|
|
|
ดีเด่นอันดับที่ 3
ข่าววันนี้ก็คงยังมีแต่เรื่องสุวรรณภูมิกับปัญหาต่างๆมากมาย... บางข่าวก็นำเสนอแต่ความวุ่นวายของการย้ายบางสายการบินกลับไปที่ดอนเมืองอีก ประชาชนคนไทยกำลัง "งง" กับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าปัญหาเรื่องสนามบินนี่มันยังไงกันแน่ ทั้งๆที่ในสายตาชาวต่างชาติสนามบินสุวรรณภูมิของเรากลับเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ.....!!!!
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า นิตยสาร Wanderlust ของประเทศอังกฤษได้มีการประกาศผล Wanderlust Travel Awards ประจำปี 2008 ผลปรากฏว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้รับการคัดเลือกจากผู้อ่านนิตยสาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเดินทางประมาณ 3,000 คน ให้เป็นท่าอากาศยานดีเด่นอันดับที่ 3 ของโลก (Top Worldwide Airport) รับรางวัล Bronze Award ไปครองอย่างน่าภาคภูมิใจ โดย
ท่าอากาศยานที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นท่าอากาศยานดีเด่นอันดับ 1 คือ ท่าอากาศยานชางงี ของประเทศสิงค์โปร์ และ อันดับ 2 คือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ซึ่งการประกาศผลรางวัล Wanderlust Travel Awards 2008 ในครั้งนี้ได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ใน นิตยสาร Wanderlust ฉบับเดือนมีนาคม 2551 และได้มีการออกจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในประเทศอังกฤษ และจะทำการเผยแพร่ใน Website ของนิตยสารที่ //www.wanderlust.co.uk ในช่วงเดือนมีนาคมด้วย
| Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551 | | |
| Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 16:54:20 น. |
| Counter : 545 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
เชื้อโรคเผด็จการค้างท่อ ไม่ตายง่ายๆ หรอก
กำลังสงสัยอยู่ว่า เครือข่ายเผด็จการที่ยังคงค้างอยู่ในระบบ จะทำอันตรายแบบไหนกับรัฐบาลประชาธิปไตยคณะใหม่ล่าสุด
กรณีถอดรายการของ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ทาง FM 105 ดูเหมือนจะให้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว จนกระทั่งบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า ได้มีโทรศัพท์ลึกลับจากใครในตำแหน่งสำคัญ ที่เกี่ยวกับสื่อสารมวลชนภาครัฐ ไปสั่งหรือส่งสัญญาณให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผังรายการ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของรัฐบาลหรือไม่
แต่ตัว ดร.เจิมศักดิ์เองก็ให้สัมภาษณ์อยู่หลายครั้งว่า มีผู้ใหญ่ของรัฐบาล ระดับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ไปสั่งการดังกล่าวนั้น
ทางฝ่ายรัฐมนตรีก็ถามกลับผ่านสื่อมวลชน และการให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่า สามารถจะยืนยันได้อย่างไรหรือไม่ว่า มีผู้ที่พูดข้อความอันเป็นเท็จนั้นจริง เนื่องจากไม่มีการสั่งการ ไม่มีนโยบาย และไม่มีใครที่จะไปทำหน้าที่แบบนั้นแทนทั้งสิ้น
การแอบกระทำการเช่นนี้ เพื่อจะโยนบาปให้กับผู้คนในรัฐบาล แล้วตีตราหรือป้ายสีล่วงหน้าว่า มีความไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ครั้งรัฐบาลทักษิณ
รัฐบาลประชาธิปไตย จะว่าไปก็มีข้อเสียเปรียบตรงที่ว่า มีประตูและหน้าต่างหลายช่องเหลือเกิน ที่ประกอบกันเข้ามาเป็นการตัดสินใจในเชิงนโยบาย ช่องเป็นจำนวนมากและหลากหลายนั้นเอง ที่ทำให้ผู้มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ได้ใช้เป็นประโยชน์ในการสร้างเรื่องราวต่างๆ อันจะเป็นผลร้ายในเชิงภาพลักษณ์ และในทางการเมืองต่อรัฐบาลนั้นเองได้
พูดง่ายๆ ก็คือว่า ได้ใช้สิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อทำร้ายรัฐบาลประชาธิปไตย และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของฝ่ายเผด็จการ
อย่าลืมนะครับว่า บ้านเมืองเพิ่งออกจากยุคเผด็จการมาสู่บรรยากาศประชาธิปไตย เชื้อโรคที่คงค้างในร่างกาย ก็ย่อมจะยังมีอิทธิฤทธิ์มากพอ ที่จะทำให้เจ้าตัวสามารถเจ็บไข้ได้ป่วยและทรุดฮวบลงอีก เรื่อง FM 105 ก็เริ่มทำให้เกิดอาการคันคอ อยากจะกระแอมไอ ส่วนจะกลายเป็นหวัดเต็มรูปแบบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะทางสังคม
กรณีนี้จึงถือเป็นโชคดีของรัฐบาลใหม่ ที่ทำให้คนทั้งหลายมองเห็นได้ชัดว่า การชูเรื่องที่เป็นภาพลบของรัฐบาลโดยไม่มีหลักฐานปรากฏ ใช้แต่ตรรกะว่า มีอำนาจแฝงเร้น ใช้แต่อารมณ์ความรู้สึก และความเชื่อว่า ตัวได้รับผลร้ายจากอำนาจรัฐ เหล่านี้ ไม่ใช่เทคนิคใหม่ แต่ว่าเก่าสุดกู่ทีเดียว
รัฐบาลสมัครต้องไม่ตกหลุมพรางทางการเมือง แบบเดียวกับรัฐบาลทักษิณ มิฉะนั้นประชาธิปไตยจะมีปัญหา
เผด็จการไม่ตายง่ายๆหรอกครับ.
| Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2551 | | |
| Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2551 10:51:17 น. |
| Counter : 351 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
คาราบาว รวยพันล้าน
แอ๊ด คาราบาว รวยพันล้าน หลังกลุ่มเจริญควักกว่า 3 พันล้านบาท ซื้อหุ้น 67% ของคาราบาวแดง
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มเปิดเผยว่า นายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว กำลังจะรับทรัพย์เป็นเงินสดราว 1 พันล้านบาท หลังกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล้าขาว สุราสี เบียร์ ยี่ห้อช้าง ใช้เงินเกือบ 3 พันล้านบาท เข้าถือหุ้นในบริษัท คาราบาวตะวันแดง เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อคาราบาวแดง
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายเพิ่งบรรลุข้อตกลงกันเมื่อไม่กี่วัน ผลดังกล่าวทำให้ 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของคาราบาวแดง คือ แอ๊ด คาราบาว กับเพื่อนวงคาราบาว นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ กับกลุ่มโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และกลุ่มนางณัฐชไม ถนอมบุญเจริญ-นางวงศ์ดาว สมุทรโคจร ได้รับส่วนแบ่งกันไปคนละ 1 พันล้านบาท
การที่กลุ่มนายเจริญยอมจ่ายเงินเกือบ 3 พันล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น 67% จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 2 ล้านหุ้น (ราคาหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท) เพราะเป็นการตีมูลค่า นอกจากยอดขายของเครื่องดื่ม คาราบาวแดงที่มียอดขายปีละเกือบ 3.7 พันล้านบาท หรือมีส่วนแบ่ง 20-25% ของตลาดเครื่องดื่ม ชูกำลังปีละ 1.5 หมื่นล้านบาทแล้ว ยังเป็นการตีมูลค่าตราสินค้าที่มีการใช้งบปีละเกือบ 100 ล้านบาท ในการสร้างตราคาราบาวแดงมาเป็นระยะเวลา 5 ปี รวมทั้งโรงงานที่มีกำลังการผลิตวันละ 2 ล้านขวด
ที่สำคัญคือ เป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแอ๊ด คาราบาว กับนายเจริญ เนื่องจากแอ๊ดเป็นตัวจักรสำคัญสร้างเบียร์ช้างให้ติดตลาด จนช้างมียอดขายปีละกว่า 5 หมื่นล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งเกือบ 60% ของตลาดเบียร์กว่า 9 หมื่นล้านบาท แหล่งข่าวเปิดเผย
อนึ่ง ส่วนหุ้นที่ยัง เหลือ 33% นั้น ผู้ถือหุ้นจากกลุ่มคาราบาวแดงทั้ง 3 ยังจะถืออยู่ในบริษัทในสัดส่วนที่เท่ากัน พร้อมกับเงื่อนไขยังต้องคงความเป็นผู้บริหารเครื่องดื่มคาราบาวแดงต่อไป
| Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2551 | | |
| Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2551 10:58:48 น. |
| Counter : 6349 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
ฝันที่เป็นจริง....ขอบคุณท่านสมัคร
นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะเดินหน้าขยายรถไฟฟ้าไปชานเมืองทั้ง 4 ด้าน มั่นใจอีก 3 ปีสำเร็จ ขณะเดียวกัน เตรียมปรับปรุงรถไฟฯ ทำรางคู่ให้สามารถวิ่งสวนกันได้ ใช้เวลาไปเชียงใหม่แค่ 6 ชั่วโมง เตรียมชวนต่างชาติมาลงทุน
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถึงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ว่า ที่จริงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการมาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมาลงมือ แม้ในอดีตเคยมีเสียงคัดค้าน แต่ตนซึ่งเคยรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ดำเนินการ โดยเริ่มจากโครงการรถไฟฟ้ายกระดับในเมือง 23 กิโลเมตร และจะต้องขยายยาวออกไปอีก 30 กิโลเมตร เพื่อให้ไปถึงชานเมือง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับการขยายต้องใช้ของเก่าที่มีอยู่แล้วขยายออกไปทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านเหนือไปถึงลำลูกกา ด้านตะวันออกไปถึงบางใหญ่ ด้านใต้ไปถึงบางหว้า ด้านตะวันตกไปถึงบางปู การขยายโครงการต้องใช้สถานีมาตรฐานที่มีอยู่ 21 สถานี โดยเพิ่มจำนวนตู้รถโดยสารจากขบวนละ 3 ตู้ เป็น 6 ตู้ ปรับระยะเวลาออกรถจากขบวนละ 5 นาที เป็น 2.30 นาที ส่วนระยะเวลาการดำเนินการ เชื่อว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี จะสามารถดำเนินการเสร็จ
