ลดอายุให้ได้ 10 ปี ฟิตสุขภาพ หน้าอ่อนลง แบบไม่เสียตังค์และไม่โกง
ปีที่ผ่านมาทำงานหนักมากซะจนรู้สึกร่างกายจะไม่ไหวแล้ว… ไทรอยด์เริ่มมา หัวใจเต้นเร็วปี๊ดเกือบจะร้อยตลอดเวลา
ต้องลดอายุซะแล้วให้ได้ 10 ปี ฟิตสุขภาพ นอกจากหน้าอ่อนลง คล่องตัว ก็จะได้มีลูกได้ง่ายขึ้น แบบไม่เสียตังค์และไม่โกง


....ทุกวันนี้ชีวิตเป็นไงนะหรอ...
ตื่นมากับอาการปวดหลังตลอดเวลา มือชา คอบ่าไหล่ตึงเพราะใช้คอมเยอะ แขนกับข้อมือเดี้ยงจากหิ้วกระเป๋าหนักทุกวัน วันๆมองแต่จอกับมือถือ สายตาสั้นแย่ไปอีกเยอะ

- นาฬิกาชีวิตไม่เคยตรง ก็เริ่มจากตื่นตามงาน แปลว่าอะไรนะหรอ ก็จะทำงานเมื่อไหร่ก็ตื่นแป๊บนึงก่อนหน้านั้นไง  
- รีบอาบน้ำแต่งตัว แต่งหน้า ไม่ได้กินอาหารเช้า ขึ้นที่วินมอเตอร์ไซค์ซิ่งไปให้ทันเวลาเข้างานน่ะสิ
- เข้าออฟฟิตก็เกาะอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน จะมีก็เดินไปประชุมบ้าง 
- มื้อเที่ยงก็เป็นอาหารสิ้นคิด อะไรก็ได้ที่เร็วที่สุด เพื่อกลับไปทำงานต่อ 
- ตอนบ่ายก็นั่งนั่งทำงานไปแล้วก็บ่นว่าปวดหลัง ปวดมือไป 
- มื้อเย็นนะหรอไม่ต้องพูดถึงเลย กว่าจะเลิกงานนู่น 2 ทุ่ม 4 ทุ่ม บางวันเที่ยงคืน กลับถึงบ้านก็สลบคาโซฟา อาบน้ำบ้างไม่อาบน้ำบ้าง 
- เสาร์อาทิตย์ก็นอนตุน ตื่นเที่ยง ไม่อยากออกไปไหนแล้ว เพราะรู้สึกว่าอดนอนมาตลอดอาทิตย์


ปีที่ผ่านมาน้ำหนักขึ้นมาหลายกิโล
......หลายคนบอกว่ากินดึก หลายคนก็บอกว่าไม่ได้ออกกำลังกาย จะอะไรก็ช่างเถอะ  สุดท้ายมันแย่กะตัวเรา

 

จุดตั้งต้นของการปฏิวัติครั้งนี้เกิดจาก คุณสาวฟิตเนสที่ยืนแจกใบปลิวให้ทดลองเล่นฟรี 3 วันนั่นแหละ
ฉันก็ลองเข้าไปที่ฟิตเนสตามที่เขาบอก (ยังไม่ได้สมัครนะ ไปดูก่อน) เพราะหวังบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายมากขึ้น เลือกฟิตเนสที่ใกล้ออฟฟิศที่สุดให้ได้ใช้แน่ๆ 

วันแรกเข้าไปดูลาดลาวก่อน น้องที่ให้บริการดูแลดีมาก เขามีเครื่องทดสอบ ให้ยืนวัดค่านู่นนี่ จำได้ว่าปีก่อนเคยวัดครั้งหนึ่ง ยังจำตัวเลขได้ วัดแล้วก็ตกใจ ไอ้หยา.. แค่ปีเดียวทำไมมาตรวัดร่างกายชั้นมันแก่ขึ้นมา 7 ปี!   ขอน้องเช็คใหม่อีกรอบ

ตายจริง ทำงานปีเดียวแก่ขึ้น 7 ปี อย่างนี้ก็ตายเร็วดิ...

