ชีวิตบนน้ำแข็ง Life on the ice in Finland
ถ้าบอกคุณจะเชื่อไหมว่าที่ฟินแลนด์เค้าขับรถบนน้ำแข็งกัน จ้างให้ก็ไม่เชื่อเป็นไปได้ไง และฉันก็ได้ลองและมาเห็นกับตาจริงๆ ว่าฉันก็ขับรถบนน้ำแข็ง มันช่างมหัศจรรย์ใจซะจริงๆ ไม่คิดว่าว่าความหนาวเย็นจะทำให้ทะเลสาปที่กว้างใหญ่กลายเป็นน้ำแข็งไปได้ วันนี้ฉันได้หยิบเอาภาพเก่าเมื่อสองปีที่แ้ล้วมาฝากค่ะ สวยมาก เป็นช่วงฤดูหนาวในฟินแลนด์ มีอยู่ช่วงหนึ่งค่ะฉันลองเดินทางจากบ้านที่พักเพื่อเข้าไปในเมือง แต่วันนั้นไม่ได้เอามือถืออะไรอะไรมากนักติดตัวไป ไม่นึกว่าจะหลง เดินหลงอยู่กลางทะเลสาปน้ำแข็งนี่แหละค่ะ เพราะมันยากมาก มองไปทางไหนก็เป็นแต่สีขาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ โชคดีที่มีคนเล่นสกีผ่านมา เค้าเลยบอกทางให้ เมื่องั้นคงต้องกลายเป็นร่างไร้วิญญาณสิงสถิตย์อยู่ที่นั่นแน่ๆ
รวมภาพถ่ายและความทรงจำพี่เลี้ยงเด็กฟินแลนด์
สำหรับหน้านี้ถือเป็นการรวมภาพถ่ายและความทรงจำจากการเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ฟินแลนด์ค่ะ ถึงเวลาจะผ่านไปสองปี แต่ความทรงจำดีดียังคงอยู่ ความสุข สนุก เศร้า เหงา เสียใจ ผิดหวัง ท้อแท้ กำลังใจ เพื่อน อกหัก รถคุด ความรัก ความหวัง อนาคต และอื่นๆ อีกมากมายที่สุดแล้วคือคำว่า ประสบการณ์ในต่างแดนค่ะ
พี่เลี้ยงเด็กในฟินแลนด์
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังจากเสร็จสิ้น ภาระกิจการเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ก็บินกลับเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ และโชคดีที่ได้มีพี่ๆ เพื่อนๆ ที่น่ารัก ได้รับความช่วยเหลือจากพี่มด ทั้งเรื่องที่พัก และแนะนำให้รู้จักเจ้านายที่น่ารัก จึงทำให้งานโดยเป็นพนักงานขายให้กับบริษัทขายไวน์ บริษัทหนึ่งในประเทศไทย และได้เริ่มงานเกือบปีกับเจ้านายที่ดี และเพื่อนๆ ที่บริษัทที่น่ารักทุกคน รวมทั้งลูกค้า แต่ก็นั่นล่ะเหมือนชีวิตต้องการอะไรที่ท้าทาย ก็มานั่งตอบคำถามตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่ อะไรที่อยากทำ พอได้คำตอบก็ลาออกจากงาน แถมเพื่อนฝูง ครอบครัวและเจ้านายต่างก็คัดค้าน เพราะที่ทำงานถือว่าเป็นบริษัทใหญ่ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ อะไรกันนะทำให้กล้าตัดสินใจเช่นนี้ หลังจากตัดสินใจแล้วก็พร้อมที่จะลุยหน้าต่อไป อาชีพที่ว่านี้ก็คือการเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรือ ออร์แพร์นั่นเอง แต่รอบนี้ต่างจากรอบที่แล้วตรงที่ได้มีโอกาศเดินทางมาหาประสบการณ์ที่ประเทศฟินแลนด์ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศนอร์ดิกหรือทางตอนเหนือของยุโรป หลังได้โฮสแฟมิลี่ ก็จัดการเรื่องการขอวีซ่าและตั๋วเครื่องบิน ทุกอย่างเรียบร้อยภายในสองอาทิตย์ เป็นไปได้ไงก็ไม่รู้ ฉันนั่งเครื่องจากกรุงเทพ และมาเปลี่ยนเครื่องที่เบอร์ลิน กับการรอคอย 16 ชั่วโมง มันชั่งยาวนานซะกะไรนี่ เดินเล่นรอบสนานบินก็แล้ว กินนั่น กินโน่น