ยิ้มไว้...ไม่ว่าอะไรก็ขอให้...ยิ้มไว้....
Group Blog
 
All Blogs
 
...ฟ้าจ๋าฟ้า....

8 มกราคม 2553
เวลา 18.55 น. บนถนนราชพฤกษ์



พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดขึ้น....หน้าหนาวที่ควรจะมีลมเย็นสบายๆ แต่กลับมีฝนกำลังโปรยปรายอยู่พรำ...รถหนาแน่นเหมือนจับเอามาวางเรียงกันอยู่บนถนน...เรากำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน..ทั้งที่เป็นเย็นวันศุกร์..แต่ก็อยากกลับบ้านมากกว่าจะไปเที่ยว...ฟังเพลงไปเรื่อยๆ...เพลงเกือบสุดท้ายก่อนเข้าข่าวตอนหนึ่งทุ่ม...

บทบาทของเธอ...สิ่งทีเขาทำ...ทุกตอนมันเหมือนตอกย้ำ..ให้ฉันต้องเสียน้ำตา...ภาพที่คุ้นเคย...ที่ๆ คุ้นตา...น้ำเสียงที่เธอพูดจา..ท่าทีเหล่านั้น..ฉันไม่เคยลืม...สิ่งที่เธอแสดง..ทุกๆ ถ้อยคำ...เหมือนเธอนั้นพูดกับฉัน...แต่ผู้ชายคนนั้น...มันไม่ใช่ฉัน...ฉันเหมือนคนไม่มีกำลังและหมดแรงจะยืน..จะลุก...จะเดินไป...ฉันเหมือนคนกำลังจะตายที่ขาดอากาศจะหายใจ...ฉันเหมือนคนที่โดนเธอข้างหลัง แล้วมันทะลุถึงหัวใจ...เธอจะให้ฉันมีชีวิตต่อไปอย่างไร....ไม่มี...อีกแล้ว...กับเธอ...ไม่มีเหลือสักอย่าง....

เพลงเศร้าจัง.. เผลอนึกๆ ไปถึงใครบางคนที่อยู่ห่างไกลเหลือเกิน...แต่ก็เข้าใจ...เมื่อคนๆ หนึ่งเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครคนอื่นซึ่งไม่ใช่เรา..ก็ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดให้ได้...แม้เพลงจะจบลงด้วยคำว่า...อยากตาย...แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นสักนิด...อย่างน้อยก็ในชั่วขณะนี้...

ถึงตายไป...ก็คงเปลี่ยนความจริงอะไรไม่ได้...เค้าก็คงไม่ได้กลับมารักเรา...อย่างเดิม...คงมีเพียงคนที่รักเราเท่านั้นที่เสียใจ...และ..ร้องไห้...ไม่มีความหมายหากจะตายเพื่อคนที่ไม่ได้รักเราอีกแล้ว...เมื่อเค้าเลือกจากไป..ก็ต้องปล่อยให้เค้าไป...ตัวเราก็ต้องดูแลหัวใจตัวเอง..ประคับประคองให้ทุกอย่างดำรงคงอยู่อย่างไม่บอบช้ำจนเกินไปนัก...ฟื้นฟูหัวใจและความร่าเริงในชีวิตให้กลับคืนมาให้ได้...ด้วยตัวเอง...

หนึ่งทุ่มตรง...เข้าข่าวประจำวัน...เราปิดวิทยุ...อยากอยู่เงียบๆ กับตัวเองมากกว่า....ขับรถต่อไปท่ามกลางความเงียบ...และมีฝนตกอยู่ปรอยๆ...บนถนน...

