All Blog
เมื่อฟันคุดมาเยือน..ก็จั๋งซี่มันต้องถอนน่ะสิ!!!!
เมื่อ 2 อาิทิตย์ที่แล้ว..

เกิดอาการผิดปกติกับเหงือกตรงฟันกรามในสุด ข้างขวาค่ะ
คือมันปวดบวม มีหนองเขียว ๆ คล้ายเสลดและเลือดออกมา แถมกลิ่นก็ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรง
ตอนแรกว่าจะไม่สนใจ เพราะว่าเมื่อหลายเดือนก่อนก็เคยเป็น แล้วหายไปเอง

แต่ว่าคราวนี้ วรรณลองไปคลํา ๆ ดู
ทําไมเหงือกตูปูด ๆ รูปฟันเลยฟระ แถมอาการก็ไม่ดีขึ้นด้วย ทั้ง ๆ ที่รักษาความสะอาดของปากมากกว่าปกติแล้ว แต่มันแย่เหมือนเดิม




เห็นท่าไม่ดี สงสัยว่าเหงือกอักเสบ เอ๊ะ หรือว่าฟันคุด
เลยให้พ่อพาไปหาคลีนิคแถวบ้าน

และเสียค่า x-ray ไปร้อยนึง

และนี่ืคือสิ่งที่พบค่ะ



เลยถามราคาผ่าฟันคุดกับคลีนิค และพบกับตัวเลขอันน่าตกใจ
สามพันบาทค่ะ!!

หมอให้คําตอบว่า มันนอน มันผ่ายาก อะไรของแกเนี่ยแหละ สุดท้ายก็ไม่ผ่าที่นี่ค่ะ แพงเกิ๊น!

ก็เลยตัดสินใจไปผ่าฟันที่มอค่ะ ตึกทันตะ มศว เพราะเห็นเพื่อนวรรณเค้าก็ผ่าที่นั่น และคิดว่ามันคงไม่แพงอ่ะนะ

เราก็ไปลงทะเบียน แล้วก็ x-ray ฟันทั้งปาก เราก็จ่ายค่าฟิล์มไป 330 บาท
(เป็นนิสิตที่นี่ ไม่ได้ลดตรงส่วนนี้เรยง่ะ)

แล้วก็พบว่า



นอกจากจะมีฟันคุดอยู่ 4 ซี่แล้วนะคะ
ยังเจอฟันแท้ที่นอนอยู่ในเพดานปากด้วย เพราะว่าฟันนํ้านมมันไม่ยอมหลุดค่ะ ฟันแท้ก็เลยนอนอยู่อย่างนั้น

เราก็เลยนัดหมอผ่าฟันคุดค่ะ โดยพี่หมอ ปี 5 ค่ะ เป็นคนผ่าให้ พี่หมอเตยกะพี่อีกคน (มะรุชื่อเหมือนกัน แต่ว่าหน้าตาน่ารักง่ะ ^^)
ก็ผ่าไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวานนี้เอง


ใช้เวลาผ่าไปราว ๆ 2 ชม. พี่หมอใจดีมากเลย สนใจคนป่วยดี ^^
แต่แอบรู้สึกว่าอย่างกะตัวเองเป็นเด็กงั้นอ่ะ เวลาทําอะไรตามที่พี่เค้าสั่งได้ เช่น
ฉีดยาชาได้ (2 หลอดแน่ะ) หันหัวตามที่สั่งได้ (เพื่อความสะดวกในการผ่า)

พี่แยกเหงือก กรอฟัน แล้วก็ดึง ไอ่ตอนดึงฟันนี่ไม่ยักรู้ตัว ฤทธิ์ยาชาแท้ ๆ --*



ตอนผ่าเสร็จ พี่เค้าก็ให้ยามา แก้อักเสบด้วย มีพารา แอมมอกซิล แล้วก็ไอบรูโพรเฟน และพี่ยังกําชับว่า กินแอมมอกซิลให้หมดนะน้อง --* เด๋วดื้อแอมมอกซิล ต่้อไปจะต้องกินยาแพง ^^
(ตอนแรกที่พี่เค้าซักประวัติ เราบอกพี่เค้าว่า ตอนเหงือกบวม กินแอมมอกซิลไป 2 เม็ด แถมห่างกันด้วย ไม่รู้กินทําไม 55+)

หลังผ่าได้ซักพัก ยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ เหงือกเจ็บปวดรวดร้าวมาก + รําคาญที่ปากกะคางยังชา ๆ อยู่ อ้าปากแทบไม่ได้ นํ้าตาซึม i_i

แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชม. เราก็กลับมาพูดได้ ดี๊ด๊าได้อย่างเดิม แต่ยังต้องกินอาหารอ่อนอยู่

อาทิตย์หน้าจะไปตัดไหมแระค่ะ พี่เค้าก็บอกว่า ถ้าแผลโอเคแล้ว จะมาผ่าฟันคุดอีกข้างก็ได้นะ โฮ่~

ไอ่ถอนก็คงถอนแหละพี่..แต่ดูสภาพแผลก่อนนะ งิงิ

เราว่าไอ่ถอนฟันคุด มันก็เจ็บตอนหลังถอนประมาณ 3-4 ชม. หลังจากนั้นก็กลับคืนสภาพปกตินะ

แถมที่มอ ผ่าฟันคุดฟรีด้วยค่ะ ถอนฟันก็ฟรีด้วย ^^
ใครที่มีปัญหาฟันคุดก็เชิญได้ค่ะ ที่ตึกทันตะ มศว โดยนิสิตทันตแพทย์ค่า~

ขอขอบคุณพี่หมอเตย กะพี่หมอหน้าตาน่ารักคนนั้นมา ณ ที่นี้ค่ะ



Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 15 กรกฎาคม 2552 16:38:53 น.
Counter : 8445 Pageviews.

