แว๊บ!!แว๊บ!!_จริงจริง นะค๊ะ!
Group Blog
 
All Blogs
 
เกียรติประวัติระดับโลก “ทักษิณ” ยกฐานะจากผู้กู้เป็นให้กู้

นับตั้งแต่ประเทศ เปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราช มาสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2475 เรามีนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศกว่า 20 รัฐบาลแล้ว ซึ่งแต่ละรัฐบาลก็อ้างความรักชาติ รักแผ่นดิน เป็นจุดขายทั้งสิ้น

ทั้งรัฐบาลเผด็จการ และประชาธิปไตยครึ่งใบ หรือเศษเสี้ยวของประชาธิปไตย

ไพร่ฟ้าประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ต่างก็จำยอมรับการปกครองของรัฐบาลนั้นๆ แม้จะอยู่ในสภาพหวานอมขมกลืนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาชนไทยทั้งประเทศได้รับรู้คือ คนไทยทุกคนเกิดมาต้องมีหนี้สินมากมายเท่าไหร่ เป็นหนี้สินที่เกิดจากการผูกพันที่แต่ละรัฐบาลได้ก่อไว้กับต่างประเทศ ที่กู้ยืมมา ด้วยข้ออ้างเพื่อนำเงินกู้ไปพัฒนาประเทศ

นอกจากนั้นคนไทย ยังคุ้นเคยกับข่าวที่รัฐบาลในแต่ละยุคแถลงถึงการช่วยเหลือของประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจร่ำรวยทางเศรษฐกิจ บางครั้งก็บอกว่ากำลังยื่นขอความช่วยเหลือจากประเทศนั้นๆ อยู่ เรียกว่าต้องพึ่งพาประเทศร่ำรวยในโครงการต่างๆ นั่นเอง จนมีการพูดกันว่าผู้นำหลายประเทศพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางมาพบผู้นำไทย หรือให้ผู้นำไทยเดินทางไปพบ

แต่เมื่อมาถึงยุคสมัยของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สร้างมิติใหม่ในภาพลักษณ์ของประเทศ ด้วยการประกาศนโยบายกอบกู้ศักดิ์ศรีให้กับประเทศที่เคยอยู่ในภาพ “แบมือขอหรือมีหนี้สินผูกพันกับองค์การต่างประเทศ เช่น ไอ.เอ็ม.เอฟ. ที่ไทยต้องกู้มาจำนวนมาก ทำให้การบริหารงานของรัฐบาลต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ ไอ.เอ็ม.เอฟ. กำหนด เช่น การบังคับให้ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้คนต่างชาติแย่งอาชีพคนไทย การกำหนดข้อจำกัดให้รัฐบาลไทยในการใช้นโยบายการเงิน เพื่อบริหารประเทศได้อย่างเสรี เป็นต้น

การบริหารราชการของรัฐบาลภายใต้กรอบเงื่อนไขของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. นั้น ทำให้รัฐบาลไทยไม่มีอิสระในการบริหารราชการ

เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ใช้ความเด็ดขาด เพื่อจะปลดความเป็น “ทาส” ของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ด้วยการใช้หนี้ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ก่อนกำหนด 2 ปี ที่ทำสัญญากู้มาจากรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งนอกจากจะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากพันธะเงื่อนไขของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ใช้ความได้เปรียบในฐานะ “เจ้าหนี้” บงการให้ไทยทำตามนโยบายบางอย่างที่ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ต้องการ

สิ่งที่เห็นได้ชัดในการตัดสินใจปลดหนี้จาก ไอ.เอ็ม.เอฟ. ของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือการไม่ต้องทนเสียดอกเบี้ยอีกนับพันล้าน

แต่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่นโยบาย “ปลดหนี้” ให้ประเทศไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มิใช่ “ลูกหนี้” ต่างชาติที่เป็นหนี้ ไอ.เอ็ม.เอฟ. นักการเมืองฝ่ายค้าน นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีในยุคนั้นไม่เห็นด้วย โดยอ้างความจำเป็นของประเทศไทยที่ต้องใช้เงินในการบริหารประเทศ

แต่นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมให้ไทยเป็น “ทาส” ลูกหนี้ของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. เดินหน้าใช้หนี้ ไอ.เอ็ม.เอฟ. จนหมดก่อนกำหนดตามที่รัฐบาลชุดเก่าทำไว้

จากการที่ประเทศไทยหลุดพ้นจากพันธะหนี้สิน ไอ.เอ็ม.เอฟ.ที่รัฐบาลชุดก่อนทำไว้ ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติโดดเด่นขึ้นมาทันที นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศในขณะนั้น ได้ประกาศจุดยืนกับผู้นำมหาอำนาจว่า ไทยจะไม่ทำตัวเป็นผู้แบมือขอความช่วยเหลือจากใคร นอกจากการให้เป็นหุ้นส่วนร่วมกันในโครงการต่างๆ ก็พอเพียงแล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำประเทศไทย ด้วยการแสดงสุนทรพจน์บนเวทีโลกระดับต่างๆ เช่น การประชุมเอเปคที่ประเทศจีน, อินโดนีเซียและไทย การสัมมนาขององค์กรสื่อเอเซียฟอรั่มที่ฮ่องกง สุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เป็นต้น

อดีตผู้นำไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองปัญหาต่างๆ นอกจากในประเทศแล้ว ยังมองถึงอนาคตของประเทศในภูมิภาคด้วยเป็นผู้ริเริ่มความคิดให้ประเทศทางภาคพื้นเอเซียผนึกกำลังร่วมมือทางเศรษฐกิจ ตั้งกองทุนเอเซียบอนด์เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลประเทศในเอเซียที่กำลังพัฒนา แทนการพึ่งพาชาติมหาอำนาจเหมือนที่ผ่านมา นอกจากนั้นอดีตผู้นำไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังได้เสนอความคิดต่อที่ประชุมประเทศเอเซีย ผนึกกำลังให้เป็นดุลต่อรองกับประเทศมหาอำนาจที่เคยเอารัดเอาเปรียบประเทศแถบเอเซียมายาวนานด้วย

การมีวิสัยทัศน์ไกลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศไทย จนมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนฐานะจากประเทศที่ถูกเรียกขานว่า “กำลังพัฒนา” ต้องแบมือขอความช่วยเหลือจากประเทศมหาอำนาจให้เงินกู้มาสู่สภาพเป็นประเทศให้เงินกู้ แก่ประเทศที่ด้อยกว่าและเป็นผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือแก่ประเทศเหล่านั้นด้วย

คราวที่เกิดมหาภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิอดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศกับนานาประเทศที่ต้องการช่วยเหลือว่า ไทยจะไม่ขอรับการช่วยเหลือเป็นเงิน แต่ขอเป็นอุปกรณ์ก็พอแล้ว


Create Date : 31 มกราคม 2551
Last Update : 31 มกราคม 2551 13:52:35 น. 1 comments
Counter : 404 Pageviews.

 
ผมคิดถึงท่านมากๆอยากให้ท่านรีบกลับมายิ่งนานยิ่งคิดถึง และยิ่งเกลียดไอ้มาร์คหัวดอดีแต่พูดๆ


โดย: อัมพร กุลสุวรรณ IP: 124.122.198.48 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:9:50:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แสนแสบ!!ทรวง!!
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แสนแสบ!!ทรวง!!'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.