|
เจ้าหญิงนิทรา [1/3]
กาลครั้งหนึ่ง....เมื่อนานแสนนานมาแล้ว...
ในเมืองๆ หนึ่ง ที่มีพระราชาองค์หนึ่ง มีโอรสและธิดาอย่างละหนึ่ง ......
และเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในมุมที่เงียบสงบมุมหนึ่งท้ายวัง
“ท่านพี่.....ท่านพี่ครับ.....ท่านพี่......”
เสียงทุ้มๆ ของร่างสูงผิวแทนตะโกนเรียกเสียงดังในอุทยานหลังวัง หากแต่เอาเข้าจริงๆ ก็คงไม่ดังนักหรอกเมื่อบางอย่างทำให้ร่างสูงที่ว่าต้องเพลาๆ เสียงตัวเองลง เหตุผลน่ะเหรอ?
เพราะใครจะรู้ไม่ได้เป็นอันขาดว่าคนถูกเรียกจะมาอยู่ที่นี่ได้น่ะสิ!
“ท่านพี่....ท่านพี่ฮีโรร่า.....ท่านพี่!!”
เมื่อเรียกยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีคำตอบรับ เจ้าชายเล็กของทุกคนก็ชักหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว มือเรียวเท้าสะเอวเมื่อเริ่มจะเหลืออดกับการตามหาอีกคน กิริยาอย่างนั้นกลับทำให้คนที่แอบดูอดจะหัวเราะขำเบาๆ ไม่ได้
โป๊ก!!
“โอ้ย!”
ลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดที่หล่นลงมาบนหัวเรียกเสียงร้องพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะอย่างพอใจได้ดีนัก!
“ท่านพี่อ่า!”
หยิบลูกแอปเปิ้ลพลางเจ้าตัวก็หันไปหาที่มาของมันพลางก่อนจะเงยหน้ามองคนที่อยู่บนต้นไม้อย่างตัดพ้อ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้คนช่างแกล้งหัวเราะพอใจหนักกว่าเดิม
“อร่อยนะ พี่อุตส่าห์แบ่งให้นายไม่ดีใจรึไง”
“แล้วแบ่งให้บ้านท่านพี่นี่เค้าให้กันอย่างนี้เรอะ! ให้ดีๆ ไม่เป็นรึไงเล่า” คลำหัวป้อยๆ ก่อนบ่นขมุบขมิบคนบนต้นไม้เบาๆ “....ทำอะไรไม่สมกับเป็นเจ้าหญิงเล้ย”
“แอบบ่นอะไรพี่น่ะ! แล้วบ้านพี่ก็บ้านเดียวกับนายน่ะแหละ แถมยังมารบกวนเวลานอนพี่ได้ไง เรียกก็เรียกซะเสียงดังด้วยถ้าคนอื่นรู้จะทำไงล่ะ”
“ไม่รู้หรอกน่า ข้าดูต้นทางแล้ว แต่ท่านพี่รีบลงมาก่อนเถอะ มีเรื่องด่วนมาแล้วนะ”
“เรื่องอะไร?”
“ก็มีเจ้าชายมาขอจูบพี่อีกแล้วน่ะสิ!”
“ห๊ะ!?”
“ไม่ห๊งไม่ห๊ะล่ะ นี่ก็มาถึงวังเมื่อกี้นี่เอง คืนนี้ท่านพ่อคงให้พักคืนนึงแล้วพรุ่งนี้คงขึ้นหอคอยอ่า ข้าก็เลยต้องรีบมาบอกให้พี่เตรียมตัวนี่ไง”
คำเอ่ยบอกของน้องชายทำเอาหน้าหวานๆ แทบจะหงุดหงิดในใจ ก็กะว่าพรุ่งนี้จะออกไปนอกวังเดินเล่นซื้อของซะหน่อยเชียว
ทำไมถึงได้ขยันมานักนะ!
“แมร่งงง! เจ้าเจ้าชายพวกนี้วันๆ มันทำอะไรกันวะ งานการมีไม่ทำรึไงถึงขยันมาจูบลูกสาวชาวบ้านนัก!” บ่นพลางก็ตะเกียกตะกายปีนลงจากต้นแอปเปิ้ลไปพลางทำเอาอีกคนที่ยืนมองได้แต่ส่ายหน้าอย่างสังเวชใจ
ทำอะไรไม่สมเป็นกุลสตรีเอาซะเล้ย ถ้าเจ้าชายพวกนั้นมาเห็นพี่อย่างนี้ก็คงไม่มีใครอยากจูบนักหรอก
“แมกซ์มาช่วยพี่หน่อยสิ ทำไมตอนปีนลงมันยากกว่าขึ้นวะแมร่ง!”
คนถูกเรียกส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้งเมื่อเดินเข้าไปช่วยรับคนตัวบางจากต้นไม้ มือเรียวเกาะไหล่คนเป็นน้องก่อนจะค่อยๆ ถูกวางลงกับพื้น ใบหน้าที่เห็นในระยะประชิดก็ต้องทำให้เจ้าชายเล็กถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่สาม
แต่จริงๆ ก็อาจจะอยากจูบก็ได้มั้ง ก็หน้าอย่างนี้นี่ ถ้าท่านพี่อยู่เฉยๆ ไม่พูดไม่จาก็ถือว่าเป็นสาวงามชนิดหาใครเทียบไม่ได้เลยล่ะ!