นายสมัคร กล่าวต่อว่า สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย มีอายุมากว่า 100 ปี แต่เพิ่งมีการเปลี่ยนไม้หมอนรถไฟ 7 ล้านท่อน เป็นคอนกรีต ซึ่งการใช้ไม้หมอนคอนกรีตจะทำให้รถไฟวิ่งได้นิ่มนวลขึ้น แต่การประมูลแบบไทยที่เอาราคาต่ำไว้ก่อน พอทำไปถึง จ.ลพบุรี หรือพระนครศรีอยุธยา ก็ขาดทุน ทำไม่ได้ เรื่องนี้หากมีผู้ประมูล 7 บริษัท ให้บริษัทละ 1 ล้านท่อน ก็คงเสร็จไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนคันดินใต้รางรถไฟเป็นด้านบน 5 เมตร ด้านล่าง 10 เมตร เพื่อลดปัญหารถไฟรอหลีก การวางรางใหม่จะทำให้รถไฟวิ่งสวนกันได้ จากระยะทาง 3,700 กิโลเมตร ระยะทางจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า 7,400 กิโลเมตร การลงทุนสำหรับรางคงต้องชวนต่างชาติมาลงทุน เพราะประเทศไทยกำลังจะมีโรงถลุงเหล็กใหม่เกิดขึ้นอีก 2 โรง ถ้าเรามีรางสแตนดาร์ด จะมีรถไฟที่เร็วประมาณ 200 กิโลเมตร
ชั่วโมง มาวิ่ง หากทำรางคู่ไปทั้งหมด รถไฟมาตรฐานยุโรปจะมาวิ่งในประเทศไทย โดยความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 150 กิโลเมตร
ชั่วโมง ทำให้การเดินทางไปเชียงใหม่ลดลงจาก 12 ชั่วโมง เป็น 6 ชั่วโมง การแก้ปัญหาการขนส่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาของคนไทยทั้งประเทศ
| Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2551 | | |
| Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2551 16:29:37 น. |
| Counter : 357 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
เรื่องเล่า จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี
> คือ .... เรื่องมันมีอยู่ว่า
> ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
> มีคนไข้ตายบนเตียงเดียวกันซ้ำ ๆ แล้วหลายคน
> ที่น่าแปลกคือทุกศพตายเมื่อห้าโมงเช้าวันอาทิตย์
> โดยหมอเล็กหมอใหญ่ไม่อาจให้คำอธิบายได้ ( ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ )
> บ้างก้อร่ำลือถึงความเฮี้ยนที่หลาย ๆ คนได้ยินมา ,
> บรรดาคุณหมอจึงตัดสินใจลงไปที่ห้องผู้ป่วย
> เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายในวันอาทิตย์หน้า
> กระทั่งถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ทุกคนรอคอย 2-3
> นาทีก่อนจะห้าโมงเช้าทั้งหมอและพยาบาลต่างรอคอยอย่างลุ้นระทึก
> แอบมองอยู่ข้างนอกห้องว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
> ต่างคนต่างกำหลวงพ่อประจำตัว ปากก็คอยสวดมนต์อยู่ตลอดเวลา
> ด้วยความหวาดกลัวและลุ้นว่าจะเห็นวิญญาณเฮี้ยนหรือไม่
> จนเข็มนาฬิกาเดินมาที่ 11 นาฬิกา บรรยากาศก้อเย็นเฉียบขึ้นโดยฉับพลัน
> ไร้เสียงรบกวนใด ๆ แม้เสียงลมหายใจก้อแทบจะไม่ได้ยิน
> และแล้วทันใดนั้น ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ..................
> พนักงานทำความสะอาดคนใหม่
> ซึ่งทำงาน( เฉพาะวันอาทิตย์วันเดียว ) ก้อเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย
> จากนั้นก้อถอดปลั๊กเครื่องช่วยหายใจออกแล้วเสียบปลั๊กเครื่องดูดฝุ่นแทนและทำความสะอาดต่อด้วยความสบายใจ....
> โอ้! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เรื่องจริงหรือนี่ ความจริงปรากฏว่าทำไมคนไข้ถึงตายเวลา 11.00 น. ทุกวันอาทิตย์
> อ่านแล้ว Comment ด้วยไม่งั้นขอแช่งให้เป็นหมัน เซ็กเสื่อม หมดสมรรถภาพทางเพศ กามตายด้าน สาธุ
| Create Date : 22 มกราคม 2551 | | |
| Last Update : 22 มกราคม 2551 16:29:15 น. |
| Counter : 415 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [