|
สมุนไพร อาหารเสริม สารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัย ใช้ได้ผลจริงหรือ
- คาเฟอีน/กาแฟ + L-Carnitine + สารสกัดจากผลส้มแขก -สารสกัดจากผลส้มแขก + Vitamin C + โครเมียม - กลูโคแมนแนน + ไคโตซาน+ โครเมียม
สูตรข้างบนนี้เป็นสูตรที่ถูกนำมาใช้ในอาหารเสริมเพื่อการลดน้ำหนักนะครับ ซึ่งก็ แล้วแต่ว่าผู้ผลิตอาหารเสริมต้องการจะนำอะไรมาใส่เข้าไป เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ถามว่าใช้ได้ผลจริงหรือ ปลอดภัยหรือไม่
ความจริงคือบริษัทอาหารเสริมและสมุนไพรมักนำข้อมูลเพียงด้านเดียว และมักอ้างการ วิจัยว่าช่วยอย่างโน้น ช่วยอย่างนี้และโน้มน้าวโดยการอ้างผลการวิจัยต่างๆนานา ทั้งๆที่ มีผลการวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าและให้ผลตรงกันข้ามออกมา
ผมยกตัวอย่างเช่น
สารสกัดจากผลส้มแขก หรือ HCA บริษัทอาหารเสริมจะบอกกับคุณว่าช่วยลดการ สะสมไขมันโดยยับยั้งเอนไซม์ที่มีหน้าที่สะสมไขมันชนิดหนึ่ง และมักอ้างงานวิจัยที่ บอกว่าช่วยในเรื่องของการลดไขมัน แต่มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน JAMA และ เป็นการวิจัยที่ถูกควบคุมอย่างดีที่ให้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามออกมากลับไม่อ้างถึง
การวิจัยชิ้นนี้นำอาสาสมัครที่มีน้ำหนักเกินจำนวน 135คนที่ได้รับ สารสกัดจากผลส้ม แขก ในปริมาณมากถึง 1500 มิลลิกรัม โดยทดลองเป็นเวลา 90 วัน เปรียบเทียบกับยา หลอก(ไม่ได้รับสารสกัดจากผลส้มแขก) ไม่พบว่าสารสกัดจากผลส้มแขกช่วยในเรื่อง ของการลดน้ำหนัก ทั้งๆที่ระดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ A1 นะครับ คือเป็นงาน วิจัยที่มีความน่าเชื่อถือขั้นสูงสุด (งานวิจัยต่างๆก็ไม่ได้น่าเชื่อไปเสียทั้งหมดนะครับ อยู่ที่วิธีการทำการทดลอง แต่เหตุที่งานวิจัยชิ้นนี้มีความน่าเชื่อถือมากเป็นเพราะว่าได้ ใช้วิธีการทดลองที่มีความน่าเชื่อถือ มีวิธีที่ดีในการควบคุมตัวแปร และอคติออกไปจน เกือบหมดแล้วนั่นเองครับ )
อีกตัวอย่างหนึ่งครับ
L-Carnitine ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ผู้ผลิตอาหารเสริมมักจะบอกว่าช่วยในเรื่องของการเร่ง การเผาผลาญพลังงานความร้อน L-Carnitine เป็นกรดอะมิโนไม่จำเป็น คือร่างกาย สามารถผลิตขึ้นเองได้ครับ
มีการทดลองอีกการทดลองเช่นกันที่ถูกควบคุม โดยให้ L- Carnitine แก่หญิงที่มี น้ำหนักเกิน 13 คนเปรียบเทียบกับ ยาหลอก (ไม่ได้รับ L-Carnitine 15คน) โดยได้รับ อาหารชนิดเดียวกันและออกกำลังกายเท่าๆกัน ไม่พบความแตกต่างในการลดน้ำหนัก
นี่เป็นตัวอย่างครับที่แสดงให้เห็นว่าข้อมูลนั้นมีทั้งสนับสนุนและขัดแย้ง แต่ผู้ผลิต อาหารเสริมมักบอกเพียงด้านเดียวกับคุณเท่านั้น แต่ข้อมูลด้านที่ขัดแย้งนั้นกลับไม่ได้ นำเสนอให้กับคุณ และบ่อยครั้งที่มักนำข้อมูลจากการทดลองในสัตว์ เช่นหนูทดลอง มาอ้างอิง ซึ่งแน่นอนว่าในมนุษย์อาจไม่ได้ผล อันนี้ต้องตีความให้ดีครับ
คำถามครับ ถ้าเอา สารสกัดจากผลส้มแขก + L-Carnitine สามารถช่วยลดน้ำหนักแบบ ในสูตรอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่งได้หรือไม่ ? ไม่มีใครรู้ครับ เพราะไม่มีการศึกษาว่าถ้าเอา มารวมกัน 2 ตัวจะเกิดผลลัพธ์อย่างไร
ถ้าจะให้รู้แน่ บริษัทอาหารเสริมต้องให้สถาบันวิจัยทำการศึกษาสูตรของบริษัทนั้นๆ โดยทำการศึกษาให้ และเปรียบเทียบกันระหว่างได้รับประทานกับไม่ได้รับประทานที่ มีการควบคุมอย่างดี
แต่เชื่อเถอะครับ ไม่มีบริษัทไหนทำ เพราะใช้งบประมาณสูงมาก สู้เอาเงินไปเน้นทำ การตลาดดีกว่า
ซึ่งแน่นอนครับว่าการที่นำส่วนประกอบมากกว่า 1 ตัวมาใส่เข้าด้วยกัน ก็ไม่แน่นอน ครับว่าสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ซึ่งแต่ละตัวก็ไม่ได้ผลอยู่แล้ว และ การนำมาบวกรวมกันหลายตัวนั้นเกิดอันตรายมากขึ้นหรือไม่ ก็บอกไม่ได้อีก เพราะไม่ เคยมีการวิจัยที่ดูในเรื่องของความปลอดภัย ในทางการแพทย์ การให้ยาหลายอย่างมาก ๆ บางครั้งก็เสริมฤทธิ์กัน หรือหักล้างฤทธิ์กันจนอาจเกิดปฎิกริยาต่อร่างกายหรือผลข้าง เคียงที่รุนแรงมากขึ้นได้ครับ
อาหารเสริมมักอ้างว่าเป็นสมุนไพรจากธรรมชาติและผ่านอย. ครับ ทั้งที่ในความเป็น จริง การผ่านอย. มีความหมายแค่ว่าปลอดภัยในองค์ความรู้ที่มีอยู่ สมุนไพรจาก ธรรมชาติก็ไม่ได้ปลอดภัย 100% นะครับ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่ามาจากธรรมชาติ แล้วไม่มีอันตราย
ผมยกตัวอย่างเช่น ฝิ่น ทุกคนก็ทราบดีว่าฝิ่นมาจากธรรมชาติและเป็นอันตรายต่อ สุขภาพ และสารสกัดจากฝิ่นก็คือมอร์ฟีน ยิ่งเพิ่มฤทธิ์ร้ายมากขึ้น หรือ KAVA มีฤทธิ์ที่ ทำให้เกิดตับอักเสบได้และถูกถอนออกจากตลาดในภายหลังทั้งที่เคยผ่านการตรวจ สอบองค์การอาหารและยาของสหรัฐแล้วนะครับ
ชาเขียว แม้ว่าการดื่มชาเขียวในปริมาณปกติที่คนทั่วไปดื่มกันจะไม่เกิดอันตราย แต่ อาหารเสริมมักนำชาเขียวมาสกัด มักมีความเข้มข้นที่สูงมาก และมีรายงานว่าในช่วง หลัง 5-6 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดตับอักเสบมาแล้ว มี 1 รายนั้นเกิดตับวายต้องเปลี่ยนตับ ครับ ที่แน่ๆครับ บริษัทอาหารเสริมไม่เคยบอกคุณ ดังนั้นความเชื่อเดิมๆว่าชาเขียวไม่ มีโทษนั้นอาจไม่เป็นความจริงเสมอไป
อีกตัวอย่างก็คือ บุก ก็เคยมีกรณีรายงานทำให้ผู้ป่วยเกิดโรคลำไส้อุดตันมาแล้ว สมุนไพรบ่อยครั้งที่การศึกษายังน้อยมากและยังไม่ทราบผลข้างเคียงที่แน่ชัด และบ่อย ครั้งอีกเช่นกันที่อย. ก็จะปล่อยผ่านไปก่อน การผ่านอย. ไม่ได้แปลว่าได้ผลนะครับ เพราะอย. มีหน้าที่เพียงตรวจหาสารพิษและสารที่มีอันตรายในองค์ความรู้ที่มีอยู่หรือไม่ เท่านั้น
ประเด็นหนึ่งที่ผมสังเกตในอาหารเสริมครับ คือผู้ผลิตมักจะไม่บอกว่าส่วนประกอบ ของอาหารเสริมที่นำมาขายนั้นมีส่วนประกอบแต่ละอย่างในปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งเข้าใจ ว่าเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทอื่นนำสูตรไปลอกเลียนแบบ แต่ว่าในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการ ปกปิดผู้บริโภคด้วยว่าอาจมีปริมาณน้อยมากๆจนแทบไม่ให้ประสิทธิผลในการลด น้ำหนักเลยก็ว่าได้???
ผู้เขียนบทความ: ปิติ นิยมศิริวนิช //www.thaifittips.com
Create Date : 23 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2552 16:36:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3592 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|