นั่นล่ะทุกท่าน เจ้าหญิงของพวกเราที่ถึงจะปากคอเราะร้ายไปนิดแต่ถ้าเรื่องหน้าตาแล้ว คงไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอกว่าเธอมีดวงตาที่หวานซึ้งดำขลับเพียงไร มีจมูกโด่งที่รั้นนิดๆ บ่งบอกถึงความเอาแต่ใจเพียงไร มีปากอิ่มสีแดงสดที่คงไม่จำเป็นต้องบอกว่าหวานเพียงไหน มีผิวที่ขาวราวกับหิมะรับกันเหมาะเจาะกับผมยาวสีดำสนิทราวความมืดในรัตติกาล
เธองดงามขนาดไหนคงไม่สามารถเขียนคำบรรยายได้จบในวันนี้กระมัง
แต่ถ้านั่นคือเธอไม่ได้พูดนะ
“แมร่งเอ๊ย! เหนื่อยอีกแล้วสิ!” นั่นคือเธอไม่ได้พูด “ เฮ้อ.....ซีอา....”
ปุ๊บ!
ขาดคำเรียกปั๊บก็พลันมีแสงสว่างพร่างพรายก่อนที่ปีกเล็กๆ จะสะบัดออกมาก่อนตามมาด้วยร่างน้อยที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแย้มยิ้มให้ตรงหน้า
“อะไรเหรอฮีโรร่า ^ ^”
เสียงใสปนแหบของเทวดาประจำตัวแถมท้ายด้วยยิ้มตาหยีชนิดเห็นฟันทุกซี่ทำให้อารมณ์มันดีขึ้นมานิด เสียงหวานข้างกายเจ้าชายถอนหายใจแผ่วเบาเมื่อเอ่ยกับเทวดาน้อยตรงหน้า
“มีงานอีกแล้วล่ะ ไปคุยกันที่บ่อน้ำเถอะ”
..
..
..
ณ บ่อน้ำท้ายสวน
“มิคกี้...มิค......มิคกี้! เจ้ากบกวนประสาทตื่นขึ้นมาสิวะ!”
“มิคกี้!!”
เอาล่ะ หลังจากที่ทั้งสามคนเดินทางมาถึงบ่อน้ำลึกร้างแห่งนี้เจ้าหญิงฮีโรร่าก็ตะโกนเรียกซะจนคอแหบ แต่ถึงกระนั้นก็มีแค่เสียงตัวเองที่มันดังสะท้อนกระทบผนังอิฐที่ตะไคร่น้ำเกาะจนเขียวไปหมดแค่นั้นไม่มีวี่แววเจ้าของบ่อด้วยซ้ำ
“ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ในนั้นน่า อย่ามาแกล้งไม่ได้ยินนะเฟ้ย!”
“...............”
ฟิ้ววววววววววววว
ก็ยังเงียบ
แล้วในท้ายที่สุดเจ้าหญิงที่ใจร้อนเป็นที่หนึ่งก็เริ่มจะอดรนทนไม่ไหวเมื่อหันหน้ากลับมาและยื่นมือต่อหน้าเจ้าชาย
“เอาแอปเปิ้ลที่พี่เพิ่งให้เมื่อกี้มาซิ”
“อ้าว ไหนท่านพี่ยกให้ข้าไงล่ะ ไม่เอานะ ให้แล้วต้องไม่เอาคืนสิ”
“แมกกกกกกกกซ์”
เสียงเรียกยาวบวกสีหน้าเรียบนิ่งทำให้เจ้าชายต้องหน้าบูดนิดหน่อยก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดส่งให้
“ก็แค่นั้นล่ะน่า.....” รับมาเสร็จก็หันกลับไปมองบ่อน้ำอย่างหมายมาดทันที รอยยิ้มชั่วร้ายที่ผุดขึ้นมาบนหน้าสวยก็ช่างไม่สมกับเป็นเจ้าหญิงจริงๆ นั่นล่ะ “....เดี๋ยวพี่ไปปีนเอาลูกใหม่มาให้นะ ยื้มก่อน”
แล้วในจังหวะที่รอยยิ้มมาดร้ายนั่นดำเนินถึงที่สุด...ชั่วจังหวะที่ลมพัดเริ่มหยุดนิ่ง....ชั่วจังหวะที่ทุกคนกลั้นหายใจอย่างรอคอย....
อย่างรวดเร็ว.....เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้นมาทันที!
ตู้มมมม!!!!!
ไม่ใช่เสียงจ๋อมอย่างที่มันควรจะเป็นเมื่อเจ้าหญิงขว้างลูกแอปเปิ้ลสุดแรงเกิดลงไปในบ่อน้ำนั่นเต็มแรง!
“แค่กๆ ยัยเด็กกวนประสาท เล่นอะไรวะ! ข้าเป็นบรรพบุรุษของเจ้านะ!! เจ้าเคยจะทำตัวดีๆ กับข้าบ้างมั้ย แค่กๆ ขว้างมาได้ไงเนี่ย!!”
“ก็ข้าเรียกตั้งนานแล้วเจ้าอยากออกมาช้าเองนี่ ข้าก็เลยคิดว่าเจ้าไม่ได้ยินน่ะสิ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆ กับกบตัวเล็กเท่ากำปั้นที่ปีนขึ้นมาเกาะอยู่ขอบบ่อ
หากแต่น่าแปลก...เมื่อแทนที่จะมีแค่ร่างเขียวๆ เล็กๆ....ร่างสีขาวที่มองทะลุได้ของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งก็เหมือนจะปรากฎกายบางเบาเหนือร่างกบที่กำลังสำลักน้ำนั่นด้วย!