18 comment
a moment @ KAPOOK!
หวัดดีค่ะ ^^

รู้สึกว่าช่วงนี้อัพบล็อกถี่ขึ้น..เล็กน้อย 55+

ตอนนี้ก็เปิดเทอมได้วันนึงแล้ว เทอมนี้ก็ขึ้นปี 4 แล้ว มีเรียนแค่ 2 วันจาก 5 ..ว่างไปไหน..

เนื่องจากว่าว่างมาก..ก็เลยว่าจะหางานทําซักกะอย่างแระแหละ เมคมันนี่ด้วย 55+

เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา วรรณไปฝึกงานด้วยล่ะ มันต้องฝึกล่ะ ไม่งั้นไม่จบ งิงิ

วรรณไปฝึกที่ บ.บัณฑิตเซ็นเตอร์ จํากัด พูดอย่างนี้ไม่รู้ใช่มั้ยว่าคืออะไร เกี่ยวกะอะไร

เป็นบ.ออกแบบเว็บไซต์ค่ะ มีผลงานที่เป็นประจักษ์ (เว่อร์มะ) อยู่หลาย ๆ เว็บเชียวค่ะ ดูกันที่นี่ได้นะคะ //www.bunditcenter.com

หนึ่งในเว็บที่รู้จักกันดีก็คือเว็บกระปุกค่ะ และยังเป็นเว็บของบ.ด้วย //www.kapook.com

วรรณก็ไปฝึกงานที่กระปุก ในตําแหน่ง CS ค่ะ customer Service and Admisniation ชื่อเต็มประมาณนี้แหละ (ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะคะคุณพี่ ๆ ^^) ฝ่ายเราก็โชคดีอย่างนึง มีพี่ ๆ จากฝ่ายอื่น ๆ แวะมาเยี่ยมเยียนกันตลอด เลยได้รู้จักกับพี่ ๆ ที่อยู่ฝ่ายอื่น ๆ ด้วย

ซึ่งตําแหน่งหน้าที่นี่วรรณก็ลงตามใจตัวเองสุด ๆ อ่ะ เรียนจิตวิทยามา แต่ไปทํากลิตเตอร์ค่ะ อยู่กับโฟโต้ชอป อิมเมจริดดี้ กะโฟโต้สเคปกันอย่างสนุกสนาน และฝึกใช้ทิปประหลาด ๆ (อะไรที่เราไม่เคยเจอ เรียก "ประหลาด" หมดล่ะ)

เอาตัวอย่างผลงานมาโชว์ค่ะ


เอาตัวอย่างผลงานมาโชว์ค่ะ


เอาตัวอย่างผลงานมาโชว์ค่ะ


เอาตัวอย่างผลงานมาโชว์ค่ะ

เอาตัวอย่างผลงานมาโชว์ค่ะ


เราเริ่มฝึกงานตั้งแต่ 30 มีนา ไปจนถึง 29 พฤษภา ราว ๆ 40 วัน

ฝึกงานที่กระปุก..ชิวมากกกกก เป็นอะไรที่ตรงกับนิสัยตัวเองมาก ๆ ถูกใจเจ้ ^^

* พี่ ๆ ใจดีค่ะ ไม่กดดัน กัดจิกอะไร สงสัยอะไรถามได้ ไม่รู้สึกว่าเป็นคนนอกมากนะ คือว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด ไม่ว่าจะเรื่องคอม หรือทั่ว ๆ ไป เช่น ขาแว่นหัก 55+ ฝ่ายบุคคลอยู่ตรงไหน อะไรงี้^^

* เป็นงานที่ไม่ได้เจาะจงจํานวนชิ้นงานต่อวัน มีไอเดียเมื่อไหร่ก็ทํา ตามใจคนทํามากอ่ะ ตอนแรก ๆ ที่เราเข้าไป ได้วันละตัว (อยู่ในช่วงศึกษา) บางวันก็ไม่ได้ แต่ซักพักก็ปั่นงานได้เรื่อย ๆ แหละ บางทีก็มีงานนอกของลูกค้า ก็ปั่นงานให้เสร็จก่อนถึงวันส่ง มีเวลาทําหลายวัน ไม่ตื้อเกินไป ยังไงก็ทัน ^^