และแล้ว....ก็....ทำไมรถข้างหน้าอยู่ใกล้เข้ามาทุกทีน้า.....แล้ววววววว.....เฮ้ย...รถมันหยุดนี่นา....ทำไมไม่มีไฟเบรกเลยล่ะ...ตายละวา...ถนนลื่นเพราะฝนตก...แต่ก็ต้องเบรคล่ะ....เอี๊ยยดดดดดดดดดดดดดดดดด....ตึงงงงง.....เฮ้อ...รถหยุดแล้ว...เสี้ยวนาทีนั้นนึกดีใจว่า...เฮ้อ..รถหยุดแล้ว..อย่างน้อยรถก็หยุดได้...ชนก็ไม่แรงมาก...ก็ยังดีกว่าจะหนักกว่านี้...

แต่เพียงแค่เสี้ยวนาทีผ่านไป...ก็ได้ยินเสียงเบรคมาแต่ไกลดังสนั่นจากด้านหลังอีกครั้ง...เอี๊ยยยดดดดดดดดดดดด......ในใจนึกว่า...ซวยแล้วไหมเรา....และก็....

โครมมมมมมมมมมมมมม....เพล้งงงงง.....เสียงกระจกแตกดังกริ๊งงงงง...กริ๊งงงง ...บนถนน...นาทีที่แรงกระแทกจากด้านหลัง...ตัวเรากระเด้งไปข้างหน้า...สั่นไปหมดทั้งตัว...เหมือนกับความฝันเลย..หรือไม่ก็เหมือนอยู่เครื่องเล่นอะไรสักอย่างที่มีเสียงดังมากและโยนตัวเราไปมาข้างหน้าได้....แรงกระแทกนั้นหนักหน่วงและรวดเร็วมาก.....

โชคดีมากมายที่มีเข็มขัดนิรภัย...ไม่อย่างนั้นหน้าอกคงไม่พ้นกระแทกเข้ากับพวงมาลัยรถ...หรือไม่ก็....คงจะทะลุกระจกออกมานอนกองอยู่บนถนนแล้ว...

หลังจากนั่งงงอยู่ในรถพักใหญ่...จนกระทั่งคนขับรถคันหลังที่มาชนเดินมาดูว่า...เราเป็นอะไรหรือเปล่า...เราก็ยังงงๆ อยู่ว่าต้องทำอะไร..รู้แต่ว่าต้องโทรบอกที่บ้านก่อนว่า...รถชน...ฝนก็ยังคงตกอยู่พรำๆ ด้านนอก...เราจำได้ว่า...เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนถนน..อย่านั่งอยู่บนรถ...ให้ออกมาจากรถในที่ปลอดภัยก่อน....

เราพยายามจะเปิดประตูรถออกมา...แต่ก็....เปิดไม่ออก...ประตูคนขับเปิดไม่ออก...เราตัดสินใจปีนออกมาจากรถ...โทรศัพท์บอกพ่อเป็นคนแรก...ว่าเรารถชน....พ่อถามว่า..เราเป็นอะไรหรือเปล่า...และบอก..ให้เราโทรหาประกัน....นั่นคือสิ่งถัดไป...

เราพยายามติดต่อประกันอยู่เกือบ 15 นาที...กว่าจะมีคนรับสายและได้แจ้งอุบัติเหตุ.....ระหว่างที่รอประกันภัยของรถทั้ง 4 คัน...เราเริ่มสำรวจความเสียหายของอุบัติเหตุทั้งหมด...รถชนกัน 4 คันรวด...คันแรกเป็นรถ CR-V มีชาวต่างชาติเป็นคนขับ คันที่สองเป็นรถกระบะส่งของ คันที่ 3 คือรถเรา...คันที่สี่เป็นรถเก๋งที่มากันทั้งครอบครัวพ่อ แม่ ลูก ....

จากสภาพมีรถของเราที่โดนหนักที่สุด...ด้านหน้ายุบเข้ามา กระโปรงหน้าพับครึ่ง กระจังหน้าหลุด ไฟหน้ายู่เข้ามา หม้อน้ำแตก ประตูหน้าเปิดไม่ได้ ด้านหลังกันชนฉีกยุบเข้าไปจนถึงท้ายรถที่เก็บของ กระโปรงหลังปิดไม่ได้ ....รถ 2 คันแรกมีแผลสะกิดแค่เล็กน้อย.... รถคันสุดท้ายที่มาเสยเราก็ด้านหน้ายุบไปทั้งแถบ...ไฟหน้าทั้งหมดแตกละเอียด...หม้อน้ำแตก...

