• ชนิด ครบ 5 หมู่หลายหลาก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนและไม่ควรรับประทานอาหารที่เป็นโทษแก่ร่างกาย เช่น ของทอด ชองมัน ชองหวาน กาแฟ แอลกอฮอล์ สารปรุงแต่ง สารกันบูด อาหารแปรรูปต่างเป็นต้น
• ปริมาณ พอดี เหมาะสม กินพอดีอิ่ม ไม่ควรอิ่มมากเกินไป
• เวลา  ตรงเวลาและควรต้องกินอาหารมื้อเช้า สำคัญมาก

• ครบถ้วน ทั้งสามองค์ประกอบ คือ aerobic exercise, weight training, flexibility (ความยืดหยุ่นของร่างกาย)
• ระยะเวลาที่เหมาะสม ส่วนใหญ่มักไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมงต่อครั้งและ อย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ 
• แสงแดดควรได้รับในตอนเช้าบ้างเพื่อช่วยในการสังเคระห์วิตามินดี

• ลำไส้ใหญ่  ทางอุจจาระ ควรฝึกให้มีการขับถ่ายทุกวัน
• ไต ขับทางปัสสาวะ ดังนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และไม่กลั้นปัสสาวะ
• ปอด ทางการหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออก ดังนั้นควรหมั่นหายใจเข้าออกลึกๆในที่มีอากาศบริสุทธิ์เสมอๆ

อย่าลืมว่าร่างกายเรามีวันเสื่อมและชราไปตามอายุขัย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลในปัจจุบันทำให้บางคนคิดว่าหน้าย่นก็ฉีดนั่นฉีดนี่สิ หน้ามีฝ้าหรือกระก็ใช้เลเซอร์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถที่จะชะลออายุผิวและความชราของเราได้ด้วยศาสตร์แอนไทเอจจิ้ง โดย พญ. สุกัญญา ศกศวัตเมฆินทร์ จาก beauteequilibree medical spa & BEQ clinic ได้เผยเคล็ดลับสวยใสกระชากวัยและสวยไปได้ยาวนานด้วยวิธีง่ายๆในชีวิตประจำวันดังนี้

วัยเด็ก อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะคะ จริงแล้วเราควรเริ่มต้นดูแลผิวกันตั้งแต่เล็กๆเลย ด้วยการทาโลชั่นบำรุงผิว และทาครีมกันแดดเวลาที่ต้องออกแดดตั้งแต่อายุ 2 ขวบขึ้นไป เพราะการที่เด็กรับแสงแดดเยอะๆ ตั้งแต่อายุยังน้องก็จะส่งผลต่อผิวของเขาในระยะยาวเมื่อโตขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็กวางจำหน่ายในท้องตลาดด้วยค่ะ

วัย 20-29 ปี ผิววัยรุ่นตอนปลาย ในช่วงวัย 20 ปีต้นๆ ผิวยังไม่มีปัญหามาก อาจไม่ต้องดูแลแบบจัดเต็ม และยังไม่จำเป็นต้องพึ่งสาร Botulinum Toxin หรือ ฟิลเลอร์ ปัหาส่วนใหญ่ของคนวัยนี้คือเรื่องสภาพผิวมากกว่า เช่น ผิวมันหรือผิวแห้งเกินไป จึงควรมีวิธีจัดการและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับสภาพผิว เช่น ถ้าผิวมันเกินไปควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า หรือถ้าผิวแห้งเกินไปก็ต้องเสริมผลิตภัณฑ์ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นกับผิวมากหน่อย และไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดด้วยนะคะ และด้วยไลฟ์สไตล์ของคนวัยนี้ที่มักชอบนอนดึก ติดเกมส์ ติดอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา เหนื่อยล้าตอนเช้าหลังตื่นนอน ดังนั้น การทำเลเซอร์ที่ผิวหน้าและทำทรีตเม้นต์ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาก็จะช่วยเพิ่มความสดใสให้ใบหน้าได้ หรือหากเป็นโรคภูมิแพ้ก็อาจเสริมด้วยวิตามิน เช่น วิตามินรวม วิตามินซี วิตามินบี 3, Co Q10 ฯลฯ ที่สำคัญต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวด้วยค่ะ ส่วนสาววัย 20 ตอนปลายจะเริ่มปัญหาเรื่องผิวพรรณหมองคล้ำและมีริ้วววววรอย เพราะผิวเริ่มปรากฏความเสื่อมให้เห็นจากการสะสมตัวของสารอนุมูลอิสระ ดังนั้น นอกจากการดูแลผิวปกติดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว แนะนำการทำ Skin Rejuvenation ด้วยการทำทรีตเม้นต์หรือเลเซอร์ที่เหมาะสม รวมทั้งเสริมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระไว้เสียแต่เนิ่นๆจะดีที่สุดค่ะ