* จะแต่งตัวไปฝึกงานยังไงก็ได้ ชิ๊วชิว~ แต่เราก็ยังใส่ชุดนิสิต ให้แลดูเรียบร้อย


ก็แฮปปี้ดีค่ะ ไปฝึกงานที่กระปุก แต่ก็ยอมรับบ้างว่าแรก ๆ ก็เหงาบ้าง คือเราเองก็เป็นคนเงียบอยู่แล้ว อารมณ์ว่าถ้าไม่ชวนชั้นคุย ชั้นก็ไม่พูดก่อน (ป่าวหยิ่งน้า..)
แล้วก็เจออะไรแปลก ๆ ที่ไม่เคยเจอ (ไม่บอกนะว่าอะไร อยากรู้ไว้มาถามหลังไมค์นะ 55+)

วันสุดท้าย พี่ ๆ มีเลี้ยงส้มตําด้วย 55+ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ

ก็ขอขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ดูแลกันมาตลอด 2 เดือน และทําให้ซัมเมอร์นี้เป็นช่วงเวลาที่ดีนะคะ ^^

ขอบคุณค่ะ


ขอทิ้งท้ายด้วยรูปออฟฟิศ (เล็กน้อย) นะคะ


โต๊ะคอมเรา (ตอนแรก)



มุมหน้าออฟฟิศ มองจากโต๊ะเราง่ะ



โต๊ะคอมเรา (ตอนหลัง)



ออฟฟิศใหม่ค่ะ..ย้ายมาก่อนจบการฝึกงาน 1 อาทิตย์



พี่ ๆ ให้มาค่ะ..ที่ระลึก งามใช่มั้ยล่ะ ^^


ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

* แมววรรณกลับสู่สภาพปกติแล้วค่ะ ทึ่งในแรงฮึดของมันจริง ๆ ^^



Create Date : 10 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 15:10:27 น.
Counter : 1809 Pageviews.

1 comment
untitled
ตอนนี้เทศกาลรับน้องในเอกก็จบไปแระ
และจบไปพร้อม ๆ กับฟีลในการจะเล่าเรื่องรับน้องของข้าพเจ้า..- -*

จําได้แค่ว่า
รับน้องปีนี้..เรามิค่อยเอนจอยทะหร่าย i_i
เพราะเราไม่ได้ทําตัวสนิทกะใครด้วยมั้ง
แถมตอนเฉลยสปายก็ไม่จี๊ดอ่ะ

คือตอนเฉลยก็ให้เราเป็นลม มีคนหิ้วออกไปแล้ว พี่ ๆ ก็จะมาว้ากน้องปี 1 ว่าทําไมไม่ดูแลเพื่อน (ก็คือเราน่ะแหละ) ซึ่งก็มีสปายคนอื่นออกมาเถียงกันไป แล้วก็เฉลยสปายที่ออกมาเถียง ด้วยมุกเดิมว่า

"แล้วน้องมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับพี่อย่างนี้คะ"

"ก็กูเพื่อนมึง!!"
อะไรคล้าย ๆ อย่างนี้ล่ะ มุกเดิมจิง ๆ - -*

พอกําลังเฉลย กิ๊วก๊าวกันอยู่
เราก็ถูกดึงออกมาจากโต๊ะ ซึ่งสภาพตอนนั้นมันเงียบ ๆ อ่ะ อธิบายมิถูกเหมือนกัน

คือแบบว่า เราถูกดึงออกมาผิดเวลา มันไม่พีคอ่ะ

แล้วก็มีเฉลยสปายคนอื่น ๆ จนช่วงเย็น ๆ ก็มีบายศรี เราก็ผูกข้อมือน้องไป..ก็หลายคนนะ เพราะฝนมันตก ออกจากสถานที่ไม่ได้ 55+

น้องบอกว่าเนียน เป็นพี่ที่เนียนจิง ๆ 55+

จบค่ะ แต่เพียงเท่านี้สําหรับรับน้อง - -*


เหลืออีก 2 วันสําหรับการฝึกงาน
พัก 1 อาทิตย์ แล้วเปิดเทอม
ขี้เกียจเรียนแระอ่ะ เบื่อแล้ว
ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้เรียนยาก หรือหนักแต่อย่างใด แง่วววว
แค่รู้สึกเบื่ออ่ะ

ปี 4 เราเรียนแค่ 2 วัน จ กะ ศ
กลางสัปดาห์คงต้องหาไรทําหน่อยละ - -* ว่างเกิ๊น!!


ตบท้ายว่า..กําลังเศร้า

คุณแมวน้อยที่บ้าน อาการไม่ดี i_i
เมื่อเย็นวานเจ๊ตั่วกะพี่กุุ้งพาไปหาหมอ..หมอบอกว่ามันเป็นโรคลําไส้ parvo
แถมถ่ายพยาธิยาวยืดอีก 2 ตัว (หมอแกให้ยาถ่ายพยาธิไว้)

มันไม่กินข้าวมาวันกว่าแล้ว ซึม แต่ว่าเมื่อเช้ามันยังมีอารมณ์จับแมลงสาบนะ
พอเราไปหาในเน็ต ปรากฎว่า ไอ่โรคลําไส้พาร์โวอะไรเนี่ย = โรคหัดแมว
ซึ่งเป็นโรคที่คร่าชีวิตแมวบังเกิดเกล้า "มาเฮง"
ป๊าบอกแล้วว่าควรทําใจ..หรอ? อย่างนั้นจริง ๆ หรอ?