อ่านหนังสือฆ่าเวลาก็แล้วทำไมนาฬิกาทำไมชั่งเดินช้าซะนี่ ก็เลยของีบซะตื่น และพร้อมเริ่มเดินทางต่อไปประมาณสามชั่วโมงโดยประมาณจากเบอร์ลินมาถึงเฮลซิงกิ ฉันมองเห็นเฮลซิงกิจากบนเครื่อง ประเทศอะไรทำไมมันชั่งสวยงานเช่นนี้ ดูเหมือนพื้นน้ำที่ีมีมากกว่าพื้นดินซะอีก (อันนี้เกินจริงไปนิด) จริงๆแล้วฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีทะเลสาบและเกาะเป็นจำนวนมาก โดยมีทะเลสาบถึง 187,888 แห่ง จึงได้ชื่อว่า "The Thousand Lakes" นั่นเองนับถอยหลังอีกห้านาทีก็จะถึงพื้นดินของฟินแลนด์แล้ว ตื่นเต้นซะไม่มีเลยเรา เฮ่ยขอหายใจลึกๆ ถึงแล้วเหรอเนี่ย แว๊บแรกก็เห็นครอบครัวโฮสที่มารอรับ ทุกคนรอรับกันพร้อมหน้าประกอบไปด้วย พ่อ แม่ และเด็กน้อยอีกสองคน หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปยังอีกเมือง เมืองที่โฮสอาศัยอยู่นี้อยู่ทางตอนใต้ของฟินแลนด์ ชื่อว่า Asikkala ห่างจากเมืองหลวงประมาณสองชั่วโมง ตลอดทางสังเกตว่าฟินแลนด์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยต้นไม้จำนวนมาก และแทบจะไม่เห็นผู้คนเลย โดยเฉพาะออกจากเมืองหลวงแล้ว กับข้อมูลปัจจุบันด้วยประชากรเพียงห้าล้านคน ในพื้นที่ 338,145 ตารางกิโลเมตร นับว่ามีประชากรที่เบาบางตอนนี้ฉันขอพักเรื่องไว้แค่นี้นะคะ และจะรีบกลับมาเขียนต่อค่ะกลับมาเล่าต่อค่ะ ระหว่างทางฉันก็ได้พูดคุยกับเด็กๆ และโฮสต์แฟมิลี่ อันที่จริงแล้วฟินแลนด์มีภาษาเป็นของตัวเองคือภาษาฟินนิช โดยคนฟินเรียกชื่อประเทศตนเองว่า Suomi ซัวมิ และพูดภาษา Suomea ซัวเมีย ฟังดูก็แปลกๆ ดีซะกะไรนี่ ที่พักที่ฉันอาศัยอยู่นั้นติดกับทะเลสาบที่ชื่อว่า päijanne (ปายยานเน่) ซึ่งเป็นทะเลที่ใหญ่อันดับสองของประเทศฟินแลนด์ และทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ก็คือ Saimaa (ไซมา) และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับห้าของยุโรป ชั่งโชคดีซะกระไรเนี่ยได้อยู่ติดกับทะสาบ ตกเย็นเดินทางมาถึงที่พัก พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ท้องฟ้าที่ฟินแลนด์สีสวยมาก บวกกับพื้นน้ำของทะเลสาปที่นิ่งสงบ อันที่จริงฉันมีรูปได้เก็บไว้้ตั้งมากมาย เอาไว้ว่างๆ จะเอามาลง ตอนนี้อยากให้จินตนาการกันไปก่อนภาพเหล่านี้ถ้ามีกล้องดีดีคงออกมาสวยกว่านี้ เอาไว้ได้กล้องดีดีจะถ่ายใหม่ค่ะ ที่มาขอรูปนี้ก็คือ เคยบ่นกับพี่คนว่า อยู่เมืองนอกทำไมเหงาจัง พี่คนนั้นบอกว่า ถ้าเหงาก็หาเวลาไปถ่ายรูป swan ด้วยความบังเอิญเลยได้รูป swan กำลังเล่นน้ำพอดีนี่แหละภาพถ่ายของฟินแลนด์ได้ฉันได้ถ่ายเก็บเอาไว้ สวย งดงาม และนิ่งสงบการบรรยายความงานของธรรมชาติมันช่างยากเย็นเข็ญใจยิ่งนัก คราวนี้ได้มาเห็นกับตาถึงได้รู้ว่าอ่านหนังสือร้อยเล่มก็ไม่เท่าเดินทางมาค่อนโลกให้เห็นกับตา ฉันจำข้อความจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งแต่ไม่ได้ระบุผู้เขียนเอาไว้ เค้าว่าไว้ว่าชีวิตไม่ได้ตัดสินกันที่จำนวนครั้งของลมหายใจแต่จากสถานที่และช่วงเวลาที่งดงามตรึงตราใจเราต่างหาก