วัย 30-39 ปี ผิวเริ่มแห้ง คือปัญหาที่ตามมาพร้อมกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้น สังเกตได้จากการที่เริ่มแต่งหน้าไม่เนียน มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ กระฝ้ามาเยือน ริ้วรอยปรากฏเด่นชัดขึ้น ดังนั้น การรักษาสามารถใช้เลเซอร์เป็นตัวช่วยได้ค่ะ ส่วนการดูแลผิวในวัยนี้แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมอยส์เจอไรเซอร์แบบเข้มข้นรับประทานสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอ และสำคัญมากที่จะต้องใช้ครีมกันแดดทุกวัน มิฉะนั้นปัญหากระฝ้าจะลุกลามไม่จบสิ้น นอกจากนี้ คนวันนี้จะเริ่มมีความเครียดสะสม เริ่มมีปัญหานอนไม่หลับ นอกจากการให้วิตามินหรือสารอาหารเสริม การออกกำลังกายและการการผ่อนคลายความเครียดระหว่างวันแล้ว เวลานอนอาจใช้การฝึกหายใจออกช้าๆ ยาวๆ ทำไปเรื่อยๆ จนหลับค่ะ แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้อาจต้องใช้ฮอร์โมนเมลาโทนินช่วยได้เป็นบางช่วง ส่วนการแก้ไขในระยะยาวจะต้องอาศัยการค้นหาสาเหตุและแก้ไขที่ตรงจุดต่อไป

วัย 40-49 ริ้วรอยมาเยือน เป็นวัยที่คอลลาเจนเสื่อมชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผิวแห้งชัดเจน ปัญหาเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น ริ้วรอยรุมเร้า และใบหน้าตอบ ลักษณะเช่นนี้การดูแลผิวต้องมากเป็นเท่าตัว เช่น ริ้วรอยที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อก็ใช้ตัวช่วยเป็นสาร Botulinum toxin หรือส่วนของใบหน้าที่ตอบลงจากการยุบฝ่อของชั้นไขมันใต้ผิวหน้า เช่น บริเวณแก้มหรือขมับ ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ช่วยเติม volumnได้ซึ่งถือเป็นการแก้ไขรูปลักษณ์ภายนอกอย่างหนึ่ง การทำเลเซอร์และทรีตเม้นต์ที่เหมาะสมมีบทบาทในการเสริมความชุ่มชื้นและความสดใสของผิวหน้าได้เป็นอย่างมาก แนะนำการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงร่วมกับเปปไทด์ที่ช่วยสร้างคอลลาเจน สิ่งสำคัญอย่างที่สุดคือเราต้องไม่ลืมที่จะใส่ใจสุขภาพภายในร่างกาย ต้องรู้จักฟังสัญญาณของร่างกายเพราะวัยนี้ปัญหาสุขภาพจะเริ่มเด่นชัด แนะนำปฏิบัติตัวด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะโปรตีน สารต้านการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยปกป้องและซ่อมแซมเซลล์จากความชรา การออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อช่วยเรื่องการเผาผลาญและชาวยการชะลอความแก่ด้วย เช่น การออกกำลังกายเฉพาะส่วนที่ชาวยเรียกกำลังกล้ามเนื้อและกระชับส่วนที่หย่อนคล้อย เป็นต้น การพักผ่อนนอนหลับที่เหมาะสม และการจัดการความเครียดเพื่อให้ชีวิตเรากำไรขึ้นไปอีกเท่าตัวด้วยค่ะ