ขอให้เรา "search ผิด" หรือ "ข้อมูลมั่ว" ได้มั้ยอ่ะ..
(กลวิธานการป้องกันตัว..ถูกใช้งานอีกแล้ว)



Create Date : 27 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 13:18:58 น.
Counter : 733 Pageviews.

0 comment
ปฐมบทของการเป็นพี่เนียน..ตอนรับน้องจ้ะ ^^
หวัดดีค่ะ
ไม่ได้อัพบล็อกมาชาติกว่า..เนื่องจากหลาย ๆ เหตุผล
ถ้าพูดไปก็เหมือนแก้ตัว..งั้นหนูมะพูดดีก่า งิงิ

ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์แล้ว ^^
ขออัพเดตเรื่องตัวเองนิดส์นะ ^^
ช่วงที่ผ่าน ๆ มา วรรณก็ไม่ได้ทําไรเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่
ตอนยังไม่ปิดเทอมก็เรียนตามปกติ เอื่อยเฉื่อย ทําตัวชิว ลอยละลิ่วไปเรื่อย ตามประสาคนหาสาระไม่ได้ 55+ และอุปการะแมวสลิดที่ดําที่หลงกับแม่มาตัวนึง ตอนมาใหม่ ๆ ยังเป็นแมวน้อยอยู่เลย



(แมว ha ไรไม่รู้..เวลานึกจะคลั่งก็คลั่ง เห็นร่างกายคนเป็นเหยื่อซะอย่างนั้น กัดทุกคน แม้ว่าจะเคยมีบุญคุณกับมันแค่ไหนก็เหอะ ด่ามันทุกวัน ไอ่เก๋าเจ๋งเงี้ยว!! ไอเงียวกุ๋ยเกี้ย!!) พอละ ไม่นินทาแมวละ 55+

(ขอแถมนิดหน่อยว่าวันนี้มันแย่งถุงเท้าเราไปกัดเล่น พอจะขอคืน มันขู่ใส่ซะงั้น ของตูนะเว่ย!!)

พอปิดเทอมปั๊บก็บายเนียร์เล็กน้อย แล้วก็ไปฝึกงาน
วรรณฝึกงานที่เว็บกระปุกค่ะ บ.บัณฑิตเซ็นเตอร์ ซอยรัชดาฯ 31
ตอนนี้ก็ฝึกไปได้เดือนกว่าแล้ว ก็ถือว่าแฮปปี้ดี
พี่ ๆ ก็โอเคนะ ไม่จิก ไม่โหด อะไรกะเด็กตาดํา ๆ อย่างเรานะ งิงิ บางทีก็ฮาดีด้วยซ้ำ
แต่ก็แอบมีเหงาบ้างเล็กน้อย
การฝึกงานทําให้เรารู้ว่าทักษะการเข้าสังคมของตัวเองเข้าขั้นตกตํ่า.. เศร้าใจ..
คือเราไม่ค่อยเปิดประเด็นก่อน..ประมาณนั้น เราเงียบ..
แต่ถ้าพี่พูดด้วย ก็พูดนะ คือเหมือนเป็นคนรับสารมากกว่าคนส่งสาร เข้าใจใช่ป่ะ?
หนูจะพยายามพูดให้มากกว่านี้นะคะ ^^

มาเข้าเรื่องของวันนี้ดีก่า..
วันนี้ 14/5/09 พฤ
เป็นวันสัมภาษณ์ รายงานตัว สําหรับเด็กแอดติดค่ะ
เราก็เลยวัยแอดมิสชั่นมา 3 ปีแระ..(เป็นรุ่นหนูลองยาด้วย i_i)
แต่วันนี้ก็มาเป็นพี่เนียนค่ะ สปายนั่นเอง (เอกเราเรียกอย่างนั้น)
(รู้ยังเนี่ยว่าเราอยู่เอกจิต คณะมนุษยศาสตร์ มศว จะขึ้นปี 4 แร้นนน)
เราก็ลาพี่วันนึง เพื่อมาทําหน้าที่เป็นสปาย (ไวน์คูลเลอร์..เราชอบสีชมพูนะ..ไม่เกี่ยว 55+)





ใส่ชุดนักเรียน แอ๊บเป็นเด็กมอปลาย
..ชื่อวรรณค่ะ มาจากร.ร.สตรีศรีสุริโยทัยค่า~..



พอใส่ชุดมอปลาย พบว่า..
* เสื้อโคร่งไปไหน..นี่ตอนมอปลายกรูใส่อย่างงี้มา 3 ปีเลยนะเนี่ย !!! กร๊ากกกก เฉิ่มง่ะ..
* กระโปรงก็ย้าวยาว จะคลุมตาตุ่มได้แล้วมั้ง (เว่อร์ไปมั้ย) เฉิ่มอ๊าาาาา~
ช่างเป็นชุดที่ใช้ผ้าได้เปลืองมาก (จริง ๆ นะ)

พร้อมกับเก็บผมเป็นก้อนพอง ๆ แบบที่เด็กมอปลายชอบทํา แอ๊บกันเต็มที่ เปิดเหม่งประจานให้โลกรู้ 55+



ใครหัวเถิก เราขอท้า!!