จากการถามกันทั่วๆ ไป คือ..รถคันหน้าสุดจู่ๆ ก็ชะลอความเร็วลง...เราคาดว่า...คงเป็นเพราะตรงนั้นเป็นทางขึ้นสะพานที่จะเป็นทางแยกเลือกไปเพชรเกษมหรือตลิ่งชัน และชาวต่างชาติที่เป็นคนขับเลนขวามาคงไม่รู้จักเส้นทาง จึงชะลอความเร็วลงกระทันหัน รถกระบะคันที่ตามมาเบรกไม่ทันจึงชนท้ายไป...ตามมาด้วยเรา..และรถคันสุดท้าย...

เราเองเงยหน้าขึ้นมามองท้องฟ้าเลยนะ...ถามเค้าว่า...ยังจะมีอะไรอีกไหมคะ...ยังมีอะไรที่จะส่งมาให้เราอีกมั้ย....

ปีที่ผ่านมาความรักทำเราเองเสียใจแทบบ้า...จนเกือบจะเสียผู้เสียคน...กว่าจะกลับมายืนยิ้มได้อย่างวันนี้ก็หนักหนาสาหัสแล้ว...นอกจากเสียใจ....เสียศักดิ์ศรี...เสียสติ....ก็ยังเสียเงิน..เสียทรัพย์..รถราก็มีปัญหาตลอด...

เริ่มจากกลางปีจอดรถอยู่ในเต็นท์อย่างดีแท้ๆ กลับมาตอนเย็นเจอว่า...เต็นท์พังจากลมพายุที่พัดถล่มกรุงเทพฯ จนลงมาทับรถ...คราวนั้นก็เข้าอู่ไปตามระเบียบ...ตามมาติดๆ ด้วย...หม้อน้ำรถรั่ว...รถดับไปเฉยๆ กลางสะพานสาทร... เข้าอู่อีกรอบ...คราวนี้ก็อีก...มันจะอะไรกันนักกันหนา...แถมครั้งนี้มันรุนแรงที่สุด...ตอนนั้นเราไม่อยากจะคิดว่า..ถ้ารถที่ตามหลังเรามาเป็นรถสิบล้อหรือกระบะก็ตาม...เราคงจะหนักกว่านี้แน่นอน...โชคดียังพอมีอยู่ใช่ไหมจ๊ะ....ฟ้า



ฟ้าจ๋าฟ้า...อยากรู้ว่า...ขอบฟ้าเริ่มตรงที่ใด...

ฟ้าจ๋าฟ้า..อยากรู้ว่า...ฟองฟ้าล่องลอยไปไหน

ฟ้าจ๋าฟ้า...อยากรู้ว่า...ปุยฟ้านุ่มนวลเพียงใด

ฟ้าจ๋าฟ้า...อยากรู้ว่า...ปลายฟ้าสิ้นสุดที่ใด

อยากเก็บความสดใส...ใส่ไว้ให้ฟากฟ้า

อยากหยิบดวงดารา..ประดับประดา...ฟ้าเป็นประกาย

นะ...ฟ้าจ๋าฟ้า...



....................................


ขอโทษทุกท่านนะคะที่ขับรถผ่านถนนราชพฤกษ์ตอนค่ำเมื่อวานนี้...ขอโทษที่ทำให้รถติดมากมาย....




Create Date : 09 มกราคม 2553
Last Update : 11 มกราคม 2553 12:27:10 น. 1 comments
Counter : 241 Pageviews.

 
แวะทาทักทายค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:19:49:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าหญิงน้อยรสส้ม
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เจ้าหญิงน้อยรสส้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.