วัย 50+ ผิวต้องจัดเต็ม ในวัยนี้ปัญหาผิวมีมากมายอันเนื่องจากกลไกความเสื่อมของร่างกายและผิวมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองได้น้อย ทำให้การดูแลผิวต้องจัดเต็ม นอกเหนือจากการดูแลผิวปกติ ได้แก่ การใช้เลเซอร์ที่มากขึ้น การอาศัยตัวช่วยจำพวกสาร Botulinum toxin และฟิลเลอร์ รวมไปถึงการเสริมสุขภาพภายในด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรหางานอดิเรกทำเพื่อให้ได้เคลื่นไหวร่างกายและสมองเป็นประจำ เข้าสังคม อย่าแยกตัวเอง และฝึกสมาธิ เช่น ฝึกโยคะ ไทชิ เพื่อสุขภาพจิตที่แข็งแรงด้วยค่ะ

TIP :" กฏของธรรมชาติ " ทำอย่างไรให้มีสุขภาพดีไปพร้อมๆกับอายุที่ยืนยาว? ในความเป็นจริงแล้วเซลล์ต่างๆในร่างกายของเรามีความสามารถที่จะทำให้เราอยู่ได้ถึง 120 ปี แต่คนเราในปัจจุบันอยู่ได้ไม่ถึงอายุ 120 ปี เนื่องจากเราไม่ได้ปฏิบัติตัวตามกฏพื้นฐานของธรรมชาติ เงื่อนไขของสุขภาพพื้นฐานของเราทุกคนมีหลักการเพียงง่ายๆคือ อาหารที่เหมาะสม อารมณ์ที่แจ่มใส การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ การพักผ่อนนอนหลับที่ได้ Timing และ Period เหมาะสม รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่ดี โดยเฉพาะการออกกำลังกายซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการต้านความแก่ชรา ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์ โดยเน้นการออกกำลังแบบคาร์ดิโอในการกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดโลหิตและเพิ่มอัตราเผาผลาญพลังงานร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ดีที่สุดควรออกกำลังกายตอนเช้าช่วง 6-7 นาฬิกาตามเวลาของนาฬิกาชีวิต และถ้าสาวๆท่านใดอยากหุ่นดีแนะนำให้ออกกำลังกายให้ได้ 300 นาทีต่อสัปดาห์ ถ้าทำได้อย่างสม่ำเสมอก็ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนให้เสียสตางค์และเสียสุขภาพค่ะ

บทความจากนิตยาสาร Makeover Thailand May-June 2013

เริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างไรดีในวัย 30

  ในที่สุดก็มาถึงวัยสามสิบที่ถึงแม้จะเริ่มมีริ้วรอยแห่งกาลเวลามาเยือนแต่ในช่วงเวลานี้กลับรู้สึก ดีกับตัวเองเพราะรู้จักตัวเองดีขึ้นว่าชอบและเหมาะกับอะไร รักและภูมิใจในสิ่งที่คุณเป็นมาก ขึ้น เวลาและวัยที่เพิ่มก็นำความเข้าใจและการยอมรับในเรื่องต่างๆ มาให้เราด้วยนี่คะ การกินอยู่ ก็ยังเหมือนกับที่นกแนะนำไว้ในช่วงวัย 20 และในช่วงวัยนี้ควรเพิ่มการออกกำลังกายแบบยกเวทด้วยเพื่อเพิ่มการเผาผลาญ และป้องกันปัญหาที่จะมาเยือนในวัยนี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ เซลลูไลท์ อาการบวมน้ำ ฮอร์โมนแกว่ง และน้ำตาลในเลือดที่เริ่มไม่คงที่