เค้านัด 9 โมง เราก็ไปถึง 10 โมงใกล้ครึ่ง มาพร้อมกะลดาอ่ะ (เพื่อนเราเอง หมวยแว่นอีกคน)
ไปถึงห้องรอสัมภาษณ์ ปะทะกับฝูงชนเต็มห้อง โหวกเหวก โวยวาย วี้ดว้าย..ในห้องวับแวบ (คับแคบ)

แอบคิดในใจว่า..น้อง ๆ ตูจะรู้มั้ยเนี่ยว่าตูเป็นสปาย กลืนกันไปหมดเลยว่ะ ชุดนักเรียน
แล้วประกอบกับเราไม่ค่อยโผล่หน้าให้น้องเห็นง่ะ เราก็ไปเซ็นชื่อเล็กน้อย..ประกาศให้โลกรู้ว่า..

ชั้นมาแล้วนะ..เสร็จแล้วก็ไปนั่งที่ อันไหนว่างก็นั่งไป

ชวนคนข้าง ๆ คุย ตามลักษณะงานของการเป็นสปาย ^^
แอบหลุดเล็กน้อย เรื่องวันประกาศผลแอดมิสชั่น จําวันผิด ..น้องแกจะจับเรามั้ยนะ - -*

พอถึงเวลาแยกย้าย ก็แยกย้ายกันไป พยายามไล่น้องกลับไปให้หมด เพราะพวกพี่ ๆ จะประชุมกันต่อ
ตอนนี้เราก็รู้ว่าจะเฉลยสปายยังไง แล้วไอ่เจ้าวิธีเฉลยเนี่ย..คุ้น ๆ นะ เพราะเคยเล่นบทนี้มาก่อนแล้ว.. ทะเลาะกะพี่ (จริง ๆ แล้วน้อง) จนพี่พูดว่า "แล้วน้องมีสิทธิ์อะไรมาพูด(ด่า)พี่" แล้วก็จบว่า "ก็กรูน่ะพี่เมิง!!!" อะไรประมาณนี้

ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรรึเปล่า รอดูกันต่อไป

วันที่ 16-17/5/09 ก็จะมีกิจกรรมรับน้องกันต่อ เราก็ต้องเนียนกันต่อไป วู่ ๆ~

(ปีนี้สปายแอบเยอะนะเนี่ย 12 คนแน่ะ แต่จํานวนน้องก็ตั้ง 60 กว่าคน รับเยอะกว่าทุกปีด้วย)

จบงาน+ได้ฤกษ์เมื่อไหร่ จะมาเล่าให้ฟังต่อค่ะ ^^



Create Date : 14 พฤษภาคม 2552
Last Update : 14 พฤษภาคม 2552 17:32:29 น.
Counter : 5664 Pageviews.

1 comment
หลับฝันดีนะ..
หวัดดีค่ะ

บล็อกนี้ทํามาเพื่อรําลึกความหลัง (ศัพท์แก่มาก)
กับแมวตัวนึง

เป็นแมวจรค่ะ
พันธุ์ผสม สีน้ำตาลแซมขาว ตัวผู้
หน้าตาอย่างนี้



มันมีสัญลักษณ์แสดงความมีเจ้าของด้วย

ตอนที่เห็นมันครั้งแรก
มันก็เป็นแมวสภาพปกติดี ไม่เจ็บป่วยอะไร
นอกเสียจากว่ามันเป็นแมวที่หายใจเสียงดังมากกก
(ต้องเข้าไประยะประชิด เสียงเหมือนสตาร์ทเครื่องมอร์'ไซค์ทิ้งไว้ เสียงหึ่ง ๆ อ่ะ)
มันมานอนซุกแถว ๆ ประตูบ้านข้างบ้าน (ไม่มีคนอยู่)
ก็นอนแง้ว ๆ อยู่ตรงนั้น

พอหิวก็ลุกออกจากโพรง แล้วก็เดินมาบ้านเรา

เราก็ให้อาหารมันกิน ลูบหัวเล่นด้วย
แถมมันยังโดดมานั่งตักเราอีก





จนถึงกลางคืนก็คิดอยู่ว่าจะเก็บมันมาเลี้ยงเลยดีมั้ย แต่กลัวมันอึในบ้าน ก็แมวไม่รู้จักนี่นา พอเวลาปิดบ้าน ก็ดันก้นมันออกไป

มันก็แง้ว ๆ คงอารมณ์แบบไล่กรูทําไมเนี่ย
แต่ก็ต้องทําแหละ เพราะกลัวมันอึ แล้วกลัวที่บ้านไม่ค่อยอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เพราะว่าขายของไง ฮาร์ดแวร์ สรุปคือไม่สะดวกเลี้ยง

เลยปล่อยมันไป ถึงจะแอบเศร้าเล็ก ๆ
(จริง ๆ หนูก็อยากเลี้ยงแมวนะ ชอบแมวค่ะ )

แล้วมันก็หายไปจากชีวิตเราไปประมาณอาทิตย์นึง

แล้วมันก็กลับมา..

