มาตลอด ไม่เคยแพ้ใคร ดั๊นมาแพ้รอบตัดเชือก อดแชมป์มา 2 ปี จะแก้ตัวอีกทีก็ปีหน้า อืม ๆ
ตอนนี้คงแฮงค์อยู่ ปล่อยไปก็แล้วกัน

สองปีหนึ่งเดือนกะอีกสองเดือนแล้วนะนังหอยหลอดดดดดด



Create Date : 29 สิงหาคม 2551
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 14:12:05 น.
Counter : 644 Pageviews.

1 comment
ขายหนังสือในงานหนังสือของเด็กหาตังค์ซื้อหนังสือ #2
วันติวหนังสือ ติวงานน่ะแหละ เราก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานเดิมของตัวเองคือสายได้สาย สายเป็นประจํา
สายไปประมาณ 15 นาที แอบรู้สึกผิด เหะเหะ

มาถึงวันที่ทํางานเลยดีกว่า ข้ามช็อตไปเลยก็แล้วกัน
เด็กมศว มาทํางานบูธเพิร์ลเยอะใช้ได้เลย มีมธ. จุฬา มหิดล ราม เกษตร และน้องมอปลาย (ที่กําลังรอคะแนนเอเน็ตโอเน็ตในขณะนั้น) มาทํางานกันด้วย
วันแรกที่ยืน เหนื่อยและเมื่อยมาก ๆ ยืนทั้งวันนะคุณ 10 กว่าชั่วโมงน่ะ

วันแรก ๆ บีซี่มากมาย ลูกค้าเยอะมาก ๆ รุมบูธกันเลยทีเดียว แต่ก็หนุกดีนะ ได้พูดตะล่อมลูกค้า
"พี่ เล่มนี้ขายดี สนุกมากเลย" ว่ากันไป

เรายืนตรงหนังสือแนว Chic Read อ่ะ หนังสือผู้หญิงอ่ะจ้ะ รัก ๆ กุ๊งกิ๊ง ๆ การ์ตูนรักเกาหลีก็มีนะ
(ไอ่ตั๊กบอกว่าเข้ากับหน้าดี เอิ๊กกก)
หนังสือแนวชิครีดมาใหม่แค่เล่มเดียว ที่เหลือที่ขายจะเป็นหนังสือที่ออกมาตั้งแต่งานก่อน ๆ แล้ว ซึ่งก็ยังเป็นหนังสือใหม่ของเราอยู่ดี
เราก็มีหน้าที่เก็บข้อมูลกันไป เล่าเรื่องคร่าว ๆ ให้ลูกค้าฟังได้ บางเล่มเป็นไฮไลท์ของบูธเมื่องานคราวก่อนด้วยนะเคอะ
พอผ่านไปหลาย ๆ วัน เวลาลูกถามว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร รู้สึกอยากได้วิทยุซักตัว ที่อัดเสียงไว้ แล้วเปิดให้ลูกค้าฟังแทนการพูดเอง รู้สึกคอแห้ง ๆ ด้วยอ่า..
เล่าจนจําได้ขึ้นใจเลยเขอะ

เรื่องนี้จะเป็นแนวน่ารัก กุ๊กกิ๊ก โรแมนติกค่ะ ส่วนอันนี้จะเป็นตลกมากกว่า อันนี้ก็แล้วแต่พี่ว่าพี่ชอบแนวไหนอ่ะค่ะ
อันนี้จะเกี่ยวกับสาวมั่นคนนึงที่เชื่อว่าชั้นมีความสามารถ...
พี่ สองเล่มนี้ขายดีคู่กันเลยนะ..
ก็ว่ากันไป..^^


ระหว่างงาน ช่วงที่ลูกค้าไม่ค่อยเข้า (ตลาดวาย)

เราก็มักจะยืนอ่านหนังสือของบูธเนี่ยแหละ "เก็บข้อมูล" เถอะ!! จะได้เล่าให้ลูกค้าถูกไง (ไหลได้)
อ่านกัปตันกางเกงใน (หนุกนะ ถึงมันจะสําหรับเด็กประถมก็เหอะ!)
เพราะรัก 1+2 จบแล้ว การ์ตูนเกาหลีน่ะ ยอมรับว่าเรื่องนี้อ่านแล้วอมยิ้มอ่ะ มันไม่ใช่แนวซึ้งนํ้าตาไหลพรากกกกอ่ะนะ
ไดอะรี่ของP Pan แนวรักการ์ตูนเกาหลีอีกเช่นกัน รูปน่ารักมาก ๆ เรื่องก็รัก ๆ น่ะแหละ ชอบเค้า ตามดูตลอด พอเป็นแฟนกัน ก็งอน ๆ กันบ้าง แล้วก็ดี แล้วก็ความรู้สึกที่ตอนนี้ไม่มีเธอแล้ว อืมมมม

บางทีก็ไปเดินแรดที่บูธอื่น แต่ต้องแอบเจ้าของสํานักพิมพ์นะ
(คงน่าประทับใจทีเดียวถ้าไปเดินจ๊ะเอ๋กับเจ้าของบูธ ขณะที่เรากําลังเดินซื้อหนังสือบูธอื่นเนี่ย!)


ที่ทํางานขายหนังสือก็ได้อะไรเหมือนกันนะ
เจอคนเยอะขึ้น
เจออะไรแปลก ๆ
รับมือกับอะไรแปลกที่ไม่คิดว่าจะเจอ อืม สนุกใช้ได้
พบว่าตัวเองพอมีความสามารถในการเชียร์หนังสือลูกค้า เอิ๊กกก แต่อันนี้มันก็แล้วแต่ตัวลูกค้าด้วยแหละ
ก็ประสบการณ์น่ะแหละนะ ^^

กลับบ้านดึกทุกวันเลย ให้เจ๊ตั่วกะพี่กุ้งมารับทุกวันเลย ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ





Create Date : 01 พฤษภาคม 2551
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 20:05:10 น.
Counter : 584 Pageviews.

2 comment
ขายหนังสือในงานหนังสือของเด็กหาตังค์ซื้อหนังสือ #1
หวัดดีค่ะ 21/4/07

ปิดเทอมมาเดือนกว่าได้แล้ว เดือนเมษาปีนี้ก็ยังคงร้อนไม่ต่างจากปีที่แล้วเลย
ขนาดอยู่บ้านเฉย ๆ วัน ๆ ไม่ทําอะไรนอกจากอ่านหนังสือ นั่ง ๆ นอน ๆ หาไรกิน
ใช้ชีวิตเยี่ยงคุณหนู ตัวยังเหนียวเลย


ปิดเทอมนี้ได้ออกไปหางานทําด้วย
หลังจากที่ร้างลาวงการงานพาร์ทไทม์มาจะ 2 ปีแร้ววว
ไปสมัครขายหนังสือในงานหนังสือมาค่ะ ของเพิร์ล พับลิชชิ่ง
พอดีว่ามีเพื่อนที่เค้าเป็นเด็กเก่าอยู่แล้ว กะเพื่อนอีก 3 คน+อิชั้นลากเด็กเก่าให้พาไปสมัครให้หน่อย
เพื่อนก็ยอมพาไปแต่โดยดี ขอบคุณมันมา ณ ที่นี้ค่ะ ^^

ที่ตั้งของเพิร์ลอยู่ใกล้มอ (มศว) เราด้วย (สุขุมวิท 33) เรื่องการเดินทางไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่ติดที่ว่าเนื่องจากสํานักพิมพ์ตั้งอยู่ในซอย เข้าไปได้ แต่ออกลําบากนิดนึง แท๊กซี่ที่อยู่แถวนั้นก็มักจะมีผู้โดยสารติดรถมาอยู่แล้ว เหอเหอ แต่ช่างมันเต๊อะ

เออ ก็ไปกรอกไปสมัคร ติดรูป รอสัมภาษณ์ (อยากบอกว่าวันที่ไปสัมภาษณ์นี่ อิเดี๊ยนแต่งตัวโลสุด ๆ หัวนี่ยุ่งได้อีก แต่แปลกนะ ตอนก่อนออกจากบ้านมองว่ามันเป็นศิลปะ)