ในช่วงวัยนี้นอกจากน้ำหนักส่วนเกินจะมากองกันอยู่ที่สะโพกแล้ว คุณยังสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ประมาณ 3.2 กิโลกรัมทุกๆ สิบปีนี่เป็นข่าวร้ายนะคะเพราะนั่นทำให้ร่างกายของเราเผาผลาญพลังงานช้าลงไปอีก นอกจากนี้การผลัดเซลยังช้าด้วย หน้าเลยหมอง ประกายความเยาว์วัยจะค่อยๆ หายไปพร้อมกับความชุ่มชื้นของผิว กระและจุดด่างดำจากการโดนแดดในช่วงอายุก่อนหน้านี้จะมาเผยโฉมช่วงอายุสามสิบปลายๆ ของคุณนี่เองค่ะ เส้นใยคอลลาเจนในผิวที่ถูกทำลายจากการสูบบุหรี่และมลพิษต่างๆ ที่ทนมานานในช่วยอายุ 20 ก็เริ่มจะทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วขอเซย์กูดบายลาก่อนเป็นผลให้ริ้วรอยแห่กันมาเพียบในเวลาเดียวกัน ผิวรอบดวงตาของคุณจะเริ่มบางลงและมีริ้วรอยง่ายขึ้น เส้นเลือดฝอยใต้ผิวเริ่มเห็นชัดเป็นจุดแดงๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มีผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวประเภท anti-ageing ต้านอนุมูลอิสระออกมาจำหน่ายกันเพียบสำหรับช่วงวัยนี้

ในช่วงวัยนี้การลดน้ำหนักต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง ห้ามลดฮวบฮาบแม้จะเคยทำแล้วได้ผล เพราะนอกจากจะไม่ดีกับสุขภาพแล้วในวัยนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อนที่น้ำหนักลดก็ลดทั้งตัวเท่าๆ กัน ในวัยนี้หากน้ำหนักลดฮวบผิวหน้าจะสูญเสียชั้นไขมันที่ช่วยให้ดูมีน้ำมีนวลอ่อนเยาว์ทันที ทีนี้แหละริ้วรอยจะปรากฏเด่นชัดจนน่าตกใจ

สามสิบจะยังแจ๋วได้อย่างไร?
ต้องถือคติ You are what you eat ให้ขึ้นใจแล้วล่ะค่ะ กินอาหารที่มีประโยชน์อย่างสมดุล เน้นอาหารต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามินเอ บี ซี และ อี ที่จะช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ยกทัพมาโจมตีคุณในช่วงนี้ นอกจากใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดแล้วควรใช้ครีมบำรุงผิวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระด้วยเพราะผิวในวัยนี้จะเริ่มแห้งขึ้น เน้นครีมต้องเข้มข้นขึ้นและอายครีมสำคัญมาก ขัดหน้าหรือใช้กรดอ่อนๆ ช่วยผลัดผิวอย่างอ่อนโยน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยกเวทเพื่อคงความกระชับของกล้ามเนื้อและเพิ่มการเผาผลาญที่ลดลงโดยธรรมชาติ

ลดการกินเกลือและเพิ่มการกินโพแตสเซี่ยมโดยลดละเลิกอาหารสำเร็จรูป กระป๋อง กล่อง ซอง ทั้งหลาย หันมากินกล้วย ข้าวไม่ผ่านการขัดสีเช่นข้าวกล้อง มันเทศ และผลไม้แห้งต่างๆ เพื่อช่วยลดอาการบวมน้ำและ
เซลลูไลท์ การใช้แปรงขัดตัวเบาๆ ทั่วตัวก่อนอาบน้ำช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้นและช่วยลดเซลลูไลท์ได้นะคะ การเล่นโยคะก็ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น อย่าดื่มแอลกอฮอล์จัดหากไม่อยากมีเส้นเลือดขอดดำปิดปี๋ ดื่มน้ำเยอะๆ ให้ได้วันละสองลิตร

ระดับฮอร์โมนในร่างกายคุณอาจเริ่มเปลี่ยนไป ระดับน้ำตาลที่ไม่คงที่อาจส่งผลให้ฮอร์โมนอินซูลินออกมาเพ่นพ่านมากเกินไป จนอยากกินจุบกินจิบจนอ้วน หลีกเลี่ยงอาหารหวานๆ ทดแทนด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ดี อาหารที่มีวิตามินสูงสามารถช่วยได้ค่ะ

ถึงคุณจะยังดูดีในวัยสามสิบอยู่ก็ห้ามอดนอนเป็นอันขาดค่ะ เพราะมันเป็นโอกาสเดียวที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมตัวเอง เข้านอนประมาณสี่ทุ่มให้ได้นะคะหรือก่อนเที่ยงคืนก็ยังดี เพราะเซลเค้าจะซ่อมตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นถึงประมาณตีสองค่ะ

ที่มา//sichon.wu.ac.th/source/detail.php?newss_id=461&paths=graduate