“ก็ข้าก็เคยบอกแล้วว่าเรียกน่ะให้เรียกดีๆ ตะโกนอย่างนั้นมันรบกวนเวลานอนชาวบ้านเค้ารู้มั้ย! เฮ้อ...ทำไมข้าต้องมีลูกมีหลานนิสัยอย่างเจ้าด้วยนะ น้องชายเจ้ายังเรียบร้อยกว่าเป็นกองเลย ไม่ไหวๆ ข้าลำบากใจกับอนาคตของตระกูลข้ายิ่งนัก....ถ้าเจ้าจะหัดสงบปากสงบคำซะบ้างก็น่าจะเป็นสาวงา.......”
พลันเสียงบ่นนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเจ้าตัวหายสำลักแล้วและตาคมเรียวก็ตวัดไปมองเห็นคนที่ลอยอยู่ข้างกายเจ้าหญิงชัดๆ
หน้าที่เปลี่ยนจากหงุดหงิดกลับกลายมาเป็นดีใจเมื่อรอยยิ้มอ่อนโยนถูกแปะบนใบหน้าหล่อเหลา ประกายตาคมกล้าอ่อนหวานลงจนถ้าสาวใช้ในวังมาเห็นคงแทบละลายกำลังสบตากับใบหน้าน่ารักที่แย้มยิ้มมาให้เช่นกัน
รอยยิ้มอ่อนโยน....ที่มีคนเพียงคนเดียวจะได้
“เซียะ.....”
“มิค ^ ^”
“กลับบ้านมาใช่มั้ย เป็นไงบ้าง?”
“อื้อ ท่านพ่อสบายดี ^ ^ ท่านฝากความคิดถึงมาให้มิคด้วยนะ”
“ความคิดถึงของพ่อเจ้าช่างน่ากลัวเหลือเกิน คิดถึงข้าในแบบไหนอีกล่ะเนี่ย คราวนี้ข้าต้องเตรียมตั้งด่านรับมั้ย?”
“มิคก็.....ท่านพ่อบอกว่าคิดถึงธรรมดาก็คิดถึงธรรมดาสิ แล้วมิคล่ะเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย?”
“ข้าสบายดี....” น้ำเสียงช่างอ่อนโยนนักเมื่อมองสบตากับร่างที่จ้องมาอย่างเป็นห่วง นิ้วเรียวยาวโปร่งใสถูกยกไปหมายจะแตะแก้มเนียน หากแต่มันก็กลับชะงักค้างในอากาศเมื่อรู้ว่าผลที่ได้จะเป็นเช่นไร “....แล้วเจ้าล่ะ คิดถึงข้าเหมือนที่พ่อเจ้าคิดถึงข้ามั้ย?”
เฉดสีแดงเข้มกระจายไปทั่วใบหน้าน่ารักนั้นแทบจะทันที!
“อะแฮ่ม.....”
เจ้าหญิงต้องกระแอมเบาๆ ขึ้นมารอบนึงเมื่อเริ่มรู้สึกว่าทั้งสองคนกำลังอยู่ในโลกส่วนตัวกันแล้ว เสียงนั้นทำให้ร่างสูงโปร่งใสชะงักก่อนจะหันหน้ามามองเคืองๆ ที่ขัดจังหวะแต่กับร่างเล็กที่ปีกสีขาวตีพั่บๆ ก็กลับเบือนหน้าแดงจัดหลบตาทุกคน
มีบางสิ่งที่พวกเราไม่รู้ใช่มั้ย?
เอาล่ะ....แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มเข้าสู่ภาวะเป็นงานเป็นการเมื่อต้องต่างช่วยกันเตรียมแผนตั้งรับเหตุการณ์วันพรุ่งนี้
อะไรน่ะรึ?
ก็แผนการที่จะหยุดบรรดาเจ้าชายที่สมัครกันเข้ามาจูบเพื่อให้เจ้าหญิงฮีโรร่าฟื้นน่ะสิ!
งั้นแล้วทำไมเจ้าหญิงที่ควรจะนอนหลับสนิทในหอคอยถึงวิ่งป่วนไปทั่วอย่างนี้?
คำตอบสำหรับคำถามนี้คงต้องเล่ายาวไปเมื่อซักปีสามปีก่อนนู่นล่ะ มันมาจากการที่เจ้าหญิงทะเลาะกับพระราชาอย่างหนักเมื่อคนเป็นลูกสาวอยากจะออกทะเลให้ได้
‘ข้าจะเป็นเหมือนกัปตันซินแบด! จะหาสมบัติมาช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทำไมท่านพ่อถึงไม่เข้าใจข้านะ!’
‘เจ้าต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลย! ดูตัวเองก่อนจะคิดทำอะไรบ้างมั้ย! นี่นะคนจะออกทะเล ว่ายน้ำได้แค่ปลาทองในอ่างใบจ้อยกลับคิดจะเอาตัวเองไปเทียบกับปลาฉลาม! ใครสั่งใครสอนให้เจ้าคิดจะทำอะไรเพี้ยนๆ อย่างนี้ฮึฮีโรร่า!’
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังแลกปากคำกันอย่างดุเดือด เจ้าชายองค์เล็กก็ได้แต่มองสองคนนี้สลับกันไปมาอย่างกลัวๆ ปนเหนื่อยใจ
นิสัยช่างเหมือนกันไม่มีผิด!
‘ไม่รู้ล่ะ! ถ้าท่านพ่อไม่ยอมให้เรือให้ข้าไปดีๆ ข้าก็จะแอบออกไปเอง! ถึงตอนนั้นแล้วข้าจะไม่กลับมาเลยคอยดู!’