คนที่สัมภาษณ์คัดเด็กก็เป็นเจ้าของสํานักพิมพ์เลยค่ะ ตอนสัมภาษณ์ซีเรียสใช้ได้เลยแหละ คือพี่เค้าดูเหมือนว่าคิดอะไรตลอดเวลา เราดูอารมณ์เค้าไม่ออกเลย รู้สึกแป้ก ๆ ยังไงไม่รู้เวลาที่เราพูดอะไร แล้วเราก็หัวเราะเอง แต่พี่เค้าไม่ขําอ่ะ ซีดเลย..
คําถามที่เค้าถามก็ประมาณว่า..
- เรียนที่ไหน เอกอะไร
- คิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง (คําถามนี้เราตอบได้ประมาณ 30 วิ แล้วก็เงียบเลย นึกไม่ออกแล้ว เงียบนานเลยแหละ เงียบจนรู้สึกกดดันตัวเองง่ะ จนพี่เค้าเปลี่ยนคําถามใหม่)
- มีข้อเสียอะไรบ้าง (ชัดเลย คําถามนี้)
- พนักงานขายที่ดีควรจะเป็นยังไง (ตอบเหมือนท่องมาเลยอ่ะข้อนี้)
- มีประสบการณ์การขายอะไรมาก่อนมั้ย (เคยเป็นพนักงานขายแมคยีนส์กะดัลมาติเนอร์ค่ะ)
- ที่บ้านขายอะไรรึเปล่า
- แล้วคิดว่าประสบการณ์ที่มีมาก่อนแล้ว จะช่วยในการขายได้มั้ย (โอ้ กรูตอบแบบโพสสิทีฟสุด ๆ )
- จากที่เรียนมา (เอกจิตวิทยา) ช่วยอะไรกับการขายได้มั้ย (โอ ดูบอดี้แลงเกวจเขอะ!! ถ้าเค้าไม่ซื้อเราก็อย่าบังคับเค้าให้รู้สึกอึดอัด และการจบการสนทนาด้วยรอยยิ้มเขอะ!!)
- คิดว่าตัวเองเป็นคนมีไหวพริบมั้ย เรียนรู้ไวรึเปล่า (เช่นกัน กรูก็โพสสิทีฟกันสุด ๆ ถึงแม้ว่าความจริงก็รู้ตัวเองว่าไม่ฉลาดมากนักร้อก เอิ๊กก)

ก็มีพรีเซนต์หนังสือด้วย
เราก็ควักไม้ตาย "วิญญาณสีม่วง" (เฮ้..ไม่ใช่วิญญาณเกย์นะจร๊ะ) ที่เคยยืมไอ่กิ๊ฟอ่านตอนม.6 มาพูดเลย (ซึ่งมันก็เป็นหนังสือเล่มเดียวของสํานักพิมพ์นี้ที่เราเคยอ่านมาก่อนในเวลานั้น นี่พูดจริง ๆ นะ)

สิ่งหนึ่งที่สังเกตจากการสัมภาษณ์ของตัวเองคือว่า..ใช้ภาษาโคตรจะไม่ทางการเลย ชิวมาก ๆ เหมือนคุยกับคน ๆ นึง ธรรมดา ๆ เนี่ยแหละ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเค้ารับเข้าทํางานเพราะข้อดีตลก ๆ อันนี้รึเปล่า แหม่ ก็เป็นกันเองไง อิอิอิ

ก่อนจบสัมภาษณ์เค้าถามว่าปกติเป็นคนพูดน้อยรึเปล่า เราก็รับเลย อ่า ใช่ค่ะ ถ้าเทียบกับในกลุ่ม หนูเป็นคนพูดน้อยสุดแล้วค่ะ (ถึงแม้ว่าตอนสัมภาษณ์อิเดี๊ยนพูดไม่หยุด ถ้าไม่ติดว่าคิดไม่ออกนะ ตอบเหมือนจะดูขัด ๆ กับที่พูดแหละ)

สัมภาษณ์กันเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และรอผลการสัมภาษณ์ว่าเค้าจะรับรึเปล่า ช่วงที่ประกาศผลตรงกับช่วงที่เอกดิชั้นบายเนียร์ที่ทะเลพอดี ถ้าติดก็ต้องรีบถ่อจากเพชรบุรีมากรุงเทพฯเพื่อติวหนังสือ อิชั้นอยากไปทะเลมากเขอะ เล่นนํ้าให้ตัวดําเล่น ลําสักนํ้าเล่น (แต่ชอบนะ) แต่ว่าที่บ้านคนเฝ้าร้านน้อยไป เลยต้องอยู่บ้าน ทั้ง ๆ ที่ก็อยากไปทะเล i_i แต่ก็มองโลกในแง่ดีว่า ถ้าติดจะได้ไม่ต้องถ่อจากเพชรบุรีเข้ากรุง จากบ้านได้เลย)

ก่อนวันประกาศผล พี่ที่สํานักพิมพ์โทรมาบอกว่ารับเราทํางานค่ะ
ดีใจ
ยกพระเสี่ยงทายที่ศาลหลักเมืองเป็นจริงค่ะ
วรรณยกพระขึ้นนะ ถึงจะลอยไม่กี่นิ้วจากที่วางพระก็เหอะ
ดีใจ



Create Date : 01 พฤษภาคม 2551
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 19:25:52 น.
Counter : 561 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

thE_Little_Uki
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]