อายุตามปฏิทินกับอายุสุขภาพอาจไม่เหมือนกัน
เคยเห็นคนอายุ 25 แต่สุขภาพโทรม จะวิ่งสัก 2 กิโลยังทำไม่ได้ป่ะ แต่ลุงอายุ 60 ทำอะไรกระฉับกระเฉงเหมือนคนอายุ 40 ต้นๆ 

...แต่อายุสุขภาพกับอายุมดลูกมันไปด้วยกัน ...
ถ้าสุขภาพกายแย่ สุขภาพใจเครียด ก็มีลูกยาก ไม่ก็มีไม่ได้สักที ต้องไปพึ่งการแพทย์ทำเด็กหลอดแก้วบาง IVF บ้าง ถ้าฟิตร่างกายขึ้นมาก็เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว  ฟิตร่างกายใหม่แล้วก็ได้มดลูกใหม่มั้ง 555

ไม่ได้แล้ว...ในเมื่อร่างกายมันแก่ขึ้น 7 ปีในปีเดียวได้ มันก็ต้องอ่อนลง 10 ปีได้เหมือนกันถ้าทำตัวดีๆ 
ปีนี้อายุย่าง 40 ปวดโน่นนี่ไปหมด มีลูกก็ไม่ได้ โอกาสตั้งครรเหลือน้อยนิดแค่ 10% ตั้งใจว่าถ้าฟิตให้ร่างกายเหมือนคนอายุ 30 ปี ชีวิตน่าจะดีขึ้นเยอะ

กลับไปดูตารางทำงานตลอดทั้งปี ฉันยังไม่ได้ลาพักร้อนเลยนี่นา ทำงาน 365 วันพักร้อน 0 วัน เอิ่ม....
ว่าแล้วฉันดึงพักร้อนทั้งหมดขึ้นมาใช้เพื่อปฏิบัติตัวเอง ส่วนหนึ่งที่คิดได้มาจากคุณแม่ ที่อายุ 74 แต่ดูแก่กว่านั้นมาก จากการทำงานหนักและเครียดตลอดชีวิต หู ตา ร่างกาย หัวใจทุกอย่างเหมือนจะแก่กว่านั้นมาก  แม่บอกว่า "ตั้งใจติดร่างกายให้เหมือนอายุ 60 อีกครั้ง"

นี่คือแรงบันดาลใจสูงสุดซึ่งฉันเดินตามแม่ แม่ลดอายุ ฉันขอลดด้วยคนนะ 

 

เพื่อนถามว่าลดลง 10 ปีทำยังไง... ลองคิดเองได้แบบนี้นะ 
- ออกกำลังกายให้ฟิต ร่างกายมันสร้างเซลล์ใหม่ตามธรรมชาติ
- พักหลังออกกำลังกาย พอออกกำลังกายส่วนไหน ก็พักส่วนนั้น 24-48 ชั่วโมงให้ร่างกายมันซ่อมและสร้างเซลล์ใหม่ทดแทน
- กินอาหารครบหมู่เพื่อให้ได้วิตามินเพียงพอ (ต้องกินค่อนข้างเยอะ) ด้วยวิธีพื้นๆตามธรรมชาติ
- ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะ ไปช่วยซ่อมแซม ช่วยอาหาร และเพื่มความดันเลือดให้ดี 
- นอนเต็มอิ่มทุกวัน ให้ระบบซ่อมแซมได้ซ่อมแบบสูงสุด
- ปรับอารมณ์จิตใจ ตัดโรคที่เกิดจากพฤติกรรมตัวเอง พวกโรคหัวใจ เบาหวาน ไมเกรน โรคทางระบบประสาทออกไป มันน่าจะช่วยเรื่องวัยเจริญพันธุ์มีลูกด้วยน้าาา
อมยิ้ม03
อ่านเจอหลัก 5 อ คิดว่าถูกสุด สำเร็จเยอะสุด เลยลองเอามาใช้และประยุคหลักการณ์ ที่ทำให้ได้ผลดีขึ้นอีกเข้าไป
"อาหารสด ออกกำลังกายเบาแต่นาน อารมณ์สงบ อากาศสะอาด อุจจาระทุกวัน"
"แล้วก็เพิ่ม นอน 9 ชั่วโมง น้ำเปล่า 9 -10 แก้ว "
"แล้วก็งด น้ำตาล เกลือ อาหารเสริม วิตามินเม็ดๆ สบู่ โลชั่น ครีมทั้งหลาย ให้ระบบเลือด ตับ ไต ได้พัก"
นอนแค่ไหนถึงพอดี
ลองทดสอบว่าตัวเองนอนกี่ชั่วโมงแล้วถึงพอ เข้านอนเวลาที่คิดว่าโอเค เช่น 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม แล้วไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก ลองทำอย่างนั้นหลายๆ ครั้ง ดูว่าเวลาที่นอนนั้น ใช้เวลาประมาณกี่ชั่วโมงร่างกายถึงจะตื่นเองแบบสดชื่น ตัวฉันเองต้องใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมงกว่าๆ ฉะนั้นก็ไม่ได้ตามหลักที่ใครๆ บอกว่านอน 6-8 ชั่วโมงแล้วพอ เพราะตัวเองนอน 8 ชั่วโมง ตื่นแล้วยังเพลียอยู่ แต่พอนอน 9-10 ชั่วโมง ตื่นมาตาใสปิ๊ง 555 แต่ถ้านอนต่อเยอะกว่านั้นเป็น 11 ถึง 12 ชั่วโมงจะเริ่มตื่นมาแล้วปวดตัว สะโหลสะเหล ในหัวรู้สึกเหมือนสมองบวม 


