|
เกียรติประวัติระดับโลก ทักษิณ ยกฐานะจากผู้กู้เป็นให้กู้
นับตั้งแต่ประเทศ เปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราช มาสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2475 เรามีนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศกว่า 20 รัฐบาลแล้ว ซึ่งแต่ละรัฐบาลก็อ้างความรักชาติ รักแผ่นดิน เป็นจุดขายทั้งสิ้น
ทั้งรัฐบาลเผด็จการ และประชาธิปไตยครึ่งใบ หรือเศษเสี้ยวของประชาธิปไตย
ไพร่ฟ้าประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ต่างก็จำยอมรับการปกครองของรัฐบาลนั้นๆ แม้จะอยู่ในสภาพหวานอมขมกลืนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาชนไทยทั้งประเทศได้รับรู้คือ คนไทยทุกคนเกิดมาต้องมีหนี้สินมากมายเท่าไหร่ เป็นหนี้สินที่เกิดจากการผูกพันที่แต่ละรัฐบาลได้ก่อไว้กับต่างประเทศ ที่กู้ยืมมา ด้วยข้ออ้างเพื่อนำเงินกู้ไปพัฒนาประเทศ
นอกจากนั้นคนไทย ยังคุ้นเคยกับข่าวที่รัฐบาลในแต่ละยุคแถลงถึงการช่วยเหลือของประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจร่ำรวยทางเศรษฐกิจ บางครั้งก็บอกว่ากำลังยื่นขอความช่วยเหลือจากประเทศนั้นๆ อยู่ เรียกว่าต้องพึ่งพาประเทศร่ำรวยในโครงการต่างๆ นั่นเอง จนมีการพูดกันว่าผู้นำหลายประเทศพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางมาพบผู้นำไทย หรือให้ผู้นำไทยเดินทางไปพบ
แต่เมื่อมาถึงยุคสมัยของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สร้างมิติใหม่ในภาพลักษณ์ของประเทศ ด้วยการประกาศนโยบายกอบกู้ศักดิ์ศรีให้กับประเทศที่เคยอยู่ในภาพ แบมือขอหรือมีหนี้สินผูกพันกับองค์การต่างประเทศ เช่น ไอ.เอ็ม.เอฟ. ที่ไทยต้องกู้มาจำนวนมาก ทำให้การบริหารงานของรัฐบาลต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ ไอ.เอ็ม.เอฟ. กำหนด เช่น การบังคับให้ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้คนต่างชาติแย่งอาชีพคนไทย การกำหนดข้อจำกัดให้รัฐบาลไทยในการใช้นโยบายการเงิน เพื่อบริหารประเทศได้อย่างเสรี เป็นต้น
การบริหารราชการของรัฐบาลภายใต้กรอบเงื่อนไขของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. นั้น ทำให้รัฐบาลไทยไม่มีอิสระในการบริหารราชการ
เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ใช้ความเด็ดขาด เพื่อจะปลดความเป็น ทาส ของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ด้วยการใช้หนี้ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ก่อนกำหนด 2 ปี ที่ทำสัญญากู้มาจากรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งนอกจากจะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากพันธะเงื่อนไขของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ใช้ความได้เปรียบในฐานะ เจ้าหนี้ บงการให้ไทยทำตามนโยบายบางอย่างที่ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ต้องการ
สิ่งที่เห็นได้ชัดในการตัดสินใจปลดหนี้จาก ไอ.เอ็ม.เอฟ. ของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือการไม่ต้องทนเสียดอกเบี้ยอีกนับพันล้าน
แต่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่นโยบาย ปลดหนี้ ให้ประเทศไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มิใช่ ลูกหนี้ ต่างชาติที่เป็นหนี้ ไอ.เอ็ม.เอฟ. นักการเมืองฝ่ายค้าน นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีในยุคนั้นไม่เห็นด้วย โดยอ้างความจำเป็นของประเทศไทยที่ต้องใช้เงินในการบริหารประเทศ
แต่นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมให้ไทยเป็น ทาส ลูกหนี้ของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. เดินหน้าใช้หนี้ ไอ.เอ็ม.เอฟ. จนหมดก่อนกำหนดตามที่รัฐบาลชุดเก่าทำไว้
จากการที่ประเทศไทยหลุดพ้นจากพันธะหนี้สิน ไอ.เอ็ม.เอฟ.ที่รัฐบาลชุดก่อนทำไว้ ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติโดดเด่นขึ้นมาทันที นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศในขณะนั้น ได้ประกาศจุดยืนกับผู้นำมหาอำนาจว่า ไทยจะไม่ทำตัวเป็นผู้แบมือขอความช่วยเหลือจากใคร นอกจากการให้เป็นหุ้นส่วนร่วมกันในโครงการต่างๆ ก็พอเพียงแล้ว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำประเทศไทย ด้วยการแสดงสุนทรพจน์บนเวทีโลกระดับต่างๆ เช่น การประชุมเอเปคที่ประเทศจีน, อินโดนีเซียและไทย การสัมมนาขององค์กรสื่อเอเซียฟอรั่มที่ฮ่องกง สุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เป็นต้น
อดีตผู้นำไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองปัญหาต่างๆ นอกจากในประเทศแล้ว ยังมองถึงอนาคตของประเทศในภูมิภาคด้วยเป็นผู้ริเริ่มความคิดให้ประเทศทางภาคพื้นเอเซียผนึกกำลังร่วมมือทางเศรษฐกิจ ตั้งกองทุนเอเซียบอนด์เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลประเทศในเอเซียที่กำลังพัฒนา แทนการพึ่งพาชาติมหาอำนาจเหมือนที่ผ่านมา นอกจากนั้นอดีตผู้นำไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังได้เสนอความคิดต่อที่ประชุมประเทศเอเซีย ผนึกกำลังให้เป็นดุลต่อรองกับประเทศมหาอำนาจที่เคยเอารัดเอาเปรียบประเทศแถบเอเซียมายาวนานด้วย
การมีวิสัยทัศน์ไกลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศไทย จนมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนฐานะจากประเทศที่ถูกเรียกขานว่า กำลังพัฒนา ต้องแบมือขอความช่วยเหลือจากประเทศมหาอำนาจให้เงินกู้มาสู่สภาพเป็นประเทศให้เงินกู้ แก่ประเทศที่ด้อยกว่าและเป็นผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือแก่ประเทศเหล่านั้นด้วย
คราวที่เกิดมหาภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิอดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศกับนานาประเทศที่ต้องการช่วยเหลือว่า ไทยจะไม่ขอรับการช่วยเหลือเป็นเงิน แต่ขอเป็นอุปกรณ์ก็พอแล้ว
Create Date : 31 มกราคม 2551 |
Last Update : 31 มกราคม 2551 13:52:35 น. |
|
1 comments
|
Counter : 404 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อัมพร กุลสุวรรณ IP: 124.122.198.48 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:9:50:14 น. |
|
|
|
| |
|
|