คำเอ่ยประชดเสียงฉุนอย่างเหลืออดกลับทำให้ใจคนเป็นพ่อกระตุกวูบ อารมณ์ที่เถียงอย่างดุเดือดกับลูกสาวสุดที่รักเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อถ้อยคำเอาแต่ใจเมื่อครู่ทำให้ท่านเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ
กลัวจะเสียคนตรงหน้าตามผู้หญิงที่รักมากที่สุดไป!
‘จะเอาอย่างนั้นก็ได้นะฮีโรร่า....’ ผิดคาด...แทนที่จะได้คำตวาดกลับมาอย่างที่คิด น้ำเสียงเรียบนิ่งและไหล่กว้างที่ยืดตรงของร่างสูงกลับทำให้ร่างน้อยที่หอบเหนื่อยๆ เพราะการใช้เสียงต้องเงยหน้ามองพระราชาอย่างแปลกใจ
แปลกไป?
‘ถ้าหากเจ้ายังมีความคิดอยู่ในหัวเช่นนี้ล่ะก็นะ...วันเกิดอายุครบ 17 ของเจ้าปีนี้....’ ลางสังหรณ์จากการวางท่าเยี่ยงกษัตริย์ของบิดาทำให้เจ้าหญิงเริ่มกลัวขึ้นมาตงิดๆ ใบหน้าเอาจริงอย่างนี้มีให้เห็นเมื่อไหร่ล่ะก็เป็นเรื่องแน่!
‘...ข้าจะประกาศข่าวงานหมั้นของเจ้า! แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาซะจะได้เลิกฟุ้งซ่านซักที!!’
‘ท่านพ่อ!’
‘นับตั้งแต่นี้ไปห้ามออกจากวังแม้แต่ก้าวเดียว! ข้าจะส่งคนมาเฝ้าเจ้าเอาไว้ทุกชั่วยาม เจ้าบ่าวของเจ้าข้าจะหาให้เองรับรองว่าต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่างแน่ๆ และก็นะแมกซ์....’
ท้ายประโยคก็หันหน้ามามองลูกชายที่นั่งหงิมๆ นิ่งๆ มาตั้งแต่แรกแล้วด้วยสายตาคมกล้า คำเอ่ยบอกถัดมาแทบจะทำให้หน้านั้นอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
‘ถ้าเจ้าปล่อยให้พี่สาวเจ้าหนีไปได้ล่ะก็......’
น้ำเสียงลากยาวของท่านพ่อช่างน่าเกรงขามเหลือเกินในใจเจ้าชาย
‘ข้าจะตัดงบอาหารเจ้าให้เหลือแค่มื้อเดียว!’
ปัง!!!
เสียงประตูปิดเสียงดังทิ้งให้คนที่เหลือในห้องแทบจะสะอึกกันทั้งสองคน!
แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นคือมีองครักษ์มาคุมความประพฤติของเจ้าหญิงตามคำสั่งทันที ยิ่งวันเกิดใกล้เข้ามาเท่าไหร่เจ้าหญิงฮีโรร่าก็ยิ่งกระสับกระส่ายมากเท่านั้น เจ้าบ่าวที่พอรู้รางๆ ก็เป็นใครซักคนในราชวงศ์นั่นล่ะ แต่การถูกจับคลุมถุงชนอย่างนี้ทำให้เจ้าหญิงแทบจะเดือดปุดๆ จนในท้ายที่สุดก็ต้องเรียกระดมพล
ต้องทำอะไรซักอย่างก่อนถึงวันงาน!
แล้วบรรดาผู้ช่วยก็คือน้องชายที่ไม่เคยกล้าหือ กบบรรพบุรุษในบ่อน้ำ และท้ายที่สุดเทวดาน้อยประจำตัวก็ถูกเจ้าหญิงเรียกให้มาช่วยกันคิดหาแผนการเตรียมรับมือ ซึ่งแผนการฉลาดปราดเปรื่องที่เจ้าหญิงคิดออกมาได้ (จริงๆ คือเจ้าชายแมกซ์คิดแต่เจ้าหญิงเหมารวบตู่เป็นความคิดตัวเอง) ก็คือสิ่งนี้ไงล่ะ!
‘เจ้าสมควรโดนเยี่ยงนี้แล้วคัลเซล โทษฐานที่ไม่ส่งเทียบเชิญไปให้ข้า’
เสียงเอ่ยอย่างพยายามให้ชั่วร้ายของร่างน้อยที่เอาไม้กวาดมาขี่ลอยไปมาเหนือท้องพระโรงในวันงานวันเกิดครบ 17 ปีของเจ้าหญิงฮีโรร่าพร้อมๆ กับเอาผ้าสีดำห่อปิดหน้าปิดตัวทำให้แขกทั้งงานแทบตะลึงกับสิ่งที่ได้ฟัง
แม่มดดำจากป่ามืดที่ไม่เคยมีใครรู้จักกำลังสาปเจ้าหญิง!
เจ้าหญิงผู้งดงามตอนนี้ตกใจจนเป็นลมในอ้อมกอดน้องชายทำให้บรรดาแขกที่มาร่วมงานต่างก็สงสารเจ้าหญิงผู้เลอโฉมเปราะบางไปตามๆ กัน หารู้ไม่ว่ารอยยิ้มชั่วร้ายอย่างสมใจกำลังผุดขึ้นบนใบหน้าหวานที่กำลังซบกับอกเจ้าชายแมกซ์ต่างหาก
ทุกอย่างช่างเป็นไปตามแผนจริงๆ!