ดื่มน้ำ
ปีที่ผ่านมาทำงานหนัก อยู่กับความเครียดตลอดเวลา หัวใจก็รวน เต้นเร็วบ้างช้าบ้าง ตรงที่หัวใจเต้นช้านี่ลำบาก คุณหมอแนะนำว่า เคยดื่มน้ำประมาณเท่าไหร่แล้วพอก็ให้เพิ่มเข้าไปอีกนิดครับ เดิมเคยดื่มประมาณ 1.5 ถึง 2 ลิตร ตอนนี้เพิ่มเข้าไปอีกครึ่งลิตร ก็คือเฉลี่ยประมาณ  9-10 แก้วต่อวัน

อาหารสด
มีช่วงหนึ่งฉันไปทำงานในชนบท ทำให้ต้องทำอาหารเองตลอด ใช้ของสด อุปกรณ์เครื่องปรุงไม่ค่อยมี สุขภาพร่างกายดีขึ้นมากจนผิดหูผิดตา กลับมาเข้าเมืองเพื่อนทุกคนถามว่าทำไมผิวสวย หน้าอ่อนเชียว เลยงัดวิธีนี้ขึ้นมาใช้อีกครั้ง 555
ตลอดเดือนนี้ ในเมื่อมีเวลาเยอะขึ้น (ทุ่มสุดตัวเพื่อหาเวลาพัก) ฉันจะกินอาหารที่ปรุงแต่งน้อยสุด เป็นของสดให้เยอะพวกผัก ผลไม้ ไข่ต้ม เนื้อ นม ข้าว ถั่ว ไข่ทานได้วันละหลายฟองมากเพราะ ตราบใดที่ใช้แรง ขยับร่างกาย ก็กินได้เยอะตามต้องการจ้าา ตอนนี้กินไข่เยอะมาก (วันละ 4-6 ฟอง) แต่ผลเลือดออกมาดีเว่อ ยิ้ม  งดกินวิตามินกะอาหารเสริมก็หันมาทานผลไม้มื้อละลูก ผักมื้อละ 2-3 กำมือ

ตัดอาหารแปรรูปออกไปก่อน เช่น ไส้กรอก หมูหมัก ขนมปัง ชานมไข่มุก กาแฟซองๆ ขนมถุง น้ำอัดลม ขนมจีน มื้อไหนทำได้ก็พยายามจะทำเอง เพราะเวลาทำเองฉันจะไม่ใส่เกลือ น้ำปลา น้ำตาลอะไรเลย ใส่ก็แต่พริกไทย หัวหอม ได้รสชาติอาหารแบบนั้นจริงๆ 

ออกกำลังกาย
ตอนนี้ร่างกายแย่มากจะวิ่งสักกิโลต่อเนื่องยังทำไม่ได้เลย ตั้งเป้าว่าสิ้นเดือนนี้จะวิ่งให้ได้ 10 กิโลเมตรต่อเนื่อง ไม่รู้ทำไงเหมือนกัน แต่ว่าจะเริ่มจากเดินให้ได้ 10 กิโลเมตรต่อวัน แล้วค่อยๆเพิ่มเป็นวิ่งสลับเดิน

อากาศ 
อันนี้เรื่องสำคัญเพราะกรุงเทพฯ คงเลี่ยงอากาศเสียไม่ได้ ต้องเอาวันลาพักร้อนเข้ามาช่วยฟอกปอด ลาไปอยู่ในที่ที่อากาศดีๆ โดยเฉพาะตอนที่วิ่งนอกบ้าน กรุงเทพฯถึงแม้อากาศจะแย่แต่ในสวนสาธารณะ หรือนอกเมืองที่มีเขตต้นไม้เป็นแนวกำบังแน่นๆ ก็พอใช้ได้นะ 

สภาพผิว
สภาพผิว กับตับ ไต มันไปด้วยกัน  เดือนนี้ลดการใช้ทุกอย่าง ทั้งครีมบำรุงและเครื่องสำอาง รวมถึงวิตามินต่างๆ ด้วย อาหารเสริมอะไรตัดออกไปให้หมด ทำไมนะหรอ กินอาหารเสริมก็น่าจะดีสิ? 