มัน(หลง)เข้ามาในบ้านอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธันวา 51
(ราว ๆ นี้แหละนะ)
แล้วแมวจรตัวนั้นก็อยู่ยาวววว
จะว่าไปก็ไม่ยาวหรอก
มันอยู่กับเราประมาณ 3 อาทิตย์กว่า
แล้วมันก็ไป..

ดูเหมือนเป็นแค่เวลาสั้น ๆ
แต่ก็ให้ความสุขและการเรียนรู้อะไรหลายอย่าง..

ตอนแรกคิดว่ามันเป็นแมวแก่
เคยได้ยินมาว่าแมวแก่ หนวดยาว แต่เห็นมัน alert มาก ก็สงสัยว่าตกลงมันแก่ป่าวเนี่ย
แล้วเพิ่งมาได้คําตอบตอนพามันไปหาหมอ
หมอบอกว่ามันยังเด็กอยู่เลย ไม่ถึงปี เพราะดูฟันแมวยังเรียบร้อยดี ไม่สึก

แมวตัวนี้นิสัยดีมากค่ะ ยิ่งในตอนแรก ๆ
(แต่เลี้ยงไปเลี้ยงมา เริ่มไม่สนใจเรา ง่ะ..)
ขี้อ้อนมาก..เอาหัวมาถูขาเรา แล้วคนในบ้านก็โดนอีคุณแมวอ้อนเหมือนกัน

มันขยันถูมาก
จนแอบคิดว่ามันคันอะไรรึเปล่า เห็บเกาะรึเปล่า 55+


ไม่หยิ่งด้วย แค่เราร้องเมี้ยว ๆ มันก็เดินมาหา ถึงเราจะไม่มีของกินติดมือเลยก็เหอะ

มีคืนนึง ตอนดึก ๆ เคยลงมา แล้วไม่เห็นมัน แค่ร้องแง้ว ๆ มันก็วิ่งผั่บ ๆ ลงมาจากบันได ทึ่งในประสิทธิภาพมาก 55+

บางทีก็เดินตาม นี่กรูเป็นแม่เอ็งรึงายยย
เดินตามเลยนะ เหมือนเป็นแฟนคลับเรายังไงยังงั้น 55+
ไปไหนก็เดินตาม
ถ้าเรานั่งเก้าอี้เมื่อไหร่ มันก็หาโอกาสกระโดดมานอนบนตัก สงสัยตักคงอุ่นกว่า อย่างน้อยก็อุ่นกว่าพื้นล่ะนะ

มีวันนึงเคยเห็นมันมานอนรอหน้าบ้านด้วย พอมันเห็นเรากลับเข้าบ้าน มันก็เดินตามเข้ามา มันรอกรูรึเปล่านะ

แถมแมวไม่หนีด้วย
เป็นเด็กดีมาก ไม่เคยวิ่งหนีออกนอกบ้านเลย
(ไม่รู้ว่าข้างนอกมันอันตรายจากหมาข้างนอก ประกอบกับที่นี่มีข้าวกะที่นอน แถมยังมีคนโอ๋ด้วย เลยไม่ไปรึเปล่านะ)


ม้าตั้งชื่อมันว่า"มาเฮง"ค่ะ (อารมณ์คล้าย ๆ มารวย)
ก็ไม่มีใครขัดอะไร เพราะตอนนั้นยังคิดชื่อกันไม่ออก
(แม้ว่าตอนหลังเราจะคิดชื่อได้ อยากให้มันชื่อมิวมิว ซีซี อะไรงี้มากกว่านะ แต่ก็จงเป็นมาเฮงต่อไปเถอะ..)




ตอนแรก ๆ ที่บ้านเห่ออีคุณแมวบังเกิดเกล้ามากค่ะ
ป๊ากะม้าเรานี่เห็นมันเป็นลูกบังเกิดเกล้าเลยมั้งเนี่ย
ป๊าบอกให้ม้าไปซื้อปลาทูมาให้มันกินอ่ะ สเปเชียลมาก
(ทีลูกล่ะไม่เคย เชอะ ๆ )

พี่เราก็อิจฉาแมวไปอีกคน ก็ป๊าม้าเล่นโอ๋อย่างกะลูก
ว่าง ๆ พี่เราก็ไปทะเลาะกับแมว 55+
ไปตะโกนใส่แมว แต่แมวหากลัวไม่
ถึงจะเคยตะโกนใส่มัน แต่ถ้าพี่เรานั่งเมื่อไหร่ มันก็โดดไปนั่งตัก ..อย่างนี้..



ตอนบ่าย ๆ คุณแมวบังเกิดเกล้าก็จะออกไปอาบแดดหน้าบ้าน (ช่วงนั้นหนาวด้วยไง) ซึ่งการกระทําดังกล่าวเป็นการล่อหมาตรงข้ามบ้านมากกก
หมาตรงข้ามเคยจะมากัดมันสองทีแล้ว
แต่ก็หนีมาได้ตลอด

หูแมวนี่ยุกยิกตลอดเวลาเลยนะ
เคยแอบย่องข้างหลังมัน กะแกล้งแมวให้ตกใจ
แต่มันก็หันมามองทัน และวิ่งหนีหมาทันตลอด


ที่นอนมันค่ะ หาที่นอนได้สถุลจริง ๆ แม่หาให้ได้แค่นี้แหละลูก..