‘ท่านแม่มด ได้โปรดเถิด ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าท่านพำนักอยู่ ณ ตรงนั้น โปรดอภัยให้กับความโง่เขลาของข้า หากจะลงโทษก็จงเป็นข้า อย่าได้ทำอะไรลูกข้าเลย’
‘อิยะฮ่า....เอ๊ย!.....ฮ่าๆๆๆๆๆๆ นี่คือบทลงโทษสำหรับความสะเพร่าของเจ้าไงเล๊าคัลเซล หากโดนเข็มทอผ้าแทงมื่อไหร่ฮีโรร่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปในทันที และจะไม่ฟื้นจนกว่าจะได้รับจุมพิตจากเจ้าชายเนื้อคู่ด้วย!’
เฮือก!
คำสาปเสียงใสกลับทำให้ให้ทั้งตัวคนสาปและเจ้าชายเจ้าหญิงสะดุ้งไปตามๆ กัน
มันอยู่ในแผนซะเมื่อไหร่ล่ะไอ้การจุมพิตนี่!
‘ก็มันลืมตัวนี่นา...ในนิทานปรัมปราที่อ่านก็มีแต่ให้เจ้าชายจุมพิตเจ้าหญิงนี่...เค้าเลยหลุดปากพูดไปอ่า...’ นั่นคือคำแก้ตัวจากคนที่ทำเป็นสาปเจ้าหญิงและถอดชุดคลุมกายสีดำออกเหลือเพียงผ้าสีครีมบางเบาและปีกสีขาวบริสุทธิ์ห่อตัว ‘...ฮีโรร่าไม่โกรธนะ....’
ตาสีน้ำตาลใสแจ๋วที่มีน้ำคลอกำลังมองตรงมาอย่างอ้อนวอน...แล้วใครล่ะจะโกรธลง?
หากแต่ถึงแม้จะผิดแผนนิดหน่อยทุกอย่างหลังจากนั้นก็ดำเนินไปเกือบดี เครื่องปั่นด้ายหรือเข็มทอผ้าทุกชิ้นที่มีถูกพระราชาสั่งให้เก็บออกไปให้พ้นจากวัง แถมยังหอคอยสูงเจ็ดชั้นที่สร้างเพื่อให้ลูกสาวอันเป็นที่รักไปซ่อนตัวห่างไกลจากภยันอันตรายทั้งปวงด้วยก็แล้วเสร็จจนได้
แต่ก็น่ะนะ...ในเมื่อคนที่ทุกคนห่วงนักห่วงหนาอยากจะเกิดอุบัติเหตุนี้เอง...อยู่ดีๆ เข็มทอผ้าโผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้ (กบมิคกี้ไปคาบจากนอกวังมาให้เอง)และเจ้าหญิงเดินเล่นท่าไหนไม่รู้ (ท่าที่ร่าเริงจัดเมื่อเดินอย่างลัลลาไปให้เข็มแทง) เหตุการณ์อันไม่คาดฝันมันก็เกิดขึ้นจนได้!
(อย่าจิ้มแรงนะซีอา....มันจะเจ็บมั้ยอ่ะ..)
(เจ็บจิ๊ดเดียวนะฮีโรร่า...หลับตาสิ...)
(.........................)
(แทงรึยังอ่ะซีอา....ไม่เห็นเจ็บเลย)
(.........................)
(….ซีอา?)
(โฮๆๆๆๆๆ เค้าไม่กล้าทำอ่า มิคกี้ช่วยด้วย)
(โอ๋ๆๆๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวมิคช่วยเองนะ)
(ไม่เอา! ถ้าเจ้าเป็นคนทำคงเอาคืนข้าจนเลือดหมดตัวแหง แมกซ์มาช่วยพี่หน่อยซิ!)
(แล้วไหงข้าต้องเป็นคนทำด้วยล่ะ T_T)
(บ่นเรอะ!)
(ไม่บ่นครับท่านพี่ ข้าไม่ได้บ่นอะไรเลย T_T ท่านพี่พร้อมนะ หลับตาซะ)
(..........(ทุก คน/ตัว ลุ้นจัด).............)
(จึ๊ก!)
(โอ้ย! นี่แน่ะๆๆ ข้าก็บอกแล้วว่าอย่าทำแรง เจ้าน้องบ้าพลังนี่ เจ็บจะตายเลยรู้มั้ย! นี่ๆๆๆ)
(ข้าก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่อยากทำ...เสียทั้งขึ้นทั้งร่อง T_T โอ้ย! ท่านพี่เบามือหน่อยสิ ท่านเป็นผู้หญิงนะ! )
(เป็นผู้หญิงแล้วไง! บ่นใช่มั้ย...บ่นโดนหนักกว่านี้แน่!)
( TT^TT )
เอาล่ะ...หลังจากปฏิบัติการทำให้เข็มแทงนิ้วเจ้าหญิงจบได้อย่างสวยงาม(?)และหาเรื่องแกล้งให้นางกำนัลซักคนมาเจอเจ้าหญิงนอนหมดสติ ทั้งวังก็โกลาหลเป็นการใหญ่เมื่อเจ้าหญิงฮีโรร่ายังไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยจนบัดนี้ พระราชาทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับเมื่อจ้างท่านหมอหรือผู้ใช้เวทย์คนไหนมาก็ไม่ทำให้เจ้าหญิงฟื้นขึ้นมาได้เลยสักคน
จนสุดท้ายก็คือนำร่างอันไร้สติของเจ้าหญิงผู้เลอโฉมไปประทับไว้ในหอคอยที่เพิ่งสร้างเสร็จพอดีนั่นเอง
‘พ่อขอโทษนะฮีโรร่า...ขอโทษที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้....พ่อขอโทษ...’