ครีมบำรุงทั้งหลายแหล่ ที่ทาและประโคมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นโทนเนอร์ ครีม เซรั่มอะไรก็แล้วแต่ ที่เขาบอกว่ามันมาจากธรรมชาติ มันไม่ธรรมชาติทั้งหมดหรอก ธรรมชาติจริงวางทิ้งไว้ไม่เข้าตู้เย็นแค่วันเดียวก็เสียแล้ว มันต้องใส่เคมีเยอะแยะ ให้มันอยู่ได้ตั้ง 2 ปี 4 ปี  พอทาผิว น้ำผสมเคมีก็จะซึมเข้าเส้นเลือด แล้วตับไตก็จะทำหน้าที่ฟอกเลือด กำจัดเคมีพวกนั้น ถ้าหยุดใช้มันก็ให้เหมือนกับตับไตข้างในที่เป็นเหมือนโรงฟอกเลือดให้ตัวเราได้พักด้วย ขนาดวิตามินซีเม็ดๆ ต่อให้ธรรมชาติยังไง ตับยังต้องทำงานหนักเลย

เดือนนี้ว่าจะลดจำนวนพวกเครื่องประทินผิวลงเหลือแ่ค่วันละไม่กี่ชิ้น เครื่องสำอางเรารู้กันอยู่แล้วว่ามันทำให้ผิวแก่ ฉะนั้นหยุดใช้ไปก่อนดูซิว่า ผิวจะสวยขึ้นไหม อยู่กับหน้าสดไปนะจ๊ะ  ไม่ได้ออกไปทำงานก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวนี้เขานิยมหน้าสด คนไม่แต่งหน้าออกมาข้างนอกเยอะแยะ

ใจและอารมณ์
ส่วนนี้ฉันเอาเรื่องออกกำลังกายเข้ามาช่วยในเมื่อร่างกายอ่อนแอเหลือเกิน วิ่งต่อเนื่องไม่ได้ ก็แบ่งเป็นออกกำลังกายวันละ 2-3 ครั้งแทน  

ครั้งแรกตื่นเช้ามาช่วงปิดขี้เกียจนี้แหละ กระโดดลงไปเดินหย่อนใจเริ่มต้นวันด้วยความสบายใจก่อนเลย สักครึ่งชั่วโมง เดินดูอะไรสวยๆ หายใจเข้าปอดลึกๆ ขยับเส้นสาย

หลังทานข้าวเที่ยง เดินย่อยอาหารหย่อนใจไปด้วยในตัวสัก 20 นาที ก่อนจะลุยงานตอนบ่าย
หลังเลิกงานตอนเย็น แทนที่จะขึ้นรถไปตุเลงตุเลงกลับบ้านทันที ลองเดินคลายความเครียดจากงาน ให้ได้สักครึ่งชั่วโมง ช่วงนี้เป็นช่วงเพิ่มความอยากที่จะกลับไปวิ่งด้วย 

เบ็ดเสร็จรวมการออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงต่อวันไหนได้หย่อนใจไปด้วย

หย่อนใจ เป็นการจัดการความเครียดที่ไม่รู้ตัวนี่สำคัญมากๆ นะ พักผ่อนแต่ไม่หย่อนใจก็ได้แต่กล้ามเนื้อ แต่ระบบประสาทก็ยังไม่ช่วยเท่าไหร่  โรคที่เกิดจากความเครียดมันเยอะขึ้นมาก หัวใจ ความดัน ปวดหัว ปวดท้อง โรคระบบประสาททั้งหลาย มันมาจากอารมณ์ขุ่นมัว ความเครียด ใจที่มันตึงๆ ทั้งนั้น ถ้าเอาส่วนนี้ออกไปได้สุขภาพผิว หน้าตา ฮอร์โมน อะไรๆ มันก็ดีตามไปด้วย 

กรกฎาทั้งเดือนตั้งเป็นเดือนปฏิวัติตัวเอง ได้แค่ไหนไม่รู้ ค่อยมาอัพเดทเรื่อยๆ ได้ผลไง ค่อยมาแชร์นะจร้า...
139134139134139 134139134139 134139134139



Create Date : 07 กรกฎาคม 2562
Last Update : 7 กรกฎาคม 2562 16:43:18 น.
Counter : 343 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 5313638
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]