ถ้าไม่เลี้ยงแมวนี่ก็จะไม่รู้นะเนี่ยว่าแมวมันนั่งฉี่นั่งอึ
คิดว่ามันจะยกขาเหมือนหมารึเปล่า (โง่มะ)

พอเอามันมาเลี้ยง เลยต้องจัดการกับของเสียของมันด้วยค่ะ
ไปซื้อทรายแมวให้มันด้วย
ตอนแรกกลัวมันใช้ไม่เป็น อึฉี่ไม่เป็นทางเหมือนเดิม

แต่ว่ามันรู้งานแฮะ เอากระบะมาวาง เททราย
มันก็รู้เลยว่าไอ้พวกนี้ไว้ทําอะไร

เพิ่งรู้อีกอย่างว่าแมวถ่ายของเสีย แล้วกลบด้วยนะนี่..




ก็เลี้ยงมันประมาณ 2 อาทิตย์กว่าอ่ะค่ะ
แมวมันเริ่มไม่สบายก่อน
เป็นหวัดแมวค่ะ ไม่ได้ติดจากแมวอื่นแน่ ๆ เพราะตลอดเวลาที่มันอยู่กะที่บ้าน มันไม่เคยระเห็จไปไหนไกลกว่าหน้าบ้านเลยค่ะ
สงสัยอากาศจะเย็น
มันเบื่ออาหาร แล้ววัน ๆ ก็เอาแต่นอน ตัวอุ่น ๆ จมูกแห้ง

ก็หิ้วมันไปหาหมอ
ม้าหิ้วมันไปค่ะ แล้วเราตามไปที่ร้านทีหลัง
ม้าบอกว่ากว่าจะต่อสู้ให้มันออกไปหาหมอข้างนอกได้นี่ลําบากมาก
ม้าอุ้มมันออกไป พอเดินได้ซักพัก แมวก็จิกเสื้อ สงสัยกลัวว่าพาไปปล่อยทิ้ง
ก็ไม่ยอมไปซะที จนต้องใส่แมวไว้ในถุง กันเล็บแมวอ่ะค่ะ ถึงจะออกไปได้

เสียค่าเสียหายไป 250.- ค่ะ
หมอบอกว่ามีเสลด คือคอไม่โล่งว่างั้น มันเลยหายใจเสียงดัง
เค้าก็ให้ยาขับเสลด กะยาปฎิชีวนะอะไรซักอย่าง พร้อมกับเจลอาหาร

อยากบอกว่าการป้อนยาให้แมว เป็นอะไรที่สาหัสสากรรจ์จริง ๆ แถมได้แผลด้วย

บอกวิธีป้อนยาให้แมวด้วยเลยละกันนะคะ ควรมีผู้ช่วยด้วยนะคะ เพื่อความสะดวกในการป้อน และเพื่อความปลอดภัยของคนป้อนด้วยค่ะ
- คนป้อนควรใส่ถุงมือหนา ๆ หรือหาผ้ามาพันก็ได้
- ดึงหนังตรงคอแมวขึ้นมา แมวจะอ้าปากโดยอัตโนมัติ
- ล็อคขาหน้า และขาหลังของแมว
- คนป้อนยา จัดการคีบยาใส่ปากแมวเลยค่ะ ควรให้ยาทางมุมปาก แถว ๆ เขี้ยวอ่ะค่ะ
- เงยหน้าแมว ให้แมวมันกลืนยาลงไป หรือให้ยาไหลลงคอ

อีกอันนึง
ป้อนยา หลอกแมว โดยเอาเม็ดยาไปซุกไปในอาหาร ให้มันกินอาหารพร้อมยาทีเดียว แง่มมม

แมวแพ้พาราเซตามอลนะคะ ห้ามให้พารากับแมวเด็ดขาดดดด!!!!

พอมันเป็นหวัด กินยาไม่กี่ครั้งก็หาย ก็กลับมาเป็นแมวปกติที่เอาแต่กินและนอนเช่นเดิม..

แต่เรื่องป่วยมันยังไม่จบ
อีกอาทิตย์ต่อมา มันก็ไม่สบายอีกค่ะ

คราวนี้หนักเลย
เบื่ออาหาร ดูซูบลงไปเยอะมาก ท้องยุบจนเห็นซี่โครง
ไม่กินข้าวหรือน้ำ 2-3 วันได้เลยนะ
แล้วก็ดูซึมไปเลย อยู่นิ่ง ๆ ตลอด ไม่สุงสิงกับใครแล้ว
เคยให้ยาชุดเดิมไป แต่มันอ้วกออกมา แล้วเมือกยาออกมาจากปาก
คือยาไปไม่ถึงท้องมันเลยค่ะ

เห็นท่าอาการไม่ดี
เลยหิ้วไปหาหมอเจ้าเดิมอีกครั้ง
คราวนี้แมวยอมอยู่ในถุงแต่โดยดีเลย นอนนิ่ง ๆ อยู่ในถุง
ไม่ยุกยิกไม่ออกมาโผล่หน้าชมโลกภายนอกเหมือนคราวที่เป็นหวัด

หมอบอกว่ามันมีแผลในลิ้น น้ำคั่งในปอด เป็นหัด อะไรประมาณนี้
ลิ้นเป็นแผล เลยยิ่งไม่อยากจะกินอะไร..
เราก็ถามหมอว่าถ้ามันเป็นหัด โอกาสรอดมีมั้ย
หมอบอกว่ายาก..