น้ำตาจากกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่แทบไม่เคยมีใครได้เห็นกำลังไหลรินลงไปบนใบหน้าของลูกสาวสุดที่รัก ความอุ่นชื้นบนหน้าพาให้ใจดวงน้อยกระตุกวูบไปด้วย
‘หากไม่เพราะความสะเพร่าของพ่อเจ้าก็คงยังยิ้มเบิกบานให้พ่อได้เหมือนทุกวัน...พ่อขอโทษ...”
อยากจะกอดคนเป็นพ่อตอบเพื่อปลอบประโลม..หากแต่สิ่งที่ได้ทำมาจนขั้นนี้ทำให้ร่างน้อยต้องบอกตัวเองให้นอนนิ่งๆ
และที่ต้องทำตอนนี้คือกลั้นน้ำตาที่มันกำลังจะไหลเช่นกันอย่างเต็มที่ !
ที่ผ่านมายกเว้นตอนแม่ตาย...ข้าไม่เคยเห็นท่านพ่อร้องไห้อีกเลย
‘พ่อจะทำทุกทางให้เจ้าฟื้น ให้เจ้าตื่นขึ้นมาเถียงกับพ่อเหมือนเดิม....รอหน่อยนะลูกพ่อ’
น้ำเสียงมั่นคงดั่งคำสัญญาส่งผลให้น้ำตามันแทบจะหล่นข้างในใจอย่างเจ็บปวด
‘พ่อรักเจ้านะฮีโรร่า....’
..
..
“ข้าก็รักท่านพ่อ”
รำพึงกับตัวเองอย่างแผ่วเบาเมื่อทอดมองจากหน้าต่างของหอคอยเจ็ดชั้นไปยังยอดปราสาทที่ร่างของคนเป็นพ่อน่าจะนอนหลับสบายที่นั่น นิ้วเรียวสวยปาดน้ำตาที่มันรื้นขึ้นมาสะท้อนแสงจันทร์เล่นทิ้ง พรุ่งนี้เจ้าชายสักองค์ก็จะขึ้นมาที่หอคอยนี้เพื่อมาทำภารกิจจุมพิตเจ้าหญิงให้ฟื้น
แต่แผนเดียวกับแผนเก่าๆ ที่เตรียมเอาไว้ตอนเย็นกับทั้งสามคนคงดีเกินพอที่จะทำให้ภารกิจของเจ้าชายพวกนั้นล้มเหลวได้อย่างไม่ต้องสงสัย
อีกไม่กี่ปีหรอกที่เหตุการณ์อย่างนี้มันจะจบ...พรหนึ่งข้อที่สามารถขอจากเทวดาประจำตัวตัวได้คงทำให้ท่านวางใจกับการเติบใหญ่ในทะเลของลูกท่านคนนี้แน่
ถ้าท่านรู้ท่านคงไม่ห่วงข้าแน่นอน
“ราตรีสวัสดิ์ท่านพ่อ”
เสียงเอ่ยหวานแผ่วลอยไปตามสายลมก่อนที่ร่างนั้นจะผละจากหน้าต่างเพื่อพักผ่อนเตรียมรับเหตุการณ์วันพรุ่งนี้
จะอยู่หรือรอดก็คงเป็นพรุ่งนี้ล่ะ!
..
...
..
ปุ้ง!!!
เสียงจุดพลุสำหรับอาณาจักรนี้เป็นสัญญาณที่ชาวเมืองรู้ดีว่าได้มีเจ้าชายสักองค์เดินทางมาท้าทายกับคำสาปอีกคนแล้ว ใครที่ไม่ติดธุระต่างก็ไปรอดูรอให้กำลังใจเจ้าชายเพื่อที่ว่าจะได้เห็นเจ้าหญิงในดวงใจของตนฟื้นขึ้นมาซักที
แม้สามปีที่ผ่านมาจะไม่เคยมีใครทำได้เลยก็เถอะ
แถมยิ่งวันนี้ที่เจ้าชายองค์ล่าสุดที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับรูปแกะสลักก็ทำให้ชาวเมืองต่างส่งเสียงเชียร์เป็นระยะที่ม้าสีขาวตัวนั้นถูกควบผ่าน เมื่อคิดว่าหากเจ้าหญิงฟื้นขึ้นมาจริงๆ คงสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกแน่
เจ้าชายยูโนว์แห่งไบเซนทาวน์!
“เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย?”