ก็รักษาไปถามอาการ ฉีดยาขับน้ำในปอดให้ออกทางฉี่ แล้วให้น้ำเกลือทดแทนกับน้ำที่เสียไป
พอถูกฉีดยาก็ไม่ร้องหรือหนีอะไร ยอมโดนฉีดยาแต่โดยดี

ดูท่ามันจะไม่ไหวแล้วแหละ..

ก่อนกลับ หมอบอกให้พยายามให้เจลอาหารที่เคยให้เมื่อคราวก่อนให้หมดหลอด (ที่ยังอยู่ในสภาพดีมาก ไม่ค่อยได้ให้มันกิน)
แล้วพยายามป้อนน้ำให้มัน เฮลซ์บลูบอยก็ได้ จะได้กลูโคสด้วย
เพราะแมวจะช็อกถ้าอยู่ในภาวะขาดน้ำ..

เราก็หิ้วมันกลับมานอนในกล่องเหมือนเดิม
มันก็เป็นแมวซึม ๆ เหมือนเดิมค่ะ พอจะป้อนน้ำมันก็พยายามดิ้น ไม่ยอมกิน
ส่วนน้ำที่พยายามป้อนให้ มันก็คายออกมาเป็นเมือก ๆ แล้วมันก็พยายามใช้แรงที่พอมีอยู่หลบมุม ไม่ยอมให้เราป้อนมันอีก

ก็เลยไม่ยุ่งกับมันแล้ว ปล่อยให้มันนอนเฉย ๆ ดีกว่า

สภาพตอนนั้นมันดูแย่มาก
ดูออกว่าเป็นแมวป่วยอาการหนักจริง ๆ
ลูบหัวลูบตัวแทบไม่ได้ ขนร่วงเป็นเส้น ๆ เลย..

ตอนนั้นเรากําลังสอบกลางภาคอยู่
ชีทนี่แทบไม่ได้เข้าหัวเลย
นั่งโน้ตย่อไป ร้องไห้ไป
สงสารมันค่ะ สภาพมันดูไม่ไหวแล้วจริง ๆ
ถึงจะมีคนปลอบเราแล้วว่า พาไปหาหมอแล้ว เดี๋ยวก็หาย..

ระหว่างที่จดโน้ตก็แวบไปดูมันครั้งนึง ไม่อยากไปดูบ่อย ตอนนั้นรู้สึกแย่จริง ๆ
จนกระทั่งเราลงมาเห็นมันครั้งสุดท้าย หลังจากที่พาไปหาหมอได้แค่ 3 ชม.
ม้าบอกว่าเห็นกระตุกเล็ก ๆ (ไม่หนัก)
แล้วมันก็นอนนิ่ง ๆ เหมือนเดิม

แต่ตอนที่เราเห็นมัน ท้องแมวมันไม่ยุบ ๆ พอง ๆ
..มันไม่หายใจแล้ว..
ตัวมันก็เริ่มจะแข็ง หลับตาเหมือนกําลังนอนอยู่ แต่ตรงปากยังเผยออยู่นิดนึง ขนตรงปากก็จับตัวกันเป็นก้อน เพราะเปียกจากน้ำเมือกที่คายออกมาเวลาป้อนยา

มันไปจริง ๆ แล้ว..
ปล่อยโฮเลยค่ะ
สะอึกสะอื้นเลย ไม่แคร์สายตาใครในบ้านแล้ว
เหมือนเป็นการร้องไห้แก่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ร้องไห้ตอนนั่งจดโน้ต..

เราแอบเห็นม้าเราน้ำตาซึม ๆ เหมือนกัน

รู้สึกแย่มาก ตอนที่ต้องหิ้วมันไปฝังที่ดินแถว ๆ บ้าน
(เพราะที่บ้านไม่มีที่ดินกว้าง ๆ อ่ะค่ะ)
แล้ววางตัวแมวไว้ในหลุม

(ตอนนี้น้ำตาเริ่มซึมอีกแล้ว )

มีคนบอกค่ะว่า มันไปสบายแล้ว ไม่ต้องทรมานแล้ว
คงอยู่สวรรค์จัดปาร์ตี้กับแมวของคนบอกที่ไปสวรรค์แล้วเหมือนกัน 55+

แต่มันก็ไปแล้วจริง ๆ ล่ะนะ..
ก็ต้องเข้าใจ..

ถ้ามันเกิดใหม่อีก ก็ขอให้เป็นคนหรือเป็นสัตว์ที่สุขภาพดีหน่อยละกัน สงสาร!

ขอทิ้งท้ายด้วยภาพเก่า ๆ ของคุณแมวบังเกิดเกล้านะคะ
รัก..
























Create Date : 15 มกราคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2552 13:38:32 น.
Counter : 989 Pageviews.

7 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

thE_Little_Uki
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]