“ครับ ที่นี่อากาศดีและน่าอยู่มากครับ ต่างกับบ้านข้าที่หากจะร้อนก็ร้อนจับใจ และหากจะหนาวก็หนาวจนจำเป็นต้องหาใครซักคนมาอยู่ข้างกาย”
“ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าเลยมาหาถึงนี่เลยสินะ ดีๆ พูดเก่งดีข้าชอบ ขอให้ความสามารถเจ้าก็จงเก่งเช่นคำพูดด้วยล่ะ แมกซ์ พาพี่เค้าไปส่งที่ทางเข้าหอคอยสิ”
“ครับท่านพ่อ”
ที่ผ่านมาคือไม่กี่ประโยคระหว่างพระราชาและเจ้าชายที่มาท้าชิงตำแหน่งบุตรเขย หลังจากเจ้าชายยูโนว์ค้อมกายลาองกษัตริย์แล้วก็ควบม้าตามร่างของเจ้าชายองค์เล็กไปตามทางเดินโรยกรวดสีขาวทอดยาวสู่หอคอยเจ็ดชั้นเบื้องหน้า ม้าสีขาวสง่าที่ย่างขึ้นมาก้าวเคียงข้างเรียกให้เจ้าชายองค์เล็กครุ่นคิดถึงพี่หญิงใหญ่อย่างเป็นกังวล
เจ้าชายองค์นี้ไม่เหมือนใครจริงๆ นะท่านพี่
“เจ้าชายทรงม้าได้สง่านะ ฝึกมากี่ปีแล้วล่ะ”
“ตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ ตั้งแต่จำความได้ท่านพี่ก็ลากข้าให้ไปหัดเป็นเพื่อนแล้ว”
เสียงคนข้างๆ ที่เอ่ยชวนคุยทำให้เจ้าชายน้อยของพวกเราต้องหันไปตอบอย่างสนใจบ้าง ออร่าแปลกๆ ที่เปล่งออกมาจากคนตัวสูงเรียกให้คิ้วได้รูปแทบจะขมวดเข้าหากัน เมื่อวานก็เล่าถึงความ ‘ไม่เหมือนใคร’ ให้ทุกคนฟังแล้วหากแต่พี่สาวของเจ้าชายนั่นล่ะที่บ่นว่าคิดมากไปเอง
“ท่าทางจะเป็นเจ้าหญิงที่รั้นไม่เบาเลยนะ”
นี่ไงล่ะ คำตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ เหมือนรู้ทันจากปากหยักและอะไรซักอย่าง...
อะไรซักอย่างในตัวผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนคนอื่นที่ผ่านมาเลย!
“ท่านใช้เวทย์เป็นมั้ยครับ?”
คำถามอย่างกริ่งเกรงเรียกรอยยิ้มแผ่วเบาผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลา เจ้าชายยูโนว์ยิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะเอ่ยบอกอย่างถ่อมตัว
“พอใช้ได้นิดหน่อยป้องกันตัว ไม่ถึงกับเรียกว่าเก่งหรอกครับ”
งั้นก็น่าจะไม่มีอะไร ขนาดจอมเวทย์ที่เรียกว่าเก่งแล้วยังผ่านด่านขึ้นไปไม่ได้เลย!
ไม่นานทั้งคู่ก็ควบม้ามาถึงหน้าหอคอยที่ว่า ความสูงของมันทำให้ต้องแหงนคอตั้งบ่ามอง เจ้าชายยูโนว์ตวัดตัวลงจากหลังม้าก่อนจะเดินเอาสายบังเหียนไปผูกไว้ที่ต้นไม้ใกล้ๆ ประตูบานหนา กระซิบบอกเสียงแผ่วกับอาชาองอาจที่เหมือนจะพยักหน้ารับเสร็จก็ผละมาลาเจ้าชายองค์เล็ก
“หากข้ากลับออกมาคงต้องเรียกเจ้าว่าน้อง แต่ตอนนี้คงต้องพูดว่าวานเจ้าชายจงช่วยดูแลเฮอร์เมสของข้าด้วยก่อนข้าจะกลับ มันเป็นดั่งสหายสนิทของข้าก็ว่าได้”
คำพูดที่มั่นอกมั่นใจเหลือเกินอยู่บนใบหน้าทรนงในตัวเองอย่างเหลือล้น หากแต่สิ่งที่เจ้าชายน้อยทำคือตอบรับคนตรงหน้าพร้อมๆ กับที่เก็บความหวาดหวั่นบางอย่างลงไป
“ครับ ข้าจะดูแลมันให้เอง ขอให้ท่านจงโชคดี”
“ขอบคุณท่านมากเจ้าชายแมกซ์”
ค้อมกายเล็กน้อยก่อนจะผละไปที่ประตูบานใหญ่สีดำสนิทตรงหน้า แล้วเมื่อเจ้าชายเปิดมันออกก็เหมือนกับเปิดกลไกทุกอย่างให้มันดำเนินขึ้นแล้ว!
ปัง!
ตู้ม!!!!
ยังไม่ทันที่เจ้าชายน้อยจะส่งสัญญาณให้พรรคพวกรู้ด้วยซ้ำ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวภายในหอคอยกลับทำให้เจ้าหญิงที่อยู่บนชั้นบนสุดแทบสะดุ้ง!
รีบปราดชะโงกหน้าไปก้มมองน้องชายที่หน้าต่างก็เห็นเพียงใบหน้าเล็กกระจิดริดส่ายหน้ากลับมาอย่างไม่รู้เรื่อง
หรือว่าเจ้าชายบ้านี่มันจอดเร็วขนาดนี้!
ไม่เห็นจะดูท่าทางเก่งสมกับที่แมกซ์ทำท่ากลัวๆ เลยซักนิ.....
ตู้มมมมม!!!!!
เสียงที่ดังมาอีกครั้งและดูใกล้ขึ้นมากกว่าครั้งแรกส่งให้เจ้าชายเจ้าหญิงต่างหน้าถอดสี
ชั้นสอง!
ตู้มมมมมม!!!
ยังไม่ทันไดั้พักหายใจหายคอเลยสักนิดเสียงที่ดังเข้ามาใกล้อีกทำให้ฮีโรร่าต้องรีบกลับไปนอนที่เตียง จัดทุกอย่างเตรียมรับทั้งๆ คิดว่าคราวนี้อาจจะแค่นั่งเฉยๆ มองจากหน้าต่างดูคนวิ่งหน้าตื่นป่าราบออกจากหอคอยอย่างขำๆ แล้วแท้ๆ
ตู้มมมมมมม!!!!
แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น!
ทั้งมิคกี้ทั้งซีอาตอนนี้น่าจะกำลังกางเวทมนต์สารพัดกั้นในแต่ละชั้นของหอคอย หายากนักที่จะมีคนผ่านมาถึงห้องนี้ได้ สามปีที่ผ่านมาก็มีแค่สามคนเท่านั้นเอง แต่กว่าจะทำได้ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน
แล้วเจ้าบ้านี่มันเป็นใครถึงขึ้นมาได้เร็วขนาดนี้
ตู้มมมมมมมมม!!!!!!!!
เสียงที่ดังเข้ามาใกล้อีกคราวนี้ทำให้ใจดวงน้อยเต้นแรงด้วยความกลัว ซีอาสู้เค้ามิคกี้สู้เค้า แล้วคราวนี้ข้าสัญญาว่าจะพูดกับเจ้าดีๆ เพราะๆ ไปหลายวันเลย
โฮๆๆๆ สู้มันให้ได้นะเว้ย!
ตู้มมมมมมมมม!!!!!!
ปังงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!
ดูท่าด่านสุดท้ายคงไม่เป็นผลเมื่อประตูหนาหนักของชั้นบนสุดเปิดออกแล้ว ลมจากข้างนอกที่อัดแน่นจากแรงระเบิดจากการต่อสู้กรูเข้ามาตามร่างซักร่างที่กำลังก้าวหนักๆ มาที่เตียง สายลมนั้นพัดผ่านผ้าม่านสีขาวปลิวไสวและพัดออกไปตามหน้าต่างของหอคอยก็เหมือนจะพาหัวใจของคนบนเตียงที่กำลังสั่นกลัวให้ลอยออกไปตามลมด้วย
และนี่คือด่านสุดท้ายที่เจ้าชายยูโนว์ต้องเผชิญ!
ตุ้บ!
ความรู้สึกบอกว่ามีใครบางคนกำลังทรุดตัวนั่งข้างๆ บนเตียง หากแต่แค่การที่เจ้าชายองค์นี้กล้านั่งกลับทำให้เม็ดเหงื่อเย็นชื้นแทบจะผุดขึ้นมาในมือเล็กที่กำใต้ผ้าห่มแน่น!
เพราะร่างที่คนภายนอกเห็นน่าจะเป็นซากที่เหี่ยวแห้งเหลือแต่กระดูกน่ะสิแล้วทำไมเจ้าบ้านี่มันถึงกล้านั่งข้าง!
ใจเย็นไว้ฮีโรร่า.....ใจเย็นไว้.....เวทย์มนต์ของซีอาใช้ได้ผลทุกครั้ง สามคนที่ผ่านมาพอเห็นมนต์บังตานี้ก็เผ่นราบแล้ว ไม่มีใครกล้าบอกท่านพ่อด้วยซ้ำว่าเห็นอะไรเพราะรู้ดีว่าพระราชาเมืองนี้รักลูกสาวคนโตมากแค่ไหน หรือบางคนก็กลัวเสียหน้าจนพูดว่าจูบแล้วแต่ไม่ฟื้นขึ้นมา ทุกคนจะหาข้ออ้างไปอย่างนั้น ตอนนี้เจ้าบ้านี่มันก็คงกำลังคิดหนักว่าจะหาข้ออ้างยังไง ใจเย็นสิฮีโรร่า....ใจเย็น....
หัวใจอย่าเต้นแรงสิเดี๋ยวมันรู้!
ใจเย็นสิวะ!!
ฟึ่บ!
สั่งและปลอบหัวใจตัวเองได้ไม่ทันไร...สัมผัสที่บอกว่าอีกคนท้าวแขนลงมาคร่อมร่างก็ทำให้หัวใจกระตุกจนเกือบหลุดจากตัว!
โฮๆๆๆๆๆ ซีอาเร็วๆ เข้าสิ จะเอางูเอาหนอนที่ไหนมาเลื้อยบนตัวข้าก็ได้รีบทำให้เจ้าบ้านี่มันกลัวจนเตลิดหนีสิฟระ!
เซียะ.............!
อึก!
ทว่าสิ่งที่ทำให้แทบสะดุ้งไม่ใช่งูที่ว่าแต่กลับกลายเป็นผิวเนื้ออุ่นจัดของปลายนิ้วที่แตะลงบนแก้มเนียนและค่อยๆ ไล่ลงไปหาริมฝีปากแดงจัดต่างหาก!
ไม่...ไม่จริง....ทำไมเจ้านี่มันกล้าแตะ....มันต้องเห็นเป็นโครงกระดูกสิ...หรือมันไม่กลัว....หรือมัน.....
อื้อ!
แล้วเสียงอื้ออึงในหัวทั้งหลายก็จบลงพร้อมๆ กับบางเสียงที่ดังขึ้นมาในใจอย่างตกใจแทนเมื่อลมหายใจร้อนตรงหน้าค่อยๆ ก้มลงเข้ามาใกล้ จนในท้ายที่สุดมันก็คือความอุ่นจัดที่ทาบทับลงบนริมฝีปากที่กำลังสั่นเทาของตัวเอง
ไอ้เจ้าชายบ้านี่มันจูบจริง!
To be Con
Create Date : 14 มกราคม 2552 | | |
Last Update : 14 มกราคม 2552 22:56:37 น. |
Counter : 204 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|